วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555

บทที่ 4 ฝูงแพะ


ภาพแสดงการพิพากษาในวาระสุดท้ายโดยพระเยซูคริสต์ ด้านขวาของภาพถูกกล่าวโทษว่าทำผิดและไปนรก ด้านซ้ายของภาพเป็นตัวแทนของธรรมิกชนผู้รับความรอด ตรงกลางภาพอุโมงค์ที่ว่างเปล่าแสดงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์

เหมือนการแยกแกะออกจากแพะ  Matt 25:32 บรรดา​ประชาชาติ​ต่างๆ จะ​ประชุม​พร้อม​กัน​ต่อ​พระ​พักตร์​พระ​องค์ และ​พระ​องค์​จะ​ทรง​แยก​มนุษย์​ทั้ง​หลาย​ออกเป็น​สอง​พวก เหมือน​อย่าง​ผู้​เลี้ยง​แกะ​จะ​แยก​แกะ​ออก​จาก​แพะ​
Matt 25:33 ส่วน​ฝูง​แกะ​นั้น​จะ​ทรง​จัด​ให้​อยู่​เบื้อง​ขวา​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​องค์ แต่​ฝูง​แพะ​นั้น​จะ​ทรง​จัด​ให้​อยู่​เบื้อง​ซ้าย​



บทที่ 4 ฝูงแพะ

ทบทวน 
•    บทที่ 1 “แนวคิดชีวิตผู้เลี้ยง” จากครั้งแรกที่เรียนเรื่องชีวิตผู้เลี้ยงมาจากพระคัมภีร์  ยอห์น 21:15 “เจ้ารักเรามากกว่าเหล่านี้หรือ จงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด”
•    เอามาจากภาพการปกครองดูแลฝูงแกะของพระเจ้า  ไม่ใช่การสร้างผู้นำใหม่  แต่อาจเรียกได้ว่าสร้างผู้เลี้ยงใหม่
•    ผู้นำในบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบการงานที่ต้องพาคนภายใต้ความรับผิดชอบไปสู่เป้าหมายที่ต้องการความสำเร็จเท่านั้น   แต่สำหรับผู้เลี้ยงมีหน้าที่ลักษณะชีวิตมากกว่านั้น มีหน้าที่ มีความรักในการทำหน้าที่ มีความรับผิดชอบในการปกป้องดูแลฝูงแกะ ต้องนำเป็นแบบอย่าง เป็นตัวอย่างชีวิต ไม่เพียงชี้แนะ สั่งการ แต่เอาชีวิตของตนเองลงไปอยู่ร่วมด้วยในฝูงแกะนั้น ฯลฯ
•    พระธรรมสดุดีบทที่ 23 ในมุมมองของผู้เลี้ยงแกะ
•    ดูพระคัมภีร์ข้อต่างๆที่กล่าวถึงผู้เลี้ยงแกะ  G4166 ποιμήν poimen (poy-mayn') n.   a shepherd   KJV: shepherd, pastor

•    บทที่ 2 “ตัวอย่างผู้เลี้ยงแห่งอิสราเอล”  เห็นบางด้านของชีวิตผู้เลี้ยงแกะในปาเลสไตน์
•    เบื้องหลังการเลี้ยงดูฝูงแกะในอิสราเอล  เป็นอาชีพเก่าแก่ของคนที่อยู่ในดินแดนปาเลสไตน์ เป็นหน้าที่ของคนในครอบครัว
•    ผู้เลี้ยงแกะจะต้องเลี้ยงแกะด้วยความระมัดระวัง และด้วยความซื่อสัตย์
•    ข้อพิสูจน์ว่าผู้เลี้ยงแกะได้ทำหน้าที่ของตนอย่างทุ่มเทหรือไม่ก็คือ การป้องกันฝูงแกะของตนให้พ้นจากสัตว์ร้ายหรือขโมยในเวลากลางคืน
•    แกะเป็นสัตว์ที่ถูกนำมาใช้เป็นประโยชน์อย่างมาก
•    โดยธรรมชาติแล้ว แกะเป็นสัตว์ที่น่ารักใคร่ ไม่สามารถปกป้องตัวเอง และต้องการการเอาใจใส่เลี้ยงดูอยู่เสมอจากผู้เลี้ยงแกะ
•    การดูแลฝูงแกะในพระคัมภีร์เดิม  การเปรียบกษัตริย์กับผู้เลี้ยงแกะเป็นอุปมาทั่วไปในตะวันออกโบราณซึ่งรวมถึงอิสราเอล สำหรับการเปรียบพระเจ้าเป็นผู้เลี้ยงอิสราเอลเหมือนเลี้ยงแกะ
•    ดูคำว่า ผู้เลี้ยง H7462  רָעָה ra`ah (raw-aw') v. เลี้ยงฝูงสัตว์  ในพระคัมภีร์เดิม  H7473 רוֹעִי ro`iy (ro-ee') v.  1. pastoral   2. as noun, a shepherd
•    อาชีพของคนอิสราเอลเกี่ยวพันกับการเลี้ยงสัตว์
•    ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าประสบการณ์การเลี้ยงดูแกะของคนอิสราเอล เป่รียบได้กับการดูแลประชากรของพระเจ้า นอกจากนั้นเรายังเห็นดาวิดใช้ประสบการณ์ในการดูแลฝูงแกะของเขา มาใช้ในการเอาชัยชนะต่อโกลิอัทด้วย
•    สำหรับเรา เราเป็นประชากรของพระองค์ที่ทรงเลี้ยงดูแลรักษาเรา เราเปรียบเป็นฝูงแกะของพระองค์ที่เฝ้าดูแลรักษา เพราะพระองค์ทรงรักเราอย่างมาก และในฐานะที่จะมีแกะเกิดใหม่มากมาย แกะเหล่านั้นต้องการผู้เลี้ยงที่คอยเฝ้าดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เหมือนชีวิตของคนเลี้ยงแกะแห่งอิสราเอลที่เฝ้าดูแลรักษาฝูงแกะอยู่เสมอด้วยความรักห่วงใยตลอดเวลา

•    บทที่ 3 “ฝูงแกะ”  สภาพของแกะที่ผู้เลี้ยงต้องดูแลเอาใจใส่
•    พวกแกะเป็นสัตว์ที่มีการได้ยินเสียงที่ยอดเยี่ยมและมีสัญชาติญาณ การตามกลุ่มกันด้วย
•    เมื่อแรกเกิด ลูกแกะทั้งหลายจะถูกสอนให้ทำตาม สมาชิกที่แก่กว่าในฝูง
•    แกะเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่กันเป็นสังคมมากๆ ในทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์พวกมันต้องการมองเห็นแกะตัวอื่น
•    แกะและสัตว์อื่นๆต่างมีประสาทสัมผัสทั้ง 5 ประการเหมือนกัน ได้แก่ การมองเห็น (sight), การได้ยิน (sound), การดมกลิ่น (smell), การรับรส (taste) and การสัมผัส (touch) ในฐานะที่เป็นสัตว์ที่เป็นเหยื่อ แกะต้องมีประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยมเพื่อการอยู่รอดอย่างปลอดภัยของพวกมัน
•    แกะมีพฤติกรรมที่เป็นปกติ ถ้าเมื่อใดสังเกตเห็นความแตกต่างออกไปจากปกติแสดงว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นกับแกะ เช่น เมื่อแกะหรือลูกแกะแยกออกจากฝูงเป็นไปได้ที่จะแสดงว่ามันไม่สบาย , ถ้าแกะไม่มีความอยากอาหารเป็นสิ่งผิดปกติที่พบได้ง่ายแสดงว่าแกะป่วย เป็นต้น
•    ในพระคัมภีร์  มีข้อเสียอยู่บ้างเกี่ยวกับนิสัยของแกะ คือ มันหลงทางและเจิ่นไปง่ายๆ เพราะเหตุนี้แกะจึงมักถูกนำมาเปรียบเทียบกับมนุษย์ ซึ่งก็หลงเจิ่นไปได้ง่ายๆเช่นเดียวกัน
•    มัทธิว 25 ได้บอกว่า  จะมีการแยกแกะออกจากแพะ แยกผู้ชอบธรรมออกมาจากผู้ที่ต้องรับโทษ รับพระพรรับราชอาณาจักรเพราะพวกเขาต้อนรับพระองค์ ผู้ต้องแช่งสาปจะอยู่ในไฟที่ซึ่งมารร้ายและสมุนของมันอยู่เพราะพวกเขาไม่ได้ต้อนรับพระองค์ 

วันนี้จะมาดูเรื่องราวที่ต่อเนื่องกันคือเรื่องแพะ พระคัมภีร์ให้ภาพเปรียบเทียบไว้ระหว่างแกะและแพะ เราจะมาทำความเข้าใจว่าแพะในธรรมชาติเป็นเช่นไร แตกต่างจากแกะตรงไหน และพระคัมภีร์ใช้เปรียบเทียบมนุษย์เป็นเช่นแพะว่าอย่างไร

1)    ในธรรมชาติ
แพะเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็กกินพืชเป็นอาหาร โดยเฉพาะแพะชอบกินใบไม้ พุ่มไม้ จะปีนป่ายและกินใบไม้และเปลือกไม้อ่อน แพะชอบออกหาอาหารกินเองมากกว่า ชอบกินใบไม้มากกว่าหญ้า เลือกกินอาหารที่อยู่สูงกว่าระดับพื้นดิน และไม่ชอบกินอาหารชนิดเดียวเป็นเวลานานๆ

     นอกจากแพะจะปีนป่ายได้เก่งแล้ว ยังสามารถ มุด ลอด และกระโดดได้เก่งอีกด้วย แพะเป็นสัตว์ที่มีความอยากรู้อยากเห็น แม้กระทั่งเรื่องการกิน มีอะไรให้กินก็ต้องขอลองกินดูก่อน กินได้ไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง

"ปริมาณที่แพะกินได้ 3-6% ของน้ำหนักตัว
แพะเลือกกินไม้พุ่ม 72 % หญ้า 28%
แพะจะเดินหากินอาหารได้ไกลถึงวันละ 6-8 กิโลเมตร
แพะถ้าเลี้ยงแบบขังจะกินน้ำวันละ 0.68 ลิตร/ตัว
ถ้าเลี้ยงแบบปล่อยแพะจะกินน้ำวันละ 2 ลิตร/ตัว
ใช้เวลากินอาหาร 30% เคี้ยวเอื้อง 12%
เดินทางหาอาหาร 12% และพักผ่อน 46%"
แพะเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดแรกๆ ของมนุษย์เช่นเดียวกับแกะ จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่ามีการเลี้ยงแพะในแถบเอเซียตะวันตก เช่น เจอริโค (Jericho) โคจา (Choga) มามิ (Mami) เดอิตัน (Djeitun) และคาโยนู (Cayonu) ประมาณกันว่ามนุษย์มีการเลี้ยงแพะในช่วงระหว่าง ๖,๐๐๐ ถึง ๗,๐๐๐ ปีก่อนคริสตศักราช อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดเหมือนกับแกะว่าแพะมีบรรพบุรุษมาจากอะไรกันแน่ แต่แพะสมัยใหม่ (modern goats) ส่วนใหญ่สืบสายมาจากแพะบีซอร์ (Bezoar goat) ซึ่งอาศัยอยู่ในแถบเทือกเขาเอเซียน้อย ( mountains of Asia Minor) ข้ามไปยังเอเซียกลางไปจนถึงซิน (Sind)

     แพะต่างจากแกะตรงที่สามารถกลับไปเป็นสัตว์ป่าได้อีก ถ้านำมาเลี้ยงแล้วปล่อยกลับเข้าป่า เรียกว่า feral goat ในความเป็นจริงแล้วสัตว์ที่นำมาเลี้ยงแล้ว จะสามารถกลับไปเป็นสัตว์ป่าได้อีกอย่างรวดเร็วมีเพียงชนิดเดียวคือ แมวเลี้ยง(domestic cat)

2)    แพะในพระคัมภีร์ที่ถูกนำมาใช้
แพะรับบาปมาจากพระคัมภีร์เดิม มีแพะสองตัว หนึ่งตัวเลือกเป็นแพะไถ่บาป อีกตัวเป็นแพะรับบาป  ในวันมลทินลบบาป
แพะ รับบาปเป็นพิธีปฏิบัติในวันลบบาปประจำปีของชาวอิสราเอล
(the annaul day of at onement)ซึ่งเริ่มด้วยการที่ปุโรหิต
ถวายวัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของตนเองและครอบครัว เมื่อเสร็จพิธีแล้วนั้น ปุโรหิตจะนำแพะ ๒ ตัวไปถวายพระเป็นเจ้าที่
ประตูเต็นท์นัดพบ และจะเป็นผู้จับสลากเลือกแพะ ๒ ตัวนั้น

สลาก ที่ ๑ เป็นสลากสำหรับแพะที่ถวายแก่พระเป็นเจ้า
อีกสลากหนึ่งเป็นสลากสำหรับแพะรับ บาป หากสลากแรกตกแก่แพะตัวใด แพะตัวนั้นจะถูกฆ่าและถวายเป็นเครื่องบูชาเพื่อไถ่บาปของประชาชน เรียกว่า "แพะไถ่บาป"

ส่วน สลากที่ ๒ หากตกแก่แพะตัวใด แพะตัวนั้นเรียกว่า "แพะรับบาป" ซึ่งปุโรหิตจะถวายพระเป็นเจ้าทั้งยังมีชีวิตอยู่ แล้วใช้ทำพิธีลบบาปของประชาชนโดยยกบาปให้ตกที่แพะตัวนั้นเสร็จแล้วก็จะ ปล่อยแพะตัวนั้นให้นำบาปเข้าไปในป่าลึกจนทั้งแพะและบาปไม่สามารถกลับมาอีก (ลนต. ๑๖ : ๖–๑๐, ๑๕–๒๒)

Lev 16:5 และให้เขานำแพะผู้สองตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปกับแกะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องเผาบูชาจากชุมนุมชนอิสราเอล
Lev 16:6 “และอาโรนจะถวายวัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของตนเอง และจะทำการลบมลทินบาปตนเองและครอบครัวของตน
Lev 16:7 แล้วเขาจะนำแพะสองตัวนั้นไปถวายพระเจ้าที่ประตูเต็นท์นัดพบ
Lev 16:8 และอาโรนจะจับฉลากแพะสองตัวนั้น ฉลากหนึ่งตกเป็นของพระเจ้า และอีกฉลากหนึ่งเพื่ออาซาเซล
Lev 16:9 แพะตัวที่ฉลากตกเป็นของพระเจ้านั้น อาโรนจะถวายเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
Lev 16:10 แต่แพะอีกตัวหนึ่งซึ่งฉลากตกเพื่ออาซาเซลนั้น จะนำถวายต่อพระพักตร์พระเจ้าเป็นสัตว์เป็น เพื่อทำการลบมลทินบาปให้ตกที่มัน แล้วจะได้ปล่อยมันเข้าไปในถิ่นทุรกันดารให้แก่อาซาเซล

Lev 16:15 “แล้วอาโรนจะฆ่าแพะอันเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับประชาชน และนำเลือดแพะเข้าไปภายในม่าน และเอาเลือดแพะไปกระทำเช่นเดียวกับกระทำเลือดวัว คือประพรมบนพระที่นั่งกรุณาและที่ข้างหน้าพระที่นั่งกรุณา
Lev 16:16 ดังนี้แหละ เขาจะทำการลบมลทินของสถานศักดิ์สิทธิ์ เพราะเหตุมลทินของคนอิสราเอล และเพราะเหตุการทรยศ เพราะบาปทั้งสิ้นของเขา และอาโรนจะกระทำต่อเต็นท์นัดพบ ซึ่งอยู่กับเขาท่ามกลางมลทินของประชาชน
Lev 16:17 อย่าให้มีผู้ใดอยู่ในเต็นท์นัดพบ เมื่ออาโรนเข้าไปทำการลบมลทินในสถานศักดิ์สิทธิ์ จนกว่าเขาจะออกมาและทำการลบมลทินสำหรับตัวเขา และสำหรับครอบครัวของเขาและสำหรับชุมนุมชนอิสราเอล
Lev 16:18 และอาโรนจะออกไปยังแท่นซึ่งอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้า และทำการลบมลทินแท่นนั้น เขาจะเอาเลือดวัวบ้าง เลือดแพะบ้างเจิมที่เชิงงอนของแท่นโดยรอบ
Lev 16:19 และเอานิ้วจุ่มเลือดประแท่นนั้นเจ็ดครั้ง และชำระกระทำให้แท่นบริสุทธิ์พ้นจากมลทินของคนอิสราเอล
Lev 16:20 “เมื่ออาโรนเสร็จการลบมลทินของสถานศักดิ์สิทธิ์ และเต็นท์นัดพบ และแท่นบูชาแล้ว เขาจะถวายแพะตัวที่เป็นอยู่
Lev 16:21 และอาโรนจะเอามือทั้งสองวางบนหัวแพะที่มีชีวิตนั้น และกล่าวคำสารภาพบรรดาบาปของคนอิสราเอล และการทรยศทั้งหมด และบาปทั้งสิ้นให้ตกลงบนหัวแพะนั้น และให้คนที่เตรียมมือไว้พร้อมแล้วมานำแพะไปปล่อยเข้าถิ่นทุรกันดาร
Lev 16:22 แพะนั้นจะบรรทุกมลทินทั้งหมดไปยังที่เปลี่ยว แล้วเขาก็ปล่อยให้มันเข้าถิ่นทุรกันดารไป
ฮีบรู 7:27 , 9:11-28

3)    แพะที่กล่าวถึงในพระคัมภีร์

•    เปรียบได้กับผู้ที่ไม่เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์
แพะ  G2056 goat
G2056 ἔριφος eriphos (er'-if-os) n.
1. a kid or (genitive case) goat
[perhaps from the same as G2053 (through the idea of hairiness)]
KJV: goat, kid
Root(s): G2053
[?]

•    ในวันสุดท้ายพระเยซูคริสต์จะแยกมนุษย์ออกเป็นสองพวก แยกแกะ(ผู้เชื่อ)ออกจากแพะ(ผู้ไม่เชื่อ)

Matt 25:32 บรรดาประชาชาติต่างๆ จะประชุมพร้อมกันต่อพระพักตร์พระองค์ และพระองค์จะทรงแยกมนุษย์ทั้งหลายออกเป็นสองพวก เหมือนอย่างผู้เลี้ยงแกะจะแยกแกะออกจากแพะ

G2055 ἐρίφιον eriphion (er-if'-ee-on) n.
1. a kidling
2. (genitive case) goat (symbolically, wicked person)
[from G2056]
KJV: goat
Root(s): G2056
[?]

Matt 25:33 ส่วนฝูงแกะนั้นจะทรงจัดให้อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ แต่ฝูงแพะนั้นจะทรงจัดให้อยู่เบื้องซ้าย
Matt 25:34 ขณะนั้น พระมหากษัตริย์จะตรัสแก่บรรดาผู้ที่อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ว่า ‘ท่านทั้งหลายที่ได้รับพระพรจากพระบิดาของเรา จงมารับเอาราชอาณาจักร ซึ่งได้ตระเตรียมไว้สำหรับท่านทั้งหลายตั้งแต่แรกสร้างโลก
Matt 25:35 เพราะว่าเมื่อเราหิว ท่านทั้งหลายก็ได้จัดหาให้เรากิน เรากระหายน้ำ ท่านก็ให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ได้ต้อนรับเราไว้
Matt 25:36 เราเปลือยกายท่านก็ได้ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เมื่อเราเจ็บป่วยท่านก็ได้มาเยี่ยมเอาใจใส่เรา เมื่อเราต้องจำอยู่ในพันธนาคาร ท่านก็ได้มาเยี่ยมเรา’
Matt 25:37 เวลานั้นบรรดาผู้ชอบธรรมจะกราบทูลว่า ‘พระองค์เจ้าข้า ที่ข้าพระองค์เห็นพระองค์ทรงหิวหรือทรงกระหายน้ำ และได้จัดมาถวายแด่พระองค์แต่เมื่อไร
Matt 25:38 ที่ข้าพระองค์ได้เห็นพระองค์ทรงเป็นแขกแปลกหน้า และได้ต้อนรับไว้ หรือเปลือยพระกาย และได้สวมฉลองพระองค์ให้แต่เมื่อไร
Matt 25:39 ที่ข้าพระองค์เห็นพระองค์ประชวรหรือต้องจำอยู่ในพันธนาคาร และได้มาเฝ้าพระองค์นั้นแต่เมื่อไร’
Matt 25:40 แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสกับเขาว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ซึ่งท่านได้กระทำแก่คนใดคนหนึ่งในพวกพี่น้องของเรานี้ ถึงแม้จะต่ำต้อยเพียงไร ก็เหมือนได้กระทำแก่เราด้วย’
Matt 25:41 พระองค์จะตรัสกับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายพระหัตถ์ของพระองค์ว่า ‘ท่านทั้งหลายผู้ต้องแช่งสาปจงถอยไปจากเรา เข้าไปอยู่ในไฟซึ่งไหม้อยู่เป็นนิตย์ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับมารร้ายและสมุนของมันนั้น
Matt 25:42 เพราะว่าเมื่อเราหิวท่านก็มิได้ให้เรากิน เรากระหายน้ำท่านก็มิได้ให้เราดื่ม
Matt 25:43 เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ไม่ได้ต้อนรับเราไว้ เราเปลือยกาย ท่านก็ไม่ได้ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เราเจ็บป่วยและต้องจำอยู่ในพันธนาคาร ท่านไม่ได้เยี่ยมเรา’
Matt 25:44 เขาทั้งหลายจะทูลว่า ‘พระองค์เจ้าข้า ที่ข้าพระองค์ได้เห็นพระองค์ทรงหิวหรือทรงกระหายน้ำ หรือทรงเป็นแขกแปลกหน้าหรือเปลือยพระกาย หรือประชวร หรือต้องจำอยู่ในพันธนาคาร และข้าพระองค์มิได้ปรนนิบัติพระองค์นั้นแต่เมื่อไร’
Matt 25:45 เมื่อนั้นพระองค์จะตรัสกับเขาว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ซึ่งท่านมิได้กระทำแก่ผู้ต่ำต้อยที่สุดสักคนหนึ่งในพวกนี้ ก็เหมือนท่านมิได้กระทำแก่เราด้วย’
Matt 25:46 และพวกเหล่านี้จะต้องออกไปรับโทษอยู่เป็นนิตย์ แต่ผู้ชอบธรรมจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์”

H6260 עַתּתּוּד עַתּתּוּד `attuwd (at-tood') (or sattud {at-tood'}) n-m.
1. prepared, i.e. full grown
2. spoken only (in plural) of he-goats, or (figuratively) leaders of the people
[from H6257]
KJV: chief one, (he) goat, ram.
Root(s): H6257
[?]

•    หลังจากพูดเรื่องผู้เลี้ยงก่อนหน้านี้แล้ว ได้มาพูดถึงเรื่องฝูงแพะแกะ

Ezek 34:17 “พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าทั้งหลายผู้เป็นฝูงแพะแกะของเราเอ๋ย ดูเถิด เราจะพิพากษาระหว่างแกะกับแกะ ระหว่างแกะผู้กับแพะผู้
Ezek 34:18 ที่จะหากินในลานหญ้าอย่างดีนั้นยังไม่พออีกหรือ เจ้าจึงต้องเอาเท้าเหยียบลานหญ้าที่เหลืออยู่ของเจ้า และดื่มน้ำใสยังไม่พอหรือ จึงเอาเท้าของเจ้ากวนน้ำที่เหลืออยู่ให้ขุ่น
Ezek 34:19 แกะของเราจะต้องกินสิ่งที่เท้าของเจ้าย่ำ และดื่มสิ่งที่เท้าของเจ้าทำให้ขุ่นหรือ
Ezek 34:20 “เพราะฉะนั้น พระเจ้าตรัสแก่เขาดังนี้ว่า ดูเถิด เรา คือเราเอง จะพิพากษาระหว่างแกะอ้วนกับแกะผอม
Ezek 34:21 เพราะเจ้าเอาสีข้างและบ่าดันและผลักแกะตัวอ่อนเพลียด้วยเขาของเจ้า เจ้าทำให้เขากระจายไปต่างถิ่น
Ezek 34:22 เราจะช่วยฝูงแพะแกะของเราให้รอด เขาจะไม่เป็นเหยื่ออีกต่อไป และเราจะพิพากษาระหว่างแกะกับแกะ
Ezek 34:23 และเราจะตั้งผู้เลี้ยงแกะผู้หนึ่งไว้เหนือเขา คือดาวิดผู้รับใช้ของเราและท่านจะเลี้ยงเขาทั้งหลาย ท่านจะเลี้ยงเขาและเป็นผู้เลี้ยงของเขา
Ezek 34:24 และเราคือพระเจ้า จะเป็นพระเจ้าของเขา และดาวิดผู้รับใช้ของเรา จะเป็นเจ้านายท่ามกลางเขา เราคือพระเจ้า ได้ลั่นวาจาแล้ว
Ezek 34:25 “เราจะกระทำพันธสัญญาสันติสุขกับเขาและกำจัดสัตว์ร้ายเสียจากแผ่นดิน เพื่อว่าเขาจะอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารอย่างปลอดภัย และนอนอยู่ในป่าไม้
Ezek 34:26 และเราจะกระทำให้เขากับสถานที่รอบๆ เนินเขาของเราเป็นแหล่งพระพร เราจะส่งฝนลงมาให้ตามฤดูกาล เป็นห่าฝนแห่งพระพร
Ezek 34:27 ต้นไม้ที่ในทุ่งจะบังเกิดผล และพิภพจะบังเกิดผลประโยชน์ และเขาจะอยู่อย่างปลอดภัยในแผ่นดินของเขาและเขาจะทราบว่าเราคือพระเจ้าในเมื่อเราหักคานแอกของเขาเสีย และช่วยกู้เขาจากมือของผู้ที่กักเขาให้เป็นทาส
Ezek 34:28 เขาจะไม่เป็นเหยื่อของประชาชาติอีกต่อไป หรือสัตว์ป่าดินก็จะไม่กินเขา และเขาจะอยู่อย่างปลอดภัย ไม่มีผู้ใดกระทำให้เขากลัว
Ezek 34:29 และเราจะจัดหาไร่นาอันมีชื่อให้แก่เขา เพื่อเขาจะไม่ถูกผลาญด้วยความอดอยากในแผ่นดินนั้นต่อไปอีก ไม่ต้องทนรับความอับอายขายหน้าจากประชาชาติ
Ezek 34:30 และเขาจะทราบว่าเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาสถิตกับเขา และเขาคือพงศ์พันธุ์อิสราเอลเป็นประชากรของเรา พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
Ezek 34:31 เจ้าทั้งหลายเป็นแกะของเรา เป็นแกะในลานหญ้าของเรา เจ้าทั้งหลายเป็นมนุษย์ และเราเป็นพระเจ้าของเจ้า พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ”

พระเจ้าดูแลทั้งฝูงแพะแกะ เหมือนพระเจ้าดูแลมนุษย์ทุกคนทั้งผู้เชื่อและผู้ไม่เชื่อ  แต่เมื่อพูดถึงผู้เชื่อ ประชากรของพระเจ้า พระองค์เปรียบเรากับแกะ
เมื่อมาถึงการแยกแพะแกะ เป็นเหมือนการแยกผู้เชื่อกับผู้ไม่เชื่อออกจากกันในวันพิพากษา  และสำหรับแกะแล้ว ยังมีแกะอ้วนแกะผอมอีกด้วย

      ดังนั้นก็มีทั้งคนที่ตอบสนองพระคริสต์เปรียบดั่งแกะ ในระหว่างแกะก็ยังมีแกะอ้วนและแกะผอม   ส่วนคนที่ไม่ตอบสนองเปรียบดังแพะ

4)    แบ่งปันจากสิ่งที่ให้ไปศึกษา

การบ้าน – ให้อ่านหนังสือพระกิตติคุณ 4 เล่ม
ประทับใจผู้เลี้ยงแบบพระคริสต์ จากพระกิตติคุณ 4 เล่ม
ให้ผู้เรียนอ่านและบันทึกสิ่งที่ประทับใจจากชีวิตผู้เลี้ยงแบบพระเยซู


อย่างนี้ไม่มีในแกะครับ แพะปีนป่ายได้ แกะไม่ใช่





อย่างนี้ก็ไม่มีในแกะครับ แพะนี่ตกใจ แล้วเป็นลมหงายท้องได้






แพะอยู่บนภูเขาในอิสราเอล







สุดท้าย เอาภาพข่าวของการเพาะปลูกในอิสราเอลที่เป็นทะเลทรายมาให้ดูกันครับ เพื่อพี่น้องจะเข้าใจภาพได้เวลาที่พูดถึงการเลี้ยงฝูงแพะแกะ เพราะภูมิประเทศ สิ่งแวดล้อมไม่เหมือนกัน เดี๋ยวนี้พื้นที่เป็นทะเลทราย แต่ในสมัยอดีตบริเวณที่เจริญอุดมสมบูรณ์ของโลกคือแถวนี้นะครับที่อิสราเอลอยู่

วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2555

บทที่ 3 ฝูงแกะ

ภาพแกะมีอายุ

ภาพแกะอ่อน

วีดีโอฝูงแกะ










บทที่ 3 ฝูงแกะ

ชีวิตผู้เลี้ยงที่เกี่ยวข้องกับฝูงแกะ
สภาพของแกะที่ผู้เลี้ยงต้องดูแลเอาใจใส่

1) ฝ่ายธรรมชาติ


http://std.kku.ac.th/4931801242/behavior.html

คำจำกัดความของพฤติกรรม คือ การตอบสนองของสัตว์ต่อสิ่งแวดล้อมของมัน พื้นฐานความเข้าใจของพฤติกรรมแกะ จะทำให้เราบังคับมันได้ สำหรับแกะ และคนเลี้ยงแกะ มันจะทำให้เราเลิกเชื่ออีกเช่นกันว่า เหล่าแกะนั้นเป็นสัตว์ที่ งี่เง่า

พวกแกะเป็นสัตว์ที่มีการได้ยินเสียงที่ยอดเยี่ยมและมีสัญชาติญาณ การตามกลุ่มกันด้วย พวกมันจะวิ่งหนีจากสิ่งที่ทำให้พวกมันตกใจและจะรวมกลุ่มใหญ่เพื่อคุ้มครองกัน นี่เป็นการปกป้องฝูงจากผู้ล่าเท่านั้น นั่นเป็นการป้องกันภัยในฝูงมันเป็นการยากสำหรับผู้ล่าที่จะฉกฉวยเอาแกะออกไปจากฝูง สัญชาตญาณฝูงจะแตกต่างกันในสัตว์แต่ละชนิด

แกะจะแสดงทั้งการรวมฝูงที่เข้มแข็ง และสัญชาตญาณการตามกัน แกะเป็นสัตว์ขนปุยที่ดีเลิศที่ชอบสังคมที่สุด

เมื่อแกะตัวหนึ่งเคลื่อนที่ ตัวอื่นจะไปตามกัน แม้ว่ามันจะเป็นความคิดที่ไม่ค่อยเลิศก็ตามที สัญชาตญาณการรวมกลุ่มและการไปตามกันของแกะ เป็นสาเหตุของการที่แกะ 400 ตัวตายในทางตะวันออกของตุรกีเมื่อปี 2006 เมื่อแกะตัวหนึ่งในฝูงพยายามจะข้ามลำห้วยที่ลึกถึง 15 เมตร และแกะในฝูงก็ตามกันไป
เมื่อแรกเกิด ลูกแกะทั้งหลายจะถูกสอนให้ทำตาม สมาชิกที่แก่กว่าในฝูง แกะตัวเมีย(แม่แกะ)จะสนับสนุนให้ลูกแกะทำตามฝูงสมาชิกที่เป็นฝูงจะชักจูงให้ตัวอื่นทำตามเสมอ และตัวอื่นก็จะทำตามกันอย่างว่าง่าย ถ้ามีแกะตัวผู้อยู่ในฝูง มันจะเป็นผู้นำฝูงเสมอ

            แกะเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่กันเป็นสังคมมากๆ ในทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์พวกมันต้องการมองเป็นแกะตัวอื่นในความเป็นจริง แกะจะรู้สึกปลอดภัยเมื่อมันมองเห็นแกะตัวอื่นในกรณีที่มันถูกควบคุมให้เคลื่อนที่ไปหรือเมื่อมันถูกบังคับซึ่งจะขึ้นกับพฤติกรรมของสัตว์ การรวมกลุ่มตั้งแต่ 5 ตัวของแกะ เป็นสิ่งจำเป็นเสมอในการแสดงพฤติกรรมการรวมกลุ่มของมัน แกะจะรู้สึกปั่นป่วนอย่างมาก ถ้ามันถูกแยกออกจากฝูง
แกะให้ความปลอดภัยโดยเครื่องกลไก เป็นการเพิ่มการดูแลของมนุษย์ต่อแกะ ที่มีสัญชาติญาณรวมฝูงและการทำตามกัน ทำให้เรามีความง่ายในการเคลื่อนย้ายฝูงแกะจำนวนมากๆ การทำให้เชื่องในหลายๆรุ่น ของแกะที่เกิดใหม่จะเป็นลักษณะเฉพาะในแกะรุ่นต่อไป การทำให้เชื่องจะไม่ทำให้สัตว์ก้าวเร้า ความเชื่องเป็นนิสัยของแกะ และสามารถสอนให้เชื่องและอ่อนน้อมง่ายกว่าในคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงและเด็กจะสอนง่ายกว่า

            แกะเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีความเชื่อง และมันจะเป็นความเชื่องอย่างสมบูรณ์มันเป็นข้อสงสัยที่สัตว์พวกนี้ควรจะดำรงชีวิตอยู่ในป่าได้อย่างไร ถ้ามีอันตรายจากสัตว์ผู้ล่า เพราะมันเชื่องและถูกควบคุมได้ง่ายมาก

                                           ประสาทสัมผัสของแกะ

          ประสาทสัมผัสนั้นเป็นเครื่องมือที่สัตว์ใช้เพื่อตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมของพวกมัน แกะและสัตว์อื่นๆต่างมีประสาทสัมผัสทั้ง 5 ประการเหมือนกัน ได้แก่ การมองเห็น (sight), การได้ยิน (sound), การดมกลิ่น (smell), การรับรส (taste) and การสัมผัส (touch) ในฐานะที่เป็นสัตว์ที่เป็นเหยื่อ แกะต้องมีประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยมเพื่อการอยู่รอดอย่างปลอดภัยของพวกมัน

Sight (สายตา)

          แกะต้องอาศัยสายตาอย่างมากมายเพื่อการมองเห็น นักพฤติกรรมศาสตร์ได้ศึกษาโครงสร้างของตำแหน่งตาของแกะ ซึ่งเป็นตำแหน่งตามปกติของแกะซึ่งเป็นสัตว์ที่เป็นเหยื่อ
แกะมีรูม่านตา(pupil)ที่ใหญ่มาก ที่มีรูปร่างเป็นมุมฉาก ลูกตาถูกวางที่ตำแหน่งด้านข้างของศีรษะทำให้แกะมีมุมมองของสายตาที่กว้างมาก เพียงแค่เคลื่อนไหวศีรษะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และสามารถมองกวาดสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวมันได้ ระดับสายตาที่แกะมองเห็นมีระยะระหว่าง 191 ถึง 306 องศา ขึ้นกับขนบนหน้าของมัน

          แต่อย่างไรก็ตามแกะมีการมองเห็นที่เป็นความลึกเล็กน้อย (ลักษณะที่เป็น 3 มิติ) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าพวกมันเคลื่อนที่ด้วยความตื่นตัวว่องไว นี่คือสิ่งที่บอกว่าทำไมพวกมันจึงหยุดบ่อยๆ เพื่อจะตรวจดูบางอย่างอย่างใกล้ชิด แกะมีปัญหาในการที่จะเลือกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่น ช่องว่างที่สร้างโดยบางส่วนของประตุรั้ว

          พวกมันมีแนวโน้มในการหลบหลีก การแบ่งแยกระหว่างที่มืดกับสว่าง พวกมันจะไม่ชอบเมื่อไปในที่ที่พวกมันไม่สามารถมองเห็นได้

          ในหลายปีที่ผ่านมา มีความเชื่อว่า แกะและสัตว์ปศุสัตว์อื่นไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เป็นสีได้ แต่เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการพิสูจน์แล้วว่า สัตว์ปศุสัตว์มี cones ที่ใช้ในการมองเห็นสี การวิจัยแสดงโดย พวกมันสามารถแยกความแตกต่างระหว่างสีได้ แต่ก็ยังมีการมองเห็นที่ไม่เท่ามนุษย์

                                                 Hearing (การได้ยิน)

            แกะมีการได้ยินที่ดีเยี่ยม พวกมันสามารถขยายความถี่ และบอกตำแหน่งของเสียงที่ได้ยินด้วย   

ในความเป็นจริง เสียงนั้นมาถึงหูในเวลาที่แตกต่างกัน แกะจะตกใจทันทีในเสียงที่ดัง เช่น เสียงตะโกน หรือเสียงเห่า การตอบสนองต่อเสียงที่ดังและเสียงที่ไม่เป็นธรรมชาติอื่นๆ แกะจะกระวนกระวาย ทำให้จัดการกับแกะยากขึ้น เพื่อที่จะผ่อนคลายความเครียดจาก hormones ผู้จัดการควรพูดให้แกะเงียบเสียงร้อง  แกะจะไม่ทำงานในขณะที่มีเสียงเห่าของสุนัข

                                                  Smell (การดมกลิ่น)

               แกะมีการรับกลิ่นที่ดีเยี่ยม อวัยวะ ดมกลิ่นของพวกมันมีการพัฒนาที่สูงกว่าคนมาก แกะสามารถจำกลิ่นของผู้ล่าได้ กลิ่นช่วยแกะตัวผู้ในการที่จะบอกที่อยู่ของตัวเมียที่เป็นสัดและช่วยแกะตัวเมียในการที่จะรู้ตำแหน่งของลูกแกะ แกะจะใช้ประสาทสัมผัสเกี่ยวกับการดมกลิ่นเพื่อจะรู้ที่อยู่ของน้ำ หญ้า แหละอาหาร แกะจะเคลื่อนที่ไปตามกลิ่นนั้น

                                                   Touch (การสัมผัส)

                เนื่องจากร่างกายส่วนใหญ่ของแกะนั้นถูกปกคลุมด้วยขนปุยหรือขนหยาบ ริมฝีปากและช่องปากและบางทีหูด้วย มีการปรับตัวเพื่อการรับความรู้สึกที่ดี นี่เป็นสิ่งที่บอกว่าทำไม ที่สันจมูกของมันรับสัญญาณสื่อสารได้ ความรู้สึกสัมผัสนี้สำคัญในการตอบสนองกันระหว่างสัตว์ด้วยกัน ลูกแกะใช้ติดต่อระหว่างแม่ของมัน แกะตัวเมียตอบสนองพฤติกรรมสัมผัสนี้ในหลายวิธี เช่น การลดลงของน้ำนม กลุ่มของสัตว์จะมีการใช้ร่างกายเพื่อติดต่อสื่อสารกันด้วยความสงบ

                                                  Taste (การรับรส)

            แกะมีความสามารถที่จะแยกความแตกต่างของรสชาติอาหารได้ พวกมันจะสามารถเลือกอาหารที่ทำให้พวกมันมีความสมดุลในตัวเอง และทำให้พวกมันรู้สึกดีขึ้น

Normal sheep behavior (พฤติกรรมที่ปกติของแกะ)

                การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมที่ปกติสามารถเป็นเครื่องหมายที่บอกว่าแกะไม่สบาย เช่น ปกติแกะส่วนใหญ่มีพฤติกรรมปกติคือจะรวมกลุ่มกัน เมื่อแกะหรือลูกแกะแยกออกจากฝูงเป็นไปได้ที่จะแสดงว่ามันไม่สบาย ยกเว้นมันสูญหายไป แม้ว่าแกะตัวสุดท้ายจะผ่านประตูรั้วควรสงสัยว่ามันไม่รู้สึกดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าปกติมันผ่านไปเป็นตัวที่หนึ่ง

             ความอยากอาหารก็เป็นอีกอย่างที่เป็นตัวชี้สุขภาพของแกะ แกะที่มีสุขภาพดีจะมีพฤติกรรมการกินและการเคี้ยวเอื้องที่เป็นปกติ พวกมันจะเคี้ยวเอื้องหลายชั่วโมงในแต่ละวัน แกะที่มีสุขภาพดีจะมีความอยากกินอาหาร มันแทบจะหิวเป็นปกติ พวกมันจะกินมากไปถ้าเราอนุญาตมัน แกะจะส่งเสียงร้องแบะๆ บอกว่ามันหิวแล้ว ถ้าแกะไม่มีความอยากอาหารเป็นสิ่งผิดปกติที่พบได้ง่ายแสดงว่าแกะป่วย และในเวลาเดียวกัน อาหารเป็นสิ่งวิเศษที่กระตุ้นดลใจพวกมัน  นอกจากฝูงสุนัขที่ดี ถังของเมล็ดข้าวเป็นปกติที่จะชุมนุมและเคลื่อนย้ายแกะ ให้อาหารพวกเมล็ดข้าว ดูแลแกะเป็นมิตรและแทบจะไม่ทำให้กลัวโดยคน
แกะใช้เวลาประมาณ 15 % ของแต่ละวันในการนอน แต่อาจนอนลงและพักผ่อนในเวลาอื่นๆ ในเวลาพักผ่อนพวกมันจะถ่ายอุจจาระและยืดเส้นยืดสาย แกะจะฝืนใจมากในเวลาที่มันเจ็บปวด แกะจะใช้เวลานานที่จะนอนลงถ้ามันเจ็บปวด แกะจะไม่สามารถผ่อนคลายภายใต้ความกดดัน การเคี้ยวบดฟันก็เป็นอีกสัญญาณที่บอกว่าแกะเจ็บปวด

ลูกแกะขี้เล่น ( playful lambs )

               สำหรับลูกแกะต้องหมั่นดูแล  1-2 ครั้งต่อชั่วโมง ระหว่างสัปดาห์แรก  ลูกแกะจะร้อง แบะๆ อยู่ตลอดเวลาซึ่งเป็นไปได้มากที่มันหิวและอาหารไม่เพียงพอ  และจะลดลงเมื่อมันเติบโตขึ้น  ลูกแกะจะนอน วันละ 8-12 ชั่วโมงต่อวัน ในเลาที่มันงีบหลับ มันจะมองหาแม่ของมันและเข้าไปนอนใกล้ๆแม่ของมันเท่าที่จะเป็นไปได้ ลูกแกะส่วนมากจะร่าเริงมาก มันจะเล่นกันเป็นกลุ่มซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ลูกแกะรักที่จะปีนป่าย เพราะธรรมชาติของมันคืออยากรู้อยากเห็นสิ่งรอบๆตัวมัน และความอยากรู้อยากเห็นนี้เองทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่ายๆ    และเมื่อลูกแกโตขึ้น มันจะใช้เวลาอยู่กับแม่น้อยลงและใช้เวลากับเพื่อนมากขึ้น มันจะให้เวลาส่วนมากเพื่อค้นหาอาหาร และเล่นลดลงหลังจากมันอายุ 4 เดือน

การเฝ้าระวังของแกะตัวผู้  ( watch out for rams)

                แม้ว่าปกติแล้วแกะจะเป็นสัตว์ทีเชื่อง ไม่ดุร้าย  แต่ไม่ใช่ส่วนมากของแกะตัวผู้   โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูผสมพันธุ์ แกตัวผู้จะดุร้ายมาก และเป็นสาเหตุของบาดแผล และอาจตายได้ แกะตัวผู้ไม่เคยไว้ใจแม้มันจะดูเป็นมิตรคล้ายสัตว์เลี้ยงก็ตาม และที่สำคัญควรจำไว้เสมอว่า แกะตัวผู้ไม่เคยหันหลังให้คุณ ไม่ควรให้เด็กเข้าใกล้แกะตัวผู้ในฤดูผสมพันธุ์

                การเอาหัวชนเป็นธรรมชาติและพฤติกรรมการเรียนรู้ของแกะ แกะตัวผู้มีการเอาหัวชนกันมากในฤดูการชนเขาและตอนที่แกะตัวเมียเป็นสัด  การชนหัวนำไปสู่การคัดเลือกผู้นำฝูง  การทำแบบนี้เป็นพฤติกรรมที่ท้าทายหรือดุร้าย  ในปกติ แกะตัวผู้มองคุณเป็นส่วนหนึ่งของฝูงมันและต้องการที่จะเป็นผู้นำคุณ ในบางเวลาเท่านั้นที่แกะตัวเมียจะดุร้ายหลังจากคลอด เพื่อปกป้องลูกของมัน
แกะโง่ไหม ?

              แกะได้ขึ้นชื่อในเรื่องความโง่มานานแล้ว  เพราะพฤติกรรมของมันที่ชอบอยู่เป็นกลุ่ม  ไม่มีสัญชาตญาณเฉพาะตัว  และขาดความคิดริเริ่ม  แต่พวกมันเชื่องและไม่ก้าวร้าว  แต่พวกมันสามารถคำรามได้ในบางกรณี

แกะที่หิวจะทำลายแนวป้องกัน

             แกะที่หิวใน  Yorkshire  Moors  จะทำลายแนวป้องกันสวนของหมู่บ้าน  โดยมันจะนอนหมอบลงกับพื้น  และกลิ้งหมุนตัวจนกระทั่งแนวป้องกันราบไป
การจดจำของแกะตัวเมีย

             แกะมีความจำดี  โดยจำจากใบหน้าได้ดี  มันสามารถจำใบหน้าแกะด้วยกันได้มากกว่า  50  ตัวได้นานถึง 2 ปี  และยังสามารถจำใบหน้าคนเลี้ยงได้ดีอีกด้วย
ความมหัศจรรย์ของแกะ

            แกะมีการเรียนรู้แบบจดจำเพื่อนำไปปรับปรุงหรือแก้ไข  โดยการทดลองโดยทดสอบให้แกะเดินอยู่ในเขาวงกต  วันแรกแกะใช้เวลาเฉลี่ย  90  นาทีในการหาทางออก  ทำเช่นนี้จนถึงวันที่ 3  พบว่า  แกะใช้เวลาลดลงถึง  2-3  เท่า  และทดลองต่อมาหลายวันแกะเดินออกมาได้โดยไม่ผิดเลย
แกะรักษาตัวเองได้

             แกะสามารถรักษาตัวเองได้  โดยเรียนรู้ที่จะกินอาหารที่ทำให้พวกมันรู้สึกดี

แกะจ่าฝูง

            แกะจ่าฝูงสายพันธุ์  Icelandic  มีความสามารถพิเศษที่สามารถนำฝูงแกะของตนกลับบ้านแม้จะต้องผ่านหิมะ  พายุน้ำแข็ง  ข้ามแม่น้ำ  และสิ่งกีดขวามต่างๆ

2) ในพระคัมภีร์

    มีข้อเสียอยู่บ้างเกี่ยวกับนิสัยของแกะ คือ มันหลงทางและเจิ่นไปง่ายๆ เพราะเหตุนี้แกะจึงมักถูกนำมาเปรียบเทียบกับมนุษย์ ซึ่งก็หลงเจิ่นไปได้ง่ายๆเช่นเดียวกัน (อิสยาห์ 53:6, มัทธิว 10:6, 18:12) แกะจำเป็นต้องมีผู้เลี้ยง เพื่อป้องกันอันตรายให้มัน และเป็นผู้นำมัน  ความจริงเรื่องแกะและผู้เลี้ยงนี้ ก็ได้ใช้อธิบายเปรียบเทียบเกี่ยวกับมนุษย์ด้วย คือ มนุษย์จำต้องมีพระเจ้าเป็นผู้ทรงนำ (กันดารวิถี 27:17, มัทธิว 10:16, ยอห์น 10:11, 27, 21:15-17, 1เปโตร 5:1-4)

2.1 อะไรที่ทำอันตรายต่อฝูงแกะได้บ้าง

Matt 7:15 “ท่านทั้งหลายจงระวังผู้เผยพระวจนะเท็จ ที่มาหาท่านนุ่งห่มดุจแกะ แต่ภายในเขาร้ายกาจดุจหมาป่า

•    ผู้เผยพระวจนะเท็จ ปลอมตัวมารูปลักษณ์เหมือนแกะ แต่ข้างในร้ายกาจเหมือนหมาป่า

Matt 9:36 และเมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชนก็ทรงสงสารเขา ด้วยเขาถูกรังควานและไร้ที่พึ่งดุจฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยง

Matt 26:31 ครั้งนั้นพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกว่า “ในคืนวันนี้ท่านทุกคนจะทิ้งเรา ด้วยมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า เราจะประหารผู้เลี้ยงแกะ และแกะฝูงนั้น จะกระจัดกระจายไป

Mark 14:27 พระเยซูจึงตรัสกับเหล่าสาวกว่า “ท่านทุกคนจะทิ้งเรา ด้วยมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘เราจะประหารผู้เลี้ยงแกะ และแกะฝูงนั้นจะกระจัดกระจายไป’

•    ถูกรังควาน ไร้ที่พึ่ง เพราะไม่มีผู้เลี้ยง

Matt 12:11 พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ถ้าผู้ใดในพวกท่านมีแกะตัวเดียวและแกะตัวนั้นตกบ่อในวันสะบาโต ผู้นั้นจะไม่ฉุดลากแกะตัวนั้นขึ้นหรือ
Matt 12:12 มนุษย์คนหนึ่งย่อมประเสริฐยิ่งกว่าแกะมากทีเดียว เหตุฉะนั้นจึงอนุญาตให้ทำการดีได้ในวันสะบาโต”
Matt 12:13 แล้วพระองค์ตรัสกับคนมือลีบนั้นว่า “จงเหยียดมือออกเถิด” เขาก็เหยียดออก และมือนั้นก็หายเป็นปกติเหมือนมืออีกข้างหนึ่ง
Matt 12:14 ฝ่ายพวกฟาริสีก็ออกไปปรึกษากันว่า จะทำอย่างไรจึงจะฆ่าพระองค์ได้

•    ต้องช่วยแกะ เมื่อแกะเดินออกนอกทาง ตกหลุมตกบ่อ

Matt 15:24 พระองค์ตรัสตอบว่า “เรามิได้รับใช้มาหาผู้ใด เว้นแต่แกะหลงของวงศ์วานอิสราเอล”

Matt 18:12 ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร ถ้าผู้หนึ่งมีแกะอยู่ร้อยตัว ตัวหนึ่งหลงหายไปจากฝูง ผู้นั้นจะไม่ละแกะเก้าสิบเก้าตัวไว้บนภูเขา แล้วไปเที่ยวหาตัวที่หายนั้นหรือ
Matt 18:13 เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้นั้นพบแกะตัวที่หาย เขาจะมีความเปรมปรีดิ์ยิ่งกว่าที่มีแกะเก้าสิบเก้าตัวที่มิได้หลงหายนั้น
Matt 18:14 อย่างนั้นแหละ พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ไม่ทรงปรารถนาให้ผู้เล็กน้อยเหล่านี้สักคนหนึ่งพินาศไปเลย

•    ช่วยแกะที่หลงหายไปจากฝูง

2.2 สิ่งที่ควรทำ

Matt 10:6 แต่ว่าจงไปหาแกะหลงของวงศ์วานอิสราเอลนั้นดีกว่า
Matt 10:7 จงไปพลางประกาศพลางว่า ‘แผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว’
Matt 10:8 จงรักษาคนเจ็บป่วยให้หาย คนตายแล้วให้ฟื้น คนโรคเรื้อนให้หายสะอาด และจงขับผีให้ออก ท่านทั้งหลายได้รับเปล่าๆ จงให้เปล่าๆ
Matt 10:9 อย่าหาเหรียญทองคำหรือเงินหรือทองแดงไว้ในไถ้ของท่าน
Matt 10:10 หรือย่ามใช้ตามทาง หรือเสื้อ หรือถือไม้เท้า หรือสวมรองเท้า เพราะว่าผู้ทำงานสมควรจะได้อาหารกิน
Matt 10:11 เมื่อท่านมาถึงนครใดหรือหมู่บ้านใด จงสืบดูว่าใครเป็นคนเหมาะสมในที่นั้น แล้วจงไปอาศัยกับผู้นั้น จนกว่าจะจากไป
Matt 10:12 ขณะเมื่อขึ้นเรือน จงให้พรแก่ครัวเรือนนั้น
Matt 10:13 ถ้าครัวเรือนนั้นสมควรรับพร ก็ให้สันติสุขของท่านอยู่กับเรือนนั้น แต่ถ้าครัวเรือนนั้นไม่สมควรรับพร ก็ให้สันติสุขนั้นกลับคืนมาสู่ท่านอีก
Matt 10:14 ถ้าผู้ใดไม่ต้อนรับท่านทั้งหลายและไม่ฟังคำของท่าน เมื่อจะออกจากเรือนนั้นเมืองนั้น จงสะบัดผงคลีที่ติดเท้าของท่านออกเสีย เพื่อแสดงว่าท่านไม่รับผิดชอบต่อไป
Matt 10:15 เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ในวันพิพากษานั้น โทษของเมืองโสโดม และเมืองโกโมราห์จะเบากว่าโทษของเมืองนั้น
Matt 10:16 “ดูเถิด เราใช้พวกท่านไปดุจแกะอยู่ท่ามกลางหมาป่า เหตุฉะนั้นจงฉลาดเหมือนงู และไม่มีภัยเหมือนนกพิราบ

•    ประกาศเรื่องแผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว  :7
•    รักษาคนเจ็บป่วย  :8
•    อยู่อาศัยกับผู้ที่ต้อนรับ   :9-11
•    ขอพระพรพระเจ้าสำหรับครัวเรือนนั้น    :12-13
•    สั่งสอนพระคำพระเจ้าให้แก่ครัวเรือนนั้นหรือเมืองนั้น   :14-15
•    พระเยซูใช้ให้เราไปอยู่ท่ามกลางคนทั้งหลาย โดยมีสติปัญญา   :16

2.3 ผลในวันสุดท้าย

Matt 25:31 “เมื่อบุตรมนุษย์ทรงพระสิริเสด็จมากับทั้งหมู่ทูตสวรรค์ เมื่อนั้นพระองค์จะประทับบนพระที่นั่งอันรุ่งเรืองของพระองค์
Matt 25:32 บรรดาประชาชาติต่างๆ จะประชุมพร้อมกันต่อพระพักตร์พระองค์ และพระองค์จะทรงแยกมนุษย์ทั้งหลายออกเป็นสองพวก เหมือนอย่างผู้เลี้ยงแกะจะแยกแกะออกจากแพะ
Matt 25:33 ส่วนฝูงแกะนั้นจะทรงจัดให้อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ แต่ฝูงแพะนั้นจะทรงจัดให้อยู่เบื้องซ้าย
Matt 25:34 ขณะนั้น พระมหากษัตริย์จะตรัสแก่บรรดาผู้ที่อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ว่า ‘ท่านทั้งหลายที่ได้รับพระพรจากพระบิดาของเรา จงมารับเอาราชอาณาจักร ซึ่งได้ตระเตรียมไว้สำหรับท่านทั้งหลายตั้งแต่แรกสร้างโลก
Matt 25:35 เพราะว่าเมื่อเราหิว ท่านทั้งหลายก็ได้จัดหาให้เรากิน เรากระหายน้ำ ท่านก็ให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ได้ต้อนรับเราไว้
Matt 25:36 เราเปลือยกายท่านก็ได้ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เมื่อเราเจ็บป่วยท่านก็ได้มาเยี่ยมเอาใจใส่เรา เมื่อเราต้องจำอยู่ในพันธนาคาร ท่านก็ได้มาเยี่ยมเรา’
Matt 25:37 เวลานั้นบรรดาผู้ชอบธรรมจะกราบทูลว่า ‘พระองค์เจ้าข้า ที่ข้าพระองค์เห็นพระองค์ทรงหิวหรือทรงกระหายน้ำ และได้จัดมาถวายแด่พระองค์แต่เมื่อไร
Matt 25:38 ที่ข้าพระองค์ได้เห็นพระองค์ทรงเป็นแขกแปลกหน้า และได้ต้อนรับไว้ หรือเปลือยพระกาย และได้สวมฉลองพระองค์ให้แต่เมื่อไร
Matt 25:39 ที่ข้าพระองค์เห็นพระองค์ประชวรหรือต้องจำอยู่ในพันธนาคาร และได้มาเฝ้าพระองค์นั้นแต่เมื่อไร’
Matt 25:40 แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสกับเขาว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ซึ่งท่านได้กระทำแก่คนใดคนหนึ่งในพวกพี่น้องของเรานี้ ถึงแม้จะต่ำต้อยเพียงไร ก็เหมือนได้กระทำแก่เราด้วย’
Matt 25:41 พระองค์จะตรัสกับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายพระหัตถ์ของพระองค์ว่า ‘ท่านทั้งหลายผู้ต้องแช่งสาปจงถอยไปจากเรา เข้าไปอยู่ในไฟซึ่งไหม้อยู่เป็นนิตย์ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับมารร้ายและสมุนของมันนั้น
Matt 25:42 เพราะว่าเมื่อเราหิวท่านก็มิได้ให้เรากิน เรากระหายน้ำท่านก็มิได้ให้เราดื่ม
Matt 25:43 เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ไม่ได้ต้อนรับเราไว้ เราเปลือยกาย ท่านก็ไม่ได้ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เราเจ็บป่วยและต้องจำอยู่ในพันธนาคาร ท่านไม่ได้เยี่ยมเรา’
Matt 25:44 เขาทั้งหลายจะทูลว่า ‘พระองค์เจ้าข้า ที่ข้าพระองค์ได้เห็นพระองค์ทรงหิวหรือทรงกระหายน้ำ หรือทรงเป็นแขกแปลกหน้าหรือเปลือยพระกาย หรือประชวร หรือต้องจำอยู่ในพันธนาคาร และข้าพระองค์มิได้ปรนนิบัติพระองค์นั้นแต่เมื่อไร’
Matt 25:45 เมื่อนั้นพระองค์จะตรัสกับเขาว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ซึ่งท่านมิได้กระทำแก่ผู้ต่ำต้อยที่สุดสักคนหนึ่งในพวกนี้ ก็เหมือนท่านมิได้กระทำแก่เราด้วย’
Matt 25:46 และพวกเหล่านี้จะต้องออกไปรับโทษอยู่เป็นนิตย์ แต่ผู้ชอบธรรมจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์”

•    แยกแกะออกจากแพะ แยกผู้ชอบธรรมออกมาจากผู้ที่ต้องรับโทษ รับพระพรรับราชอาณาจักรเพราะพวกเขาต้อนรับพระองค์ ผู้ต้องแช่งสาปจะอยู่ในไฟที่ซึ่งมารร้ายและสมุนของมันอยู่เพราะพวกเขาไม่ได้ต้อนรับพระองค์ 
•    สิ่งที่ปฏิบัติกับคนเล็กน้อยเป็นเหมือนการปฏิบัติต่อพระเจ้า


3. สิ่งที่เป็นอันตรายต่อฝูงแกะที่ได้กล่าวไว้ในพระคัมภีร์

ชีวิตมนุษย์ประกอบไปด้วยสามส่วน ร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ  ทั้งสามส่วนมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน  เราควรให้ข้อแนะนำแก่ฝูงแกะให้ระมัดระวังชีวิตทั้งสามส่วนนี้

ก.    ร่างกาย  ดูแลร่างกายให้มีสุขภาพที่แข็งแรง สมวัย ตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำ
ข.    จิตใจ  เมื่อร่างกายอ่อนแอก็ส่งผลต่อจิตใจของเราด้วย
ค.    จิตวิญญาณ  จิตใจไม่ปกติ จิตวิญญาณก็พลอยไม่ปกติไปด้วย   จิตวิญญาณต้องรับการเลี้ยงดูเติบโตขึ้นด้วยพระวจนะของพระเจ้า

การภาวนาพระคำ จดบันทึกสิ่งที่จะเป็นอันตรายต่อชีวิตเรา ที่เราได้เห็นจากพระคัมภีร์ แล้วใช้แบ่งปันกันในชั่วโมงที่ 10

การบ้าน – ให้อ่านหนังสือพระกิตติคุณ 4 เล่ม
ประทับใจผู้เลี้ยงแบบพระคริสต์ จากพระกิตติคุณ 4 เล่ม
ให้ผู้เรียนอ่านและบันทึกสิ่งที่ประทับใจจากชีวิตผู้เลี้ยงแบบพระเยซู



เสียงแกะร้องด้วยความตกใจ

วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

บทที่ 2 ตัวอย่างผู้เลี้ยงแห่งอิสราเอล

มาลงต่อครับ


บทที่ 2 ตัวอย่างผู้เลี้ยงแห่งอิสราเอล

บทนี้จะเป็นตัวอย่างจริงจากการเป็นผู้เลี้ยงในอิสราเอลซึ่งเราได้เห็นบางด้านของชีวิตผู้เลี้ยงแกะในปาเลสไตน์จากตัวอย่างเมื่อครั้งที่แล้ว ครั้งนี้จะมาดูต่ออีกบางด้านและตัวอย่างจากชีวิตดาวิดผู้เลี้ยงแกะ 

ผู้เลี้ยง : ตัวอย่างผู้เลี้ยงแกะแห่งอิสราเอล (ชีวิตคนอิสราเอลเกี่ยวพันกันกับฝูงสัตว์ ดูจากคำนี้ในที่ต่างๆ) พระเจ้าได้ใช้ตัวอย่างจากฝูงสัตว์เหล่านี้ไว้ใช้สอนชาวอิสราเอล ยกตัวอย่างดาวิดผู้ปกป้องอิสราเอลจากยักษ์จากตัวอย่างการเลี้ยงแกะของดาวิด ปฐก.46:34 1ซมอ. 17:34 หนังสือ1ซามูเอลจะมีเรื่องดาวิดเลี้ยงแกะอยู่มาก)

1)    การเลี้ยงดูฝูงแกะในอิสราเอล
คำนี้มาจากคำในภาษาฮีบรู คือ โอเรช และถ้าอยู่ในรูปคำกริยา คือ ราอาช ภาษากรีก คือ คำว่า พอยเมน ซึ่งเมื่อเป็นคำกริยา คือพอยมาโน คำนี้ในภาษาอังกฤษ แปลว่า Shepherd หรือ pastor
คำศัพท์คำนี้ ในภาษาฮีบรูมีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกับภาษาอื่นๆ เช่น อาเคเดียน (Akkadian) ยูการิติค (Ugaritic) อาราเมค(Aramaic) โฟนิเชียน (Phoenician) และภาษาอื่น ในตระกูลเซมิติค (Semetic)
คำกริยาในภาษาฮีบรูปรากฏทั้งหมด 160 ครั้งในพระคัมภีร์เดิม และคำนามนั้นปรากฎอยู่ 60 ครั้ง

คำนี้เป็นคำที่ใช้ในความหมายอย่างกว้างๆคือ การเลี้ยงดูฝูงสัตว์ ซึ่งเป็นอาชีพเก่าแก่ของคนที่อยู่ในดินแดนปาเลสไตน์ อัครปิตุลาของชาวอิสราเอลก็เป็นพวกที่ร่อนเร่ ต้อนฝูงสัตว์ไปตามที่ต่างๆ หน้าที่ของการเลี้ยงสัตว์นั้นเป็นหน้าที่ของคนในครอบครัว ผู้เลี้ยงแกะจะต้องเลี้ยงแกะด้วยความระมัดระวัง และจะต้องด้วยความซื่อสัตย์ ในฤดูแล้งไม่เป็นการง่ายเลยที่จะหาทุ่งหญ้าใหม่ให้แก่แกะ แต่ผู้เลี้ยงแกะก็จะต้องเอาอกเอาใจใส่อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยต่อแกะ ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถช่วยตัวเอง ข้อพิสูจน์ว่าผู้เลี้ยงแกะได้ทำหน้าที่ของตนอย่างทุ่มเทหรือไม่ก็คือ การป้องกันฝูงแกะของตนให้พ้นจากสัตว์ร้ายหรือขโมยในเวลากลางคืน

แกะเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่เป็นที่รู้จักดีในดินแดนปาเลสไตน์ แกะเป็นสัตว์ที่ถูกนำมาใช้เป็นประโยชน์อย่างมาก เช่น นับตั้งแต่นำมาเป็นอาหาร (1 ซามูเอล 14:32) เอานมมาดื่ม (อิสยาห์ 7:21-22) เอาขนมาทำเสื้อผ้า (เลวีนิติ 13:47-48) และเอาหนังมาทำเต้นท์ (อพยพ26:14) แกะถูกนำมาเป็นปัจจัยในการแลกเปลี่ยน (2 พงศ์กษัตริย์ 3:4) และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องสัตว์บูชาในพิธีถวายบูชาต่างๆ (เลวีนิติ 1:10, 4:32, 5:15, 22:21)

โดยธรรมชาติแล้ว แกะเป็นสัตว์ที่น่ารักใคร่ (2 ซามูเอล 12:3) ไม่ก้าวร้าว (อิสยาห์53:7, เยเรมีย์11:19, ยอห์น10:3-4) ไม่สามารถปกป้องตัวเอง (มีคาห์5:8, มัทธิว10:16) และต้องการการเอาใจใส่เลี้ยงดูอยู่เสมอ (กันดารวิถี27:17, เอเสเคียล34:5) จากผู้เลี้ยงแกะ เราจะเห็นว่าแกะและผู้เลี้ยงแกะจะต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ดังนั้น จึงไม่เป็นการแปลกเลยที่คำว่าผู้เลี้ยงแกะจะถูกนำมาใช้ให้มีความหมายพิเศษในทางศาสนศาสตร์อยู่เสมอ

สำหรับชาวตะวันออกโบราณ ได้ใช้คำว่า เมษบาล หรือ ผู้เลี้ยงแกะ เป็นตำแหน่งของเทพเจ้า หรือ ผู้นำในการปกครองบ้านเมือง เราจะพบตำแหน่งในรายชื่อกษัตริย์ของพวกซุมาเรียน (Sumerian) ในเรื่องในวังของบาบิโลนและในปิรามิด ดังนั้น กษัตริย์ในสมัยก่อนจะถูกเรียกว่า เป็นเมษบาลของประชาชน

แต่สำหรับอิสราเอลแล้ว พระเจ้ายาเวห์ (Yaweh) คือเมษบาลที่เที่ยงแท้แต่พระองค์เดียว ตำแหน่งนี้ได้เล็งถึงพระเจ้าในพระธรรมปฐมกาลอยู่ 2 ตอนด้วยกันคือ ปฐมกาล 48:15 และ 49:24 โดยได้แสดงให้เห็นอย่างชัดว่า พระเจ้าคือ เมษบาลของอิสราเอล แต่ต่อมาในพระคัมภีร์หมวดประวัติศาสตร์ของพระคัมภีร์ไม่ได้ใช้คำนี้มาเล็งถึงพระเจ้าอีกเลย ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะไม่ต้องการให้คนอิสราเอลสับสนระหว่างพระเจ้าของอิสราเอลกับเทพเจ้าต่างชาติ เพราะเทพเจ้าในสมัยนั้นมักจะถูกเรียกว่าเป็นเมษบาลด้วย และมาถึงสมัยที่อิสราเอลกำลังจะตกเป็นเชลย ผู้พยากรณ์ในสมัยนั้นก็ได้นำตำแหน่งนี้มาใช้กับพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อช่วยหนุนใจคนอิสราเอล และนอกจากนี้เราจะพบคำนี้มากในพระธรรมสดุดีด้วย (สดุดี 23, 28:9,  74:1, 77:20, เยเรมีย์ 23:2, 31:10, 50:19, เอเสเคียล 34:11, อิสยาห์ 40:11)

การที่คนอิสราเอลยอมรับว่าพระเจ้าเป็นเมษบาลนั้น เกิดมาจากประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตทางศาสนาของพวกเขาเอง คนอิสราเอลได้มีประสบการณ์ในการช่วยกู้ของพระเจ้าในยามที่พวกเขาประสบกับความทุกข์ยาก (สดุดี 73) ผู้ที่นมัสการพระเจ้านั้นมั่นใจว่าตนเองจะปลอดภัยภายใต้อารักขาของพระเจ้า เพราะพระองค์เป็นเมษบาลที่สัตย์ซื่อ (สดุดี 23) และจากพระธรรมสดุดีบทที่ 23 เราจะเห็นว่าผู้เลี้ยงแกะนอกจากคุ้มครองแกะของตนให้ปลอดภัยแล้ว ยิ่งได้ให้การต้อนรับและคุ้มครองแขกที่เดินทางผ่านมาอีกด้วย ซึ่งขนบธรรมเนียมเช่นนี้ยังถือปฏิบัติกันอยู่ในตะวันออกกลาง

2) การดูแลฝูงแกะในพระคัมภีร์เดิม
    การเปรียบกษัตริย์กับผู้เลี้ยงแกะเป็นอุปมาทั่วไปในตะวันออกโบราณซึ่งรวมถึงอิสราเอล (สดด.78:70-72,2ซมอ.5:2,อสย.44:28,ยรม.3:15,23:1-4,มคา.5:4) สำหรับการเปรียบพระเจ้าเป็นผู้เลี้ยงอิสราเอลเหมือนเลี้ยงแกะ (สดด.28:9,79:13,80:1,95:7,100:3,ปฐก.48:15,อสย.40:11,ยรม.31:10,50:19,อสค.34:11-16)
ในพระคัมภีร์เดิม
 ผู้เลี้ยง H7462
H7462 רָעָה ra`ah (raw-aw') v. เลี้ยงฝูงสัตว์
1. to tend a flock i.e. pasture it
2. (intransitively, literally or figuratively) to graze
3. (generally) to rule
4. (by extension) to associate with (as a friend)
[a primitive root]
KJV: X break, companion, keep company with, devour, eat up, evil entreat, feed, use as a friend, make friendship with, herdman, keep (sheep)(-er), pastor, + shearing house, shepherd, wander, waste.
[?]

H7473 רוֹעִי ro`iy (ro-ee') v.
1. pastoral
2. as noun, a shepherd
[from active participle of H7462]
KJV: shipherd.
Root(s): H7462
[?]

•    ดูจากในพระคัมภีร์เดิมจะเห็นอาชีพของคนอิสราเอลเกี่ยวพันกับการเลี้ยงสัตว์
Gen 30:31 ลาบันจึงถามว่า “ลุงควรจะให้อะไรเจ้า” ยาโคบตอบว่า “ลุงไม่ต้องให้อะไรฉันดอก แต่หากว่าลุงตกลง ฉันจะเลี้ยงระวังสัตว์ของลุงต่อไป

Gen 37:2 ต่อไปนี้เป็นประวัติครอบครัวของยาโคบ เมื่อโยเซฟอายุได้สิบเจ็ดปีไปเลี้ยงสัตว์อยู่กับพวกพี่ชาย เขาเป็นเด็กหนุ่มอยู่กับบุตรของนางบิลฮาห์ และศิลปาห์ภรรยาบิดาของตน โยเซฟเอาความผิดของพี่ชายมาเล่าให้บิดาฟัง

Gen 46:34 ท่านทั้งหลาย จงทูลว่า ‘ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่เป็นเด็กมาจนทุกวันนี้ ทั้งข้าพระบาทและบรรพบุรุษของข้าพระบาท’ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้อาศัยอยู่ในเมืองโกเชน เหตุว่าชาวอียิปต์เกลียดชังคนที่เลี้ยงแพะแกะยิ่งนัก”

•    ครอบครัวของอิสราเอลเลี้ยงสัตว์ ขณะที่ชาวอียิปต์เกลียดชังคนเลี้ยงแพะแกะ

Exod 3:1 ฝ่ายโมเสสเมื่อเลี้ยงฝูงแพะแกะของเยโธรพ่อตาผู้เป็นปุโรหิตของคนมีเดียน ได้พาฝูงแพะแกะไปทางตะวันตกของถิ่นทุรกันดาร จนมาถึงภูเขาของพระเจ้าคือ โฮเรบ

•    โมเสสถูกเรียกขณะเฝ้าฝูงแกะเช่นเดียวกับดาวิด เพื่อไปเป็นผู้เลี้ยงประชากรของพระเจ้า

•    1 ซามูเอล บทที่ 16-17 ประสบการณ์คนเลี้ยงแกะที่ไว้วางใจพระเจ้า นำประสบการณ์นั้นมาต่อสู้กับโกลิอัท

1Sam 16:11 แล้วซามูเอลกล่าวแก่เจสซีว่า “บุตรชายของท่านอยู่ที่นี่หมดแล้วหรือ” เจสซีตอบว่า “ยังมีคนสุดท้องอีกคนหนึ่ง ดูเถิด เขากำลังเลี้ยงแกะอยู่” และซามูเอลกล่าวแก่เจสซีว่า “จงใช้คนไปตามเขามา เพราะเราจะไม่ยอมนั่งจนกว่าเขาจะมาที่นี่”

•    ดาวิดเป็นคนเลี้ยงแกะ เราจะดูจากตัวอย่างดาวิด คนเลี้ยงแกะ

1Sam 17:15 แต่ดาวิดไปๆ มาๆ อยู่ระหว่างซาอูลกับการที่เลี้ยงแกะของบิดาที่เบธเลเฮม

1Sam 17:34 แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยดูแลแพะแกะของบิดา และเมื่อมีสิงห์หรือหมีมาเอาลูกแกะตัวหนึ่งไปจากฝูง

1Sam 17:40 แล้วจึงถือไม้เท้าไว้ และเลือกก้อนหินเกลี้ยงจากลำธารได้ห้าก้อน จึงใส่ในย่ามผู้เลี้ยงแกะของเขาในถุงของเขาและมือถือสลิงอยู่ ท่านก็เข้าไปใกล้คนฟีลิสเตียคนนั้น

•    ลักษณะผู้เลี้ยงแบบดาวิด พระเจ้าทอดพระเนตรที่จิตใจ มิใช่ด้วยรูปกายภายนอก

1Sam 16:7 แต่พระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า “อย่ามองดูที่รูปร่างภายนอกหรือที่ความสูงแห่งร่างกายของเขา ด้วยเราไม่ยอมรับเขา เพราะพระเจ้าทอดพระเนตรไม่เหมือนกับที่มนุษย์ดู มนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอกแต่พระเจ้าทอดพระเนตรจิตใจ”

•    จากคนเลี้ยงแกะ ทำไมกลายมาเป็นนักรบได้ เนื่องด้วยเพราะมีความต้องการตัว อะไรๆก็เป็นได้หมด

1Sam 16:18 คนหนึ่งในพวกชายหนุ่มทูลว่า “ดูเถิด ข้าพระบาทเห็นบุตรคนหนึ่งของเจสซีชาวเบธเลเฮม เป็นผู้มีฝีมือในการดีดพิณ เป็นคนกล้าหาญ เป็นนักรบ พูดเก่ง และเป็นคนมีหน้าตาดี และพระเจ้าทรงสถิตกับเขา”

•    หน้าที่ดาวิดที่มีต่อซาอูล

1Sam 16:23 อยู่มาเมื่อวิญญาณชั่วจากพระเจ้ามาสิงซาอูลเมื่อไร ดาวิดก็หยิบพิณใช้มือดีดถวายซาอูลก็ทรงชุ่มชื่นขึ้นและหายดี และวิญญาณชั่วก็พรากจากพระองค์ไป

•    เล่าประสบการณ์การดูแลฝูงแกะ เทียบกับการต่อสู้กับโกลิอัทที่มาท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่

1Sam 17:33 และซาอูลกล่าวแก่ดาวิดว่า “เจ้าไม่สามารถที่จะไปสู้รบกับชายฟีลิสเตียคนนั้นดอก เพราะเจ้าเป็นแต่เด็กหนุ่ม และเขาเป็นทหารชำนาญศึกมาตั้งแต่หนุ่มๆ แล้ว”
1Sam 17:34 แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยดูแลแพะแกะของบิดา และเมื่อมีสิงห์หรือหมีมาเอาลูกแกะตัวหนึ่งไปจากฝูง
1Sam 17:35 ข้าพระบาทก็ไล่ตามฆ่ามัน และช่วยกู้ลูกแกะนั้นมาจากปากของมัน ถ้ามันลุกขึ้นต่อสู้ข้าพระบาท ข้าพระบาทก็จับหนวดเคราของมัน และทุบตีมันจนตาย
1Sam 17:36 ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าสิงห์และหมีนั้นมาแล้ว คนฟีลิสเตียผู้มิได้เข้าสุหนัตคนนี้ก็เป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้นตัวหนึ่ง ด้วยเขาได้ท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่”
1Sam 17:37 และดาวิดทูลต่อไปว่า “พระเจ้าผู้ทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากขยุ้มเท้าของสิงห์ และจากขยุ้มเท้าของหมี จะทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากมือของคนฟีลิสเตียคนนี้” และซาอูลจึงตรัสแก่ดาวิดว่า “จงไปเถอะ และพระเจ้าจะทรงสถิตอยู่กับเจ้า”

•    ใช้อาวุธที่ถนัดมือและเหมาะสมกับเขา

1Sam 17:39 และดาวิดก็คาดดาบทับเครื่องอาวุธ เขาลองเดินดูก็เห็นว่าใช้ไม่ได้ เพราะเขาไม่ชิน แล้วดาวิดจึงทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทจะสวมเครื่องเหล่านี้ไปไม่ได้ เพราะว่าข้าพระบาทไม่ชิน” ดาวิดจึงปลดออกเสีย
1Sam 17:40 แล้วจึงถือไม้เท้าไว้ และเลือกก้อนหินเกลี้ยงจากลำธารได้ห้าก้อน จึงใส่ในย่ามผู้เลี้ยงแกะของเขาในถุงของเขาและมือถือสลิงอยู่ ท่านก็เข้าไปใกล้คนฟีลิสเตียคนนั้น

•    การรบนี้เป็นของพระเจ้า

1Sam 17:45 แล้วดาวิดก็พูดกับคนฟีลิสเตียคนนั้นว่า “ท่านมาหาข้าพเจ้าด้วยดาบ ด้วยหอกและด้วยหอกซัด แต่ข้าพเจ้ามาหาท่านในพระนามแห่งพระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ผู้ซึ่งท่านได้ท้าทายนั้น
1Sam 17:46 ในวันนี้พระเจ้าจะทรงมอบท่านไว้ในมือข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะประหารท่านและตัดศีรษะของท่านเสีย และในวันนี้ข้าพเจ้าจะให้ศพของกองทัพฟีลิสเตียแก่นกในอากาศและแก่สัตว์ป่า เพื่อทั้งพิภพนี้จะทราบว่ามีพระเจ้าพระองค์หนึ่งในอิสราเอล
1Sam 17:47 และชุมนุมชนนี้ทั้งสิ้นจะทราบว่า พระเจ้ามิได้ทรงช่วยด้วยดาบหรือด้วยหอก เพราะว่าการรบครั้งนี้เป็นของพระเจ้า พระองค์จะทรงมอบท่านไว้ในมือของเราทั้งหลาย”

1Sam 17:49 และดาวิดเอามือล้วงเข้าไปในย่ามหยิบหินก้อนหนึ่งออกมา แล้วเหวี่ยงหินก้อนนั้นด้วยสายสลิงถูกคนฟีลิสเตียคนนั้นที่หน้าผาก ก้อนหินจมเข้าไปในหน้าผากเขาก็ล้มหน้าคว่ำลงที่ดิน
1Sam 17:50 ดังนั้นดาวิดก็ชนะคนฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงและก้อนหินก้อนหนึ่ง และคว่ำคนฟีลิสเตียคนนั้นลง และฆ่าเขาเสีย ดาวิดไม่มีดาบอยู่ในมือ
1Sam 17:51 แล้วดาวิดวิ่งไปยืนอยู่เหนือคนฟีลิสเตียคนนั้น หยิบดาบของเขาชักออกจากฝักฆ่าเขาเสีย และตัดศีรษะของเขาออกเสียด้วยดาบ เมื่อคนฟีลิสเตียเห็นว่ายอดทหารของเขาตายเสียแล้วก็พากันหนีไป

    ใน 1 ซามูเอล บทที่ 17 เป็นเรื่องของดาวิดและโกลิอัท  คำว่า ยอดนักรบ เป็นคำที่ชาวกรีกโบราณซึ่งเกี่ยวดองกับชาวฟิลิสเตียจะตัดสินการแพ้ชนะในสงครามโดยคัดเลือกยอดนักรบแต่ละฝ่ายออกมาต่อสู้กัน วิธีที่ประหยัดคนเช่นนี้เป็นการให้เทพเจ้าต่างๆตัดสินเรื่องที่เดิมพันกัน อิสราเอลก็อาจจะใช้การปฏิบัติเช่นนี้เหมือนกัน

Isa 40:11 พระองค์จะทรงเลี้ยงฝูงแพะแกะของพระองค์อย่างผู้เลี้ยงแกะ พระองค์จะทรงรวบรวมลูกแกะไว้ในพระกรของพระองค์ พระองค์จะทรงอุ้มไว้ที่พระทรวง และทรงค่อยๆ นำบรรดาที่มีลูกอ่อนไป

Jer 10:21 เพราะว่าผู้เลี้ยงแกะก็บัดซบและไม่ได้ทูลถามพระเจ้า เพราะฉะนั้นเขาจึงมิได้จำเริญขึ้น และฝูงแกะของเขาก็กระจัดกระจายไป

    “คนเลี้ยงแกะ....ฝูงแกะ”  ผู้ปกครองกับประชาชน (2:8 ไม่มีใครปรึกษาพระเจ้า ปุโรหิตทั้งหลาย บรรดาผู้ปกครองแปลตรงตัวว่าคนเลี้ยงแกะ เหล่าผู้เผยพระวจนะ) สิ้นคิด ไม่ได้ทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่กลับไปขอคำปรึกษาจากดวงดาวในฟากฟ้าแทน (8:2) 

Jer 23:1 พระเจ้าตรัสว่า “วิบัติจงมีแก่ผู้เลี้ยงแกะ ผู้ทำลายและกระจายแกะของลานหญ้าของเรา”
Jer 23:2 เพราะฉะนั้น พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ตรัสกับผู้เลี้ยงแกะผู้ดูแลประชากรของเราดังนี้ว่า “เจ้าทั้งหลายได้กระจายฝูงแกะของเราและได้ขับไล่มันไปเสีย และเจ้ามิได้เอาใจใส่มัน พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด เราจะเอาใจใส่เจ้า เพราะการกระทำที่ชั่วของเจ้า
Jer 23:3 แล้วเราจะรวบรวมฝูงแกะของเราที่เหลืออยู่ออกจากประเทศทั้งปวง ซึ่งเราได้ขับไล่ให้เขาไปอยู่นั้น และจะนำเขากลับมายังคอกของเขา เขาจะมีลูกดกและทวีมากขึ้น
Jer 23:4 พระเจ้าตรัสว่า เราจะตั้งผู้เลี้ยงแกะไว้เหนือเขา ผู้จะเลี้ยงดูเขาและเขาทั้งหลายจะไม่กลัวอีกเลย หรือครั่นคร้าม จะไม่ขาดไปเลย
Jer 23:5 “พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด วันเวลาจะมาถึง เมื่อเราจะเพาะอังกูรชอบธรรมให้ดาวิด และท่านจะทรงครอบครองเป็นกษัตริย์และกระทำกิจอย่างเฉลียวฉลาด และจะทรงประทานความยุติธรรมและความชอบธรรมในแผ่นดินนั้น

    ข้อความสรุป – พระเจ้าตั้งพระทัยจะพิพากษาผู้ปกครองและผู้นำที่ชั่วร้ายของยูดาห์(1-2)จะนำประชากรของพระองค์กลับจากการเป็นเชลยในภายหน้า(3-4,7-8)และจะแต่งตั้งกษัตริย์ในอุดมคติจากราชวงศ์ดาวิด(5-6)

Ezek 34:1 พระวจนะของพระเจ้ามายังข้าพเจ้าว่า
Ezek 34:2 “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงพยากรณ์กล่าวโทษบรรดาผู้เลี้ยงแกะแห่งอิสราเอล จงพยากรณ์กล่าวโทษว่าแก่เขา คือผู้เลี้ยงแกะว่า พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า วิบัติแก่ผู้เลี้ยงแกะแห่งอิสราเอลผู้เลี้ยงตัวเอง ผู้เลี้ยงแกะย่อมเลี้ยงแกะมิใช่หรือ
Ezek 34:3 เจ้ารับประทานไขมัน เจ้าคลุมกายของเจ้าด้วยขนแกะ เจ้าฆ่าแกะตัวอ้วนๆ เจ้าหาได้เลี้ยงแกะไม่
Ezek 34:4 ตัวที่อ่อนเพลียเจ้าก็ไม่เสริมกำลัง ตัวที่เจ็บเจ้าก็ไม่รักษา ตัวที่กระดูกหักเจ้าก็มิได้พันผ้า ตัวที่หลงไปเจ้าก็มิได้ไปตามกลับมา ตัวที่หายไปเจ้าก็มิได้เสาะหา และเจ้าได้ปกครองเขาด้วยการบังคับ และด้วยการข่มขี่เบียดเบียน
Ezek 34:5 ดังนั้นมันจึงกระจัดกระจายไปหมด เพราะว่าไม่มีผู้เลี้ยงแกะและมันก็ไปเป็นอาหารของสัตว์ป่าทุ่งทั้งหลายหมด และกระจัดกระจายไป
Ezek 34:6 แกะของเราก็เที่ยวไปตามภูเขาทั้งหมดและตามเนินเขาสูง เออ แกะของเราก็กระจายไปทั่วพิภพ ไม่มีใครเที่ยวค้นไม่มีใครเสาะหามัน
Ezek 34:7 “เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายผู้เป็นผู้เลี้ยงแกะ จงฟังพระวจนะของพระเจ้า
Ezek 34:8 พระเจ้าตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เพราะแกะของเรากลายเป็นเหยื่อ และแกะของเรากลายเป็นอาหารของสัตว์ป่าทุ่งทั้งสิ้น เพราะไม่มีผู้เลี้ยงแกะ และเพราะผู้เลี้ยงแกะของเราไม่เที่ยวค้นหาแกะของเรา แต่ผู้เลี้ยงแกะนั้นเลี้ยงตัวเอง และไม่ได้เลี้ยงแกะของเรา
Ezek 34:9 เพราะฉะนั้น เจ้าทั้งหลายเป็นผู้เลี้ยงแกะ จงฟังพระวจนะของพระเจ้า
Ezek 34:10 พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราเป็นปฏิปักษ์กับผู้เลี้ยงแกะ และเราจะเรียกร้องเอาแกะของเราจากมือของเขา และให้เขายับยั้งการเลี้ยงแกะของเขา ผู้เลี้ยงแกะจะไม่ได้เลี้ยงตัวเองอีกต่อไป เราจะช่วยแกะของเราให้พ้นจากปากของเขา เพื่อมิให้แกะเป็นอาหารของเขา
Ezek 34:11 “เพราะพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เรา คือเราเองจะค้นหาแกะของเรา และจะเที่ยวหามัน
Ezek 34:12 ดังผู้เลี้ยงแกะเที่ยวหาฝูงแกะ เมื่อเขาอยู่ท่ามกลางแกะของเขาที่กระจัดกระจายไป เราจะเที่ยวหาแกะของเราดังนั้น และเราจะช่วยเขาให้พ้นจากสถานที่ทั้งหลายซึ่งเขาได้กระจัดกระจายไปอยู่เมื่อวันมีเมฆและมีความมืดทึบ
Ezek 34:13 เราจะนำเขาออกมาจากชนชาติทั้งหลาย และรวบรวมเขามาจากประเทศต่างๆ และจะนำเขามาไว้ในแผ่นดินของเขาเอง และเราจะเลี้ยงเขาบนภูเขาแห่งอิสราเอล ใกล้ห้วยทั้งหลายและในท้องถิ่นทุกแห่งที่มีคนอาศัยในประเทศนั้น
Ezek 34:14 เราจะเลี้ยงเขาในลานหญ้าอย่างดีและลานหญ้าของเขาจะอยู่บนบรรดาภูเขาสูงแห่งอิสราเอล ณ ที่นั่น เขาจะนอนลงในลานหญ้าที่ดี และเขาจะหากินอยู่บนลานหญ้าอุดมบนภูเขาแห่งอิสราเอล
Ezek 34:15 ตัวเราเองจะเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา เราจะกระทำให้เขานอนลง พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
Ezek 34:16 เราจะเที่ยวหาแกะที่หาย และเราจะนำแกะที่หลงกลับมา และเราจะพันผ้าให้แกะที่กระดูกหัก และเราจะเสริมกำลังแกะที่อ่อนเพลีย แต่ตัวที่อ้วนและเข้มแข็งเราจะทำลาย เราจะเลี้ยงเขาด้วยความยุติธรรม
Ezek 34:17 “พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าทั้งหลายผู้เป็นฝูงแพะแกะของเราเอ๋ย ดูเถิด เราจะพิพากษาระหว่างแกะกับแกะ ระหว่างแกะผู้กับแพะผู้
Ezek 34:18 ที่จะหากินในลานหญ้าอย่างดีนั้นยังไม่พออีกหรือ เจ้าจึงต้องเอาเท้าเหยียบลานหญ้าที่เหลืออยู่ของเจ้า และดื่มน้ำใสยังไม่พอหรือ จึงเอาเท้าของเจ้ากวนน้ำที่เหลืออยู่ให้ขุ่น
Ezek 34:19 แกะของเราจะต้องกินสิ่งที่เท้าของเจ้าย่ำ และดื่มสิ่งที่เท้าของเจ้าทำให้ขุ่นหรือ
Ezek 34:20 “เพราะฉะนั้น พระเจ้าตรัสแก่เขาดังนี้ว่า ดูเถิด เรา คือเราเอง จะพิพากษาระหว่างแกะอ้วนกับแกะผอม
Ezek 34:21 เพราะเจ้าเอาสีข้างและบ่าดันและผลักแกะตัวอ่อนเพลียด้วยเขาของเจ้า เจ้าทำให้เขากระจายไปต่างถิ่น
Ezek 34:22 เราจะช่วยฝูงแพะแกะของเราให้รอด เขาจะไม่เป็นเหยื่ออีกต่อไป และเราจะพิพากษาระหว่างแกะกับแกะ
Ezek 34:23 และเราจะตั้งผู้เลี้ยงแกะผู้หนึ่งไว้เหนือเขา คือดาวิดผู้รับใช้ของเราและท่านจะเลี้ยงเขาทั้งหลาย ท่านจะเลี้ยงเขาและเป็นผู้เลี้ยงของเขา
Ezek 34:24 และเราคือพระเจ้า จะเป็นพระเจ้าของเขา และดาวิดผู้รับใช้ของเรา จะเป็นเจ้านายท่ามกลางเขา เราคือพระเจ้า ได้ลั่นวาจาแล้ว
Ezek 34:25 “เราจะกระทำพันธสัญญาสันติสุขกับเขาและกำจัดสัตว์ร้ายเสียจากแผ่นดิน เพื่อว่าเขาจะอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารอย่างปลอดภัย และนอนอยู่ในป่าไม้
Ezek 34:26 และเราจะกระทำให้เขากับสถานที่รอบๆ เนินเขาของเราเป็นแหล่งพระพร เราจะส่งฝนลงมาให้ตามฤดูกาล เป็นห่าฝนแห่งพระพร
Ezek 34:27 ต้นไม้ที่ในทุ่งจะบังเกิดผล และพิภพจะบังเกิดผลประโยชน์ และเขาจะอยู่อย่างปลอดภัยในแผ่นดินของเขาและเขาจะทราบว่าเราคือพระเจ้าในเมื่อเราหักคานแอกของเขาเสีย และช่วยกู้เขาจากมือของผู้ที่กักเขาให้เป็นทาส
Ezek 34:28 เขาจะไม่เป็นเหยื่อของประชาชาติอีกต่อไป หรือสัตว์ป่าดินก็จะไม่กินเขา และเขาจะอยู่อย่างปลอดภัย ไม่มีผู้ใดกระทำให้เขากลัว
Ezek 34:29 และเราจะจัดหาไร่นาอันมีชื่อให้แก่เขา เพื่อเขาจะไม่ถูกผลาญด้วยความอดอยากในแผ่นดินนั้นต่อไปอีก ไม่ต้องทนรับความอับอายขายหน้าจากประชาชาติ
Ezek 34:30 และเขาจะทราบว่าเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาสถิตกับเขา และเขาคือพงศ์พันธุ์อิสราเอลเป็นประชากรของเรา พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
Ezek 34:31 เจ้าทั้งหลายเป็นแกะของเรา เป็นแกะในลานหญ้าของเรา เจ้าทั้งหลายเป็นมนุษย์ และเราเป็นพระเจ้าของเจ้า พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ”

    พระเจ้าประทานพระราชดำรัสยืนยันแก่ชาวอิสราเอลที่เป็นเชลยให้มั่นใจว่าในอนาคตพระองค์เองจะเป็นผู้เลี้ยงของพวกเขา ในข้อ 1-10 พระองค์ประนาม “คนเลี้ยงแกะ” ไร้ค่าของอิสราเอล ในข้อ 11-16 พระองค์สัญญาจะตามหาแกะที่กระจัดกระจายพลัดพรากไป ในข้อ 17-22 พระองค์ประกาศว่าจะพิพากษาแกะแข็งแรงที่กดขี่แกะอ่อนแอ ในข้อ 23-24 พระองค์สัญญาจะตั้ง “ดาวิด” ผู้รับใช้ของพระองค์ให้ดูแลฝูงแกะ และในข้อ 25-31 พระองค์ตรัสถึง “พันธสัญญาแห่งสันติภาพ” ซึ่งจะทำให้แผ่นดินอิสราเอลที่ได้รับพรนั้นมั่นคงปลอดภัย

    ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าประสบการณ์การเลี้ยงดูแกะของคนอิสราเอล เป่รียบได้กับการดูแลประชากรของพระเจ้า นอกจากนั้นเรายังเห็นดาวิดใช้ประสบการณ์ในการดูแลฝูงแกะของเขา มาใช้ในการเอาชัยชนะต่อโกลิอัทด้วย

    สำหรับเราแล้ว เราจะเห็นได้ว่าเราเป็นประชากรของพระองค์ที่ทรงเลี้ยงดูแลรักษาเรา เราเปรียบเป็นฝูงแกะของพระองค์ที่เฝ้าดูแลรักษา เพราะพระองค์ทรงรักเราอย่างมาก และในฐานะที่จะมีแกะเกิดใหม่มากมาย แกะเหล่านั้นต้องการผู้เลี้ยงที่คอยเฝ้าดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เหมือนชีวิตของคนเลี้ยงแกะแห่งอิสราเอลที่เฝ้าดูแลรักษาฝูงแกะอยู่เสมอด้วยความรักห่วงใยตลอดเวลา


วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555

บทที่ 1 : แนวคิดชีวิตผู้เลี้ยง

     ในปัจจุบันโอกาสที่ข้าพเจ้าจะแบ่งปันพระวจนะในทุกๆสัปดาห์ดูเหมือนจะยากเต็มที ข้าพเจ้าจึงขอใช้พระวจนะที่เตรียมไว้สอนในชั้น "ชีวิตผู้เลี้ยง" มาแบ่งปันไปก่อนนะครับ




บทที่ 1 แนวคิดชีวิตผู้เลี้ยง

            เดิมที่คิดเรื่องการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ๆ  โดยร่างความคิดไว้ว่าจะสอนอะไรบ้าง เช่น  คุณสมบัติเข้าร่วม , แนวคิดแยกคนร่วมชีวิต(แยกน้ำดี) เพื่อสร้างชีวิตบนคนร่วมชีวิต , วางแนวทางการทำงาน การรับใช้ การดำเนินชีวิต อุดมการณ์ร่วมในคจ. ของกลุ่มคนกลุ่มนี้ , การประชาสัมพันธ์  , แนวทางดำเนินการ , สิ่งที่จะสอนในชั้นและนอกชั้น และหรือช่องทางพบปะ ฯลฯ  แต่แล้วก็เปลี่ยนความคิดวิธีการสร้างคนรุ่นใหม่ๆโดยบทเรียนทั้งหมดของคำสอนมาจากแนวความคิดที่เราสามารถเห็นได้ในพระคัมภีร์ และเปลี่ยนชื่อมาเป็น “ชีวิตผู้เลี้ยง” โดยดูจากชีวิตผู้เลี้ยงแบบพระเยซูคริสต์

1) จุดประสงค์การเรียนวิชานี้
1.    ต้องการให้ผู้เรียนเข้าใจภาพการปกครองดูแลฝูงแกะของพระเจ้าตามหลักการพระคัมภีร์
2.    ต้องการให้ผู้เรียนไม่เพียงมีความเข้าใจแต่นำไปใช้ในการปฏิบัติดูแลฝูงแกะของพระเจ้า
3.    ต้องการให้ผู้เรียนซึมซับวิญญาณพระคริสต์ในฐานะพระผู้เลี้ยงที่ทรงรักฝูงแกะ
4.    ต้องการให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ความห่วงใยของพระคริสต์ที่มีต่อชีวิตตนเอง และนำสิ่งนั้นไปดูแลผู้อื่นต่อไปได้
5.    ต้องการให้ผู้เรียนได้เข้าใจว่า ฝูงแกะเป็นของพระคริสต์ เราเป็นเพียงผู้อารักขาดูแลฝูงแกะของพระเจ้า และเราต้องทำหน้าที่ที่พระคริสต์ฝากให้เราดูแลอย่างดีที่สุด
6.    ต้องการเห็นผู้เลี้ยงเกิดขึ้นมากมายผ่านการเรียนในชั้นนี้  ฯลฯ

2) แนวคิด
ยอห์น 21:15-17 “เจ้ารักเรามากกว่าเหล่านี้หรือ จงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด”
     เอามาจากภาพการปกครองดูแลฝูงแกะของพระเจ้า  ไม่ใช่การสร้างผู้นำใหม่  แต่อาจเรียกได้ว่าสร้างผู้เลี้ยงใหม่
 2.1 คำว่าผู้นำ ในฝ่ายโลก   
ผู้นำ คือ บุคคลที่มีความ สามารถในการใช้อิทธิพลให้คนอื่นทำงานในระดับต่าง ๆ ที่ต้องการให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ (McFarland,1979:214-215)
          ผู้นำ คือ ผู้ที่สามารถในการชักจูงให้คนอื่นทำงานให้สำเร็จตามต้องการ (Huse, 1978:227)
ผู้นำ คือ บุคคลที่มีอิทธิพลสูงสุดในกลุ่ม และเป็นผู้ที่ต้องปฏิบัติภาระหน้าที่ของตำแหน่งผู้นำที่ได้รับมอบหมายบุคคลอื่นในกลุ่มที่เหลือก็คือผู้ตาม แม้จะเป็นหัวหน้ากลุ่มย่อย หรือผู้ช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ก็ตาม (Yukl, 1989:3-4)
         ผู้นำ คือ บุคคลที่มาจากการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง หรือการยกย่องขึ้นมาของกลุ่ม เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นผู้ชี้แนะและช่วยเหลือให้กลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
          กวี วงศ์พุฒ (2535: 14-15) ได้สรุปแนวคิดเกี่ยวกับผู้นำไว้ 5 ประการ คือ
(1) ผู้นำ หมายถึง ผู้ซึ่งเป็นศูนย์กลางหรือจุดรวมของกิจกรรมภายในกลุ่ม เปรียบเสมือนแกนของกลุ่ม เป็นผู้มีโอกาสติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นมากกว่าทุกคนในกลุ่ม มีอิทธิพลต่อการ ตัดสินใจของกลุ่มสูง
(2) ผู้นำ หมายถึง บุคคลซึ่งนำกลุ่มหรือพากลุ่มไปสู่วัตถุประสงค์หรือสู่จุดหมายที่วางไว้ แม้แต่เพียงชี้แนะให้กลุ่มไปสู่จุดหมายปลายทางก็ถือว่าเป็นผู้นำทั้งนี้รวมถึงผู้นำที่นำกลุ่มออกนอกลู่นอกทางด้วย
(3) ผู้นำหมายถึงบุคคลซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่คัดเลือกหรือยกให้เขาเป็นผู้นำของกลุ่มซึ่งเป็นไปโดยอาศัยลักษณะทางสังคมมิติของบุคคลเป็นฐาน และสามารถแสดงพฤติกรรมของผู้นำได้
(4) ผู้นำหมายถึงบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติเฉพาะบางอย่างคือสามารถสอดแทรกอิทธิพลบางประการอันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มได้มากที่สุด
(5) ผู้นำ หมายถึง บุคคลผู้ซึ่งสามารถนำกลุ่มไปในทางที่ต้องการ เป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมและเกี่ยวข้องโดยตรงต่อการแสดงบทบาทหรือพฤติกรรมความเป็นผู้นำ
          บุญทัน ดอกไธสง (2535:266) ได้สรุปเกี่ยวกับผู้นำไว้ว่า ผู้นำ (Leader) หมายถึง
(1) ผู้มีอิทธิพล มีศิลปะ มีอิทธิพลต่อกลุ่มชน เพื่อให้พวกเขามีความตั้งใจที่จะปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายตามต้องการ
(2) เป็นผู้นำและแนะนำ เพราะผู้นำต้องคอยช่วยเหลือกลุ่มให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดตามความสามารถ
(3) ผู้นำไม่เพียงแต่ยืนอยู่เบื้องหลังกลุ่มที่คอยแต่วางแผนและผลักดัน แต่ผู้นำจะต้องยืนอยู่ข้างหน้ากลุ่ม และนำกลุ่มปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมาย
          สรุปได้ว่า ผู้นำ (Leader) คือบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งหรือการเลือกตั้งหรือการยกย่องจากกลุ่มให้ทำหน้าที่ของตำแหน่งผู้นำ เช่น การชี้แนะ สั่งการ และช่วยเหลือให้กลุ่มสามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ได้มีการเขียนชื่อผู้นำแตกต่างกันออกไปตามลักษณะงานและองค์การที่อยู่ เช่น ผู้บริหาร ผู้จัดการ ประธานกรรมการ ผู้อำนวยการ อธิการบดี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้ว่าราชการ นายอำเภอ กำนัน เจ้าคณะจังหวัด เจ้าอาวาส ปลัดกระทรวง คณบดี

            ถ้าเอามาใช้ในฝ่ายพระเจ้า ในที่นี้กล่าวถึงผู้นำในบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบการงานที่ต้องพาคนภายใต้ความรับผิดชอบไปสู่เป้าหมายที่ต้องการความสำเร็จเท่านั้น   แต่สำหรับผู้เลี้ยงมีหน้าที่ลักษณะชีวิตมากกว่านั้น มีหน้าที่ มีความรักในการทำหน้าที่ มีความรับผิดชอบในการปกป้องดูแลฝูงแกะ ต้องนำเป็นแบบอย่าง เป็นตัวอย่างชีวิต ไม่เพียงชี้แนะ สั่งการ แต่เอาชีวิตของตนเองลงไปอยู่ร่วมด้วยในฝูงแกะนั้น ฯลฯ
ภาพในพระคัมภีร์จะมุ่งไปที่การเป็นผู้เลี้ยง มากกว่าการเป็นผู้นำ
คำว่า “ผู้นำ”    Leader
G3595 ὁδηγός hodegos (hod-ayg-os') n.
1. a conductor
2. (figuratively) teacher
{literally or figuratively}
[from G3598 and G2233]
KJV: guide, leader
Root(s): G3598, G2233
[?]

มีพบน้อยครั้งมาก
Matt 15:14 ช่างเขาเถิด เขาเป็นคนนำทางตาบอด ถ้าคนตาบอดนำทางคนตาบอด ทั้งสองจะตกลงไปในบ่อ

Matt 23:16 วิบัติแก่เจ้า คนนำทางตาบอด เจ้าสอนว่าผู้ใดจะสาบานอ้างพระวิหาร คำสาบานนั้นไม่ผูกมัด แต่ผู้ใดจะสาบานอ้างทองคำของพระวิหาร ผู้นั้นจะต้องกระทำตามคำสาบาน

Matt 23:24 โอ คนนำทางตาบอด เจ้ากรองลูกน้ำออกแต่กลืนตัวอูฐเข้าไป

Acts 1:16 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย จำเป็นจะต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์ ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ตรัสไว้โดยโอษฐ์ของกษัตริย์ดาวิด ด้วยเรื่องยูดาส ซึ่งเป็นผู้นำทางคนที่ไปจับพระเยซู
Rom 2:19 และถ้าท่านมั่นใจว่าท่านเป็นผู้จูงคนตาบอด เป็นความสว่างให้แก่คนทั้งหลายที่อยู่ในความมืด

เมื่อดูคำว่าleader  G3595 hodegosในพระคัมภีร์ใหม่ มีน้อยมากและจะพูดไปในลักษณะว่าเป็นคนนำทาง  คำนี้มาจากสองคำคือ G3598 hodos หมายถึงถนนหรือว่าทาง  และ G2233 hegeomai หมายถึงการนำ
ส่วนในพระคัมภีร์เดิม    H5057 נָגִידּ נָגִד nagiyd (naw-gheed') (or nagid {naw-gheed'}) n-m.
1. a commander (as occupying the front), either civil, military or religious
2. (generally, abstractly and plural), honorable themes
[from H5046]
KJV: captain, chief, excellent thing, (chief) governor, leader, noble, prince, (chief) ruler.
Root(s): H5046
[?]

1Chr 12:27 เยโฮยาดาเป็นหัวหน้าพงศ์พันธุ์ของอาโรน มีคนมากับท่านสามพันเจ็ดร้อย
1Chr 13:1 ดาวิดได้ทรงหารือกับนายพันและนายร้อย กับหัวหน้าทุกๆ คน
Isa 55:4 ดูเถิด เรากระทำให้ท่านเป็นพยานต่อชนชาติทั้งหลาย เป็นหัวหน้าและเป็นผู้บัญชาการเพื่อชนชาติทั้งปวง

            กล่าวถึงในลักษณะเป็นผู้นำกองทัพ ต้องพากองทัพไปสู่ความสำเร็จ

2.2 คำว่า “ผู้เลี้ยง” ในพระคัมภีร์ใหม่คำว่า shepherd  G4166
G4166 ποιμήν poimen (poy-mayn') n.
1. a shepherd
{literally or figuratively}
[of uncertain affinity]
KJV: shepherd, pastor
[?]

จะพบคำนี้ในพระธรรมหลายเล่ม และมีความหมายในการดูแลฝูงแกะของพระเจ้ามากกว่า
Matt 9:36 และเมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชนก็ทรงสงสารเขา ด้วยเขาถูกรังควานและไร้ที่พึ่งดุจฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยง

·       ผู้เลี้ยง  G4166 shepherd   ฝูงแกะ  G4263  sheep

Matt 25:32 บรรดาประชาชาติต่างๆ จะประชุมพร้อมกันต่อพระพักตร์พระองค์ และพระองค์จะทรงแยกมนุษย์ทั้งหลายออกเป็นสองพวก เหมือนอย่างผู้เลี้ยงแกะจะแยกแกะออกจากแพะ

·       พระเยซูคริสต์(ผู้เลี้ยง) แยกแกะออกจากแพะ  G2056 goat

Matt 26:31 ครั้งนั้นพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกว่าในคืนวันนี้ท่านทุกคนจะทิ้งเรา ด้วยมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า เราจะประหารผู้เลี้ยงแกะ และแกะฝูงนั้น จะกระจัดกระจายไป

·       ผู้เลี้ยงสำคัญ ถ้าไม่มีผู้เลี้ยง ฝูงแกะกระจัดกระจาย

พระธรรมสดุดีบทที่ 23 ในมุมมองของผู้เลี้ยงแกะ
(แปลจาก Psalm 23: A Shepherd's Perspective ใน 
http://www.sonic-edge.org/forum/viewtopic.php?t=72)

ชาโลม...สันติภาพจงมีแก่เพื่อนๆ ทุกคน ผมชื่อ เยชูวา เบน โยเซฟ ผมมาจากดินแดนเก่าแก่ที่ชื่อว่าปาเลสไตน์และมีอาชีพที่ต่ำต้อย คือเป็นผู้เลี้ยงแกะ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับอนุญาตให้มาพูดกับพวกคุณในวันนี้ พวกคุณทราบดีว่า ในประเทศของผม อาชีพนี้ไม่ค่อยมีคนนิยมชมชอบนัก สำหรับเพื่อนร่วมชาติส่วนใหญ่ของผมนั้น มันเป็นงานที่ต้องหลีกหนีให้ไกลห่างเพราะมีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน งานก็สกปรกและเหน็ดเหนื่อยยิ่ง คุณน่าจะได้มาเห็นเท้าที่ด้านหนาของผม และค่าแรงก็...เอ้อ อยากจะบอกว่าคุณจะไม่มีวันร่ำรวยด้วยการเลี้ยงแกะเป็นอาชีพหรอก ผมเรียนรู้อาชีพนี้จากพ่อของผม และผมก็สานต่ออาชีพนี้อันถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัว

ศิษยาภิบาลของคุณคิดว่าการให้ผมมาพูดเกี่ยวกับอาชีพที่ต่ำต้อยของผมให้คุณฟังในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพวกคุณ จริงๆ แล้วผมไม่แน่ใจว่าผู้เล็กน้อยอย่างผมจะมาสอนคุณได้หรือเปล่า แต่ผมจะเล่าทุกสิ่งที่ผมรู้ให้คุณฟัง

คุณรู้หรือไม่ว่าในพระคัมภีร์ไบเบิลที่คุณอ่านนั้น พระเจ้าตรัสถึงประชากรของพระองค์ซึ่งก็คือคุณกับผมว่าเป็น แกะถึงเกือบสองร้อยครั้ง คุณอาจจะไม่เคยพิจารณาถึงความสำคัญของการเปรียบเทียบนั้น แต่ผมคิด เพราะว่าผมทำงานกับฝูงแกะทั้งวันทั้งคืน ให้ผมเล่าให้คุณฟังว่าการถูกเรียกว่าเป็น แกะนั้นไม่ได้เป็นการยกย่องชมเชยเลย ทำไมไม่เรียกว่านกอินทรีย์ที่สง่าผ่าเผย รวดเร็วว่องไว และงดงามล่ะ เปล่า พระเจ้าทรงเรียกพวกเราว่าเป็นแกะของพระองค์ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ แต่การถูกนำไปเปรียบเทียบกับพวกมันนั้นกลับกลายเป็นการดูหมิ่น บางทีแกะอาจจะเป็นสัตว์ที่โง่เขลาที่สุดในโลก พวกคุณเคยเห็นแกะที่ถูกฝึกเพื่อแสดงละครสัตว์ไหม คุณจะเห็นพวกช้าง ม้า หมี แมวน้ำ และแม้แต่ฮิปโปในคณะละครสัตว์ แต่ไม่ใช่แกะ เพราะพวกมันโง่เกินกว่าจะถูกนำมาฝึกได้ แล้วมันยังสกปรกอีกด้วย ขนแกะที่คุณเห็นในรูปเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มนั้นได้รับการชำระล้างให้สะอาดแล้ว ขนแกะที่อ่อนนุ่มเป็นปุยไม่ได้ขาวสะอาดอย่างที่คุณเห็นในจอทีวีหรอกนะครับ เพราะแกะจะไม่มีวันและจะไม่สามารถทำความสะอาดขนของมันเองได้ พวกผู้เลี้ยงแกะหรือคนงานถูกจ้างมาให้ทำงานนี้ ไม่เพียงแต่มันจะโง่ทึ่มและสกปรกแล้ว มันยังป้องกันตัวเองไม่ได้อย่างสิ้นเชิงด้วย พวกมันไม่มีอุ้งเล็บ ไม่มีเขี้ยว และก็ไม่มีปีก พวกมันวิ่งได้ไม่เร็ว อีกทั้งก็ไม่สามารถทำให้ศัตรูกลัวและหนีไป เพราะมันไม่มีทั้งเสียงคำรามกึกก้องหรือการปล่อยกลิ่นที่เป็นพิษใส่สัตว์กินเนื้อได้ ทั้งหมดที่มันทำได้ก็คือการส่งเสียงร้องอย่างแกะ

แกะต้องพึ่งพาผู้เลี้ยงอย่างสิ้นเชิง ชีวิตและความผาสุกของมันขึ้นอยู่กับคนที่คอยดูแลพวกมันในแต่ละวัน ถ้าพระเจ้าทรงเรียกพวกเราว่าเป็นแกะของพระองค์ ผมก็อยากรู้ว่าพระองค์กำลังทรงพยายามจะตรัสอะไร

บางทีคุณอาจจะเข้าใจพระเจ้าดีขึ้นเล็กน้อยถ้าคุณไปเลี้ยงแกะกับผมสักวันหนึ่ง มาเรียนรู้การเลี้ยงแกะกับผมกันเถอะครับ

เราเริ่มงานแต่เช้าก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น งานของผมคือหาอาหารกับน้ำให้แกะของผม ซึ่งไม่ใช่งานง่ายๆ เลย คุณรู้ดีว่าในประเทศของผมนั้นผืนดินแห้งแล้ง เราไม่มีทุ่งหญ้าเขียวขจีกว้างใหญ่อย่างที่ฝูงแกะกับบรรดาปศุสัตว์ของคุณได้ใช้เป็นแหล่งอาหารหรอก พวกคุณเพียงแต่ปล่อยสัตว์เหล่านั้นให้ออกไปหาอาหารกินได้อย่างสบาย แต่ไม่ใช่ในประเทศของผม ไม่เลย เพราะหญ้าจะหาได้เฉพาะในทางแคบๆ ซึ่งคั่นด้วยแนวหินยาวๆ ที่เต็มด้วยฝุ่น เว้นแต่ในช่วงฤดูฝน น้ำที่เกิดจากน้ำพุหรือบ่อน้ำธรรมชาติจะแผ่กระจายเป็นหย่อมๆ ดังนั้นบางครั้งผมจึงต้องนำฝูงแกะของผมเดินไปเป็นระยะทางหลายไมล์เพื่อจะได้เจอหญ้าในบริเวณเพียงสองสามหลาหรือเพื่อจะดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้เองที่เราต้องตื่นแต่เช้ามืด เพราะต้องใช้เวลาทั้งวันที่จะหาแหล่งน้ำและอาหารให้ฝูงแกะ

ผมรู้จักบริเวณที่ผมเลี้ยงแกะเป็นอย่างดี ผมได้เดินสำรวจบริเวณเหล่านี้ทุกตารางฟุตมาหลายครั้งหลายหนแล้ว ดังนั้นผมจึงสามารถนำแกะของผมออกเดินหาน้ำหาอาหารกินได้ คุณอาจจะนึกภาพว่าการเลี้ยงแกะนั้นเหมือนกับคนต้อนฝูงสัตว์ในหนังคาวบอยตะวันตก พวกเขาจะขี่ม้าและต้อนฝูงสัตว์อยู่ข้างหลังเพื่อทำให้บรรดาสัตว์เหล่านั้นเดินไปข้างหน้า แต่การเลี้ยงแกะแตกต่างจากนั้น คือผมต้องเดินอยู่ข้างหน้าฝูงแกะและพวกมันก็เดินตามผม ไม่ว่าผมจะไปที่ไหน พวกมันก็จะตามผมไป และถ้าผมไม่คุ้นเคยหรือไม่รู้จักภูมิประเทศดีหรือพวกแกะถูกทิ้งไว้ตามลำพัง พวกมันก็จะอดตาย ผมจึงต้องเป็นผู้นำมัน ผมรู้ว่ามีหญ้าอยู่ที่ไหนบ้างเพราะผมไปสำรวจมาก่อนแล้ว

เราใช้เวลาตลอดช่วงเช้าในการเดินทางจากทุ่งหญ้าหนึ่งไปยังอีกทุ่งหญ้าหนึ่ง พอถึงเที่ยงวัน แกะก็จะเหนื่อยและหิวน้ำ พวกมันต้องการอาหารและน้ำไม่อย่างนั้นก็ต้องตาย ตามทางที่ผมพาแกะไปนั้น ผมรู้จักแหล่งน้ำหลายแหล่ง ตามสถานที่เหล่านี้จะมีร่มเงาและทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มสำหรับให้แกะกินและพักผ่อน ผมให้พวกมันนอนลงเพื่อดื่มน้ำ พูดถึงตอนนี้ คุณรู้ไหมว่าแกะจะดื่มน้ำจากแอ่งหรือบ่อน้ำนิ่งเท่านั้น โดยธรรมชาติแล้ว พวกมันกลัวบริเวณที่น้ำไหลอย่างรวดเร็ว และความกลัวของมันก็มีเหตุผล เพราะถ้าแกะลื่นตกลงไปในแม่น้ำหรือลำธาร ขนของมันจะอมน้ำจนเปียกโชก และแกะก็ว่ายน้ำไม่เก่งด้วย ดังนั้นน้ำหนักขนที่ชุ่มน้ำจะทำให้มันจมน้ำตาย นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมแอ่งน้ำจึงต้องสงบหรือไหลช้าๆ ถ้าผมไม่สามารถหาแหล่งน้ำเช่นนั้นได้ ผมก็ต้องสร้างบ่อน้ำขึ้นมาเองแล้วผันน้ำจากลำธารเข้ามา ตอนนี้คุณกำลังเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าการเลี้ยงแกะนั้นยากลำบากเพียงไร

แกะของผมจะมีความสุขและมีทุกสิ่งที่พวกมันต้องการตราบใดที่มันเดินตามผม ผมจะนำมันไปตามหนทางเก่าๆ ที่ผมรู้ดีว่าจะหาอาหารและน้ำให้มันกินได้ พวกมันต้องการการนำทางจากผม

แกะของผมต้องการการปกป้องคุ้มครองด้วยเช่นกัน ผืนดินที่เราออกเดินไปนั้นเต็มไปด้วยอันตราย สัตว์กินเนื้อจำพวกสิงโตและหมีมักจะไล่ตามฝูงแกะ บางครั้งก็จะมีฝูงสุนัขป่ามาก่อกวน และพืชบางชนิดที่ดูเหมือนปลอดภัยและมีรสชาติอร่อยลิ้น ก็อาจมีพิษได้ แกะอาจจะเดินสะดุดตกหน้าผาหรือตกลงไปในหุบเขาลึกและตายได้ แต่แกะของผมไม่จำเป็นต้องกลัวอันตรายใดๆ ผมจะเฝ้าระวังพวกมัน ถ้ามันเริ่มจะเตร่ออกนอกทาง ผมก็จะมีไม้เท้าของผู้เลี้ยงที่จะกระทุ้งให้มันกลับมา ถ้าพวกมันตกลงไปในหลุมหรือห้วยลึก ผมก็จะใช้อีกด้านหนึ่งของไม้เท้าหย่อนลงไปแล้วดึงมันขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ผมถือไม้สองอัน อันหนึ่งเป็นไม้เท้า แต่อีกอันหนึ่งเป็นไม้กระบอง ไม้เท้าใช้สำหรับแกะของผมแต่กระบองใช้สำหรับพวกสัตว์ล่าเหยื่อทั้งหลาย แม้ว่าแกะของผมจะโง่และทึ่ม แต่ผมก็ผูกพันกับพวกมัน ผมจะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อรักษาชีวิตของพวกมัน แต่เมื่อคนเลี้ยงแกะกับพวกคนงานที่ถูกจ้างมาเลี้ยงแกะที่ผมรู้จัก ได้เห็นผมต่อสู้กับสัตว์ล่าเนื้อตัวโตสองสามตัวนั้น พวกเขาก็หัวเราะและพูดแหย่ว่า สักวันหนึ่งไอ้พวกสิงโตและหมีตัวใดตัวหนึ่งนั้นจะต้องกินผมเป็นอาหารแน่ นั่นอาจจะจริง แต่ผมก็บอกพวกคุณได้ว่าผมจะไม่วิ่งหนีหรือเพิกเฉยเหมือนกับพวกขี้ขลาดเหล่านั้นหรอก ไม่เลย เพราะนั่นคือความแตกต่างระหว่างผู้เลี้ยงที่ดีและผู้เลี้ยงที่ไม่ดี ผู้เลี้ยงที่ดีจะสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ

ตราบใดที่พวกแกะเดินตามผม ผมก็จะนำพามันและปกป้องคุ้มครองมัน มันเป็นงานที่หนักและลำบาก แต่ผมก็มักต้องทำให้แน่ใจว่าแกะของผมมีอาหารกิน ผมมักจะตรวจสอบทุ่งหญ้าเหล่านั้นก่อนที่จะปล่อยให้มันไปกิน และถ้ามีพืชที่เป็นพิษในบริเวณนั้น ผมก็จะถอนมันออกทีละต้นจนหมด ผมจะตรวจดูพื้นดินว่ามีรูงูหรือเปล่าด้วย ผมบอกคุณได้ว่าในดินแดนของผมนั้นมีอันตรายรอบด้าน เรามีงูพิษตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ใต้ดินในทุ่งหญ้าบางแห่ง เมื่อพวกมันรู้สึกว่ามีแกะมากินหญ้า มันก็จะโผล่หัวอันน่าเกลียดออกมาจากรูและกัดจมูกแกะ การติดเชื้อหรือพิษที่เกิดจากการถูกกัดสามารถทำให้พวกแกะตายได้ แต่ผมก็มีทางแก้สำหรับเจ้างูพิษชั่วร้ายตัวเล็กๆ เหล่านั้น โดยผมจะเดินไปทั่วบริเวณเพื่อหารูงูเหล่านั้น ถ้าผมพบ ผมก็จะเทน้ำมันมะกอกเพียงเล็กน้อยลงไปตรงปากรู แล้วผมก็จะเอาน้ำมันทาตรงหัวและจมูกของแกะแต่ละตัวแล้วปล่อยให้พวกมันกินหญ้า น้ำมันมะกอกจะป้องกันลำตัวที่เนียนเป็นมันของงูไม่ให้เลื้อยขึ้นมาจากรูได้ ดังนั้น พวกมันจึงไม่สามารถทำอันตรายแกะของผมได้ ผมรู้สึกขำที่เฝ้ามองลูกแกะตัวน้อยๆ ของผมกำลังปิกนิกกันต่อหน้าต่อตาศัตรูของพวกมัน

พอตกเย็นเราก็พากันกลับคอก ผมจะสำรวจแกะแต่ละตัว ถ้าผมพบรอยข่วนหรือบาดแผลบนตัวแกะ ผมก็จะทาขี้ผึ้งให้ ผมต้องให้แน่ใจว่าพวกมันมีน้ำกิน ถ้าผมพบว่าแกะตัวใดหิวน้ำ ผมก็จะทำถังรูปถ้วยใส่น้ำให้มันดื่มเอง บางครั้งแกะเหล่านั้นจะกระหายน้ำมากจนพวกมันยื่นหัวเข้าไปในถังอย่างเร็วเกิน และยื่นหัวเข้าไปมากจนน้ำล้นออกมาจนทำให้หัวมันเปียก 

ก่อนเข้านอน ผมก็มักจะนับแกะในฝูงของผม บางครั้งบางคราวจะมีลูกแกะสักตัวหลงทาง และไม่มีสิ่งใดน่ากลัวเกินกว่าการที่แกะไม่มีผู้เลี้ยง ผมก็จะออกไปตามหาทันทีและนำมันกลับเข้าคอก

นานๆ ครั้งที่ลูกแกะของผมสักตัวจะมีนิสัยชอบเตร็ดเตร่ออกนอกเส้นทาง ผมจำตัวหนึ่งได้ ผมตั้งชื่อให้มันว่าเจ๊ค บรรพบุรุษของเจ๊คเป็นแกะรุ่นแรกๆ ของผม ผมเรียกปู่ของเจ้าเจ๊คว่าเจ้าเฒ่าอาเบ ส่วนพ่อของเจ้าเจ๊คชื่อไอแซค ทั้งเฒ่าอาเบกับไอแซคนั้นเดินตามผมอย่างสัตย์ซื่อและไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลย แต่เจ้าเจ๊คน้อยจอมโกงตัวนี้ไม่ใช่ มันมักจะหายไปหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน บางครั้งมันก็ออกไปหาหญ้าที่เขียวชอุ่มกว่ากิน และในเวลาอื่นผมก็พบว่ามันกำลังไล่ตามผีเสื้อ มันไม่เคยตระหนักถึงอันตราย แต่ผมก็เข้าใจมันดี

ดังนั้นผมจึงต้องลงมือทำบางสิ่ง พวกเราผู้เลี้ยงแกะจะพัฒนาวิธีการหนึ่งซึ่งจะป้องกันการชอบเตร่ออกนอกทางของแกะ วิธีการนี้ถูกใช้เป็นวิธีสุดท้าย นั่นคือเมื่อแกะตัวใดตัวหนึ่งปฏิเสธที่จะอยู่กับฝูง ครั้งสุดท้ายที่ผมจับได้ว่าเจ้าเจ๊คเตร่ออกนอกทาง ผมจึงใช้วิธีการนี้กับมัน พวกคุณต้องคิดว่าวิธีนี้โหดร้าย แต่มันก็จะรักษาชีวิตแกะของผมได้ ตอนสิ้นสุดวันที่ผมพบว่าเจ้าเจ๊คน้อยเถลไถลเตร็ดเตร่ไปยังทางแคบที่สูงชันระหว่างเขานั้น ผมก็ไปนำมันออกมาแล้วแบกมันไว้บนไหล่พากลับคอก มันไม่ดิ้นรนขัดขืน มันเพียงแต่มองผมด้วยสายตายที่เต็มไปด้วยความเชื่อวางใจ ผมจับมันนั่งลงแล้วผมก็จับขาขวาหน้าของมันวางไว้บนไม้เท้าของผม แล้วด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว ผมก็ดึงกระดูกยาวตรงขาข้างนั้นของมันลงมาแล้วหักเสีย เจ้าเจ๊คดิ้นรนเพื่อจะหนีขณะมองผมด้วยดวงตากลมโต ทันใดนั้นมันก็ล้มลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวด มันไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่หาน้ำหาอาหารให้มันกินและคอยช่วยเหลือมันให้พ้นจากภยันตราย คนที่มันไว้วางใจคนนี้ทำให้มันเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างที่สุดที่มันเคยประสบ ผมไม่อยากทำอย่างนั้นหรอกแต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อจะรักษาชีวิตของมันไว้

สองสามวันต่อมา เจ้าเจ๊คน้อยก็ลุกขึ้นได้ ขณะที่ฝูงแกะเคลื่อนย้ายจากทุ่งหญ้าหนึ่งไปอีกทุ่งหญ้าหนึ่ง ผมก็แบกมันไปตลอดทาง ในช่วงวันเหล่านั้น ผมอยู่ใกล้ชิดมันตลอดเวลา มันเจ็บปวดทุกข์ทนเพราะขาหัก แต่ขณะเดียวกันผมก็อุ้มมันไว้ใกล้หัวใจผม ผมวางมันลงเพื่อให้มันกินหญ้ากินน้ำ มันค่อยๆ กลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่คราวนี้ หุบเขาที่เตี้ยที่สุดก็ดูเหมือนภูเขามหึมาสำหรับมัน และลำธารที่ตื้นเขินที่สุดก็เสมือนแม่น้ำอันกว้างใหญ่ เมื่อใดก็ตามที่มันเผชิญกับอุปสรรค สิ่งที่มันทำก็คือหยุดเดินและมองมาที่ผม จากนั้นผมก็จะอุ้มมันขึ้นและช่วยมันข้ามพ้นอุปสรรคปัญหาเหล่านั้น เจ๊คเรียนรู้ที่จะวางใจและเดินตาม ผมต้องหักขาของมันเพื่อช่วยชีวิตมัน วิธีนี้ใช้ได้ผล ปัจจุบันนี้เจ้าเจ๊คยังคงอยู่กับผมและก็เป็นแกะที่สัตย์ซื่อที่สุดตัวหนึ่งของผมด้วย

นี่เป็นวันหนึ่งในชีวิตของผู้เลี้ยงแกะ แม้ว่ามันจะไม่มีเสน่ห์ดึงดูดใจนัก แต่มันก็เป็นการดำเนินชีวิตแบบหนึ่ง

และแม้ว่าอาชีพของผมจะไร้เกียรติ แต่มันก็ทำให้ผมอัศจรรย์ใจที่ว่า พระเจ้าทรงเปรียบพระองค์เองเหมือนผู้เลี้ยงแกะ และทรงเปรียบประชากรของพระองค์เหมือนแกะ ผมเข้าใจความจริงข้อนี้ นั่นคือหลังจากที่พระองค์ทรงตอบสนองความต้องการของเราด้วยการจัดหาสิ่งจำเป็นในชีวิตให้เรา ด้วยการทรงนำเราในแต่ละวันและปกป้องคุ้มครองเรา ผมก็เชื่อว่าเราจะพึงพอใจและสงบสุขเหมือนบรรดาแกะของผม ถ้าเพียงแต่เราเรียนรู้ที่จะไว้วางใจและติดตามพระองค์ แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจว่าพระองค์กำลังทรงนำเราไปทางไหน หรือพระองค์กำลังทรงทำอะไรในชีวิตเรา เราก็ต้องไว้วางใจและติดตามพระองค์ไป แล้วเราก็จะได้รับความพึงพอใจ

ขอบคุณที่นั่งฟังผมเล่า ผมต้องกลับไปทำงานแล้วครับ การเลี้ยงแกะเป็นงานที่ไม่มีวันจบสิ้นหรอกถ้าคุณรู้ว่าผมหมายถึงอะไร

สดุดีบทที่ 23
พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน
พระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด
พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ ทรงฟื้นจิตวิญญาณของข้าพเจ้า
พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปในทางชอบธรรม เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์
แม้ว่าข้าพระองค์จะเดินไปตามหุบเขาเงามัจจุราช ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใด ๆ
เพราะพระองค์ทรงสถิตกับข้าพระองค์
คทาและธารพระกรของพระองค์เล้าโลมข้าพระองค์
พระองค์ทรงเตรียมสำรับให้ข้าพระองค์ต่อหน้าต่อตาศัตรูของข้าพระองค์
พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยน้ำมัน ขันน้ำของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่
แน่ทีเดียวที่ความดีและความรักมั่นคงจะติดตามข้าพเจ้าไปตลอดวันคืนชีวิตของข้าพเจ้า 
และข้าพเจ้าจะอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้าสืบไปเป็นนิตย์ อาเมน

Mark 6:34 ครั้นพระเยซูเสด็จขึ้นจากเรือแล้ว ก็ทรงเห็นประชาชนหมู่ใหญ่ และพระองค์ทรงสงสารเขา เพราะว่าเขาเป็นเหมือนฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยง พระองค์จึงทรงสั่งสอนเขาเป็นหลายข้อหลายประการ

·       ต้องสอน   มิฉะนั้นจะเป็นเหมือนฝูงแกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง

Mark 14:27 พระเยซูจึงตรัสกับเหล่าสาวกว่าท่านทุกคนจะทิ้งเรา ด้วยมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า เราจะประหารผู้เลี้ยงแกะ และแกะฝูงนั้นจะกระจัดกระจายไป

·       ถ้าที่ใดใดไม่มีการนำไม่มีนิมิตไม่มีผู้เลี้ยง ฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป  สภษ. 29:18 (ไทยคิงเจมส์)  พระคำตอนที่กล่าวในมาระโกนี้ มาจากพระธรรม เศคาริยาห์ 13:7
 
Luke 2:8 ในแถบนั้นมีคนเลี้ยงแกะอยู่ในทุ่งนา เฝ้าฝูงแกะของเขาในเวลากลางคืน

·       ลูกาเล่าเรื่องคนเลี้ยงแกะที่ทูตสวรรค์มาปรากฏ

Luke 2:15 เมื่อทูตสวรรค์เหล่านั้น ไปจากเขาขึ้นสู่สวรรค์แล้ว พวกเลี้ยงแกะได้พูดกันว่าให้เราไปยังเมืองเบธเลเฮมดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงแจ้งแก่เรา

Luke 2:18 คนทั้งปวงที่ได้ยินก็ประหลาดใจ ด้วยเนื้อความที่คนเลี้ยงแกะได้บอกแก่เขา

Luke 2:20 คนเลี้ยงแกะจึงกลับไปยกย่องสรรเสริญพระเจ้า เพราะเหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งเขาได้ยิน และได้เห็นดังได้กล่าวไว้แก่เขาแล้ว

John 10:2 แต่ผู้ที่เข้าทางประตูก็เป็นผู้เลี้ยงแกะ

·       บทที่ 10 กล่าวถึงลักษณะผู้เลี้ยงที่ดีคือพระเยซูคริสต์

John 10:11 เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ผู้เลี้ยงที่ดีนั้นย่อมสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ

·       ลักษณะผู้เลี้ยงที่ดี

John 10:12 ผู้ที่รับจ้างมิได้เป็นผู้เลี้ยงแกะ และฝูงแกะไม่เป็นของเขา เมื่อเห็นสุนัขป่ามาเขาจึงละทิ้งฝูงแกะหนีไป สุนัขป่าก็ชิงเอาแกะไปเสีย และทำให้ฝูงแกะกระจัดกระจายไป

·       ไม่ใช่ผู้เลี้ยง

John 10:14 เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี เรารู้จักแกะของเราและแกะของเราก็รู้จักเรา

John 10:16 แกะอื่นซึ่งมิได้เป็นของคอกนี้เราก็มีอยู่ แกะเหล่านั้นเราก็ต้องพามาด้วย และแกะเหล่านั้นจะฟังเสียงของเรา แล้วจะรวมเป็นฝูงเดียว และมีผู้เลี้ยงเพียงผู้เดียว

·       ฝูงเดียว ผู้เลี้ยงเดียว

Eph 4:11 ของประทานของพระองค์ ก็คือให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์

·       shepherd = pastors  กล่าวถึงpastor ครั้งเดียว ในภาษาอังกฤษ  แต่คำในภาษากรีกคือคำเดียวกัน  ποιμήν poimen  ดังนั้นถ้าเราจะดูชีวิต ดูลักษณะผู้เลี้ยงในแบบพระคัมภีร์ เราสามารถดูได้จากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคำว่า poimen ทั้งหมด

Heb 13:20 ขอพระเจ้าแห่งสันติสุข ผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้าของเราเป็นขึ้นมาจากความตาย คือผู้ทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดีเลิศ

·       พระเยซู ผู้เลี้ยงแกะที่ยิ่งใหญ่ (คิงเจมส์)  Jesus – great shepherd

1Pet 2:25 เพราะว่าท่านทั้งหลายเป็นเหมือนแกะที่พลัดฝูงไป แต่บัดนี้ได้กลับมาหาพระผู้เลี้ยงและผู้พิทักษ์วิญญาณจิตของท่านทั้งหลายแล้ว

·       shepherd and bishop of your souls  พระเยซูเป็นพระผู้เลี้ยงและผู้ปกครองดูแลจิตวิญญาณของท่านทั้งหลาย

ข้อนี้มีคำว่า “bishop” ภาษาไทย แปลว่า ผู้ปกครอง คำในภาษากรีก

G1985 ἐπίσκοπος episkopos (ep-is'-kop-os) n.
1. an overseer
2. (in genitive case) one of the co-superintendents entrusted with the well-being of a local assembly or of assemblies within a city or location
{literally or figuratively}
[from G1909 and G4649 (in the sense of G1983)]
KJV: bishop, overseer
Root(s): G1909, G4649
See also: G1983
[?]

อีกตอนหนึ่งที่กล่าวถึงผู้ปกครอง

Acts 20:28 ท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้ดี และจงรักษาฝูงแกะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงตั้งท่านไว้ให้เป็นผู้ดูแล และเพื่อจะได้ปกครองคริสตจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์ทรงได้มาด้วยพระโลหิตของพระองค์เอง

คำนี้ ผู้ปกครองดูแลคริสตจักร bishop ที่ดูแล ekklesia ไม่ใช่ประเด็นที่เราจะศึกษาในครั้งนี้  สิ่งที่เราสนใจศึกษาคือชีวิตของผู้เลี้ยงที่อภิบาลดูแลฝูงแกะของพระเจ้า

Acts 20:28 Take heed G4337 therefore G3767 unto yourselves G1438, and G2532 to all G3956 the flock G4168, over G1722 the which G3739 the Holy G40 Ghost G4151 hath made G5087 you G5209 overseers G1985, to feed G4165 the church G1577 of God G2316, which G3739 he hath purchased G4046 with G1223 his own G2398 blood G129.

อีกคำหนึ่ง G4165  จากพระคัมภีร์ข้อนี้  ผู้ปกครอง bishop ก็ต้อง feed G4165  เลี้ยงเหมือนผู้เลี้ยงดูแลคริสตจักร  ซึ่งคำในภาษาไทยไม่ได้แปลไว้

G4165 ποιμανω poimaino (poy-mai'-no) v.
1. to tend as a shepherd of
2. (figuratively) supervisor
[from G4166]
KJV: feed (cattle), rule
Root(s): G4166
[?]

G4165 เป็นกริยา มาจาก G4166 คำนามว่าผู้เลี้ยง   สรุปว่าในบทเรียนนี้ เราจะดูแค่ shepherd ผู้เลี้ยง ที่ดูแลฝูงแกะของพระเจ้า  เราไม่ได้ดูไปถึง bishop ที่ดูแลคริสตจักร ekklesia ของพระเจ้า

1Pet 5:4 และเมื่อพระผู้เลี้ยงผู้ยิ่งใหญ่จะเสด็จมาปรากฏ ท่านทั้งหลายจะรับศักดิ์ศรีเป็นมงกุฎที่ร่วงโรยไม่ได้เลย

·       พระผู้เลี้ยงใหญ่ G750  The chief shepherd    1ปต. 5:4 (มีกล่าวถึงครั้งเดียว)
ในพระคัมภีร์เดิม
 ผู้เลี้ยง H7462
H7462 רָעָה ra`ah (raw-aw') v. เลี้ยงฝูงสัตว์
1. to tend a flock i.e. pasture it
2. (intransitively, literally or figuratively) to graze
3. (generally) to rule
4. (by extension) to associate with (as a friend)
[a primitive root]
KJV: X break, companion, keep company with, devour, eat up, evil entreat, feed, use as a friend, make friendship with, herdman, keep (sheep)(-er), pastor, + shearing house, shepherd, wander, waste.
[?]

จากการใคร่ครวญ คิดว่าสร้างผู้เลี้ยงดีกว่าใช้ชื่อว่าสร้างผู้นำ  แนวคิดเอามาจากคำว่า shepherd G4166 ในพระคัมภีร์ แล้วมาดูว่า ชีวิตของผู้เลี้ยงในพระคัมภีร์เป็นอย่างไรบ้าง  ดังนั้นวิชานี้ จึงเป็นการแบ่งปันเรื่องชีวิตของผู้เลี้ยง ไม่ใช่วิธีการรับใช้ของผู้นำ
ครั้งหน้าเราจะดูการเป็นผู้เลี้ยงในวิถีชีวิตของคนอิสราเอล อยากให้เราลองสืบค้นข้อมูลดูเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อมาแบ่งปันกันในครั้งหน้า