วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บทที่ 10 บทสรุปชีวิตผู้เลี้ยง



บทที่ 10 บทสรุปชีวิตผู้เลี้ยง

     จากที่เราได้เรียนมาทั้งหมด อยากให้เราได้ทบทวนวัตถุประสงค์ที่เราตั้งเอาไว้สำหรับวิชานี้ดังนี้

จุดประสงค์การเรียนวิชานี้

1.     ต้องการให้ผู้เรียนเข้าใจภาพการปกครองดูแลฝูงแกะของพระเจ้าตามหลักการพระคัมภีร์

2.     ต้องการให้ผู้เรียนไม่เพียงมีความเข้าใจแต่นำไปใช้ในการปฏิบัติดูแลฝูงแกะของพระเจ้า

3.     ต้องการให้ผู้เรียนซึมซับวิญญาณพระคริสต์ในฐานะพระผู้เลี้ยงที่ทรงรักฝูงแกะ

4.     ต้องการให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ความห่วงใยของพระคริสต์ที่มีต่อชีวิตตนเอง และนำสิ่งนั้นไปดูแลผู้อื่นต่อไปได้

5.     ต้องการให้ผู้เรียนได้เข้าใจว่า ฝูงแกะเป็นของพระคริสต์ เราเป็นเพียงผู้อารักขาดูแลฝูงแกะของพระเจ้า และเราต้องทำหน้าที่ที่พระคริสต์ฝากให้เราดูแลอย่างดีที่สุด

6.     ต้องการเห็นผู้เลี้ยงเกิดขึ้นมากมายผ่านการเรียนในชั้นนี้  ฯลฯ

ชีวิตผู้เลี้ยงที่มีรูปแบบการรับใช้ วิญญาณในการปรนนิบัติ ท่าทีแห่งความรักที่ยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิตของตนเองแบบพระเยซูคริสต์สำคัญ  ถ้าเราไม่มีพระเยซูคริสต์ เราคงยังหลงทางอยู่ในโลกที่มืดมิด พระองค์ฟูมฟัก ดูแลเรา นำทางเรา ไปสู่ปลายทางที่พระองค์ประสงค์ให้เราไปคือชีวิตนิรันดร์ ได้ครอบครองแผ่นดินสวรรค์ร่วมกับพระองค์

พระองค์ประทานให้มีผู้เลี้ยงมากมายเกิดขึ้นในคจ. โดยมีวิญญาณของพระคริสต์อยู่ภายใน เป็นเช่นShepherd    pastors เฝ้าดูแลรักษาพวกเราตลอดไป 

สิ่งที่เราต้องระมัดระวังท่าทีของเราในการดูแลฝูงแกะของพระคริสต์ คือ เราไม่ได้เป็นเจ้าของฝูงแกะ ฝูงแกะเหล่านี้มีพระผู้เลี้ยงเพียงผู้เดียว เราทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล ผู้อารักขาบทบาทหน้าที่ที่พระเจ้ามอบหมายให้เราดูแล  เมื่อเราสั่งสอนสิ่งใดเราควรชี้ไปที่พระคริสต์ ให้พระคริสต์เป็นศูนย์กลางแห่งใจของเหล่าแกะที่อ่อนๆทั้งหลาย

·      เมื่อมองดูโลกกว้างใหญ่ พวกเขาเป็นฝูงแกะของพระเจ้าที่ไม่มีผู้เลี้ยงคอยดูแล

·      เราต้องพาเขามาอยู่ในคอกของพระเจ้า ด้วยการประกาศ เป็นพยาน การดำเนินชีวิตที่สำแดงสง่าราศีของพระคริสต์ในชีวิตเรา

·      เมื่อเราประกาศ เป็นพยาน แล้วเขาต้อนรับพระคริสต์ ได้รับการบังเกิดใหม่ เป็นเหมือนลูกแกะตัวน้อยๆที่เพิ่งเกิด  เราต้องคอยดูแลทะนุถนอมเขา ป้อนอาหารอ่อนให้กับเขา (อาหารอ่อนที่ดีที่สุดคือพระวจนะ พระวจนะตอนที่ง่ายๆจากพระธรรมฮีบรู หรือจากตัวอย่างที่อ.จำเนียรใช้สอนผชม.  บัญชีรายชื่อหัวข้อที่สอน.....) เพื่อเขาจะค่อยๆเติบโตขึ้นมาในทางพระเจ้า โดยดูลักษณะชีวิตจากเราเหมือนเราติดตามพระคริสต์

·      คอยเฝ้าระวังภัยให้กับเขา ให้พ้นจากสุนัขป่า ฯลฯ ที่คอยล่อลวงเขา  เช่น คำสอนผิด ลัทธิสอนผิด การดำเนินชีวิตผิดๆ ความเข้าใจผิดๆ ค่านิยมผิดๆของโลก ฯลฯ

·      ให้เขาได้รับอาหารที่เหมาะสมกับวัยของเขา ยากขึ้นๆ อาหารแข็งมากขึ้น

·      รอด  รู้  รับใช้ เป็นคำพูดของผู้นำท่านหนึ่ง นำเขา เป็นแบบอย่างแก่แกะผู้นั้น ทั้งในชีวิตส่วนตัว การรับใช้ ฯลฯ  นำพาจนแกะอ่อนกลายเป็นแกะที่เติบโตเต็มวัย สามารถหาอาหารกินเอง แทนการป้อนนมหรืออาหารอย่างอ่อน

·      ผู้เลี้ยงยังคงเป็นแบบอย่างชีวิตต่อไป อธิษฐานเผื่อ โดยตระหนักเสมอว่า เราไม่ได้เป็นเจ้าของชีวิตของพวกเขา เราเป็นผู้อารักขาดูแลแกะของพระเจ้า  เราต้องทำให้มั่นใจได้ว่าเขาจะสามารถรับอาหารกินเอง อย่างถูกต้อง เหมาะสม สมดุลย์ ครบถ้วน จนกว่าจะถึงวันนั้นที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จมารับเขาไปอยู่กับพระองค์


วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บทที่ 9 ผู้เลี้ยงที่ยิ่งใหญ่



บทที่ 9 ผู้เลี้ยงที่ยิ่งใหญ่

Heb 13:20 บัดนี้ขอพระเจ้าแห่งสันติสุข ผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้าของเราเป็นขึ้นมาจากความตาย คือผู้ทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ยิ่งใหญ่ โดยพระโลหิตแห่งพันธสัญญานิรันดร์นั้น

ใครคือผู้เลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ คือพระเยซูคริสต์  ดูสิ่งที่พระเยซูพูดถึงฝูงแกะในพระคัมภีร์ เรามักมองเป็นที่ที่ เป็นคจ.แต่ละคจ.  แต่พระเยซูคริสต์มองเป็นแกะฝูงเดียวกัน และมีผู้เลี้ยงเพียงผู้เดียว  ด้วยเหตุนี้เราจึงควรมองฝูงแกะในสายตาของพระเยซูคริสต์ มีความห่วงใยฝูงแกะของพระเจ้าทุกตัว  แต่ในการดูแลจริงก็มีคอกแต่ละคอกในการดูแล
มีทั้งภาพรวมและภาพย่อยในการดูแลฝูงแกะ
vยน. 10:16  ฝูงเดียว ผู้เลี้ยงเดียว
John 10:16 แกะอื่นซึ่งมิได้เป็นของคอกนี้เราก็มีอยู่ แกะเหล่านั้นเราก็ต้องพามาด้วย และแกะเหล่านั้นจะฟังเสียงของเรา แล้วจะรวมเป็นฝูงเดียว และมีผู้เลี้ยงเพียงผู้เดียว


ในอุดมคติพระเยซูมองเป็นแกะคอกเดียวกัน จะอยู่คจ.ใดก็เป็นคอกเดียวกัน จะอยู่ประเทศใดก็เป็นคอกเดียวกัน  แต่ในความเป็นจริงสมัยปัจจุบันการดูแลฝูงแกะแต่ละแห่งแต่ละที่ก็แตกต่างกันไป มาตรฐานในการดูแลก็แตกต่างกันไป บางแห่งอ่อน บางแห่งเข้มข้น ก็เป็นไปตามลักษณะการปกครองดูแลของแต่ละคจ.  แต่จะมีวันหนึ่งที่เราทั้งหลายจะอยู่รวมกันเป็นฝูงเดียว ถึงวันนั้นเราคงไม่มาถามกันแล้วว่า เรามีแนวความคิดอย่างไรในการดูแลคจ. ฯลฯ เพราะทุกสิ่งจะถูกเปิดเผยหมด และเราทุกคนจะรู้ทุกสิ่งอย่างเท่าเทียมกัน บางทีเราขัดแย้งกันในหมู่สมาชิกระหว่างคจ. อาจเป็นเพราะว่าเรายังไม่รู้ทุกสิ่ง ยังไม่ได้รับการเปิดเผยหมดทุกอย่างก็เป็นได้  ดังนั้นในระหว่างนี้แต่ละคริสตจักรเชื่อ สมาชิกแต่ละคนเชื่ออย่างไร ก็อยู่รวมกัน นมัสการกันเป็นกลุ่มๆ เป็นแต่ละคจ.ไปก่อน

vฮบ. 13:20  พระเยซู ผู้เลี้ยงแกะที่ยิ่งใหญ่ (คิงเจมส์)  Jesus – great shepherd
Heb 13:20 บัดนี้ขอพระเจ้าแห่งสันติสุข ผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้าของเราเป็นขึ้นมาจากความตาย คือผู้ทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ยิ่งใหญ่ โดยพระโลหิตแห่งพันธสัญญานิรันดร์นั้น


vพระผู้เลี้ยงใหญ่ G750  The chief shepherd    1ปต. 5:4 (มีกล่าวถึงครั้งเดียว)
1Pet 5:4 และเมื่อพระผู้เลี้ยงผู้ยิ่งใหญ่จะเสด็จมาปรากฏ ท่านทั้งหลายจะรับศักดิ์ศรีเป็นมงกุฎที่ร่วงโรยไม่ได้เลย

vผู้เลี้ยง ผู้อารักขา     พระเยซูเป็นผู้เลี้ยงที่ยิ่งใหญ่
อซ. 4:11  shepherd = pastors
Eph 4:11 ของประทานของพระองค์ ก็คือให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์


vพระเจ้าตั้งบางคนไว้เป็นผู้เลี้ยง ในฐานะเป็นผู้อารักขาฝูงแกะของพระเจ้า

1ปต. 2:25 shepherd and bishop of your souls
1Pet 2:25 เพราะว่าท่านทั้งหลายเป็นเหมือนแกะที่พลัดฝูงไป แต่บัดนี้ได้กลับมาหาพระผู้เลี้ยงและผู้พิทักษ์วิญญาณจิตของท่านทั้งหลายแล้ว

vพระผู้เลี้ยงคือพระเยซูคริสต์

ผู้เลี้ยงผู้อารักขา

1 เปโตร 5:1- 4 1   เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงตักเตือนบรรดาผู้ใหญ่ในพวกท่านทั้งหลาย ในฐานะที่ข้าพเจ้าก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง และเป็นพยานถึงความทุกข์ทรมานของพระคริสต์ และมีส่วนที่จะรับศักดิ์ศรีอันจะมาปรากฏภายหลัง  จงเลี้ยงฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ในความดูแลของท่านเอาใจใส่ดูแล ไม่ใช่ ด้วยความฝืนใจ แต่ ด้วยความเต็มใจตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ไม่ใช่ ด้วยการเห็นแก่ทรัพย์สิ่งของที่ได้มาโดยทุจริต แต่ ด้วยใจเลื่อมใส  3  และ ไม่ใช่ เหมือนเป็นเจ้านายที่ข่มขี่ผู้ที่อยู่ใต้อำนาจ แต่ เป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะนั้น  4 และเมื่อพระผู้เลี้ยง          ผู้ยิ่งใหญ่จะเสด็จมาปรากฏ ท่านทั้งหลายจะรับศักดิ์ศรีเป็นมงกุฎที่ร่วงโรยไม่ได้เลย

§    และ บทที่ 5 ข้อ 1 แนะนำตัวเองว่า เป็น ผู้ใหญ่ ของคริสตจักร
(1ปต.5:1  ในฐานะข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่...)
o  ฉบับ 1971 แปลว่า ผู้ใหญ่
o  ฉบับ ThaiKJV  แปลว่า ผู้ปกครอง
o  ฉบับ TSV แปลว่า ผู้อาวุโส
o  ต้นฉบับ <G4245 πρεσβύτερος   (pres-boo'-ter-os) adj.>

§    การแนะนำฐานะของตนในบทที่ 5:1 เช่นนี้  แสดงถึงความอ่อนสุภาพของอัครทูตเปโตรที่ไม่ได้ทำตัวเหนือกว่าบรรดาผู้ใหญ่ในคริสตจักรที่ได้รับจดหมายฝากฉบับนี้ แม้ตัวของท่านจะอยู่ในสถานะของ อัครทูต 

§    คำว่า ผู้ใหญ่ หรือ ผู้ปกครอง หรือ ผู้อาวุโสคริสตจักร  มีที่มาของ          การเรียกชื่อ หรือตำแหน่งนี้
o    แต่เดิมเป็นคำที่เรียกผู้อาวุโสที่ได้รับการยอมรับในสังคมดั้งเดิม        ของชาวยิว 
o    เมื่อเปโตรใช้คำนี้...หมายถึงเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับนับถือ                 และทำบทบาทหน้าที่ปกครองหรือดูแลฝูงแกะของพระเจ้า (คริสตจักร)

§      เหตุฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงตักเตือน...
§      เหตุฉะนั้น เหตุไฉน?
§      เหตุเพราะคริสตจักรอยู่ในภาวะอันตราย จำเป็นที่ผู้ใหญ่ในคริสตจักรต้องดูแลอย่างเอาใจใส่  (บริบท : บทที่ 4 ถูกข่มเหง)
(สถานการณ์ของคริสตจักรที่ได้รับจดหมายฝากในขณะนั้น เผชิญกับการข่มเหงภายใต้การปกครองของจักรพรรดิเนโรแห่งกรุงโรม)
(ผู้เชื่อถูกทรมาน ถูกฆ่าเพราะความเชื่อ)
(คริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็มต้องกระจัดกระจายไปทั่วแถบทะเล                เมดิเตอร์เรเนียน)

§      ในฐานะเดียวกันนี้ และอยู่ในสถานการณ์เดียวกันนี้..ของเปโตร                
o    เปโตรเข้าใจว่าผู้ใหญ่ในคริสตจักรเป็นอย่างดีว่า ต้องทำหน้าที่อะไร มีบทบาทอะไร  และมีอะไรต้องพึงระมัดระวัง

เรื่องอะไรที่เปโตรอ้อนวอน วิงวอน อยากให้คำแนะนำ?
§      คำตอบ พบใน ข้อ 2 เรื่อง การเป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะของพระเจ้า

§      ฝูงแกะ ของพระเจ้า
§      ทำไมเป็นฝูงแกะของพระเจ้าเท่านั้น?
§      เพราะพระองค์เป็นผู้ไถ่
§      ผู้จ่ายราคา คือพระคริสต์ (ด้วยราคาที่สูงมาก : พระโลหิต 1ปต.1:18-19; กจ.20:28)
1ปต.1:18 ท่านรู้ว่าพระองค์ได้ทรงไถ่ท่านทั้งหลายออกจากการประพฤติอันหาสาระมิได้ ซึ่งท่านได้รับต่อจากบรรพบุรุษของท่าน มิใช่ไถ่ไว้ด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้ เช่นเงินและทอง 19 แต่ทรงไถ่ด้วยพระโลหิตประเสริฐของ      พระคริสต์ ดังเลือดลูกแกะที่ปราศจากตำหนิหรือจุดด่าง

กจ. 20:28         ท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้ดี และจงรักษาฝูงแกะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงตั้งท่านไว้ให้เป็นผู้ดูแล และเพื่อจะได้ปกครองคริสตจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์ทรงได้มาด้วยพระโลหิตของ             พระองค์เอง
§      ผู้จ่ายราคา
o    ไม่ใช่ ผู้ใหญ่ ไม่ใช่ผู้อาวุโส ไม่ใช่ผู้ปกครอง  
o    ไม่ใช่ศิษยาภิบาล ไม่ใช่ผู้เลี้ยง
§      เพราะไม่ได้เป็นคนจ่ายราคาค่าไถ่ จึงไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของฝูงแกะ
มีสิทธิเดียวที่ได้รับมอบจากพระเจ้า คือ เป็น “ผู้ดูแล”

§      ฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ในความดูแล  (1ปต.5:2; กจ.20:28)
1ปต.5:2 จงเลี้ยฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ในความดูแลของท่าน                     
กจ. 20:28      ท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้ดี และจงรักษาฝูงแกะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงตั้งท่านไว้ให้เป็นผู้ดูแล

o   สิทธิที่มี คือ ผู้ดูแล ไม่ใช่ เจ้าของ
o    สิทธินี้ที่ต้องรักษา ดุจผู้อารักขาของๆ พระเจ้า
§      ต้องรู้สิทธินี้ ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย ใครอยากได้ เอาไปเลย แล้ว                      ไม่สนใจว่า เขาไปได้ดี หรือไม่ได้ดี  
      (สนใจด้วยสิทธิของการเป็นผู้ดูแล ไม่ได้ ช่วงชิงในฐานะเป็นเจ้าของ)
§      ไม่สนใจว่า เขาอยู่ในมือผู้เลี้ยงแกะ หรืออยู่ในมือผู้ขโมยแกะ 
§      เพราะผู้ดูแลแกะของพระเจ้าต้องกล่าวรายงานต่อเจ้าของ (ฮบ.13:17)
ฮบ.13:17        ท่านทั้งหลายจงเชื่อฟังและยอมอยู่ในโอวาทของหัวหน้าของท่าน             จงให้เขาทำงานนี้ด้วยความชื่นใจ ไม่ใช่ด้วยความเศร้าใจ ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์อะไรแก่ท่านทั้งหลายเลย เพราะว่าท่านเหล่านั้นดูแลรักษาจิตวิญญาณของท่านอยู่ เสมือนหนึ่งผู้ที่จะต้องเสนอรายงาน

§      นี่คือ สาระหลัก ของคำเตือนที่เปโตรกล่าวกับผู้ใหญ่ หรือผู้อาวุโส หรือผู้ปกครองคริสตจักรที่มีบทบาทหน้าที่ดูแลฝูงแกะของพระเจ้า
§      สังเกตได้ว่าลักษณะการเตือนของเปโตร เชื่อมด้วยคำว่า แต่
o    ไม่ใช่ด้วยความฝืนใจแต่ด้วยความเต็มใจ
o    ไม่ใช่ด้วยการเห็นแก่ทรัพย์สิ่งของที่ได้มาโดยทุจริต แต่ด้วยใจเลื่อมใส
o    ไม่ใช่ด้วยเหมือนเป็นเจ้านายที่ข่มขี่ผู้ที่อยู่ใต้อำนาจ แต่เป็นแบบอย่าง

ลักษณะด้านลบ
ลักษณะด้านบวก
ฝืนใจดูแล
เต็มใจดูแล
โลภอยากได้แม้ในทางทุจริต
ยินดีรับเฉพาะการให้ด้วยใจพร้อม
ใช้อำนาจข่ม
เป็นแบบอย่าง


ไม่ฝืนใจแต่เต็มใจ เพราะรัก เจ้าของแกะ

รักพระผู้เลี้ยงทำให้ไม่ฝืนใจเลี้ยงดูแกะของพระองค์  (ยน.21:15)

ยน. 21:15 [TBS1971]) เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว พระเยซูตรัสกับซีโมนเปโตรว่าซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย เจ้ารักเรามากกว่าเหล่านี้หรือเขาทูลพระองค์ว่าเป็นความจริงพระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์รักพระองค์พระองค์ตรัสสั่งเขาว่า จงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด

นี่เป็นเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้ปกครองที่รับมอบฉันทะ (ผู้อารักขา) จากพระเจ้าให้ดูแลฝูงแกะของพระองค์ คือ ไม่เป็นคนโลภมักได้

ทต.1:7   เพราะว่าผู้ปกครองดูแลนั้น ในฐานะที่เป็นผู้รับมอบฉันทะจาก
พระเจ้า ต้องเป็นคนที่ไม่มีข้อตำหนิ ไม่เป็นคนเย่อหยิ่ง ไม่เป็นคนเลือดร้อน ไม่เป็นนักเลงสุรา ไม่เป็นนักเลงหัวไม้ และไม่เป็นคนโลภมักได้

·      เปาโลเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้
o    ไม่มีความโลภอยากได้ของใคร
 (เพื่อสอนด้วยชีวิต วางแบบอย่าง)

กจ.20:33-35   33 ข้าพเจ้ามิได้โลภเงินหรือทอง หรือเสื้อผ้าของผู้ใด  34                  ท่านทั้งหลายทราบว่า มือของข้าพเจ้าเองได้จัดหาปัจจัยสำหรับตัวข้าพเจ้า กับ           คนที่อยู่กับข้าพเจ้า 35 ข้าพเจ้าได้วางแบบอย่างไว้ให้ท่านทุกอย่างแล้ว ให้เห็นว่าโดยทำงานเช่นนี้ควรจะช่วยคนที่มีกำลังน้อย ระลึกถึงพระวาทะของพระเยซูเจ้า ซึ่งพระองค์ตรัสว่าการให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ’ ”
(เปาโลกล่าวกับผู้ปกครองคริสตจักรที่เมืองเอเฟซัส)

(1คร. 11:1  ท่านทั้งหลายก็จงปฏิบัติตามอย่างข้าพเจ้า เหมือนอย่างที่ข้าพเจ้าปฏิบัติตามอย่างพระคริสต์

·      ชีวิตของผู้เลี้ยงผู้อารักขาฝูงแกะของพระเจ้าต้องเป็นเหมือนต้นแบบมากที่สุด คือ พระคริสต์ผู้เป็นพระผู้เลี้ยงที่ยิ่งใหญ่
·      1 ปต.5:4 กล่าวต่อไปเช่นนั้นว่า และเมื่อพระผู้เลี้ยงผู้ยิ่งใหญ่จะเสด็จมาปรากฏ ท่านทั้งหลายจะรับศักดิ์ศรีเป็นมงกุฎที่ร่วงโรยไม่ได้เลย
[ThaiKJV] และเมื่อพระผู้เลี้ยงใหญ่จะเสด็จมาปรากฏ ท่านทั้งหลายจะรับมงกุฎแห่งสง่าราศีที่ร่วงโรยไม่ได้เลย

แต่รางวัลที่จะได้รับ ได้แก่ ศักดิ์ศรี
เป็นมงกุฎที่ไม่มีวันร่วงโรยจากมือของผู้เลี้ยงผู้ยิ่งใหญ่ คือ พระคริสต์