วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

ชีวิตพระเยซูคริสต์ : พระเยซูคือผู้ใด

รวมบทความชีวิตพระเยซูคริสต์

แบ่งปันต่อครับ


Luke 9:7 ฝ่ายเฮโรดเจ้าเมืองได้ยินเรื่องเหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งเกิดขึ้นนั้น จึงคิดสงสัยมาก เพราะบางคนว่ายอห์นเป็นขึ้นมาจากความตาย
Luke 9:8 บางคนว่าเป็นเอลียาห์มาปรากฏ คนอื่นว่าเป็นผู้เผยพระวจนะโบราณกลับเป็นขึ้นมาอีก
Luke 9:9 เฮโรดจึงว่า “​ยอห์นนั้นเราได้ตัดศีรษะแล้ว แต่คนนี้ที่เราได้ยินเหตุการณ์ของเขาอย่างนี้คือผู้ใดเล่าแล้วเฮโรดจึงหาโอกาสที่จะเห็นพระองค์

     เหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งเกิดขึ้นนั้นคือ เหตุการณ์เกี่ยวกับพระเยซูที่ทรงทำการอัศจรรย์ต่างๆ และตอนนี้ไม่เพียงพระเยซูเท่านั้นที่ทำ พวกสาวก 12 คนที่พระเยซูส่งออกไปก็ได้ทำด้วย
     เฮโรดเจ้าเมืองนี้เป็นคนละเฮโรดกับสมัยพระเยซูคริสต์มาบังเกิด เฮโรดสมัยพระเยซูมาบังเกิดได้ฆ่าเด็กผู้ชายอายุตั้งแต่สองขวบลงมา เฮโรดองค์นี้ชื่ออารเคลาอัสเป็นลูกของเฮโรดองค์ก่อน และเฮโรดองค์นี้ได้ประหารยอห์นตามคำขอของบุตรีของนางเฮโรเดียส ภรรยาของฟิลิปน้องชายของเฮโรด และเฮโรดกำลังสงสัยต่อสิ่งที่พระเยซูและพวกสาวกของพระองค์ทำการอัศจรรย์ บางคนว่าการอัศจรรย์เหล่านั้นเกิดขึ้นมาได้เพราะยอห์นเป็นขึ้นมาจากความตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เฮโรดเองก็เชื่อด้วย มัทธิว 14:1-2      Matt 14:1 ครั้งนั้นเฮโรดเจ้าเมืองได้ยินกิตติศัพท์ของพระเยซู
Matt 14:2 จึงกล่าวแก่พวกคนใช้ว่าผู้นี้แหละ เป็นยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา ท่านได้เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว เหตุฉะนั้นท่านจึงกระทำการมหัศจรรย์ได้

บางคนก็ว่าเป็นเอลียาห์ คนอื่นว่าเป็นผู้เผยวจนะโบราณเป็นขึ้นมา  ดูเหมือนความคิดนี้อยู่ในใจของชาวยิวมาช้านาน ดูตอนที่ยอห์นยังมีชีวิตอยู่ พวกยิวสงสัยได้มาถามยอห์นว่ายอห์นคือผู้ใด พระคริสต์ เอลียาห์ หรือผู้เผยพระวจนะ  John 1:21 เขาทั้งหลายจึงถามว่าถ้าเช่นนั้นท่านเป็นใครเล่า ท่านเป็นเอลียาห์หรือท่านตอบว่าข้าพเจ้าไม่ใช่เอลียาห์” “ท่านเป็นผู้เผยพระวจนะนั้นหรือและท่านตอบว่ามิได้

สำหรับเอลียาห์แล้ว มีคำเผยพระวจนะว่าเอลียาห์จะมานำหน้าพระคริสต์ ดังที่เขียนไว้ใน  Mark 9:11 เขาจึงทูลถามพระองค์ว่าเหตุไฉนพวกธรรมาจารย์ จึงว่าเอลียาห์จะต้องมาก่อน
Mark 9:12 พระองค์ตรัสตอบเขาว่าเอลียาห์ต้องมาก่อนจริงและทำให้สิ่งทั้งปวงคืนสู่สภาพเดิม อนึ่งมีคำเขียนไว้อย่างไรถึงบุตรมนุษย์ว่า พระองค์จะต้องทนทุกข์เวทนาหลายประการ และคนจะดูหมิ่นละทิ้งพระองค์เสีย
Mark 9:13 แต่เราบอกแก่ท่านทั้งหลายว่า เอลียาห์นั้นได้มาแล้ว และซึ่งเขาใคร่ทำแก่ท่านอย่างไร เขาก็ได้กระทำแล้วตามที่มีคำเขียนกล่าวไว้ถึงท่าน

เอลียาห์มาแล้วคือยอห์นด้วยน้ำใจแห่งเอลียาห์    Luke 1:17 เขาจะนำหน้าพระองค์โดยน้ำใจและฤทธิ์เดชของเอลียาห์ ให้พ่อกลับคืนดีกับลูก และคนดื้อด้านให้กลับได้ปัญญาของคนชอบธรรม เพื่อจัดเตรียมชนชาติหนึ่งไว้ให้สมแก่พระเจ้า

อีกความคิดหนึ่งคือผู้เผยพระวจนะในสมัยโบราณเป็นขึ้นมาถึงมาทำการอัศจรรย์ต่างๆนาๆได้ สิ่งต่างๆเหล่านี้คือสิ่งที่คนต่างๆคิด แต่แท้ที่จริงแล้วพระเยซูคริสต์คือผู้ใด  ท่านทั้งหลายละครับ คิดว่าพระเยซูคือผู้ใด ดูคำเฉลยได้ในครั้งต่อๆไปข้อ 20 ครับ

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

ชีวิตพระเยซูคริสต์ : ส่งสาวกออกไป สั่งสอนและทำหมายสำคัญ ด้วยการไว้วางใจพระองค์

รวมบทความชีวิตพระเยซูคริสต์

     ขอพระเจ้าเสริมกำลังพี่น้องทุึกคนครับ ขอแบ่งปันต่อจากตอนนี้ครับ



Luke 9:1 ​พระ​องค์​ทรง​เรียก​สาวก​สิบ​สอง​คน​มา​พร้อม​กัน แล้ว​ก็​ประทาน​ให้​เขา​มี​อำนาจ​เหนือ​ผี​ทั้ง​ปวง และ​รักษา​โรค​ต่างๆ ให้​หาย​
Luke 9:2 แล้ว​พระ​องค์​ทรง​ใช้​เขา​ไป​ประกาศ​แผ่นดิน​ของ​พระ​เจ้า และ​รักษา​คน​ป่วย​เจ็บ​ให้​หาย​
Luke 9:3 ​พระ​องค์​จึง​สั่ง​เขา​ว่า “อย่า​เอา​อะไร​ไป​ใช้​ตาม​ทาง เช่น​ไม้​เท้า หรือ​ย่าม หรือ​อาหาร หรือ​เงิน หรือ​เสื้อ​
Luke 9:4 และ​ถ้า​เข้า​ไป​ใน​เรือน​ไหน ​ก็​จง​อาศัย​อยู่​ใน​เรือน​นั้น​จนกว่า​จะ​ไป​
Luke 9:5 ผู้ใด​ไม่​ต้อนรับ​พวก​ท่าน เมื่อ​ท่าน​จะ​ไป​จาก​เมือง​นั้น จง​สะบัด​ผง​คลี​ดิน​จาก​เท้า​ของ​ท่าน​ออก ส่อ​ให้​เห็น​ความ​ผิด​ของ​เขา”
Luke 9:6 เหล่า​สาวก​จึง​ออกไป​ตาม​หมู่​บ้าน​ ประกาศ​ข่าว​ประเสริฐ และ​รักษา​คน​ป่วย​เจ็บ​ทุก​แห่ง​ให้​หาย​

     สาวก 12 คน คืออัครทูตที่พระองค์ใช้เวลาคืนยังรุ่งอธิษฐานถามพระบิดาว่าควรเลือกใครเป็นสาวก ในตอนนี้พระเยซูจะส่งเขาไปทำหน้าที่ต่างๆตามที่พระองค์ใช้ให้ไปทำแล้ว คือ ไปประกาศแผ่นดินพระเจ้า และรักษาคนป่วยเจ็บให้หาย  นี่เป็นสิ่งที่เราเห็นมาตลอดในชีวิตของพระเยซูคริสต์คือพระองค์ประกาศแผ่นดินของพระเจ้าและรักษาคนเจ็บป่วย  พระองค์ทำทั้งสอนและกระทำหมายสำคัญการอัศจรรย์  และในตอนนี้หลังจากพวกสาวกอยู่กับพระองค์ ได้เห็นสิ่งที่พระองค์กระทำและสั่งสอนมาได้ช่วงหนึ่งแล้ว เวลานี้เป็นเวลาที่พวกเขาจะต้องออกไปทำบ้าง  นี่เป็นสิ่งที่พระเยซูกระทำเพื่อเป็นการสร้างสาวกของพระองค์ ทำให้ดูและดูพวกเขาทำ

     ในการใช้ไปนั้นพระองค์ประทานอำนาจให้เหนือผีและรักษาโรคต่างๆให้หายด้วย  เช่นเดียวกับพวกเรา  เดี๋ยวนี้พระองค์สถิตอยู่กับเรา อยู่ด้วยกับเราตลอดเวลา และพระองค์ใช้เราออกไปสั่งสอนและรักษาคนเจ็บป่วยเช่นกัน 

Matt 28:18 ​พระ​เยซู​จึง​เสด็จ​เข้า​มา​ใกล้​แล้ว​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “ฤทธานุภาพ​ทั้งสิ้น​ใน​สวรรค์​ก็​ดี ใน​แผ่นดิน​โลก​ก็​ดี​ทรง​มอบ​ไว้​แก่​เรา​แล้ว​
Matt 28:19 เหตุ​ฉะนั้น​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จง​ออกไป​สั่ง​สอน​ชน​ทุก​ชาติ ให้​เป็น​สาวก​ของ​เรา ให้​รับ​บัพติศมา​ใน​พระ​นาม​แห่ง​พระ​บิดา ​พระ​บุตร​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​
Matt 28:20 สอน​เขา​ให้​ถือ​รักษา​สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​เรา​ได้​สั่ง​พวก​เจ้า​ไว้ นี่​แหละ​เรา​จะ​อยู่​กับ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​เสมอ​ไป จนกว่า​จะ​สิ้น​ยุค” 

Mark 16:15 ฝ่าย​พระ​องค์​จึง​ตรัส​สั่ง​พวก​สาว​กว่า “เจ้า​ทั้ง​หลาย​จง​ออกไป​ทั่ว​โลก ประกาศ​ข่าว​ประเสริฐ​แก่​มนุษย์​ทุก​คน
Mark 16:16 ผู้ใด​เชื่อ​และ​รับ​บัพติศมา​แล้ว​ผู้​นั้น​จะ​รอด แต่​ผู้ใด​ไม่​เชื่อ​จะต้อง​ปรับ​โทษ
Mark 16:17 มี​คน​เชื่อ​ที่​ไหน​หมาย​สำคัญ​เหล่า​นี้​จะ​บังเกิด​ขึ้น​ที่​นั้น คือ​เขา​จะ​ขับ​ผี​ออก​โดย​นาม​ของ​เรา เขา​จะ​พูด​ภาษา​แปลกๆ
Mark 16:18 เขา​จะ​จับ​งู​ได้ ถ้า​เขา​กิน​ยา​พิษ​อย่าง​ใด จะ​ไม่​เป็น​อันตราย​แก่​เขา และ​เขา​จะ​วางมือ​บน​คนไข้​คน​ป่วย แล้ว​คน​เหล่า​นั้น​จะ​หาย​โรค” 

Mark 16:20 พวก​สาวก​เหล่า​นั้น​จึง​ออกไป​เทศนา​สั่ง​สอน​ทุก​แห่ง​ทุก​ตำบล และ​พระ​เป็นเจ้า​ทรงร่วม​งานกับ​เขา​และ​ทรง​สนับสนุน​คำ​สอน​ของ​เขา โดย​หมาย​สำคัญ​ที่​ประกอบ​นั้น​ 

     จากพระวจนะเหล่านี้เราเห็นแล้วว่าพระองค์ใช้พวกเราออกไปสั่งสอนและกระทำหมายสำคัญการอัศจรรย์เช่นกัน เป็นการทำโดยนามพระเยซูคริสต์ พระองค์สัญญาว่าพระองค์จะอยู่ด้วยกับเรา ร่วมงานกับเรา สนับสนุนคำสอนที่เราสอนโดยหมายสำคัญที่ประกอบนั้น

     กลับมาที่พระวจนะตอนนี้ การที่พระเยซูใช้ไปนั้นพระองค์ใช้ให้ไปด้วยความเชื่อและไว้วางใจในการดูแลของพระองค์ด้วย เมื่อไปไม่ต้องนำสิ่งของทรัพย์ไปด้วย เมื่อไปให้ไปพักอยู่กับในเรือนนั้น ถ้าเมืองนั้นไม่ต้อนรับ ให้สะบัดผงคลีดินแสดงว่าพวกเขาทำผิด  นี่แหละครับที่ผมแบ่งปันไว้เมื่อตอนไปอินเดียว่า ได้เห็นความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างรัฐที่ต้อนรับอัครทูตโธมัสคือรัฐKerala กับรัฐที่ไม่ต้อนรับและฆ่าอัครทูตโธมัสเสียชีวิตคือรัฐTamil Nadu  เป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณจริงๆ 

     สาวก 12 คนที่พระองค์ใช้ไปนี้ พระองค์ให้ไปเป็นคู่ๆด้วย  Mark 6:7 ​พระ​องค์​ทรง​เรียก​สาวก​สิบ​สอง​คน​มา แล้ว​ทรง​ใช้​เขา​ให้​ออกไป​เป็น​คู่ๆ ทรง​ประทาน​อำนาจ​ให้​เขา​ขับ​ผี​ร้าย​ออก​ได้​    เช่นกันเมื่อเราออกไปประกาศตามถนนหนทางท้องที่ต่างๆ เราควรไปเป็นคู่ๆ หรือมากกว่านั้น ไม่ควรไปคนเดียว  เพื่อขณะที่คนหนึ่งกำลังเป็นพยาน อีกคนจะได้คอยอธิษฐานเผื่อขอพระเจ้าเปิดตาเปิดใจเขา  เมื่อเราไปมากกว่าหนึ่งคนเราจะมีเพื่อน มีกำลังใจมากกว่าการไปคนเดียว  บางครั้งการที่เรามีเพื่อนไปด้วย ก็ทำให้เราฮึดประกาศได้เหมือนกันนะครับ เพราะมีเพื่อนอีกคนดูอยู่  ซึ่งในขณะที่เราไปคนเดียวเราอาจไม่กล้าหาญเท่ากับมีหลายคน  การที่เราไม่ได้ไปคนเดียวทำให้มีคนคอยช่วยเสริมกันในเวลาเป็นพยาน  จะไม่เหมือนผมเวลาไปเยี่ยมเยียนคนเดียวสมัยก่อน ถูกถามสารพัดเรื่องพระเจ้าในเชิงลองภูมิประมาณนี้ ถูกรุมถาม ผมหนึ่ง เขาสองคน  ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์อยู่ด้วย ไปด้วยฤทธิ์เดชและสติปัญญาจากพระเยซูคริสต์ ตอบได้หมด ฉะฉานจนเขาทั้งสองอื้ง ถามอะไรไม่ออก และในที่สุดก็มาคริสตจักรด้วย

     การที่พระเยซูส่งออกไปโดยปราศจากสิ่งต่างๆติดตัวไป พระเยซูได้ถามในภายหลังว่าขัดสนสิ่งใดไหม  Luke 22:35 ​พระ​องค์​จึง​ตรัส​ถาม​เหล่า​สาว​กว่า “เมื่อ​เรา​ได้​ใช้​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ออกไป​โดย​ไม่​มี​ถุง​เงิน ไม่​มี​ย่าม ไม่​มี​รองเท้า​นั้น ท่าน​ขัด​สน​สิ่ง​ใดบ้าง​หรือ” เขา​ทั้ง​หลาย​ทูล​ตอบ​ว่า “หา​มิได้”    พวกสาวกบอกว่าไม่มี ฮาเลลูยา! สรรเสริญพระเจ้า เพราะฉะนั้นทำตามพระทัยพระเจ้าเถิด จงเชื่อและไว้วางใจพระองค์  ท่านทั้งหลายได้เห็นสิ่งที่พระเยซูฝึกพวกสาวกของพระองค์แล้ว  ไม่เพียงให้ออกไปประกาศ แต่ยังมีเรื่องความไว้วางใจพระเจ้าในความเป็นอยู่ด้วย

     ดูตัวอย่างการสะบัดผงคลีดินจากพระธรรมตอนอื่นบ้าง  Acts 13:51 ฝ่าย​เปาโล​กับ​บารนาบัส​จึง​ตัด​สัมพันธ์​ด้วย​สะบัด​ผง​คลี​ดิน​ที่​ติด​เท้า​ออก แล้ว​ก็​ไป​ยัง​เขต​เมือง​อิ​โคนี​ยูม​   เปาโลกับบารนาบัสสะบัดผงคลีดินเพราะพวกคนยิวต่อต้าน เขาทั้งสองจึงสะบัดผงคลีดินแล้วบ่ายหน้าไปหาคนต่างชาติแทนคนยิว

     หลังจากพระเยซูใช้พวกเขาไปแล้ว พวกเขาก็ไปทุกหนทุกแห่งตามที่พระเยซูคริสต์ตรัสสั่ง  ในครั้งต่อๆไปในบทที่ 10 เราจะได้เห็นพระเยซูส่งสาวกออกไปอีก 70 คน

คำอธิษฐาน : ขอพระเยซูเปิดตาเปิดใจพวกเราทั้งหลายให้เข้าใจพระทัยพระองค์ ให้พวกเราทั้งหลายห่วงใยประชากรของพระเจ้าที่ยังไม่ได้ยินเรื่องราวข่าวประเสริฐขององค์พระเยซูคริสต์ ให้พวกเราทั้งหลายได้รู้ว่าเราอยู่ในความดูแลของพระองค์ ขอพระเจ้าประทานใจเชื่อใจกล้าหาญ เมื่อพระเยซูใช้พวกเราออกไปประกาศ สั่งสอน ทำหมายสำคัญในพระนามพระเยซูคริสต์ ให้เราเชื่อและพร้อมจะทำตามพระดำรัสของพระองค์  ขอพระเจ้าประทานให้มีคนรับความรอดเข้ามาในคริสตจักรจำนวนมากขึ้นๆ ขอพระเจ้าประทานความสดชื่นตื่นเต้นในฝ่ายจิตวิญญาณแก่สมาชิกทุกคน ขอพระเยซูได้รับพระเกียรติในคริสตจักรแห่งนี้ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน...



วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

ชีวิตพระเยซูคริสต์ : หายโรคด้วยความเชื่อ

รวมบทความชีวิตพระเยซูคริสต์

แบ่งปันต่อครับ



Luke 8:40 เมื่อ​พระ​เยซู​เสด็จ​กลับ​มา​แล้ว​ประชาชน​ก็​ต้อนรับ​พระ​องค์ เพราะ​เขา​ทั้ง​หลาย​คอย​ท่า​พระ​องค์​อยู่​
Luke 8:41 นี่​แน่ะ มี​ชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ไยรัส เป็น​นาย​ธรรม​ศาลา​มา​กราบ​ลง​ที่​พระ​บาท​พระ​เยซู อ้อน​วอน​พระ​องค์​ให้​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​ตึก​ของ​เขา​
Luke 8:42 เพราะ​ว่า​เขา​มี​บุตรสาว​คน​เดียว อายุ​ประมาณ​สิบ​สอง​ปี และ​บุตรสาว​นั้น​นอน​ป่วย​อยู่​เกือบจะ​ตาย เมื่อ​พระ​องค์​เสด็จ​ไป​นั้น ประชาชน​เบียดเสียด​พระ​องค์​
Luke 8:43 มี​ผู้หญิง​คน​หนึ่ง​เป็น​โรค​ตก​โลหิต​ได้​สิบ​สอง​ปี ​และ​ได้​ใช้​ทรัพย์​ทั้งหมด​ของ​นาง​เป็น​ค่า​หมอมา​แล้ว ไม่​มี​ผู้ใด​รักษา​ให้​หาย​ได้​
Luke 8:44 ผู้หญิง​นั้น​แอบ​มา​ข้าง​หลัง ถูกต้อง​ชาย​ฉลอง​พระ​องค์ และ​ใน​ทันใด​นั้น​โลหิต​ที่​ตก​ก็​หยุด​
Luke 8:45 ​พระ​เยซู​จึง​ตรัส​ถาม​ว่า “ใคร​ได้​ถูกต้อง​เรา” เมื่อ​คน​ทั้ง​หลาย​ได้​ปฏิเสธ เปโตร​กับ​คน​ที่​อยู่​ด้วย​กัน​จึง​ทูล​พระ​องค์​ว่า “อาจารย์​เจ้า​ข้า ​ก็​เป็น​เพราะ​ประชาชน​เบียดเสียด​พระ​องค์”
Luke 8:46 แต่​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “มี​ผู้​หนึ่ง​ได้​ถูกต้อง​เรา เพราะ​เรา​รู้สึก​ว่า​ฤทธิ์​ได้​ซ่าน​ออก​จาก​เรา​แล้ว”
Luke 8:47 เมื่อ​ผู้หญิง​นั้น​เห็น​ว่า​จะ​ซ่อน​ตัว​ไว้​ไม่ได้​แล้ว เขา​ก็​เข้า​มา​ตัว​สั่น​กราบ​ลง​ตรง​พระ​พักตร์​พระ​องค์ ทูล​พระ​องค์​ต่อ​หน้า​คน​ทั้ง​ปวง​ว่า เขา​ได้​ถูกต้อง​พระ​องค์​เพราะ​เหตุ​อะไร​และ​ได้​หาย​โรค​ใน​ทันใด​นั้น​
Luke 8:48 ​พระ​องค์​จึง​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “ลูก​หญิง​เอ๋ย ที่​เจ้า​หาย​โรค​นั้น​ก็​เพราะ​เจ้า​เชื่อ จง​ไป​เป็น​สุข​เถิด”
Luke 8:49 เมื่อ​พระ​องค์​กำลัง​ตรัส​อยู่ มี​คน​หนึ่ง​มา​จาก​บ้าน​นาย​ธรรม​ศาลา บอก​นาย​ว่า “ลูก​สาว​ของ​ท่าน​ตาย​เสีย​แล้ว ไม่​ต้อง​รบกวน​ท่าน​อาจารย์​ต่อไป”
Luke 8:50 ฝ่าย​พระ​เยซู​เมื่อ​ได้​ยิน​จึง​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “อย่า​กลัว​เลย จง​เชื่อ​เท่านั้น และ​ลูก​จะ​หาย​ดี”
Luke 8:51 เมื่อ​พระ​องค์​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​ตึก ​พระ​องค์​ไม่​ทรง​ยอม​ให้​ผู้ใด​เข้า​ไป เว้น​แต่ เปโตร ​ยอห์น​ ​ยากอบ​และ​บิดา​มารดา​ของ​เด็ก​นั้น​
Luke 8:52 คน​ทั้ง​หลาย​จึง​ตี​อก​ร้องไห้​ร่ำ​ไร​เพราะ​เด็ก​นั้น แต่​พระ​องค์​ตรัส​ว่า “อย่า​ร้องไห้​เลย​เขา​ไม่​ตาย แต่​นอน​หลับ​อยู่”
Luke 8:53 คน​ทั้ง​ปวง​ก็​พา​กัน​หัวเราะ​เยาะ​พระ​องค์​เพราะ​เขา​รู้​ว่า​เด็ก​นั้น​ตาย​แล้ว​
Luke 8:54 ฝ่าย​พระ​องค์​ทรง​จับ​มือ​เด็ก​นั้น ตรัส​ว่า “ลูก​เอ๋ย จง​ลุก​ขึ้น​เถิด”
Luke 8:55 แล้ว​วิญญาณ​จิต​ก็​กลับ​เข้า​ใน​เด็ก​นั้น เขา​ก็​ลุก​ขึ้น​ทันที ​พระ​องค์​จึง​ตรัส​สั่ง​ให้​เอา​อาหาร​มา​ให้​เขา​กิน​บ้าง​
Luke 8:56 ฝ่าย​บิดา​มารดา​ของ​เด็ก​นั้น​ก็​ประหลาด​ใจ​นัก แต่​พระ​องค์​ทรง​ห้าม​เขา​ไม่ให้​บอก​ผู้ใด​ให้​รู้​เหตุการณ์​ซึ่ง​เป็นมา​นั้น​

     สะกิดใจคำในพระคัมภีร์ว่า "เขาทั้งหลายคอยท่าพระองค์อยู่"  เป็นเหมือนว่าคนทั้งหลายรู้ว่าพระเยซูเป็นคำตอบให้แก่ชีวิตของเขาได้ เขาเฝ้าคอยรอให้พระองค์เสด็จมาที่เมืองนี้เพื่อจะรับการช่วยเหลือจากพระองค์ ผมก็คงเป็นเหมือนประชาชนชาวเมืองนี้ละครับ เฝ้าคอยท่าพระเยซูอยู่ รอคอยให้องค์พระเยซูคริสต์มาเยี่ยมคริสตจักรอย่างเต็มขนาด เพื่อใครก็ตามที่พบพระเยซูจะร้องขอพระเมตตาความช่วยเหลือเหมือนเรื่องของสองคนนี้ที่คอยท่าพระเยซู และได้รับความช่วยเหลือจากโรคโลหิตตกและฟื้นจากความตาย เพราะสิ่งที่ทั้งสองมีคือ "ความเชื่อ" 

     ความเชื่อเป็นปัจจัยหลักของการเคลื่อนฤทธิ์เดชของพระเจ้าลงมาในที่ประชุม ในครอบครัว ในบ้านคนป่วย ในห้องคนที่มีปัญหา ในที่ทำงานของคนที่หมดหวัง ตามถนนหนทางของคนที่ขาดเพื่อน ขาดความรัก ขาดกำลังใจ ขาดสันติสุข ขาดความหวังในชีวิต หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ในพระคริสต์ เมื่อเขาถ่อมใจ ยอมรับว่าเขาไม่สามารถช่วยตนเองได้ และเขารู้ว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้า รักเขา สามารถช่วยเหลือเขาได้ เขาร้องขอ เขาเชื่อ  เหมือนหญิงโลหิตตกคนนี้ เป็นมาสิบสองปี ใช้เงินที่มีอยู่ทั้งหมดไปกับค่ารักษาพยาบาลตนเอง  ในท่ามกลางคนที่เบียดเสียดอยู่รายล้อมพระเยซูคริสต์ คนถูกต้องพระเยซูคริสต์มากมาย แต่พระเยซูไม่ได้พูดถึงประชาชนเหล่านั้นเลย  จนกระทั่ง... หญิงโลหิตตกคนนี้ถูกต้องพระองค์ เป็นการถูกต้องพระองค์ที่ต่างออกไปจากประชาชนทั่วไป และฤทธิ์ซ่านได้ออกไปจากพระองค์ไปรักษาเธอให้หาย   เพราะ.. เธอถูกต้องพระองค์ด้วยความเชื่อ ถ้า..เพียงแต่ได้ถูกเสื้อผ้าของพระองค์ก็จะหายโรคได้   ในพระธรรม มัทธิว ได้บอกเราไว้เช่นนั้น  Matt 9:21 เพราะ​นาง​คิด​ใน​ใจ​ว่า “ถ้า​เรา​ได้​แตะ​ต้อง​ฉลอง​พระ​องค์​เท่านั้น เรา​ก็​จะ​หาย​โรค”     สิ่งนี้ยังไม่เกิดแต่เชื่อว่าจะเกิด  Heb 11:1 ความ​เชื่อ​คือ​ความ​แน่ใจ​ใน​สิ่ง​ที่​เรา​หวัง​ไว้ เป็น​ความ​รู้สึก​มั่นใจ​ว่า สิ่ง​ที่​ยัง​ไม่ได้​เห็น​นั้น​มี​จริง​  และเมื่อเราเชื่อ สิ่งนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆ


     นี่เป็นความเชื่อของหญิงผู้นี้ และพระเจ้าพอพระทัยความเชื่อนี้  John 11:40 ​พระ​เยซู​ตรัส​กับ​เธอ​ว่า “เรา​บอก​เจ้า​แล้ว​มิใช่​หรือ​ว่า ถ้า​เจ้า​เชื่อ​เจ้า​ก็​จะ​ได้​เห็น​ความ​ยิ่งใหญ่​ของ​พระ​เจ้า”    และ  Heb 11:6 แต่​ถ้า​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​แล้ว จะ​เป็น​ที่​พอ​พระ​ทัย​ของ​พระ​เจ้า​ก็​ไม่ได้​เลย เพราะ​ว่า​ผู้​ที่​จะ​มา​เฝ้า​พระ​เจ้า​ได้​นั้น ต้อง​เชื่อ​ว่า​พระ​องค์​ทรง​ดำรง​พระ​ชนม์​อยู่ และ​พระ​องค์​ทรง​เป็น​ผู้​ประทาน​บำเหน็จ​ให้แก่​ทุก​คน​ที่​แสวงหา​พระ​องค์​

     ไม่เพียงหญิงโลหิตตกเท่านั้น ในขณะนั้นเองบุตรสาวของไยรัสนายธรรมศาลาได้ตายลง แต่พระเยซูบอกว่า "จงเชื่อเท่านั้นแล้วลูกจะหายดี"  สภาพความเป็นจริงไม่ชวนให้เชื่อเลย ลูกสาวตายไปแล้ว แต่พระเยซูบอกให้เชื่อ   ถ้าเรามีความเชื่อ เชื่อว่าชีวิตเราอยู่ในสายพระเนตรของพระเจ้าอยู่เสมอ  ไม่มีสิ่งใดที่พระองค์ไม่ทราบ  ถ้าพระเจ้าบอก จงเชื่อ   แต่ถ้าพระเจ้าไม่ได้บอก ก็อย่าทำในสิ่งที่ำพระเจ้าไม่ได้บอกให้ทำ  แต่ถ้าพระเจ้าตรัสบอกเหมือนพระเยซูบอกตอนนี้ เชื่อเลย ขอบคุณพระเจ้า

     ในเวลานี้พระองค์ให้เฉพาะคนที่ใกล้ชิดเท่านั้นเข้าไปด้วยคือพ่อแม่ และสาวกสามคน  เราจะสังเกตุคนที่ไม่มีความเชื่อได้ว่า พระเยซูพูดว่าเด็กนอนหลับอยู่ แต่พวกเขาหัวเราะเยาะ  พวกนี้ช่างไม่รู้จักพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ ผู้ทรงสร้างเสียเลย  ถ้าพระองค์จะบันดาลให้สิ่งต่างๆเป็นขึ้นมาเป็นเรื่องยากสำหรับพระองค์หรือ

     ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้เพราะข้าพเจ้ากำลังเตือนใจตนเองอยู่ด้วยว่า ถ้าพระเจ้าประสงค์จะทำกิจที่ยิ่งใหญ่ในคริสตจักรความหวัง มีสิ่งใดยากหรือ  ผมรับผิดชอบคริสตจักรตามน้ำพระทัยพระเจ้า  ผมรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าพเจ้าจะคอยท่าพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ของข้าพเจ้าเรื่อยไป ข้าพเจ้าจะสรรเสริญเทิดพระเกียรติพระองค์จนกว่าพระองค์จะเสด็จมาทำการยิ่งใหญ่ในแผ่นดินไทย  ชีวิตในพระคริสต์เป็นชีวิตที่ต้องอาศัยความเชื่อมิใช่หรือ ทำไมข้าพเจ้าจะมีความเชื่อในสิ่งที่พระองค์จะทำการยิ่งใหญ่ไม่ได้เล่า  เพราะพระองค์ยิ่งใหญ่นัก อาเมน.. ฮาเลลูยา

วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

ชีวิตพระเยซูคริสต์ : ปลดปล่อยคนที่อยู่ใต้อำนาจผีสิง

รวมบทความชีวิตพระเยซูคริสต์

      แบ่งปันต่อครับ



Luke 8:26 เขา​แล่น​ไป​ถึง​แขวง​ชาว​เมือง​เก-ราซา​ที่​อยู่​ตรง​ข้าม​กาลิลี​
Luke 8:27 เมื่อ​พระ​องค์​เสด็จ​ขึ้น​บก​แล้ว มี​ชาย​คน​หนึ่ง​จาก​เมือง​นั้น​มา​พบ​พระ​องค์ คน​นั้น​มี​ผี​เข้า​สิง และ​นาน​แล้ว​มิได้​สวม​เสื้อ​มิได้​อยู่​เรือน แต่​อยู่​ตาม​อุโมงค์​ฝัง​ศพ​
Luke 8:28 ครั้น​เห็น​พระ​เยซู​เขา​ก็​โห่​ร้อง และ​กราบ​ลง​ตรง​พระ​พักตร์​พระ​องค์ ร้อง​เสียง​ดัง​ว่า “ข้า​แต่​พระ​เยซู​บุตร​ของ​พระ​เจ้า​สูงสุด ​พระ​องค์​มา​ยุ่ง​กับ​ข้า​พระ​องค์​ทำไม ขอ​พระ​องค์​อย่า​ทรมาน​ข้า​พระ​องค์”
Luke 8:29 ที่​พูด​เช่นนี้​ก็​เพราะ​พระ​องค์​ได้​สั่ง​ผี​โสโครก​ให้​ออกมา​จาก​ตัว​คน​นั้น (​ด้วย​ว่า​ผี​นั้น​แผลงฤทธิ์​ใน​ตัว​เขา​บ่อยๆ และ​เขา​ถูก​จำ​ด้วย​โซ่​ตรวน​แต่​เขา​ได้​หัก​เครื่อง​จำ​นั้น​เสีย แล้ว​ผี​ก็​ขับ​เขา​ไป​ใน​ที่​เปลี่ยว​)​
Luke 8:30 ฝ่าย​พระ​เยซู​ตรัส​ถาม​เขา​ว่า “เจ้า​ชื่อ​อะไร” เขา​ทูล​ตอบ​ว่า “ชื่อ​กอง” ด้วย​ว่า​มี​ผี​หลาย​ตน​เข้า​สิง​อยู่​ใน​ตัว​เขา​
Luke 8:31 ผี​นั้น​จึง​อ้อน​วอน​ขอ​พระ​องค์​มิ​ให้​สั่ง​ให้​มัน​กลับไป​ยัง​นรก​ขุม​ลึก​
Luke 8:32 ตำบล​นั้น มี​สุกร​ฝูง​ใหญ่​กำลัง​หา​กิน​อยู่​ที่​ภูเขา ผี​เหล่า​นั้น​ได้​อ้อน​วอน​พระ​องค์ ขอ​อนุญาต​ให้​มัน​เข้า​สิง​ใน​ฝูง​สุกร ​พระ​องค์​ก็​ทรง​อนุญาต​
Luke 8:33 ผี​เหล่า​นั้น​จึง​ออกมา​จาก​คน​นั้น แล้ว​เข้า​อยู่​ใน​ตัว​สุกร สุกร​ทั้ง​ฝูง​ก็​วิ่ง​กระโดด​จาก​หน้า​ผา​ชัน​ลง​ไป​ใน​ทะเลสาบ​สำลัก​น้ำ​ตาย
Luke 8:34 ฝ่าย​คน​เลี้ยง​สุกร เมื่อ​เห็น​เหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น ต่าง​ก็​หนี​ไป​เล่า​เรื่อง​นั้น​ทั้ง​ใน​นคร​และ​บ้าน​นอก​
Luke 8:35 คน​ทั้ง​หลาย​จึง​ออกไป​ดู​เหตุการณ์​ที่​เกิดขึ้น และ​เมื่อ​เขา​มาถึง​พระ​เยซู ​ก็​เห็น​คน​นั้น​ที่​มี​ผี​ออก​จาก​ตัว​นุ่ง​ห่ม​ผ้า​มี​สติ​อารมณ์​ดี นั่ง​ใกล้​พระ​บาท​พระ​เยซู เขา​ทั้ง​หลาย​ก็​พา​กัน​กลัว​
Luke 8:36 ฝ่าย​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​ได้​เห็น​ก็​เล่า​ให้​เขา​ทั้ง​หลาย​ฟัง​ถึง​เรื่อง​คน​ที่​ผี​เข้า​ได้​หาย​ปกติ​อย่างไร​
Luke 8:37 ชาว​เมือง​เก-ราซา​และ​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​อยู่​ตาม​ชนบท​โดยรอบ จึง​อ้อน​วอน​พระ​องค์​ให้​ไป​เสีย​จาก​เขา เพราะ​ว่า​เขา​กลัว​ยิ่ง​นัก ​พระ​องค์​จึง​เสด็จ​ลง​เรือ​กลับไป​
Luke 8:38 คน​ที่​ผี​ออก​จาก​ตัว​นั้น​อ้อน​วอน​ขอ​ติดตาม​พระ​องค์ แต่​พระ​เยซู​ตรัส​สั่ง​เขา​ให้​ไป​ว่า​
Luke 8:39 “จง​กลับไป​บ้าน​เรือน​ของ​ตัว และ​บอก​ชาว​เมือง​ถึง​เรื่อง​การ​ใหญ่​ซึ่ง​พระ​เจ้า​ได้​ทรง​กระทำ​แก่​เจ้า” แล้ว​คน​นั้น​ก็​ไป ประกาศ​แก่​คน​ทั้ง​เมือง​ถึง​เหตุการณ์​ใหญ่​ยิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ได้​ทรง​กระทำ​แก่​ตน​

     เราจะเห็นสภาพของคนที่ถูกผีสิงควบคุมอยู่ว่า เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แต่ถูกผีควบคุมตัวอยู่ เช่น ไม่ได้สวมเสื้อ ไม่ได้อยู่ในเรือน อาศัยอยู่ตามอุโมงค์ฝังศพ แผลงฤทธิ์ในตัวเขา หักโซ่ตรวนที่จำจอง เอาตัวเขาไปอยู่ในที่เปลี่ยว      ไม่เหมือนการที่พระวิญญาณบริสุทธิ์สวมทับเรานะครับ พระวิญญาณบริสุทธิ์เต็มล้นในเรา เราสามารถควบคุมตนเองได้ครับ อยากพูดสรรเสริญ อยากพูดภาษาแปลกๆ อยากสรรเสริญพระเจ้าท่าทางต่างๆ เราควบคุมตนเองได้ครับ ยกตัวอย่างจาก  1Cor 14:32 วิญญาณ​ของ​พวก​ผู้เผย​พระ​วจนะ​นั้น ย่อม​อยู่​ใน​บังคับ​พวก​ผู้เผย​พระ​วจนะ​
ซึ่งนี่แตกต่างจากการที่ถูกผีควบคุม เขาไม่รู้ตัว เขาไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ผีให้ทำอะไรเขาก็จะทำสิ่งนั้น เช่นตอนนี้ผีไม่ชอบใ่ส่เสื้อผ้า คนนั้นก็ไม่ใส่ ถามว่าคนปกติจะทำแบบนี้ไหมครับ  ไม่หรอกครับ  เหมือนคนถูกผีเข้าก่อนผมมาเชื่อที่เชียงใหม่ พอผีเข้าสิง ก็ควบคุมตนเองไม่ได้ ถอนขนทุกเส้นออกจากตัวจนหมด

     พอผีพบพระเยซูคริสต์ พบพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ มันก็กลัวจนตัวสั่น มาอ้อนวอนขออย่าทรมาณมัน ด้วยมันรู้อยู่แล้วว่าที่อยู่ของมันคือที่นรกขุมลึก ในวิวรณ์ภาษาปี 1971 เรียกว่าบาดาล ภาษาไทยคิงเจมส์เรียกว่า เหวที่ไม่มีก้นเหว นี่คือที่ซึ่งพญามารพร้อมกับพวกของมันจะถูกขุมขังอยู่เป็นเวลาพันปี  Rev 20:3 แล้ว​ทิ้ง​มัน​ลง​ไป​ใน​บาดาล​นั้น แล้ว​ได้​ลั่น​กุญแจ​ประทับตรา เพื่อ​ไม่ให้​มัน​ล่อลวง​บรรดา​ประชาชน​ได้​อีก​ต่อไป จน​ครบ​กำหนด​พัน​ปี​แล้ว​จึง​จะต้อง​ปล่อย​มัน​ออกไป​ชั่ว​ขณะหนึ่ง 
 แล้วจะถูกปล่อยออกมาล่อลวงคนในโลกให้ทำสงครามกับพระเจ้า สุดท้ายพวกพญามารทั้งหลายจึงถูกโยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน    Rev 20:10 ส่วน​พญา​มาร​ที่​ล่อลวง​เขา​เหล่า​นั้น​ก็​ถูก​โยน​ลง​ไป​ใน​บึง​ไฟ​และ​กำมะถัน ที่​สัตว์​ร้าย​และ​คน​ที่​ปลอม​ตัว​เป็น​ผู้เผย​พระ​วจนะ​ตก​อยู่​ใน​นั้น และ​มัน​ต้อง​ทน​ทุกข์​ทรมาน​ทั้ง​กลางวัน​และ​กลางคืน​ตลอดไป​เป็น​นิตย์​ 

     คำว่า นรกขุมลึก หรือบาดาล หรือเหวที่ไม่มีก้นเหว คือคำนี้ครับ G12 ἄβυσσος abussos (ab'-us-sos) n.
1. depthless
2. (specially) infernal "abyss"

     ส่วนคำว่า บึงไฟและกำมะถัน เป็นอีกคำหนึ่ง เป็นที่สุดท้ายที่พวกพญามาร สัตว์ร้าย และคนที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ รวมทั้งคนที่ยอมตัวอยู่ใต้อำนาจของมาร ไม่ยอมกลับใจสารภาพบาปพึ่งพระคุณของพระโลหิตพระคริสต์ จะได้อยู่ที่นั่นตลอดไป  สิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากสำหรับคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า และสำหรับคนที่ปลอมตัวทำเป็นเหมือนเป็นลูกพระเจ้า คนเหล่านี้จะถูกพิพากษานิรันดร์

Rev 20:13 ทะเล​ก็​ส่งคืน​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​ตาย​ใน​ทะเล ความ​ตาย​และ​แดน​มรณา​ก็​ส่งคืน​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​อยู่​ใน​แดน​นั้น และ​คน​ทั้ง​หลาย​ก็​ถูก​พิพากษา​ตาม​การ​กระทำ​ของ​ตน​หมด​ทุก​คน​
Rev 20:14 แล้ว​ความ​ตาย และ​แดน​มรณา​ก็​ถูก​ผลัก​ทิ้ง​ลง​ไป​ใน​บึง​ไฟ บึง​ไฟ​นี่​แหละ​เป็น​ความ​ตาย​ครั้ง​ที่​สอง​
Rev 20:15 และ​ถ้า​ผู้ใด​ที่​ไม่​มี​ชื่อ​จด​ไว้​ใน​หนังสือ​ชีวิต ผู้​นั้น​ก็​ถูก​ทิ้ง​ลง​ไป​ใน​บึง​ไฟ​ 

     ที่นี้ผีที่อยู่ในตัวผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีตัวเดียว แต่มีหลายผี ด้วยเหตุนี้มันจึงเรียกตัวมันว่า "กอง" และมันอ้อนวอนขอเข้าไปสิงในฝูงสุกรแทนการส่งไปนรกขุมลึก พอผีไปเข้าสุกร สุกรฝูงนี้ก็เกิดเป็นบ้าขึ้นมาทันทีวิ่งไปลงหน้าเหวตกไปจมน้ำตายหมดสิ้น

     คนเลี้ยงสุกรจึงเข้าไปในเมืองบอกเล่าเหตุการณฺ์นี้แก่ชาวเมืองและบ้านนอกชนบท ต่างก็ออกมาดูเหตุการณ์นี้กัน เห็นคนที่เคยถูกผีเข้านั่งสวมเสื้อผ้าสงบนิ่งอยู่หน้าพระเยซูคริสต์ เมื่อได้ทราบเหตุการณ์นี้แล้ว ต่างก็ขอให้พระเยซูออกไปจากเมืองนี้

     สุดท้่ายคนที่เคยถูกผีเข้าขอตามพระเยซูไปด้วย แต่พระเยซูได้บอกให้กลับไปบ้านเรือนของตนเองและแสดงสิ่งใหญ่ยิ่งที่พระเจ้าทำเพื่อเขา หลังจากนั้นคนนี้ได้เข้าไปในเมืองป่าวประกาศเรื่องที่พระเจ้าได้ทำแก่เขาให้คนทั้งเมืองได้ทราบ  สิ่งนี้เป็นตัวอย่างแก่เรานะครับ เวลาที่พระคริสต์กระทำสิ่งใดเพื่อเรา พระองค์ปรารถนาให้เราแสดงสิ่งที่พระองค์กระทำให้คนทั้งหลายได้รู้เหมือนชายคนนี้ พระเยซูให้ไปแสดง ซึ่งผมคิดว่า ไม่ต้องพูดอะไรคนทั้งหลายก็รู้อยู่แล้วว่าชายคนนี้แต่ก่อนเป็นเช่นไร แต่เดี๋ยวนี้ชายคนนี้ปกติดี นี่ก็แสดงให้คนทั้งหลายเห็นแล้วว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นแก่ชายคนนี้ และชายคนนี้ได้ป่าวประกาศไปทั่วให้คนทั้งเมืองได้ิยินสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ว่าพระคริสต์เป็นผู้กระทำ  นี่คือการเป็นพยานสิ่งที่บังเกิดขึ้นกับตนเอง แต่สำหรับชายคนนี้พระคัมภีร์เขียนว่าเขาไป "ป่าวประกาศ" G2784 κηρύσσω kerusso (kay-roos'-so) v.
1. to herald (as a public crier), especially divine truth (the gospel)  ให้คนทั้งเมืองได้ทราบ

     คำอธิษฐาน  ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระวจนะทุกตอนที่พระองค์ดลใจให้มีผู้เขียนขึ้นมาเป็นประโยชน์ต่อเราทั้งหลาย พระวจนะของพระองค์เป็นฤทธิ์เดชช่วยเยียวยารักษาจิตใจจิตวิญญาณคนทั้งหลายได้ สรรเสริญพระเจ้าที่เราเห็นฤทธิ์เดชอำนาจความยิ่งใหญ่ของพระองค์จากเหตุการณ์ตอนนี้ พระองค์ได้ปลดปล่อยคนทั้งหลายให้เป็นไท ข้าแต่พระเจ้าขอพระองค์ทรงโปรดช่วยเหลือคนไทยด้วยเถิด ปลดปล่อยคนไทยให้พ้นจากการขุมขังของผีมารซาตาน โปรดกระทำให้ตาใจคนไทยเปิดออกเห็นสัจจธรรมความจริง โปรดพาคนไทยที่พระองค์เลือกสรรไว้แล้วเข้ามาร่วมชีวิตอยู่กับพวกเราทั้งหลาย ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน.