วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อิสราเอล22

นี่เป็นรูปที่ภรรยาเขากำลังอธิบายเหตุการณ์สองเหตุการณ์ที่เหมือนกัน คือโมเสสรับพระบัญญัติกับสาวกรับพระวิญญาณบริสุทธ์
นี่คือตัวอ.เดวิด ชรามากแล้วครับ
นี่เป็นเต็นท์ที่พวกเขาทำในสวนหน้าบ้านเขา หลังคาใช้คล้ายกิ่งมะพร้าวบ้านเราทำหลังคา แล้วก็ตกแต่งเสียสวย

วันนี้วันพุธที่ 7 แล้ว พรุ่งนี้ก็จะได้บินกลับประเทศไทยแล้ว เย้! วันนี้เราจะไปเยี่ยมอ.เดวิด สเติร์นกัน ผู้แปลพระคัมภีร์ฮีบรูเป็นภาษาอังกฤษ คนทำงานที่โรงแรมนี้ดูจะเอาใจเรา เป็นมิตรกับเรา ช่วยบริการติดต่อรถให้ ดีมากๆๆ

โฆษณาหน่อย ใครจะมาเยรูซาเล็มก็มาพักได้ที่โรงแรมนี้นะครับ Jerusalem Panorama Hotel http://www.jerusalempanoramahotel.com/

วันนี้ไปฟังภรรยาท่านเล่าเรื่องต่างๆและฟังตัวอ.เดวิดแบ่งปัน ผมอัดวีดีโอเอาไว้ ถ้าพรุ่งนี้มีเวลาจะแกะออกมาคร่าวๆเล่าให้ฟังครับ อายุท่านน่าจะ 80 กว่าแล้ว ท่านเล่าว่าปี 1972 มารู้จักพระเจ้าได้อย่างไร เล่าถึงอาหารของชาวยิวในครัวโคเชอร์ ซึ่งจะมีแต่อาหารที่ถูกพระคัมภีร์ ไม่มีหมู กุ้ง หรือสัตว์ที่เป็นมลทินประเภทต่างๆ เขาบอกว่าจะแสดงชีวิตกับคนยิว ก็ต้องทำตัวเหมือนคนยิว (อ.เดวิดก็เป็นคนยิวนะครับ) วันหยุด วันถือพิธีต่างๆ เช่น ตอนที่พวกเราไปนี่ เขาอยู่ในเทศกาลอยู่เพิง อยู่ในกระต๊อบผ้าใบ ฯลฯ

เขาบอกว่า เหตุการณ์ที่โมเสสรับพระบัญญัติจากพระเจ้ามากับที่พวกสาวกรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ไว้ในตนเอง เป็นเหตุการณ์อย่างเดียวกัน พระเจ้าได้ให้พระธรรมนั้นบรรจุไว้ในใจ การที่เราทำพิธีสุขะ(อยู่เพิง) ฯลฯ เป็นการเชื่อมต่อเรากับยิว เราคนไทยก็ต้องแสดงออกมาเป็นหนังสือแห่งชีวิตที่คนจะมองเห็นได้ เราอยู่ประเทศไทยไม่ได้มีขนบธรรมเนียมแบบคนยิว แต่เราต้องเป็นหนังสือแห่งชีวิตให้คนเห็นพระเยซูในเรา (ฟังเขาพูดมาตอนต้นแล้ว ต้องเอาไปย่อยหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมจะถอดวีดีโอมาเล่าตอนต่อไป)

เขาบอกว่าคจ.เขา ไม่มีการเต้นรำ ชูมือ ผมฟังแล้วงงเลย ถามว่าพระคัมภีร์เดิมก็มีพูดถึงเมื่อเรานมัสการพระเจ้าให้เราสรรเสริญ ชูมือนมัสการพระองค์ แต่เขาบอกว่าในกลุ่มของเขาไม่มี ผมก็เลยเข้าใจเลยว่า ในท่ามกลางคนยิว(Messianic Jew)ก็มีหลากหลายการแสดงออกต่อพระเจ้า ไม่ได้เหมือนกัน ถ้ากลุ่มที่จะดีหน่อย ที่เป็นเหมือนกันกับเราเวลาเรานมัสการ ก็เป็นกลุ่มที่มาร่วมงานอธิษฐานของอ.ทอม เฮส

เขาบอกต่อว่าในประเทศอิสราเอลไม่มีธรรมนูญ แต่มี Basic Law เป็นส่วนหนึ่งของธรรมนูญ แต่ไม่ใช่ธรรมนูญ ทีแรกผมนึกว่าเขาใช้พระคัมภีร์เดิมเป็นธรรมนูญของเขา แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ เนื่องมาจากคนที่ปกครองประเทศไม่เชื่อพระเจ้า (?!?)

มาพูดถึงเรื่องพระคัมภีร์บ้าง โดยตัวพระคัมภีร์แล้วปรับเปลี่ยนไม่ได้ แต่ก็มีบางข้อที่พระคัมภีร์ไม่ได้บอกชัดๆว่าต้องทำอย่างไร เขาจึงมีหนังสือทัลมุดอีกเล่มหนึ่ง เป็นเหมือนกับหนังสือขยายความจากพระคัมภีร์เดิมว่าต้องปฏิบัติอย่างไร ซึ่งทัลมุดนี้เปลี่ยนได้

มีเรื่องการแต่งงาน โดยปกติยิวต้องแต่งงานกับยิว อาหรับต้องแต่งงานกับอาหรับ ถ้าคนยิวจะไปแต่งงานกับคริสเตียนที่ไม่ใช่เป็นยิว (เป็นคนประเทศอื่น) เขาจะประกอบพิธีแต่งงานในประเทศอิสราเอลไม่ได้ ต้องออกไปประกอบพิธีแต่งงานที่ประเทศอื่น กลับเข้ามาแล้วถึงเป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามกฏหมาย (?!?)

โอ๊ย... ถ้าผมจะเข้าใจพวกเขา ผมคงต้องมาอยู่ที่นี่สักหลายๆเดือนละมั๊ง นี่เป็นโดยสรุปนอกเหนือจากที่ถ่ายวีดีโอไว้ละครับ หลังจากนี้เราก็กลับมาในเยรูซาเล็ม ว่าจะแวะประตูดามัสกัส เพื่อไปดู Garden Tomb และดูสิ่งของต่างๆ แต่เห็นทหาร และการปิดกั้นหนทางเข้าไม่ได้แล้ว เปลี่ยนใจกลับมาโรงแรมดีกว่า พรุ่งนี้ก็จะกลับประเทศไทยแล้ว ขอให้มีความสงบสุขเกิดขึ้นในแผ่นดินอิสราเอลเถิด อย่าให้มีความระแวงต่อกันและกันในประเทศนี้เลย ให้เขามีรอยยิ้มและจิตใจที่เปี่ยมสุขเหมือนที่เราได้เห็นพวกเขาเมื่อเราเดินขบวนอวยพรเยรูซาเล็มเมื่อวานนี้ด้วยเถิด ในพระนามพระเยซูเจ้า อาเมน!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น