วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ชีวิตพระเยซูคริสต์ : พระเยซูอยู่ด้วยกับเรา

รวมบทความชีวิตพระเยซูคริสต์

     วันนี้เป็นวันหลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจการต้อนรับ การเป็นเจ้าภาพรองรับการมาของผู้นำครน.ทั้งหลาย ขอบคุณพระเจ้่าสำหรับการร่วมแรงร่วมใจของสมาชิกคริสตจักรความหวังกรุงเทพฯครับ ผมเชื่อในสดุดี 133 ครับ  วันนี้มาดูพระวจนะต่อครับ


ทะเลสาบกาลิลี ทิเบเรียส หรือคินเนเรธ ที่พระเยซูนั่งเรือไปกับพวกสาวก ถ่ายไว้ตอนไปอิสราเอลครับ

Luke 8:22 อยู่​มา​วัน​หนึ่ง​พระ​องค์​เสด็จ​ลง​เรือ​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​องค์ แล้ว​พระ​องค์​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “ให้​เรา​ข้าม​ทะเลสาบ​ไป​ฟาก​ข้าง​โน้น” เขา​ก็​ถอย​เรือ​ออกไป​
Luke 8:23 เมื่อ​กำลัง​แล่น​ไป​พระ​องค์​บรรทม​หลับ และ​บังเกิด​พายุ​กล้า​กลาง​ทะเล น้ำ​เข้า​เรือ​อยู่​น่า​กลัว​จะ​มี​อันตราย​
Luke 8:24 เขา​จึง​มา​ปลุก​พระ​องค์​ว่า “อาจารย์​เจ้า​ข้า อาจารย์​เจ้า​ข้า ข้าพเจ้า​กำลัง​จะ​จม​อยู่​แล้ว” ​พระ​องค์​จึง​ทรง​ตื่น​ขึ้น​ห้าม​ลม​และ​คลื่น แล้ว​คลื่น​ลม​ก็​หยุด​เงียบ​สงบ​ทีเดียว​
Luke 8:25 ​พระ​องค์​จึง​ตรัส​แก่​เขา​ว่า “ความ​เชื่อ​ของ​เจ้า​อยู่​ที่​ไหน” เขา​เหล่า​นั้น​กลัว​และ​ประหลาด​ใจ​พูด​กัน​ว่า “ท่าน​นี้​เป็น​ผู้ใด​จึง​สั่ง​บังคับ​ลม​และ​น้ำ​ได้ ลม​กับ​น้ำ​นั้น​ก็​เชื่อ​ฟัง​ท่าน”

     พระวจนะในตอนนี้เป็นตอนที่ผมได้เทศนาในคริสตจักรไปแล้วเมื่อตอนผมมาทำหน้าที่ใหม่ๆ เนื่่องด้วยฝันเป็นคำกรีก G4143 แล้วก็มาเปิดดูในพระคัมภีร์ ปรากฏว่ามีคำนี้จริงๆ แปลว่า เรือ ความเข้าใจและความเชื่อของผมในตอนนั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้ามาหนุนใจผมให้ทราบว่าพระองค์อยู่ในเรือลำนี้ด้วย ไม่ว่าจะมีสถานการณ์อะไร พระองค์อยู่ด้วยกับเรา ผมจึงนำพระธรรมตอนนี้ในมาระโกมาเทศนา

     สิ่งนี้ก็เป็นได้กับชีวิตของเราทั้งหลาย ชีวิตท่านก็เปรียบเหมือนเรือลำหนึ่งล่องลอยไปในนาวาแห่งโลกนี้ บางครั้งก็มีคลื่นลมเหมือนอย่างพระธรรมตอนนี้มาจู่โจมใส่เรือ คลื่นลมนั้นอาจเป็นสิ่งใดก็ได้ที่มาทำให้เราหวาดกลัว จะเป็นเรื่องหน้าที่การงาน จะเป็นเรื่องอนาคตของเรา จะเป็นเรื่องโรคภัยไข้เจ้บของเรา จะเป็นเรื่องผลการเรียนของเรา จะเป็นเรื่องคู่ครองที่จะมีในอนาคตของเรา จะเป็นเรื่องใดก็ตามแต่ที่ทำให้เรารู้สึกไม่มั่นคง เขย่าชีวิตของเรา หนักที่สุดคือเขย่าความเชื่อในใจเรา ให้รู้สึกว่าพระเยซูอยู่ที่ไหน ทำไมพระองค์ไม่ช่วยเรา ฯลฯ เหมือนอย่างพวกสาวกเหล่านี้  เห็นการอัศจรรย์ที่พระเยซูทำมาก็มากเพราะไปด้วยกัน อยู่ชินกับพระเยซูตลอดเวลา พระองค์รักษาคนเจ็บป่วย พระองค์ทำการอัศจรรย์ต่างๆนานา ซึ่งถ้าเป็นชีวิตของผมสิ่งนี้ก็คงเตือนใจผมได้ว่า ประภพจำได้ไหมว่าพระองค์ช่วยเหลือเจ้ามาแล้วอย่างไร เจ้าเคยผ่านความตายมาแล้วสองครั้ง แล้วพระองค์จะไม่ช่วยเจ้าอีกหรือในการดูแลคริสตจักรความหวังแห่งนี้

     นี่เป็นเหตุการณ์แบบที่พวกสาวกเผชิญ คลื่นลมซัดซาดทำให้เกิดความหวาดกลัว ทำลายความเชื่อ ความเชื่อว่าพระองค์ยังอยู่ด้วย พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่อยู่ด้วยกับเหล่าสาวก และอยู่ด้วยกับเราทั้งหลาย พระองค์ผู้นั้นอยู่กับเรา อยู่ภายในเรา พระเยซูสิ้นพระชนม์ ฟื้นคืนพระชนม์ไม่ได้อยู่บนโลกแล้วก็จริง แต่พระองค์ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้อยู่กับเรา ให้อยู่ในเรา ให้เรามีความสัมพันธ์กับพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ พระวิญญาณบริสุทธิ์นั้นก็คือ พระวิญญาณของพระคริสต์ โรม 8:9       Rom 8:9 ถ้า​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​เจ้า​ทรง​สถิต​อยู่​ใน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จริงๆ แล้ว ท่าน​ก็​มิได้​อยู่​ใต้​เนื้อ​หนัง แต่​อยู่​ใต้​พระ​วิญญาณ ผู้ใด​ไม่​มี​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​คริสต์​ ผู้​นั้น​ก็​ไม่​เป็น​ของ​พระ​องค์​
 1เปโตร 1:11  1Pet 1:11 เขา​ได้​สืบ​ค้นหา​บุคคล​และ​เวลา ซึ่ง​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​คริสต์​ผู้​ทรง​สถิต​อยู่​ใน​ตัว​เขา​ได้​ทรง​บ่ง​ไว้ เมื่อ​เขา​ได้​ทำนาย​ถึง​ความ​ทุกข์​ทรมาน​ของ​พระ​คริสต์​ และ​ถึง​พระ​สิริ​ที่​จะ​มา​ภายหลัง​        และนั่นเองเป็นเหตุให้พระองค์เสียพระทัยเมื่อเราไปทำผิดทำบาปทำสิ่งต่างๆอย่างไม่สมควรโดยตั้งใจทำผิดบาป          Eph 4:30 และ​อย่า​ทำ​ให้​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระ​เจ้า​เสีย​พระ​ทัย เพราะ​โดย​พระ​วิญญาณ​นั้น​ท่าน​ได้​ถูก​ประทับตรา​หมาย​ท่าน​ไว้ เพื่อ​วันที่​จะ​ทรง​ไถ่​ให้​รอด​

     สิ่งที่น่าเสียใจคือรู้ทั้งรู้ เห็นก็เห็นสิ่งที่พระเยซูได้ทำมาแล้ว แต่ตอนนี้เพราะเห็นคลื่นลมแรงซัดเข้ามาในเรือ สถานการณ์รอบข้างมาจู่โจมทำให้เกิดความกลัว หมดเลยครับ ความมั่นใจ ความเชื่อของสาวกที่มีพระเยซูอยู่ด้วย  ดังนั้นนี่เป็นอุทาหรณ์ให้เราระลึกไว้ว่า เราต้องระมัดระวังใจของเรา อย่าให้สิ่งใด สถานการณ์ใดมาทำให้เราเกิดความหวาดกลัวได้  ผีมารซาตานชอบใช้สิ่งที่เราเห็นมาล่อลวงเรา เหมือนที่มาล่อลวงฮาวา

     กลับมาที่พระธรรมตอนนี้ ท่านได้เห็นแล้วว่าพระเยซูเหน็ดเหนื่อยพระองค์ก็นอนหลับจริงๆ ไม่ได้แกล้งนอนหลับเพื่อจะทดสอบสาวก ผมเชื่อว่าพระเยซูหลับจริงด้วยความเหน็ดเหนื่อย อย่าลืมว่าพระองค์ตอนนี้อยู่ในกายมนุษย์ กายมนุษย์แบบที่มีความผิดบาปเป็นเหตุให้มีความเหน็ดเหนื่อย ความตาย ไม่เหมือนกับกายมนุษย์ก่อนล้มลงในบาปในปฐมกาลก่อนบทที่ 3 กายนิรันดร์ที่ไม่มีความตาย ด้วยเหตุนี้เมื่อมนุษย์ล้มลงในบาปสมัยแรกๆ เราจึงเห็นชีวิตมนุษย์ยืนยาวมาก  และนี่เองคือเหตุที่พระเยซูคริสต์ต้องเข้ามาในโลกเพื่อมานำมนุษย์ให้กลับไปมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าใหม่ เหมือนสมัยแรกในปฐมกาล

     ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพระคริสต์ ขอบคุณพระวิญญาณ ขอบคุณพระบิดาที่ประทานพระเยซูคริสต์เข้ามาในโลกเพื่อไถ่บาปให้กับเรา ขอบคุณพระเยซูคริสต์ที่ทูลขอพระบิดาส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งก็คือพระวิญญาณของพระคริสต์เข้ามาในโลก มาอยู่กับคริสเตียนทั้งหลาย เพื่อดูแลเรา เพื่อเป็นเครื่องมัดจำประทับตราในชีวิตเราว่าเราเป็นลูกของพระองค์ พระองค์จะกลับมารับเราในวันสุดท้ายเพื่อไปอยู่กับพระองค์ในเมืองสวรรค์ สรรเสริญพระองค์!


วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ชีวิตพระเยซูคริสต์ : พี่น้องชายหญิงคือผู้ที่ฟังพระดำรัสของพระเจ้าและกระทำตาม

รวมบทความชีวิตพระเยซูคริสต์

     วันนี้นำข้อพระคัมภีร์มาแบ่งปันสองสามข้อนะครับ

Luke 8:19 ครั้ง​นั้น​มารดา​และ​พวก​น้อง​ชาย​ของ​พระ​องค์​มา​หา​พระ​องค์ แต่​เข้า​ไป​ถึง​พระ​องค์​ไม่ได้​เพราะ​คน​มาก​
Luke 8:20 มี​คน​ทูล​พระ​องค์​ว่า “มารดา​และ​น้อง​ชาย​ของ​พระ​องค์ ยืน​อยู่​ข้าง​นอก​ปรารถนา​จะ​มา​หา​พระ​องค์”

Luke 8:21 แต่​พระ​องค์​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “มารดา​ของ​เรา​และ​พี่​น้อง​ของ​เรา คือ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ได้​ฟัง​พระ​ดำรัส​ของ​พระ​เจ้า​และ​กระทำ​ตาม”

     เนื่องจากดูแล้วพระคัมภีร์ตอนนี้ไม่เชื่อมโยงต่อเนื่องกับข้อก่อนหน้าและหลังจากนี้ครับ ตอนนี้บอกว่าที่ใดที่พระเยซูพำนักอยู่จะมีคนมากมายมาห้อมล้อมพระองค์ จนในเวลานี้พวกญาติพระองค์จะเข้าไปให้ถึงพระองค์ไม่ได้เพราะคนมาก เมื่อมีคนไปบอกพระองค์ว่าญาติคือมารดาและน้องชายปรารถนาจะมาหาพระองค์ พระองค์กลับตอบว่าญาติคือคนที่ฟังคำพระเจ้าและทำตาม ผมเชื่อว่านี่ไม่ได้เป็นการแสดงออกถึงการปฏิเสธพวกญาติพี่น้อง เพราะขณะพระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเขน พระองค์ห่วงใยมารดาของพระองค์ พระองค์ฝากไว้ให้ยอห์นดูแล (ยอห์น 19:25-27)  แต่สิ่งนี้เป็นการบอกบรรดาคนที่มาชุมนุมกันว่าพี่น้องชายหญิงของพระเยซูคริสต์คือคนที่มาหา ฟังพระคำ และกระทำตาม

     คำสอนนี้เป็นเหมือนพระคำตอนที่ผมนำไปแบ่งปันให้กับหนค.ขึ้นไปทั้งของคกท.และครน. คนที่มาหา จากเนื้อเรื่องตอนนี้ที่กล่าวถึงในพระธรรมตอนอื่น เช่น มก. 3:31 มาหาคำเดียวกัน  ฟังคำ ก็ใช้คำกรีกคำเดียวกัน และกระทำตาม ก็เป็นคำเดียวกันกับคำสอนที่ผมแบ่งปันไปแล้ว ลองคิดตามดูครับ ผมแบ่งปันตอนนั้น เพราะต้องการให้ผู้ฟังเรียนรู้ที่จะศึกษาพระคัมภีร์ ขุด ค้น หา พระพรจากพระวจนะแต่ละตอนได้


Walking with Jesus


จะเดินกับพระเยซูได้อย่างมั่นคง เราคงต้องจับหัวใจหลัก ซึ่งในที่นี้เราทำเป็นวิสัยทัศน์ของคริสตจักร


คริสตจักรความหวังมีวิสัยทัศน์ ที่จะถวายพระเกียรติพระเจ้า

ด้วยการดำเนินชีวิตตามพระมหาบัญญัติ

และพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์

และส่งเสริมการปฏิบัติศาสนกิจคริสเตียนตามพระคริสตธรรมคัมภีร์


Hope Church has a vision to glorify God

by living according to the Great Commandment

and the Great Commission of Jesus Christ

and promoting Biblical practices


เราไม่สามารถมาคอยตอบคำถามทุกๆคำถามได้ว่าเราเปลี่ยนไปอย่างไร แต่เราตอบโดยรวมได้ว่าโดยพระคุณพระเจ้า เราขอเปลี่ยนไปให้เหมือนกับพระทัยพระเยซูมากที่สุดโดยดูจากหลักคำสอนของพระเยซูคริสต์ในพระคัมภีร์ ส่วนการรับใช้เราทำตามหลักพระมหาบัญญัติและพระมหาบัญชาซึ่งเป็นคำสั่งพระเยซูคริสต์


ถามว่าเรามีเป้าหมายอย่างไร เราตอบได้โดยดูจากหลักพระมหาบัญชา ไปทั่วทุกแห่งทุกหน ไปทั่วทุกชาติ ไปให้ครอบคลุมมากที่สุด ไปนำคนมาเป็นสาวกมากที่สุดจนครบจำนวน แล้วจะเป็นเหตุให้คนยิวได้รับการเปิดตาใจมาพบพระเยซูคริสต์ ทั้งหมดนี้ทำด้วยความรัก


หลักในการดำเนินชีวิต ในการรับใช้ ในการปกครองคริสตจักร ฯลฯ ดูหลักมาจากพระคัมภีร์ พระคัมภีร์เป็นบรรทัดฐาน


วันนี้หลักในการดำเนินชีวิตและการรับใช้ไปกับพระคริสต์เอามาจากพระคัมภีร์ตอนหนึ่ง


Luke 6:46 “เหตุไฉนท่านทั้งหลายจึงเรียกเราว่า ‘พระองค์เจ้าข้า พระองค์เจ้าข้า’ แต่ไม่กระทำตามที่เราบอกนั้น

Luke 6:47 ทุกคนที่มาหาเราและฟังคำของเรา และกระทำตามคำนั้น เราจะแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า เขาเปรียบเหมือนผู้ใด

Luke 6:48 เขาเปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึก เขาขุดลึกลงไปแล้วตั้งรากบนศิลา และเมื่อน้ำมาท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่ง แต่ทำให้หวั่นไหวไม่ได้ เพราะได้สร้างไว้มั่นคง

Luke 6:49 ส่วนคนที่ได้ยินและมิได้กระทำตาม เปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึกบนดินไม่ก่อราก เมื่อกระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่งตึกนั้น ตึกนั้นก็พังทลายลงทันที และความพินาศของตึกนั้นก็ใหญ่ยิ่งนัก”



Luke 6:46 And G1161 why G5101 call ye G2564 me G3165, Lord G2962, Lord G2962, and G2532 do G4160 not G3756 the things which G3739 I say G3004?

Luke 6:47 Whosoever G3956 cometh G2064 to G4314 me G3165, and G2532 heareth G191 my G3450 sayings G3056, and G2532 doeth G4160 them G846, I will shew G5263 you G5213 to whom G5101 he is G2076 like G3664:

Luke 6:48 He is G2076 like G3664 a man G444 which G3739 built G3618 an house G3614, and G2532 digged G4626 deep G900, and G2532 laid G5087 the foundation G2310 on G1909 a rock G4073: and G1161 when the flood G4132 arose G1096, the stream G4215 beat vehemently G4366 upon that G1565 house G3614, and G2532 could G2480 not G3756 shake G4531 it G846: for G1063 it was founded G2311 upon G1909 a rock G4073.

Luke 6:49 But G1161 he that heareth G191, and G2532 doeth G4160 not G3361, is G2076 like G3664 a man G444 that without G5565 a foundation G2310 built G3618 an house G3614 upon G1909 the earth G1093; against G4366 which G3739 the stream G4215 did beat vehemently G4366, and G2532 immediately G2112 it fell G4098; and G2532 the ruin G4485 of that G1565 house G3614 was G1096 great G3173.


แบ่งปันพระวจนะจากตอนนี้ พร้อมตรวจดูคำในภาษากรีกว่าบรรยายความได้ตรงกันหรือไม่ เสนอแนะว่าใช้โปรแกรมThe Wordนี้ช่วยได้อย่างไร



เข้ามาที่หน้าเว็บไซค์ เป็นภาพนี้ครับ จะเห็น download now เป็นตัวเริ่มต้นติดตั้ง ให้ดาวน์โหลดตัวนี้มาแล้วติดตั้งก่อน  เมื่อเสร็จแล้วคลิ๊กไปที่ download add-on modules


จะได้เข้ามาที่หน้านี้ แล้วก็เลือกตัวเสริมต่างๆที่เราจะติดตั้งเข้าไป




เว็บไซค์นี้ ผมเอาไว้เช็คtenseของข้อพระคัมภร์ต่างๆครับ ความจริงเว็บนี้ทำได้หลากหลายครับ แต่ว่าผมยังไม่ได้ศึกษาดูครับ



เอาmouseไปวางที่คำแต่ละคำนั้น ก็จะแสดงtenseออกมาให้เห็น


จากพระคำตอนนี้เราเรียนรู้สิ่งใดได้บ้าง เรียนจากที่ได้แบ่งปันในบล็อกไปแล้ว ไปชมดูได้ในแต่ละสัปดาห์

ในวันสุดท้ายเราจะอ้างสิ่งที่เราทำแม้ทำในนามพระเยซูไม่ได้ มัทธิว 7:21-23 ถ้าเราไม่ได้กระทำตามน้ำพระทัยพระองค์ เหมือนพระคริสต์เมื่อพระองค์เข้ามาในโลก พระองค์บอกว่าพระองค์ทำตามพระทัยพระบิดา John 4:34 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “อาหารของเราคือการกระทำตามพระทัยของพระองค์ ผู้ทรงใช้เรามา และทำให้งานของพระองค์สำเร็จ


เราก็เช่นกันควรทำทุกสิ่งตามสิ่งที่พระเยซูคริสต์บอกเรา ตามพระทัยพระเจ้า ขอบคุณพระเจ้าเรากำลังเคลื่อนไปตามพันธกิจแห่งของประทานทั้งห้าตามที่ข้าพเจ้าได้เทศนาไปแล้ว เรากำลังเคลื่อนไปกับงานด้านการประกาศเป็นพยานทำให้คนมาเป็นสาวกตามที่ได้เทศน์ไปแล้วเช่นกัน ปีนี้เชื่อว่าเราจะได้เห็นทั้งคนทั้งกลุ่มได้มาแบ่งปันศักยภาพในTheme "แผ่นดินพระเจ้ามาใกล้แล้ว" ในโครงการHope Talents และในเดือนหน้าผมจะเริ่มแบ่งปันคำเทศน์เกี่ยวกับโลกอนาคต พร้อมวีดีทัศน์ ใบปลิว ฯลฯ เพื่อการประกาศพระนามพระเจ้าเช่นกัน


ในข้อ47 คนที่มาหา G2064 ἔρχομαι erchomai (er'-khom-ai) v. หาใคร หาพระเยซู

1. to come or go

{in a great variety of applications, literally and figuratively}

[middle voice of a primary verb (used only in the present and imperfect tenses, the others being supplied by a kindred (middle voice) eleuthomai el-yoo'-thom-ahee, or (active) eltho el'-tho, which do not otherwise occur)]

KJV: accompany, appear, bring, come, enter, fall out, go, grow, X light, X next, pass, resort, be set

[?]


คนที่ฟังคำ G191 ἀκούω akouo (ak-ou'-o) v. คำ(Logos)ของใคร พระเยซู

1. to hear

{in various senses}

[a primary verb]

KJV: give (in the) audience (of), come (to the ears), (shall) hear(-er, -ken), be noised, be reported, understand

[?]



G3056 λόγος logos (log'-os) n.

1. something said (including the thought)

2. (by implication) a topic (subject of discourse), also reasoning (the mental faculty) or motive

3. (by extension) a computation

4. (specially, with the article in John) the Divine Expression (i.e. Christ)

[from G3004]

KJV: account, cause, communication, X concerning, doctrine, fame, X have to do, intent, matter, mouth, preaching, question, reason, + reckon, remove, say(-ing), shew, X speaker, speech, talk, thing, + none of these things move me, tidings, treatise, utterance, word, work

Root(s): G3004

[?]



Logosนั้นก็คือคำที่มีกล่าวถึงไว้แล้วในพระคัมภีร์ ฟังคำ คือได้ยินคำในaudience ได้ยินคำในที่ประชุม


และกระทำตามด้วย ไม่เพียงมาหาพระเยซู มาแล้วไม่ฟังก็ไม่ได้ มาแล้วและฟังพระวจนะของพระเจ้าในที่ประชุมให้เข้าใจ แต่แค่นั้นไม่พอ ไม่เพียง มา ฟัง แต่ต้องกระทำตามด้วย G4160 ποιέω poieo (poy-eh'-o) v.

1. to make or do

{in a very wide application, more or less direct; properly refers to a single act thus differing from G4238}

[apparently a prolonged form of an obsolete primary]

KJV: abide, + agree, appoint, X avenge, + band together, be, bear, + bewray, bring (forth), cast out, cause, commit, + content, continue, deal, + without any delay, (would) do(-ing), execute, exercise, fulfil, gain, give, have, hold, X journeying, keep, + lay wait, + lighten the ship, make, X mean, + none of these things move me, observe, ordain, perform, provide, + have purged, purpose, put, + raising up, X secure, shew, X shoot out, spend, take, tarry, + transgress the law, work, yield

Compare: G4238

[?]



เมื่อเราทำดังนั้นมาหาพระเยซู ฟังคำพระเยซู และกระทำตาม เปรียบเหมือนคนที่สร้างตึก

G3618 οἰκοδομέω oikodomeo (oy-kod-om-eh'-o) v.

1. to be a house-builder, i.e. construct

2. (figuratively) confirm

[from a compound of G3624 and the base of G1430]

KJV: (be in) build(-er, -ing, up), edify, embolden

Root(s): G3624, G1430

See also: G3619

[?]


เขาจะมั่นคง ไม่หวั่นไหว เหมือนเขาได้ขุด

G4626 σκάπτω skapto (skap'-to) v.

1. to dig

[apparently a primary verb]

KJV: dig

[?]


และลึกลงไป G900 βαθύνω bathuno (bath-oo'-no) v.

1. to deepen

[from G901]

KJV: deep

Root(s): G901

[?]


และวาง G5087 τίθημι tithemi (tith'-ay-mee) v.

1. to place (properly, in a passive or horizontal posture)

{in the widest application, literally and figuratively; differs from G2476, which properly denotes an upright and active position, while G2749 is properly reflexive and utterly prostrate}

[a prolonged form of a primary theo theh'-o (which is used only as alternate in certain tenses)]

KJV: + advise, appoint, bow, commit, conceive, give, X kneel down, lay (aside, down, up), make, ordain, purpose, put, set (forth), settle, sink down

Compare: G2476, G2749

[?]


วางอะไร วางรากฐาน

G2310 θεμέλιος themelios (them-el'-ee-os) n.

1. something put down, i.e. a substructure (of a building, etc.)

{literally or figuratively}

[from a derivative of G5087]

KJV: foundation

Root(s): G5087

[?]


วางบนอะไร บนศิลา

G4073 πέτρα petra (pet'-ra) n.

1. a (mass of) rock

{literally or figuratively}

[feminine of the same as G4074]

KJV: rock

Root(s): G4074

[?]


บนศิลาpetraนี้ จะไม่สั่นไหว แต่มั่นคง


คำนี้อีกตอนหนึ่ง


Matt 16:18 And G1161 I say G3004 also G2504 unto thee G4671, That G3754 thou G4771 art G1488 Peter G4074, and G2532 upon G1909 this G5026 rock G4073 I will build G3618 my G3450 church G1577; and G2532 the gates G4439 of hell G86 shall G2729 not G3756 prevail against G2729 it G846.


บนศิลานี้petra G4073 พระองค์จะสร้างคริสตจักรของพระองค์(my church) และคำนี้petra G4073 เป็นคำเดียวกับเปโตร Peter หรือว่า G4074 Πέτρος Petros (pet'-ros) n/p.

1. a (piece of) rock

2. as a name, Petrus, an apostle

{larger than G3037}

[apparently a primary word]

KJV: Peter, rock


ต่างกันเพียงแค่ว่า Petra G4073 เป็นหินเป็นก้อนเป็นจำนวนมากขนาดใหญ่ และ Petros หรือเปโตร G4074 เป็นชิ้นของหิน


บนPetros เปโตรผู้ที่รับการสำแดงจากพระบิดาว่าพระเยซูคือใคร (ดูข้อ17) บนศิลาคือบนผู้ที่ได้รับการสำแดงแบบเปโตร รู้สัจธรรมความจริงของพระเจ้า เขาผู้นั้นจะไม่หวั่นไหว เขาผู้นั้นจะตั้งมั่นคงอยู่ เขาผู้นั้นจะไม่มีสิ่งใดมาทำลายเขาได้ แม้แต่Hades G86 ᾅδης hades (hah"-dace) n.

1. (properly) unseen

2. (commonly) "Hades," the place (state) of departed souls

[from G1 (as negative particle) and G1492]

KJV: grave, hell

Root(s): G1, G1492

[?]


ประตูนรกในภาษากรีก ซึ่งภาษาไทยแปลว่าพลังแห่งความตาย ภาษากรีกประตูนรก(the gates G4439 of hell G86)ก็ไม่สามารถทำลายเขาได้ เพราะเขาอยู่ฝ่ายพระเยซู และบนคนที่รับการสำแดงเช่นนี้ บนคนที่ตั้งมั่นคงเช่นนี้ พระเยซูจะสร้างคริสตจักรของพระองค์ไว้


ต้องการให้เราได้ศึกษาเอง โดยใช้คำจากพระคัมภีร์ตอนนี้ที่เลือกมาให้ ให้ดูคำนี้ที่ปรากฏในที่อื่นๆตามที่ได้เลือกมาให้แล้ว ที่มีความเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกันกับข้อความจากพระธรรมตอนนี้ และให้แบ่งปันศึกษากันในกลุ่มว่าได้อะไรบ้างจากคำๆนี้ที่มาจากการศึกษาร่วมกัน


 เสร็จแล้วให้กลุ่มถกกันและแบ่งปันพระพรจากแต่ละคำ

1. คนที่มาหา G2064 ἔρχομαι erchomai (er'-khom-ai) v.

Matt 2:2 “กุมารผู้ที่บังเกิดมาเป็นกษัตริย์ของชนชาติยิวนั้นอยู่ที่ไหน เราได้เห็นดาวของท่านปรากฏขึ้น เราจึงมาหวังจะนมัสการท่าน”


Matt 8:2 ขณะนั้นมีคนโรคเรื้อนมากราบไหว้พระองค์ แล้วทูลว่า “พระองค์เจ้าข้า เพียงแต่พระองค์จะโปรด ก็จะทรงบันดาลให้ข้าพระองค์หายโรคได้”


Matt 9:28 และเมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในเรือน คนตาบอดทั้งสองก็เข้ามาหาพระองค์ พระเยซูตรัสถามเขาว่า “เจ้าเชื่อหรือว่า เรามีอิทธิฤทธิ์จะกระทำการนี้ได้” เขาทูลพระองค์ว่า “ข้าพระองค์เชื่อ พระเจ้าข้า”

Matt 9:29 แล้วพระองค์ทรงถูกต้องนัยน์ตาเขา ตรัสว่า “ให้เป็นไปตามความเชื่อของเจ้าเถิด”


Matt 14:28 ฝ่ายเปโตรจึงทูลตอบพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า ถ้าเป็นพระองค์แน่แล้ว ขอทรงโปรดบอกให้ข้าพระองค์เดินบนน้ำไปหาพระองค์”

Matt 14:29 พระองค์ตรัสว่า “มาเถิด” เปโตรจึงลงจากเรือเดินบนน้ำไปหาพระเยซู


Matt 16:24 ขณะนั้นพระเยซูจึงตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามาให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา


Matt 17:14 ครั้นพระเยซูกับเหล่าสาวกมาถึงฝูงชนแล้ว มีชายคนหนึ่งมาหาพระองค์คุกเข่าลง ทูลว่า

Matt 17:15 “พระองค์เจ้าข้า ขอทรงพระเมตตาแก่บุตรของข้าพระองค์ ด้วยเขาเป็นโรคลมบ้าหมู มีความทุกข์เวทนามาก เคยตกไฟตกน้ำบ่อยๆ


Matt 19:14 ฝ่ายพระเยซูตรัสว่า “จงยอมให้เด็กเล็กๆ เข้ามาหาเรา อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าชาวแผ่นดินสวรรค์เป็นของคนเช่นเด็กเหล่านั้น”


2. คนที่ฟัง G191 ἀκούω akouo (ak-ou'-o) v. ได้ยิน

Mark 2:1 ครั้นล่วงไปหลายวัน พระองค์ได้เสด็จไปในเมืองคาเปอรนาอุมอีก และคนทั้งหลายได้ยินว่าพระองค์ประทับที่บ้าน

Mark 2:2 และคนเป็นอันมากมาชุมนุมกันจนไม่มีที่จะรับ จะเข้าใกล้ประตูก็ไม่ได้ พระองค์จึงเทศนาข่าวนั้นให้เขาฟัง


Mark 4:9 แล้วพระองค์ตรัสแก่เขาว่า “ใครมีหู จงฟังเถิด”


Mark 4:15 ซึ่งตกริมหนทางนั้นได้แก่ พระวจนะที่หว่านแล้ว และเมื่อบุคคลได้ฟัง ในทันใดนั้นซาตานก็มาชิงเอาพระวจนะซึ่งหว่านถูกใจเขานั้นไปเสีย


Mark 4:16 และซึ่งตกที่ซึ่งมีพื้นหินมีเนื้อดินแต่น้อยนั้น ก็ทำนองเดียวกัน ได้แก่บุคคลที่ได้ยินพระวจนะ และก็รับทันทีด้วยความปรีดี

Mark 4:17 แต่ไม่ฝังลึกในตัวจึงทนอยู่ชั่วคราว และเมื่อเกิดการยากลำบากหรือการข่มเหงต่างๆ เพราะพระวจนะนั้น ก็เลิกเสียในทันทีทันใด


Mark 4:18 และพืชซึ่งหว่านกลางหนามนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ฟังพระวจนะ

Mark 4:19 แล้วความกังวลตามธรรมดาโลก และความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ และความโลภในสิ่งอื่นๆ ได้เข้ามาและรัดพระวจนะนั้น จึงไม่เกิดผล


Mark 4:20 ส่วนพืชซึ่งหว่านตกในดินดีนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ยินพระวจนะนั้น และรับไว้ จึงเกิดผลสามสิบเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง ร้อยเท่าบ้าง”


Mark 4:24 พระองค์ตรัสแก่เขาว่า “จงเอาใจจดจ่อต่อสิ่งที่ฟังให้ดี ท่านจะตวงให้เขาด้วยทะนานอันใด จะทรงตวงให้ท่านด้วยทะนานอันนั้น ทั้งจะทรงเพิ่มเติมให้อีก


Mark 4:33 พระองค์ได้ทรงกล่าวแก่เขาถึงข่าวนั้น เป็นคำอุปมาอย่างนั้นหลายประการ ตามที่เขาจะสามารถฟังและเข้าใจได้


Mark 5:27 ครั้นผู้หญิงนั้นได้ยินถึงเรื่องพระเยซู เขาก็เดินปะปนกับประชาชน ที่เบียดเสียดข้างหลังพระองค์ และได้ถูกต้องฉลองพระองค์


Mark 6:55 และเขารีบไปทั่วตลอดแว่นแคว้นล้อมรอบ เอาคนเจ็บป่วยใส่แคร่หามมายังตำบลที่เขาได้ยินข่าวว่าพระองค์อยู่นั้น


Mark 7:25 เพราะทันใดนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีลูกสาวที่ผีโสโครกสิง เมื่อได้ยินข่าวถึงพระองค์ ก็มากราบที่พระบาทของพระองค์


Mark 9:7 แล้วมีเมฆมาปกคลุมเขาไว้และมีพระสุรเสียงออกมาจากเมฆนั้นว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา จงเชื่อฟังท่านเถิด”


Mark 13:7 เมื่อท่านทั้งหลายจะได้ยินเสียงสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม อย่าตื่นตระหนกเลย ด้วยว่าบรรดาสิ่งเหล่านี้จำต้องบังเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายยังไม่มาถึง



3. คำ G3056 λόγος logos (log'-os) n.

Luke 1:20 นี่แน่ะ เพราะท่านมิได้เชื่อถ้อยคำของเราถึงเรื่องที่จะบังเกิดขึ้นตามกำหนด ท่านก็จะเป็นใบ้ไปจนถึงวันที่การณ์เหล่านี้จะสำเร็จ”


Luke 4:22 คนทั้งปวงก็กล่าวชมเชยพระองค์ และประหลาดใจด้วยถ้อยคำอันประกอบด้วยคุณ ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์ และว่า “คนนี้เป็นบุตรของโยเซฟมิใช่หรือ”


Luke 4:32 คนทั้งปวงก็อัศจรรย์ใจด้วยการสอนของพระองค์ เพราะคำของพระองค์ประกอบด้วยสิทธิอำนาจ


Luke 4:36 คนทั้งปวงก็ประหลาดใจนัก พูดกันว่า “คนนี้เป็นอย่างไรหนอ เพราะว่าท่านได้สั่งผีโสโครกด้วยสิทธิอำนาจและด้วยฤทธิ์เดช พวกมันก็ออกมา” (1971)

Luke 4:36 คนทั้งปวงก็ประหลาดใจนักพูดกันว่า "คำนี้เป็นอย่างไรหนอ เพราะว่าท่านได้สั่งผีโสโครกด้วยสิทธิอำนาจและด้วยฤทธิ์เดช มันก็ออกมา" (ไทยคิงเจมส์)


Luke 5:1 ครั้งเมื่อประชาชนกำลังเบียดเสียดพระองค์เพื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า พระองค์ทรงยืนอยู่ที่ฝั่งทะเลสาบเยนเนซาเรท


Luke 6:47 ทุกคนที่มาหาเราและฟังคำของเรา และกระทำตามคำนั้น เราจะแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า เขาเปรียบเหมือนผู้ใด


Luke 7:7 เพราะเหตุนั้นข้าพระองค์จึงคิดเห็นว่า ไม่สมควรที่ข้าพระองค์จะไปหาพระองค์ด้วย แต่ขอพระองค์ตรัสสั่ง และบ่าวของข้าพระองค์จะหายโรค


Luke 8:11 “คำเปรียบนั้นก็อย่างนี้ เมล็ดพืชนั้นได้แก่พระวจนะของพระเจ้า


Luke 8:12 ที่ตกตามหนทางได้แก่ คนเหล่านั้นที่ได้ยินแล้วมารมาชิงเอาพระวจนะจากใจของเขา เพื่อไม่ให้เชื่อและรอดได้


Luke 8:13 ซึ่งตกที่หินนั้นได้แก่คนเหล่านั้นที่ได้ยินแล้ว ก็รับพระวจนะนั้นด้วยความปรีดี แต่ไม่มีราก เชื่อได้แต่ชั่วคราว เมื่อถูกทดลองเขาก็หลงเสียไป

Luke 8:14 ที่ตกกลางหนามนั้นได้แก่คนเหล่านั้นที่ได้ยินแล้วออกไป และความปรารภปรารมย์ ทรัพย์สมบัติ ความสนุกสนานแห่งชีวิตนี้ก็ปกคลุมเขา ผลของเขาจึงไม่เติบโต


Luke 8:15 และซึ่งตกที่ดินดีนั้น ได้แก่คนเหล่านั้นที่ได้ยินพระวจนะด้วยใจเลื่อมใสศรัทธา แล้วก็จดจำไว้ จึงเกิดผลโดยความเพียร


Luke 8:21 แต่พระองค์ตรัสกับเขาว่า “มารดาของเราและพี่น้องของเรา คือคนเหล่านั้นที่ได้ฟังพระดำรัสของพระเจ้าและกระทำตาม”


Luke 10:39 มารธามีน้องสาวชื่อมารีย์ และมารีย์ก็นั่งใกล้พระบาทพระเยซูฟังถ้อยคำของพระองค์ด้วย


Luke 11:28 แต่พระองค์ตรัสว่า “มิใช่เช่นนั้น แต่คนทั้งหลายที่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้า และได้ถือรักษาพระวจนะนั้นไว้ก็เป็นสุข”


Luke 21:33 ฟ้าและดินจะล่วงไป แต่ถ้อยคำของเราจะสูญหายไปหามิได้เลย


Luke 24:44 พระองค์ตรัสกับเขาว่า “นี่เป็นถ้อยคำของเรา ซึ่งเราได้บอกไว้แก่ท่านทั้งหลาย เมื่อเรายังอยู่กับท่านว่า บรรดาคำที่เขียนไว้ในหมวดธรรมบัญญัติของโมเสส และในหมวดผู้เผยพระวจนะและในหมวดสดุดีกล่าวถึงเรานั้น จำเป็นจะต้องสำเร็จ”


4. กระทำตาม G4160 ποιέω poieo (poy-eh'-o) v.

John 2:5 มารดาของพระองค์จึงบอกพวกคนใช้ว่า “จงกระทำตามที่ท่านสั่งเจ้าเถิด”


John 3:21 แต่ผู้ที่ประพฤติชอบก็มาสู่ความสว่าง เพื่อให้เห็นว่า การกระทำของเขานั้นได้กระทำโดยพึ่งพระเจ้า


John 4:34 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “อาหารของเราคือการกระทำตามพระทัยของพระองค์ ผู้ทรงใช้เรามา และทำให้งานของพระองค์สำเร็จ


John 4:54 นี่เป็นหมายสำคัญที่สองซึ่งพระเยซูทรงกระทำ เมื่อพระองค์เสด็จจากแคว้นยูเดียไปยังแคว้นกาลิลี


John 5:19 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า พระบุตรจะกระทำสิ่งใดตามใจไม่ได้ นอกจากที่ได้เห็นพระบิดาทรงกระทำ เพราะสิ่งใดที่พระบิดาทรงกระทำ สิ่งนั้นพระบุตรจึงทรงกระทำด้วย


John 5:29 และจะได้ออกมา บรรดาผู้ที่ได้ประพฤติดีก็ฟื้นขึ้นสู่ชีวิต บรรดาผู้ที่ได้ประพฤติชั่ว ก็จะฟื้นขึ้นสู่การพิพากษา

John 5:29 And G2532 shall come forth G1607; they that have done G4160 good G18, unto G1519 the resurrection G386 of life G2222; and G1161 they that have done G4238 evil G5337, unto G1519 the resurrection G386 of damnation G2920.


John 5:30 “เราจะทำสิ่งใดตามอำเภอใจไม่ได้ เราได้ยินอย่างไรเราก็พิพากษาอย่างนั้น และการพิพากษาของเราก็ยุติธรรม เพราะเรามิได้มุ่งที่จะทำตามใจของเราเอง แต่ตามพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา


John 6:38 เพราะว่าเราได้ลงมาจากสวรรค์ มิใช่เพื่อกระทำตามความประสงค์ของเราเอง แต่เพื่อกระทำตามพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา


John 8:28 พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “เมื่อท่านทั้งหลายจะได้ยกบุตรมนุษย์ขึ้นไว้แล้ว เมื่อนั้นท่านก็จะรู้ว่า เราคือผู้นั้น และรู้ว่าเรามิได้ทำสิ่งใดตามใจชอบ แต่พระบิดาได้ทรงสอนเราอย่างไร เราจึงกล่าวอย่างนั้น


John 8:29 และพระองค์ผู้ทรงใช้เรามาก็ทรงสถิตอยู่กับเรา พระองค์มิได้ทรงทิ้งเราไว้ตามลำพัง เพราะว่าเราทำตามชอบพระทัยพระองค์เสมอ”


John 8:38 เราพูดถึงสิ่งที่เราได้เห็น เมื่ออยู่กับพระบิดาของเรา และท่านทำสิ่งที่ท่านได้ยินมาจากพ่อของท่าน”


John 8:39 เขาทั้งหลายทูลพระองค์ว่า “อับราฮัมเป็นบิดาของเรา” พระเยซูตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “ถ้าท่านทั้งหลายเป็นบุตรของอับราฮัมแล้ว ท่านก็จะทำสิ่งที่อับราฮัมได้กระทำ


John 8:40 แต่บัดนี้ท่านทั้งหลายหาโอกาสที่จะฆ่าเรา ซึ่งเป็นผู้ที่ได้บอกท่านถึงสัจจะที่เราได้ยินมาจากพระเจ้า อับราฮัมมิได้กระทำอย่างนี้


John 8:41 ท่านทั้งหลายย่อมกระทำสิ่งที่บิดาของท่านทำ” เขาทูลพระองค์ว่า “เรามิได้เกิดจากการล่วงประเวณี เรามีพระบิดาองค์เดียวคือพระเจ้า”

John 8:42 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ถ้าพระเจ้าเป็นพระบิดาของท่านแล้วท่านก็จะรักเรา เพราะเรามาจากพระเจ้า และอยู่นี่แล้ว เรามิได้มาตามใจชอบของเราเอง แต่พระองค์ทรงใช้เรามา

John 8:43 เหตุไฉนท่านจึงไม่เข้าใจถ้อยคำที่เราพูด นั่นเป็นเพราะท่านทนฟังคำของเราไม่ได้


John 8:44 ท่านทั้งหลายมาจากพ่อของท่านคือมาร และท่านใคร่จะทำตามความปรารถนาของพ่อท่าน มันเป็นผู้ฆ่าคนตั้งแต่ปฐมกาล และมิได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสาและเป็นพ่อของการมุสา


John 9:31 พวกเรารู้ว่าพระเจ้ามิได้ฟังคนบาป แต่ถ้าผู้ใดยำเกรงพระเจ้า และกระทำตามพระทัยพระองค์ พระองค์ก็ทรงฟังผู้นั้น


John 13:15 เพราะว่าเราได้วางแบบแก่ท่านแล้ว เพื่อให้ท่านทำเหมือนดังที่เราได้กระทำแก่ท่านด้วย


John 13:17 เมื่อท่านรู้ดังนี้แล้วและท่านประพฤติตาม ท่านก็เป็นสุข


John 14:12 “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้ที่วางใจในเราจะกระทำกิจการซึ่งเราได้กระทำนั้นด้วย และเขาจะกระทำกิจที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีก เพราะว่าเราจะไปถึงพระบิดาของเรา


John 14:23 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ถ้าผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะประพฤติตามคำของเรา และพระบิดาจะทรงรักเขา แล้วพระบิดากับเราจะมาหาเขา และจะอยู่กับเขา


John 15:5 เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง ผู้ที่เข้าสนิทอยู่ในเราและเราเข้าสนิทอยู่ในเขา ผู้นั้นก็จะเกิดผลมาก เพราะถ้าแยกจากเราแล้วท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย


John 15:14 ถ้าท่านทั้งหลายประพฤติตามที่เราสั่งท่าน ท่านก็จะเป็นมิตรสหายของเรา


John 15:15 เราจะไม่เรียกท่านทั้งหลายว่าบ่าวอีก เพราะบ่าวไม่ทราบว่านายทำอะไร แต่เราเรียกท่านว่ามิตรสหาย เพราะว่าทุกสิ่งที่เราได้ยินจากพระบิดาของเรา เราได้สำแดงแก่ท่านแล้ว


5. สร้าง G3618 οἰκοδομέω oikodomeo (oy-kod-om-eh'-o) v.

Matt 7:24 “เหตุฉะนั้นผู้ใดที่ได้ยินคำเหล่านี้ของเรา และประพฤติตาม เขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่มีสติปัญญาสร้างเรือนของตนไว้บนศิลา

Matt 7:25 ฝนก็ตกและน้ำก็ไหลเชี่ยว ลมก็พัดปะทะเรือนนั้น แต่เรือนมิได้พังลง เพราะว่ารากตั้งอยู่บนศิลา

Matt 7:26 แต่ผู้ที่ได้ยินคำเหล่านี้ของเราและไม่ประพฤติตามเล่า เขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่โง่เขลา สร้างเรือนของตนไว้บนทราย


Luke 14:28 ด้วยว่าในพวกท่านมีผู้ใดเมื่อปรารถนาจะสร้างตึก จะไม่นั่งลงคิดราคาดูเสียก่อนว่า จะมีพอสร้างให้สำเร็จได้หรือไม่


Rom 15:20 อันที่จริงข้าพเจ้าได้ตั้งเป้าไว้อย่างนี้ว่า จะประกาศข่าวประเสริฐ ในที่ซึ่งไม่เคยมีใครออกพระนามพระคริสต์มาก่อน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่ก่อขึ้นบนรากฐานที่คนอื่นได้วางไว้ก่อนแล้ว


1Cor 14:4 ฝ่ายคนที่พูดภาษาแปลกๆ นั้น ก็ทำให้ตนเองเจริญฝ่ายเดียว แต่ผู้เผยพระวจนะนั้นย่อมทำให้คริสตจักรจำเริญขึ้น


1Thess 5:11 เหตุฉะนั้นจงหนุนใจกันและต่างคนต่างจงก่อกันขึ้น ตามอย่างที่ท่านกำลังทำอยู่นั้น


1Pet 2:5 และท่านทั้งหลายก็เสมือนศิลาที่มีชีวิต ที่กำลังก่อขึ้นเป็นพระนิเวศฝ่ายพระวิญญาณ เป็นปุโรหิตบริสุทธิ์ เพื่อถวายสักการบูชาฝ่ายวิญญาณ ที่ชอบพระทัยของพระเจ้าโดยทางพระเยซูคริสต์



6. ขุด G4626 σκάπτω skapto (skap'-to) v.

Luke 6:48 เขาเปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึก เขาขุดลึกลงไปแล้วตั้งรากบนศิลา และเมื่อน้ำมาท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่ง แต่ทำให้หวั่นไหวไม่ได้ เพราะได้สร้างไว้มั่นคง


Luke 13:8 แต่ผู้รักษาเถาองุ่นตอบเขาว่า ‘นายเจ้าข้า ขอเอาไว้ปีนี้อีก ให้ข้าพเจ้าพรวนดินเอาปุ๋ยใส่


Luke 16:3 คนต้นเรือนนั้นคิดในใจว่า ‘เราจะทำอะไรดี เพราะนายจะถอดเราเสียจากหน้าที่ต้นเรือน จะขุดดินก็ไม่มีกำลัง จะขอทานก็อายเขา



7. ลึกลงไป G900 βαθύνω bathuno (bath-oo'-no) v.

Luke 6:48 เขาเปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึก เขาขุดลึกลงไปแล้วตั้งรากบนศิลา และเมื่อน้ำมาท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่ง แต่ทำให้หวั่นไหวไม่ได้ เพราะได้สร้างไว้มั่นคง


G900 βαθύνω bathuno (bath-oo'-no) v.

1. to deepen

[from G901]

KJV: deep

Root(s): G901

[?]


John 4:11 นางทูลพระองค์ว่า “ท่านเจ้าคะ ท่านไม่มีถังตัก และบ่อนี้ก็ลึก ท่านจะได้น้ำธำรงชีวิตนั้นมาจากไหน


Acts 20:9 ชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อยุทิกัสนั่งอยู่ที่หน้าต่างง่วงนอนเต็มที และเมื่อเปาโลสั่งสอนช้านานไปอีก คนนั้นก็โงกพลัดตกจากหน้าต่างชั้นที่สาม เมื่อยกขึ้นมาก็เห็นว่าตายเสียแล้ว

Acts 20:9 And G1161 there sat G2521 in G1909 a window G2376 a certain G5100 young man G3494 named G3686 Eutychus G2161, being fallen G2702 into a deep G901 sleep G5258: and as Paul G3972 was long G1909 G4119 preaching G1256, he sunk down G2702 with G575 sleep G5258, and fell down G2736 G4098 from G575 the third loft G5152, and G2532 was taken up G142 dead G3498.


G901 βαθύς bathus (bath-oos') adj.

1. profound (as going down)

{literally or figuratively}

[from the base of G939]

KJV: deep, very early

Root(s): G939

Compare: G899

[?]


Acts 3:7 แล้วเปโตรจับมือขวาของเขาพยุงขึ้น และในทันใดนั้นเท้าและข้อเท้าของเขาก็มีกำลัง


G939 βάσις basis (bas'-ece) n.

1. a pace ("base")

2. (by implication) the foot

[from baino "to walk"]

KJV: foot

See also: G922

[?]


8. วาง G5087 τίθημι tithemi (tith'-ay-mee) v.


1Cor 3:10 โดยพระคุณของพระเจ้าซึ่งได้ทรงโปรดประทานแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้วางรากลงแล้วเหมือนนายช่างผู้ชำนาญ และอีกคนหนึ่งก็มาก่อขึ้น ขอทุกคนจงระวังให้ดีว่าเขาจะก่อขึ้นมาอย่างไร


1Cor 3:11 เพราะว่าผู้ใดจะวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์


9. รากฐาน G2310 θεμέλιος themelios (them-el'-ee-os) n.

Luke 6:48 เขาเปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึก เขาขุดลึกลงไปแล้วตั้งรากบนศิลา และเมื่อน้ำมาท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่ง แต่ทำให้หวั่นไหวไม่ได้ เพราะได้สร้างไว้มั่นคง


Luke 6:49 ส่วนคนที่ได้ยินและมิได้กระทำตาม เปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึกบนดินไม่ก่อราก เมื่อกระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่งตึกนั้น ตึกนั้นก็พังทลายลงทันที และความพินาศของตึกนั้นก็ใหญ่ยิ่งนัก”


Luke 14:28 ด้วยว่าในพวกท่านมีผู้ใดเมื่อปรารถนาจะสร้างตึก จะไม่นั่งลงคิดราคาดูเสียก่อนว่า จะมีพอสร้างให้สำเร็จได้หรือไม่

Luke 14:29 เกรงว่าเมื่อลงรากแล้ว และกระทำให้สำเร็จไม่ได้ คนทั้งปวงที่เห็นจะเยาะเย้ยเขา


Acts 16:26 ในทันใดนั้น เกิดแผ่นดินไหวใหญ่จนรากคุกสะเทือนสะท้าน และประตูคุกเปิดหมดทุกบาน เครื่องจำจองก็หลุดจากเขาสิ้นทุกคน


Rom 15:20 อันที่จริงข้าพเจ้าได้ตั้งเป้าไว้อย่างนี้ว่า จะประกาศข่าวประเสริฐ ในที่ซึ่งไม่เคยมีใครออกพระนามพระคริสต์มาก่อน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่ก่อขึ้นบนรากฐานที่คนอื่นได้วางไว้ก่อนแล้ว


1Cor 3:10 โดยพระคุณของพระเจ้าซึ่งได้ทรงโปรดประทานแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้วางรากลงแล้วเหมือนนายช่างผู้ชำนาญ และอีกคนหนึ่งก็มาก่อขึ้น ขอทุกคนจงระวังให้ดีว่าเขาจะก่อขึ้นมาอย่างไร


1Cor 3:11 เพราะว่าผู้ใดจะวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์


1Cor 3:12 บนรากนั้นถ้าผู้ใดจะก่อขึ้นด้วยทองคำ เงิน เพชรพลอย ไม้ หญ้าแห้งหรือฟาง


Eph 2:20 ท่านได้ถูกประดิษฐานขึ้น บนรากแห่งพวกอัครทูตและพวกผู้เผยพระวจนะ พระเยซูคริสต์ทรงเป็นศิลามุมเอก


1Tim 6:19 อย่างนี้จึงจะเป็นการวางรากฐานอันดีไว้สำหรับตนเองในภายหน้า เพื่อว่าเขาจะได้รับเอาชีวิต ซึ่งเป็นชีวิตอันแท้จริง


2Tim 2:19 แต่ว่ารากฐานซึ่งพระเจ้าทรงวางไว้นั้นมีตราประทับไว้ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรู้จักคนเหล่านั้นที่เป็นของพระองค์” และ “ให้ทุกคนซึ่งออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าละทิ้งความชั่วเสีย”


Heb 6:1 เหตุฉะนั้นขอให้เราผ่านหลักธรรมเบื้องต้นแห่งคริสตศาสนา ไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ไม่วางรากฐานซ้ำอีก คือเรื่องการกลับใจจากการประพฤติที่นำไปสู่ความตาย เรื่องความเชื่อในพระเจ้า


Heb 11:10 ท่านได้เฝ้ารอคอยนครที่ตั้งบนรากฐาน ซึ่งพระเจ้าทรงเป็นนายช่างและทรงเป็นผู้สร้าง



10. ศิลา G4073 πέτρα petra (pet'-ra) n.

Matt 7:24 “เหตุฉะนั้นผู้ใดที่ได้ยินคำเหล่านี้ของเรา และประพฤติตาม เขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่มีสติปัญญาสร้างเรือนของตนไว้บนศิลา


Matt 7:25 ฝนก็ตกและน้ำก็ไหลเชี่ยว ลมก็พัดปะทะเรือนนั้น แต่เรือนมิได้พังลง เพราะว่ารากตั้งอยู่บนศิลา


Luke 6:48 เขาเปรียบเหมือนคนหนึ่งที่สร้างตึก เขาขุดลึกลงไปแล้วตั้งรากบนศิลา และเมื่อน้ำมาท่วม กระแสน้ำไหลเชี่ยวกระทบกระทั่ง แต่ทำให้หวั่นไหวไม่ได้ เพราะได้สร้างไว้มั่นคง


Rom 9:33 ดังที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า จงดูเถิด เราได้วางศิลาก้อนหนึ่งไว้ในศิโยน ซึ่งจะทำให้สะดุดและหินก้อนหนึ่งซึ่งจะทำให้ล้ม แต่ผู้ที่เชื่อในพระองค์จะไม่ได้รับความอับอาย


1Cor 10:4 และได้ดื่มน้ำทิพย์ทุกคน เพราะว่าเขาได้ดื่มน้ำซึ่งไหลออกมาจากพระศิลาที่ติดตามเขามา พระศิลานั้นคือพระคริสต์


1Pet 2:8 และ เป็นหินที่ทำให้คนสะดุด และเป็นที่ทำให้คนหกล้ม ที่เขาสะดุดนั้น เพราะเขาไม่เชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า ตามที่เขาถูกกำหนดให้กระทำเช่นนั้น



11. เปโตร G4074 Πέτρος Petros (pet'-ros) n/p.

Matt 4:18 ขณะที่พระองค์ทรงดำเนินอยู่ตามชายทะเลกาลิลี ก็ทอดพระเนตรเห็นพี่น้องชาวประมงสองคน คือซีโมนที่เรียกว่าเปโตร กับอันดรูว์น้องชาย กำลังทอดแหอยู่ที่ทะเลสาบ


Matt 16:16 ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่”

Matt 16:17 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ซีโมนบุตรโยนาห์เอ๋ย ท่านก็เป็นสุขเพราะว่ามนุษย์มิได้แจ้งความนี้แก่ท่าน แต่พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงแจ้งให้ทราบ


Matt 16:18 ฝ่ายเราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร และบนศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นหามิได้


Mark 3:16 และซีโมนนั้นพระองค์ทรงประทานชื่ออีกว่า เปโตร


John 1:42 อันดรูว์จึงพาซีโมนไปเฝ้าพระเยซู พระเยซูทรงทอดพระเนตรเขาแล้วจึงตรัสว่า “ท่านคือซีโมนบุตรยอห์นซีนะ เขาจะเรียกท่านว่าเคฟาส” (ซึ่งแปลว่าศิลา)


John 18:10 ซีโมนเปโตรมีดาบจึงชักออก ฟันทาสคนหนึ่งของมหาปุโรหิตผู้ประจำการถูกหูข้างขวาขาดไป ทาสคนนั้นชื่อมัลคัส


John 18:11 พระเยซูตรัสกับเปโตรว่า “จงเอาดาบใส่ฝักเสีย เราจะไม่ดื่มถ้วย ซึ่งพระบิดาของเราประทานแก่เราหรือ”


Gal 1:18 สามปีต่อมา ข้าพเจ้าขึ้นไปหาเคฟาสที่กรุงเยรูซาเล็ม และพักอยู่กับท่านสิบห้าวัน


Gal 2:7 แต่ตรงกันข้ามเมื่อเขาเห็นว่า ข้าพเจ้าได้รับมอบให้ประกาศข่าวประเสริฐแก่คนเหล่านั้นที่ไม่ถือพิธีเข้าสุหนัต เช่นเดียวกับเปโตรได้รับมอบให้ประกาศข่าวประเสริฐแก่คนที่ถือพิธีเข้าสุหนัต


Gal 2:8 (เพราะว่าพระองค์ผู้ได้ทรงดลใจเปโตรให้เป็นทูต ไปหาพวกที่ถือพิธีเข้าสุหนัต ก็ได้ทรงดลใจข้าพเจ้าให้ไปหาคนต่างชาติเหมือนกัน)


Gal 2:11 แต่เมื่อเคฟาสมาถึงอันทิโอกแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้คัดค้านท่านซึ่งๆ หน้า เพราะว่าท่านทำผิดแน่


Gal 2:14 แต่เมื่อข้าพเจ้าเห็นว่า เขาไม่ได้ประพฤติตรงตามความจริงของข่าวประเสริฐนั้น ข้าพเจ้าจึงว่าแก่เคฟาสต่อหน้าคนทั้งปวงว่า “ถ้าท่านเองซึ่งเป็นพวกยิว ประพฤติตามอย่างคนต่างชาติ ไม่ใช่ตามอย่างพวกยิว เหตุไฉนท่านจึงบังคับคนต่างชาติให้ประพฤติตามอย่างพวกยิวเล่า”



12. นรก Hades G86 ᾅδης hades (hah"-dace) n.

Matt 11:23 และฝ่ายเจ้าเมืองคาเปอรนาอุม เจ้าจะถูกยกขึ้นเทียมฟ้าหรือ มิได้ เจ้าจะต้องลงไปถึงแดนคนตายต่างหาก ด้วยว่าการมหัศจรรย์ซึ่งได้กระทำในท่ามกลางเจ้านั้น ถ้าได้กระทำในเมืองโสโดม เมืองนั้นคงได้ตั้งอยู่จนทุกวันนี้


Matt 16:18 ฝ่ายเราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร และบนศิลานี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นหามิได้


Luke 10:15 ฝ่ายเจ้าเมืองคาเปอรนาอุม เจ้าจะถูกยกขึ้นเทียมฟ้าหรือ มิได้ เจ้าจะต้องลงไปถึงแดนคนตายต่างหาก


Luke 16:23 แล้วเมื่ออยู่ในแดนมรณาเป็นทุกข์ทรมานยิ่งนัก เศรษฐีนั้นจึงแหงนดูเห็นอับราฮัมอยู่แต่ไกล และลาซารัสอยู่ที่อกของท่าน


Acts 2:27 เพราะพระองค์จะไม่ทรงละข้าพระองค์ไว้ในแดนคนตาย ทั้งจะไม่ทรงให้องค์บริสุทธิ์ของพระองค์เปื่อยเน่าไป


Acts 2:31 กษัตริย์ดาวิดก็ทรงล่วงรู้เหตุการณ์นี้ก่อน จึงทรงกล่าวถึงการคืนพระชนม์ของพระคริสต์ว่า พระเจ้ามิได้ทรงละพระองค์ไว้ในแดนคนตาย ทั้งพระมังสะของพระองค์ก็ไม่เปื่อยเน่าไป


1Cor 15:55 โอ มัจจุราชเอ๋ย ชัยชนะของเจ้าอยู่ที่ไหน โอ มัจจุราชเอ๋ย เหล็กไนของเจ้าอยู่ที่ไหน

1Cor 15:55 O death G2288, where G4226 is thy G4675 sting G2759? O grave G86, where G4226 is thy G4675 victory G3534?


Rev 1:18 และเป็นผู้ที่ดำรงชีวิตอยู่ เราได้ตายแล้ว แต่ นี่แน่ะ เราก็ยังดำรงชีวิตอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์ และเราถือลูกกุญแจแห่งความตายและแห่งแดนคนตาย


Rev 6:8 แล้วข้าพเจ้าก็แลเห็น และดูเถิด ม้าสีกะเลียวตัวหนึ่งเข้ามา ผู้ที่นั่งบนหลังม้านั้นมีชื่อว่ามัจจุราช และแดนคนตายก็ติดตามมาด้วย พระองค์ทรงให้ทั้งสองนี้มีอำนาจล้างผลาญแผ่นดินโลกได้หนึ่งในสี่ส่วน ด้วยคมดาบ ด้วยความอดอยาก ด้วยโรคระบาด และด้วยสัตว์ร้ายแห่งแผ่นดิน


Rev 20:13 ทะเลก็ส่งคืนคนทั้งหลายที่ตายในทะเล ความตายและแดนมรณาก็ส่งคืนคนทั้งหลายที่อยู่ในแดนนั้น และคนทั้งหลายก็ถูกพิพากษาตามการกระทำของตนหมดทุกคน


Rev 20:14 แล้วความตาย และแดนมรณาก็ถูกผลักทิ้งลงไปในบึงไฟ บึงไฟนี่แหละเป็นความตายครั้งที่สอง


วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554

C) Experience : ทริปอินเดีย ส่งท้าย

รวมเรื่องทริปอินเดีย


     วันนี้เอาวีดีโอตอนต่างๆที่ไม่ไ้ด้ลงในบล็อกมาให้ดูครับ  เรียงมาตั้งแต่ช่วงวันแรกๆถึงวันท้ายๆ อันไหนที่มีในบล็อกอยู่แล้ว ก็ไม่ไ้ด้เอามาใส่ไว้อีกครับ



นี่คือที่โบสถ์Heavenly feast ณ อำเภอ Thiruvalla ห่างไปจากKottayamที่เราอยู่ 30 กม.


นี่คือโบสถ์youth ที่ Kottayam


นี่คือ Main church ที่ Kottayam ในวันอาทิตย์


ตอนนี้ถ่ายมาจากบนเวทีตอนถูกเชิญขึ้นไปบนเวที คนหนุ่มๆแยกไปอยู่โบสถ์youth อีกที่ ไม่ไกลเกินกิโลจากที่นี่


จากโบสถ์ที่ Kottayam เขาจัดให้เราไปพักที่ Kumali นี่คือระหว่างทางไป Kumali


อาหารในบ้านของดร.อับราฮาม ผู้ที่มีประสบการณ์กับพระเยซูและได้สร้างสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าเอาไว้


จากบ้านดร.อับราฮาม เขาพาเราไปชมทัศนียภาพต่างๆ




นี่คือสถานสงเคราะห์ที่ดร.อับราฮามมาสร้างไว้


เสร็จจากที่นี่ เขาพาเรากลับไปอีกทาง ลัดเลาะไปตามภูเขา และก็พาแวะชมธรรมชาติตามสถานที่ต่างๆ




ถึงบ้านอ.มัทธิว ที่สอบถามพูดคุยถึงการรับใช้ที่อินเดียอยู่นานทีเีดียวครับ บ้านอาจารย์เขาเปิดให้น้ำฝนตกลงมาในบ้านด้วย นี่คือบ้านของนักธุรกิจที่มาเชื่อและรับใช้พระองค์ครับ


นี่คือโบสถ์ที่Cochin


งานประกาศที่ได้ทีมนักร้องเหล่านี้เข้าใจว่ามาจากโบสถ์แม่


ชายทะเลของอินเดีย


ลำน้ำของอินเดีย ที่มีเรือบ้านพักลอยเต็มไปหมด ริมลำน้ำเข้าใจว่าเป็นโบสถ์ที่อ.โธมัีสมาก่อตั้งไว้


สิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือครับ


แผนที่แสดงการเดินทางของโธมัส ล่องมาทางน้ำไปถึงอินเดียในปีค.ศ. 52 ที่Kerala และจบชีวิตลงในปีค.ศ. 72 ที่Tamil nadu

ชีวิตพระเยซูคริสต์ : คำอุปมาว่าด้วยความสว่างแห่งชีวิต

แบ่งปันต่อครับ วันนี้สั้นๆ



Luke 8:16 “ไม่​มี​ผู้ใด​เมื่อ​จุด​ตะเกียง​แล้ว​จะ​เอา​ภาชนะ​ครอบ​ไว้ หรือ​วาง​ไว้​ใต้​เตียง​แต่​ตั้ง​ไว้​ที่​เชิง​ตะเกียง เพื่อ​คน​ทั้ง​หลาย​ที่​เข้า​มา จะ​เห็น​แสง​สว่าง​ได้​
Luke 8:17 ด้วย​ว่า​ไม่​มี​สิ่ง​ใด​ที่​ซ่อน​ไว้​ซึ่ง​จะ​ไม่​ปรากฏ​แจ้ง และ​ไม่​มี​สิ่ง​ใด​ที่​ปิดบัง​ไว้​ซึ่ง​จะ​ไม่​รู้ จะ​ไม่​ต้อง​แพร่ง​พราย
Luke 8:18 เหตุ​ฉะนั้น​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ฟัง​อย่างไร​ก็​จง​เอา​ใจ​จด​จ่อ เพราะ​ว่า​ผู้ใด​มี​อยู่​แล้ว จะ​ทรง​เพิ่ม​เติม​ให้แก่​ผู้​นั้น​อีก แต่​ผู้ใด​ไม่​มี แม้​ซึ่ง​เขา​คิด​ว่า​มี​อยู่​นั้น จะ​ทรง​เอา​ไป​จาก​เขา”

     หลังจากพระเยซูสอนเรื่องพระวจนะที่พระเจ้าได้หว่านลงไปในใจคนแล้ว พระเยซูได้พูดต่อว่าสำหรับคนที่รับพระวจนะนั้น และพระวจนะนั้นได้งอกงามในชีวิตผู้นั้นแล้ว เปรียบเหมือนคนที่จุดตะเกียงชีวิตแล้ว ไม่เหมือนคนที่อยู่ในความมืดเช่นเมื่อก่อน ไม่มีแสงสว่างออกมาจากชีวิตเขา พระเยซูคริสต์ได้บอกว่าโดยปกติแล้วแสงสว่างต้องส่องออกไปในความมืดมิด เป็นแสงสว่างที่สองออกไปให้คนต่างๆเห็นความสว่าง รู้ว่าตรงไหนเป็นหลุมเป็นบ่อ เป็นหุบเขา เป็นเหว ตรงไหนอันตรายไม่ควรไป ตรงไหนปลอดภัย ฯลฯ แสงสว่างนั้นก็ทำหน้าที่นี้ ไม่มีใครที่จุดตะเกียงแห่งแสงสว่างแล้วจะเอาภาชนะครอบไว้เพื่อไม่ให้มีแสง หรือเอาไปไว้ใต้เตียงเพื่อแสงจะไม่ส่องออกไป แต่เขาจะเอาตั้งไว้ในที่ที่จะแพร่กระจายแสงสว่างนั้นออกไปได้่คือที่เชิงตะเกียง

     ชีวิตคริสเตียนก็เช่้นกัน เราเป็นดวงสว่างแห่งโลกใบนี้ ดวงสว่างนั้นต้องส่องให้คนทั้งหลายได้เห็นพระคริสต์ในเรา มิใช่ส่องให้คนทั้งหลายเห็นมุมมืดมิดในเรา มุมมืดมิดในเราต้องถูกขจัดออกไป ต้องให้พระวจนะเป็นกระจกส่องให้เรารู้ตัวเห็นมุมมืดมิดนั้น และขอพระคุณพระเจ้าแห่งพระโลหิตพระคริสต์ชำระชีวิตเราเพื่อเราจะไม่กลับไปทำสิ่งผิดบาปนั้นอีก

     นอกจากนั้นพระเยซูยังพูดต่อไปว่า มุมมืดมิดในเราจะไม่สามารถซ่อนไว้ได้ เพราะพระคัมภีร์บอกว่า ไม่มีสิ่งใดที่ซ่อนไว้ซึ่งจะไม่ปรากฏแจ้ง แม้ท่านคิดจะซ่อนไว้จากมนุษย์ แต่ท่านอย่าลืมพระเจ้าอยู่เบื้องบน ทรงเห็นทุกสรรพสิ่งในชีวิตเรา ทรงเห็นทุกอิริยาบท ทรงเห็นทุกความคิดในเรา ฯลฯ ให้เราถ่อมใจเข้ามาพึ่งพระคุณของพระองค์สารภาพรับการยกโทษบาปดีกว่า

     สิ่งที่พระเยซูพูดสอนนั้น พระองค์บอกให้ฟังให้ดี จดจ่อที่จะฟัง อย่าฟังแล้วเลยผ่านไป แล้วลืมว่าพระองค์บอกว่ากระไร เพราะคนที่มีพระวจนะนั้นในใจ พระองค์จะเพิ่มเติมพระวจนะ แสงสว่างแห่งชีวิตนั้นให้อีก แต่คนที่คิดว่าตนเองมีแสงสว่างแห่งชีวิต แล้วไม่เคยคิดสำรวจตัวเอง คอยจ้องมองแต่ผู้อื่น ความผิดของผู้อื่น ฯลฯ พระเยซูบอกว่าแม้สิ่งที่เขาคิดว่าเขามี ก็จะต้องเอาไปจากเขา

     ขอพระเจ้าประทานทุกสรรพสิ่งในสวรรค์สถานให้มีบริบูรณ์ในชีวิตของท่านทั้งหลายทุกท่านครับ

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

C) Experience : ทริปอินเดีย 12

รวมเรื่องทริปอินเดีย


ในห้องรอขึ้นเครื่องที่Kochi

เครื่องบินที่จอดที่มุมไบ

ถ่ายจากเครื่องที่มุมไบ

เหนือขอบเมฆ ซึ่งในภาษากรีกนี่คือสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง

บ๋าย บาย.. ลาก่อน.. อินเดีย

     สวัสดีครับ วันนี้ผมมาอยู่ประเทศไทยแล้วครับ การเดินทางกลับของเราง่ายกว่าขาเข้ามาเพราะไม่ต้องลากกระเป๋าเดินทางเปลี่ยนเครื่องเอง แต่ว่าใช้เวลานานมากกว่าจะไปถึงอีกเครื่องได้ เพราะการตรวจสแกนกระเป๋าของพวกเขามีหลายครั้งมาก การบินลงพื้นดินประเทศไทยก็น่าตื่นเต้นมากเพราะว่าฝนตก ตอนเขาเอาล้อมาแตะพื้นแรงมากครับ มารู้เอาภายหลังจากบางท่านว่า เพื่อให้ยางเครื่องบินสัมผัสพื้นแบบแน่นๆ จับพื้นผิวได้ไม่แฉลบ ไม่เหมือนตอนบินลงเวลาฝนไม่ตก
   
     ขอสรุปสิ่งที่ได้รับจากการเดินทางทริปนี้โดยสังเขปดังนี้ครับ



  1. ได้เห็นสภาพการรับใช้ที่Kottayam ทั้งด้านฝ่ายอภิบาลและด้านสังคม
  2. ประทับใจเด็กๆที่สถานสงเคราะห์ที่มีชีวิตกับพระคริสต์มาก
  3. ได้เห็นตัวอย่างความกระตือรือล้นความเป็นเอกภาพของพี่น้องในการจัดงานประกาศที่Cochin
  4. ได้เห็นแนวคิดการรับใช้ของอ.มัทธิว
  5. ได้ยินตัวอย่างคำพยานของบุคคลต่างๆที่เต็มไปด้วยการอัศจรรย์
  6. ได้เห็นตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีในการรับใช้
  7. ได้เรียนรู้การดำเนินชีิวิตในวัฒนธรรมที่ต่างจากบ้านเรา
  8. ได้เห็นสภาพการอวยพรของพระเจ้าลงมาบนที่ที่มีการตอบสนอง ผิดกับที่ที่มีการข่มเหง
  9. ได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของประเทศที่เต็มไปด้วยผู้คน
  10. ได้ลองรับประทานอาหารแปลกๆที่ต่างจากบ้านเรา
  11. ได้เห็นภูมิประเทศที่สวยงาม เต็มไปด้วยต้นไม้ น้ำตก ลำน้า ฯลฯ
  12. ได้เห็นการใช้เวลาในการเดินทางในอินเีดียที่ยาวนานกว่าบ้านเรามาก
  13. ได้เห็นความมุมานะก้าวต่อไปแม้โดนต่อต้านจากฮินดูที่Kottayam
  14. ได้เห็นการเปิดงานใหม่ เช่น งานวัยรุ่นด้วยทัศนะ "เป็นไปตามธรรมชาติ"
  15. ได้เห็นการจัดองค์ประกอบคจ.วันอาทิตย์ของวัยรุ่นอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งการต้อนรับ บรรยากาศแบบวัยรุ่นที่เหมาะสมกับคนที่มา เทคโนโลยี ฯลฯ
  16. ได้เห็นการจัดการประกาศที่แปลกจากบ้านเรา คือไม่นำรับเชื่อ
     สำหรับสิ่งที่เขียนไว้ก่อนไป 5 อย่าง ว่าคาดหวังว่าจะได้เห็นก็ได้เห็นหมดแล้ว และเข้าใจว่าสิ่งที่เป็นจุดเน้นของคจ.แห่งนี้อย่างหนึ่งคือ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระคริสต์ ทำให้ทุกคนรู้ว่าไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ เพราะพระองค์รักเราอย่างมาก เมื่อเรารู้ว่าพระองค์รักเรา เราก็พร้อมจะตอบสนองและทำตามพระทัยของพระองค์ทุกสิ่งทุกอย่าง  ซึ่งสิ่งที่ผมสรุปไว้ตอนท้ายนี้จะใช่เป็นเอกลักษณ์ของคจ.ที่นี่หรือเปล่าไม่ทราบได้ แต่สำหรับผมอยากเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นเต็มขนาดในคจ.ของเรา พระเจ้าอวยพระพรพี่น้องทุกท่านครับ  แล้วพบกันใหม่เมื่อมีโอกาสเดินทางไปตามที่ต่างๆครับ

วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

C) Experience : ทริปอินเดีย 11

รวมเรื่องทริปอินเดีย

     วันนี้วันจันทร์ที่ 8 แล้ว เกือบจะได้กลับไทยแล้ว วันนี้เขาพาไปชมน้ำตกอินเดีย แต่เนื่องจากไม่ได้บอกเวลาไปเอาไว้ ผมตื่นสายและกำลังจะไปกันแล้ว จึงคิดว่าอยู่ที่พักแสวงหาพระเจ้า คิดทบทวนเรื่องที่มาอยู่อินเดียรวมทั้งจัดของลงกระเป๋าดีกว่า

     เอารูปหรือวีดีโอที่ถ่ายไว้แต่ไม่ได้เอาลงบล็อกมาให้ดูครับ

รถที่ใช้ในงานของKottayam

โบสถ์แม่ที่Kottayam คนล้นไปยืนที่ด้านหลัง รถที่ขับมาก็มีไม่มาก คนที่นี่ส่วนใหญ่จะยากจน ดูผิดตากับที่Cochinเลย ด้วยเหตุนี้ละมั๊งที่อ.มัทธิวเผยพระวจนะว่าCochinจะเติบโตเป็นโบสถ์ใหญ่

ที่นี่มีแต่ผู้ใหญ่เพราะแยกคนหนุ่มสาวออกไปแล้ว และหนุ่มสาวกลุ่มนี้เป็นกำลังสำคัญสำหรับการจัดงานประกาศที่Cochin

เห็นห้องประชุมโล่งๆอย่างนี้ Hitechนะครับ เมื่อวานส่งสัญญาณอ.มัทธิวหนุนใจคนที่นี่จากCochinมาถึง
นี่

Keralaอุดมสมบูรณ์จริงๆ สายน้ำตกที่เห็นนี้เป็นส่วนหนึ่ง บางช่วงเห็นสามสี่สายไหลลงมา อย่างที่ได้เล่าให้ฟังละครับ พระเจ้าอวยพระพรรัฐที่ตอบสนองกับรัฐที่ทำร้ายผู้รับใช้พระเจ้า เห็นได้ชัดเจนจริงๆ

คนที่กำลังยืนพูด(เสื้อขาว)กับคนงานคนนี้แหละครับที่เมื่อวานเช้า อ.มัทธิวบอกจะส่งไปทำพันธกิจทั่วโลก

กล้วยชุบแป้งทอดที่บ้านดร.อับราฮามที่เราไปพักบนเขาอันนี้แหละครับ อร่อยมาก

แป้งอันนี้ก็อร่อยมากครับ กรอบอร่อย ผิดกับที่โรงแรมที่มาพักเลย ไม่กรอบ ไม่อร่อย

สระน้ำบนยอดภูเขาหน้าบ้านดร.อับราฮาม อ.เกียงกับอ.อารมณ์ ตกปลาได้สองตัว และปูอีกหนึ่งตัว เป็นอาหารสำหรับพวกเรา

ยอดภูเขาที่แสนร่มรื่นและเย็นสบาย

วิโนจน์คนที่พาเราชมทัศนียภาพ และคนนี้ที่อ.มัทธิวบอกจะส่งไปพันธกิจต่างแดน

ฟรุตสลัดของเขา

ทากตัวดูดเลือดที่หลายคนกลัวกัน โดยเฉพาะอ.สิทธิชัยที่วันนี้จะไม่ไปน้ำตกก็เพราะเจ้าตัวนี้ละครับ แต่สุดท้ายก็ไป สรุปแล้วคนที่โดนดูดเลือดมีสามคน คือ อ.พรทิพย์ อ.สิทธิชัย อ.อารมณ์

ระหว่างทางแวะทานอาหารที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง นี่เขาต้อนรับมั๊งครับ มีแป้งทาหน้าผาก

รถที่พวกเราเห็นแล้วบอกว่าน่าเอาไปทำรถพันธกิจ

ที่อินเดียมีล๊อตเตอรี่ขายด้วย

คนยากจนในอินเดีย ชายแดนต่อกับรัฐTamil Nadu

เพิ่งเห็นแม่ชีแต่งตัวสีแบบนี้

พอข้ามรัฐTamil Naduมา ก็เห็นบ้านเรือนแบบนี้ละครับ ฝาบ้านทำด้วยใบไม้ใบหญ้า

ที่นี่วัวเป็นเจ้าถนน ตอนกลับผมเห็นกวางวิ่งข้ามถนนไปด้วย กวางมาวิ่งในเมือง แสดงว่าป่ายังอุดมสมบูรณ์อยู่ หรือว่าเขาไม่ทำร้ายสัตว์ เพราะคนอยู่ทุกที่ ผ่านไปทางไหนเห็นแต่คน

ตอนกลับจากKumali ผ่านไปทางไหนก็มีแต่ต้นชา(Tea)

เขากั้นเอาไว้ให้คนจอดรถชมเขาชมหมอก(ซึ่งผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเมฆมากกว่าเพราะตรงนี้สูงมาก)

สายน้ำในทางที่เราผ่าน

เนินนี้เข้ามาชมเสียเงินนะครับ ผู้นำครน.ก็พูดกันใหญ่ว่านี่เป็นฉากที่เราเห็นในหนังอินเดีย ผู้ชายผู้หญิ่งวิ่งข้ามเนินกันไปมา

นี่อ.สิทธิชัยบอกให้ถ่ายภาพสุภาพสตรีอินเดียเก็บไว้หน่อย

หน้าอูฐหล่อๆริมชายหาด

ที่ชั่งปลาขายริมทะเล

รถไฟที่ผ่านไป ขบวนยาวมากน่าจะยาวครึ่งกิโลได้เลย และรถที่รอก็ต้องดับเครื่องยนต์

นี่โบสถ์ที่อยู่ริมแม่น้ำที่เรามาล่องเรือ เข้าใจว่าเป็นโบสถ์ที่โธมัสมาตั้ง

เรือเหล่านี้ก็บ้านดีดีนี่เองครับ มีทุกอย่างบนเรือ ห้องนอน ห้องน้ำ ทีวี ครัว ตู้เย็น ฯลฯ 

การซักผ้าในแม่น้ำแบบนี้มีให้เห็นตลอดทางครับ เขาเอาผ้าฟาดหิน แล้วก็ขยำๆ

มีฝรั่งมาพายเรือเที่ยวด้วย เรือใหญ่บางลำแบบที่เรามามีผู้หญิงอยู่คนเดียวเป็นผู้โดยสาร ช่างกล้าหาญเสียจริงๆท่องเที่ยวคนเดีย

แหมเป็ดพวกนี้ ช่างมีความสุขกันจังเลยน่ะ

ที่ประเทศอินเดียมีพรรคคอมมิวนิสท์ด้วย

กุ้งแม่น้ำนี้กิโลละพันเชียว เลยไม่เอา

แม่น้ำนี้กว้างใหญ่มากครับ

อีกวันหนึ่งที่ไปเยี่ยมชมโบสถ์ที่โธมัสมาก่อตั้ง เสานี้อะไรก็ไม่รู้ อยู่หน้าห้องที่เห็นคนเข้าไปสงบจิตใจกัน

นี่ที่การประชุมเช้าวันอาทิตย์ นักร้องBack upด้านหลังบนเวที

กำลังถ่ายทอดสดอยู่

คนปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาจะใส่หมวกขาวกันแบบนี้

จบแล้วครับ แล้วพบกันใหม่ที่กรุงเทพฯครับ พรุ่งนี้ผมจะบินกลับ ต้องไปผจญภัยผ่านด่านอีกแล้วเหมือนขามา