วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อิสราเอล18

รถที่เราขึ้นออกไปผจญภัยวันนี้
เช่นเคยครับ วันเสาร์ รถไม่มีเลย
นี่อาคารของฟินแลนด์ ที่อาจารย์แม่ใช้ทำราชกิจ
ระหว่างทางไปโบสถ์ เราเดินผ่านเต็นท์ต่างๆ ในเทศกาลอยู่เพิง
และแล้วก็มาถึง
นี่ห้องประชุมครับ
สูจิบัตร
อีกด้าน
ห้องประชุม
อ.นิมิตรกำลังกล่าวทักทาย

วันนี้ วันเสาร์ที่ 3 เดี๋ยวเราจะไปโบสถ์กัน โบสถ์ที่นี่มีวันเสาร์ครับ วันอาทิตย์เป็นวันทำงาน คนที่รู้จักเรา เขาเชิญเราไปโบสถ์เขา เป็นโบสถ์แบ๊พติสถ์ เดี๋ยวจะไปดูว่าคจ.แบ๊พติสถ์ในอิสราเอลเป็นอย่างไร จะเหมือนโบสถ์ที่Yad Hashmona ไหม มีเปียนโนตัวเดียว แต่เวลาอธิษฐานแล้ว powerful จริงๆ ตอนบ่ายจะไปเยี่ยมอาจารย์แม่ (เขาเรียกกันอย่างนี้) รู้สึกว่าจะทำงานกับคนไทยที่อยู่ที่อิสราเอล เห็นพูดภาษาไทยได้

แอ่นแอ้น... และแล้วการผจญภัยโดยตัวของเราเอง ไม่มีไกด์นำทางก็ได้เริ่มขึ้น จับรถเมล์เข้าไปลงประตูดามัสกัส แล้วก็เดิน เดิน และเดิน วันนี้ไม่มีรถบนถนนเลยเพราะเป็นวันเสาร์สะบาโต เราจะไปโบสถ์กัน แต่ก่อนไปก็ไปแวะบ้านอาจารย์แม่ก่อน แนะนำตัวกัน แล้วก็ออกเดินต่อไปโบสถ์นื้ เขาใช้ชื่อว่า Narkis Street Congregation เขาไม่ใช้ชื่อว่า Church เพื่อไม่เป็นหินสะดุดแก่คนยิว ἐκκλησία ekklēsia ek-klay-see'-ah ในภาษากรีก คำนี้ใช้เรียก การประชุมทางศาสนา (a religious congregation) เช่น ธรรมศาลาของชาวยิว หรือชุมชนคริสเตียนที่อยู่บนโลก , Christian ก็ไม่ใช้ ใช้ว่า Believer , Preaching ใช้ Sharing , Sunday Service ใช้ Shabbat Service ผมถ่ายรูปสูจิบัตรของCongregrationของเขามาให้ดูด้วย Pastor ที่นี่มีนะครับ ไม่ได้ใช้คำอื่น

เมื่อมานมัสการอยู่ที่นี่ก็รู้สึกเสียดายแทนพวกคนที่อยู่ในห้องประชุม คนละอย่างกับที่ผมไปประชุมอธิษฐานมาเลย ร้องเพลงสงบเงียบมาก หาคนชูมือนมัสการพระเจ้าได้สักคนสองคน ความรู้สึกผมคือว่า ได้มาอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ น่าจะนมัสการให้สมกับที่พระเยซูเป็นจอมกษัตราย์ เป็นความหวังของเราทั้งหลาย การทรงสถิตย์ของพระเจ้าก็อยู่ที่เยรูซาเล็ม ทำไมนมัสการเหมือนคจ.ในประเทศไทยเมื่อ 30 ปีก่อนเลย คนเล่นดนตรี หรือร้องเพลงก็ดี ทำหน้าที่ได้ตามปกติแบบมาตรฐาน แต่คนที่อยู่ในห้องประชุมนี่สิ หรือว่าเขาเป็นพวกคนต่างชาติ ไม่ใช่เจ้าของถิ่น ก็ไม่ทราบได้ อย่างไรก็ตาม พระคัมภีร์บอกว่า เสรีภาพทำให้เราเป็นไทไม่ใช่หรือ ถ้าแม้อยู่ที่เยรูซาเล็มแต่ใจไม่เชื่อ ไม่คาดหวัง ก็จะไม่มีผลอะไรใดใดกับใคร ดังนั้นท่านที่อยู่ที่ไทย หากท่านเชื่อว่าพระเยซูอยู่กับท่าน ท่านคาดหวัง สองสามคนประชุมกันที่ไหนในนามของพระองค์ พระองค์ทรงอยู่ที่นั่น สวรรค์ก็ได้เกิดขึ้นบนโลก ณ ที่นั่นแล้ว

ที่นี่เมื่อรับมหาสนิท รับตามรูปแบบมาตรฐาน ขนมปังก่อน แต่ว่าที่ไม่เหมือนคือเขารับแล้ว นิ่งสักพัก ก็มีคนในที่ประชุม 3 คน อ่านพระคัมภีร์ ต่อจากนั้นก็ผ่านถาดมหาสนิทและรับน้ำองุ่น (ที่นี่ใช้น้ำองุ่นจริงๆ เหมือนที่ Yad Hashmona) เสร็จก็มีคนในห้องประชุมอ่านพระคัมภีร์อีก อธิษฐานแล้วเป็นอันเสร็จ

การต้อนรับก็กล่าวต้อนรับแขกที่มาจากอิหร่าน , อังกฤษ , แคลิฟอร์เนีย , ออสเตรเลีย , สหรัฐ , เยอรมัน แล้วก็ไทย เสร็จก็มีคนมานำอ่านพระคัมภีร์ในที่ประชุมอีก แล้วเปิดโอกาสให้กลุ่มคนไทย โดยอ.นิมิตรมากล่าวทักทาย และร้องเพลงให้พวกเขาฟัง และแจกของที่ระลึก ชอบใจกันใหญ่ พอตอนเทศนา ผมฟังไม่รู้เรื่องแล้ว ไม่มีสมาธิฟัง ง่วงเลย เขาเปิดอ่านเทศน์จากCommentary ต่างๆ ???

พอจบเสร็จปั๊ป เราก็เดินกลับไปที่อาคารของอาจารย์แม่ และนั่งคุยกันอยู่เป็นชั่วโมง ได้ความว่าอาจารย์แม่เคยเป็นมิชชั่นนารีอยู่ประเทศไทย ก่อนมาอยู่อิสราเอล (มิน่าถึงพูดภาษาไทยได้ดี) จึงมีภาระใจกับคนไทยที่อยู่ในอิสราเอล 3หมื่นคน คอยประกาศ และช่วยเหลือคนไทยที่อยู่ที่นี่ ไม่ให้ได้รับการกดขี่จากนายจ้าง คนไทยส่วนมากจะอยู่ในโมชาฟ(หมู่บ้าน)ทางตอนใต้ของประเทศ ที่เราอยู่นี่คือตอนกลาง คนไทยที่มาที่นี่ต้องขายไร่นา ต้องกู้หนึ้ยืมสินเป็นจำนวนเงินหลายแสนบาท ทั้งๆที่ข้อตกลงของบริษัทส่งคนไปทำงานของไทยและอิสราเอลนี้ตกเพียงแสนกว่าบาท แต่ต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนถึงสามถึงสี่แสนบาท เพราะนกม.ในประเทศทั้งสอง เมื่อได้ยินได้ฟังเรื่องความอสัตย์อธรรมที่เกิดกับคนไทยที่มาทำงานที่นี่ ภาระใจมันก็เกิด ทำอย่างไรพระเจ้าข้า พระองค์จะเปลี่ยนดินแดนของข้าพระองค์ให้เป็นประเทศที่ไม่มีคอรับชั่น ประชาชนอยู่ได้ด้วยความไม่ทุกข์ยาก ไม่มีการกดขี่แรงงาน เขาบอกว่าที่นี่พอไม่สามารถทำงานได้ เพราะบางคนป่วย ต้องส่งกลับไทย แต่เขามีหนี้ที่กู้ยืมไว้แล้ว จะทำอย่างไร ปู่ย่าตายายที่บ้านที่อีสานก็ต้องขายยาบ้า และขายลูกสาว เพื่อส่งหนึ้ส่งดอก นอกจากนั้นยังมีคนไทยส่งยาบ้ามาขายถึงอิสราเอลให้คนไทย เฮ่อ.. พระเจ้าช่วย..

แรงงานอีสานอันดับหนึ่งคืออุดร รองลงมาคือโคราช และจังหวัดอื่นๆ อาจารย์แม่บอกว่าฟินแลนด์เจ้าของโครงการมาทำงานที่ที่ดินนี้เมื่อ 80 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ยังเป็นปาเลสไตน์อยู่ ยังไม่มีอิสราเอล และปาเลสไตน์นั้นอยู่ใต้อำนาจของอังกฤษ งานของอาจารย์แม่นอกจากดูแลคนที่นี่แล้ว ยังคอยส่งคนงานไทยที่เป็นคริสเตียนกลับบ้านและเข้าคจ. แต่สิ่งหนึ่งที่อาจารย์แม่เสียใจคือเวลาคนไทยกลับไปคจ.ไทย ไม่มีใครคอยเอาใจใส่ พูดคุยกับเขา ดูแลเขา (นี่เหมือนคจ.ไทยที่ผมเคยอยู่เลย เวลาคนมาคจ. ไม่มีใครสนใจจริงๆ ด้วยเหตุนี้ผมถึงปรารถนาจะเห็นการฟื้นฟูในไทย)

อาจารย์แม่บอกว่าจะต้องกลับไปฟินแลนด์ก.ค.หน้า เราก็ร่วมใจกันอธิษฐานกันใหญ่ และก็มีคำเผยพระวจนะมาถึงคนไทยที่อยู่ที่นี่คนหนึ่งที่พระเจ้าต้องการใช้เขา

นี่คือเรื่องทั้งหมดโดยย่อ ที่เกิดขึ้นวันนี้ พรุ่งนี้เราจะไปชมภาพการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของฮิตเลอร์และต่อด้วยการไปร่วมงานของอาจารย์แม่ในตอนเย็น ร่วมขบวนแห่ของคนไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น