วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อิสราเอล19

นี่หน้าประตูยัฟฟา ยังมีทหารคอยเฝ้าระวังภัย ย่านนี้ย่านคนยิว คนอาหรับเข้าไม่ได้นะครับป้ายไปพิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ตึกรูปสามเหลี่ยมนั่นแหละครับที่เขาแสดง เดินเข้าไปดูคร่าวๆ ตั้ง 2 ชม.ถึงออกมา ถ้าดูละเอียดจริงๆสงสัย 4 ชม.ขึ้นไป นี่แค่ที่แรกนะครับ หลังจากนี้เรายังไปดูเครื่องใช้ของคนสมัยก่อน แล้วก็ห้องอะไรไม่ทราบที่มีไฟจุดตลอด บุคคลสำคัญๆก็จะมาที่ห้องนี้กัน เราไม่เห็นนะครับ เพราะว่าถ่ายรูปไม่ได้
อันนี้อยู่ในสวน ใต้ต้นไม้ก็จะมีชื่อบุคคลต่างๆที่มีผลกับชาวยิว ของคริสเตียนก็เห็นจะเป็นคอรี่ เทนบูม เท่าที่เห็นรู้สึกของโปแลนด์จะเยอะ
อันนี้อยู่ในส่วนของเด็กครับ เด็กชาวยิวถูกฆ่าตายไปล้านกว่าคนจากจำนวนหกล้านคน (เขาว่ากันว่าอย่างนั้น)
เสร็จแล้วก็มางานนี้ งานฉลอง 150 ปีของมิชชั่นฟินแลนด์ในอิสราเอล
ดูอ.โปรแต่งตัว
อ.สิทธิชัยก็เอามั๊ง สุภาพสตรีคนกลางนั้นคืออาจารย์แม่ละครับ พูดไืทยชัดเจน

วันนี้วันอาทิตย์ที่ 4 แล้ว จวนได้กลับบ้านแล้ว ฮาเลลูยา! วันนี้ออกจากโรงแรมที่พักแต่เช้า นั่งรถเมล์ไปลงประตูดามัสกัส แล้วเดิน เดิน และเดิน แถมเดินขึ้นเนินด้วยเพื่อไปยังประตูยัฟฟา ที่นัดหมาย ระหว่างทางก็พบทหารเต็มไปหมด มาอิสราเอลหลายวันแล้ว เรื่องทหารเต็มเมืองเป็นเรื่องชินตาแล้ว คนอิสราเอลทุกคนต้องเป็นทหาร ถ้าชายก็เป็นทหาร 3 ปี ถ้าหญิงก็เป็น 2 ปี ทุกวันจะเห็นทหารเดินเต็มเมือง วัยรุ่นทั้งนั้นที่เป็นทหาร ทั้งชายและหญิง ทุกคนถือปืนประจำการตลอดเวลา

ตรงประตูยัฟฟาจุดนัดหมายเพื่อขึ้นรถต่อไปยัง Yad Vashem ก็มีทหารอยู่หน้าประตู เราต่อรถไปที่ดูพิพิธภัณฑ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ถึงที่ก็เดินอีก วันนี้เดินอย่างเดียว ที่นี่แสดงประวัติศาสตร์ของการฆ่า ทีแรกผมนึกว่าเยอรมันนีทำประเทศเดียว ที่ไหนได้ ยุโรปเกือบทั้งหมด และอัฟริกาตอนเหนือที่ฆ่าชาวยิวไปรวมทั้งหมด 6 ล้านคน (เท่าจำนวนประชากรอิสราเอลในปัจจุบันเลย) ประเทศโปแลนด์ฆ่ามากที่สุด มีชาวยิวอยู่ในประเทศ 3 ล้านกว่าคน ฆ่าไปทั้งหมด 3 ล้านคน รองลงมาคือรัสเซีย ที่นี่ไม่ให้ถ่ายรูปและบันทึกวีดีโอ จึงไม่สามารถถ่ายภาพมาให้ดูได้ แต่จากการเดินเข้าไปชม หดหู่ใจครับ แต่ละประเทศได้สังหารชาวยิวไปเป็นจำนวนมาก ผมเดินเข้าไปได้ครึ่งทาง ก็รู้สึกอยากออกแล้วครับ ไม่อยากชมแล้ว เครียด! น่าสงสารชาวยิว แต่ละคนผอมมีแต่กระดูก มีภาพหนึ่งถ่ายรูปด้วยกันก่อนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มีคนในครอบครัว 60 กว่าคน แต่ว่าถูกฆ่าตายไป 50 กว่าคน

ฯลฯ

เมื่อดูภาพพวกนี้แล้ว ก็นึกถึงพระคัมภีร์ว่ามีตอนไหนไหมที่พูดถึงการทำลายล้างคนยิว เดี๋ยวจะต้องไปค้นดูพระคัมภีร์ แต่นึกถึงตอนเขารวมประเทศในปี 1948 แล้วมี 7 ประเทศรวมตัวกันต่อสู้กับอิสราเอลประเทศเดียว ปรากฏว่า 7 ประเทศนั้นแพ้ เสียทหารไปทั้งหมด 3 หมื่นกว่านาย ขณะที่อิสราเอลเสียทหารไป 2 พันกว่านาย เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ

เขาบอกว่าที่คนยิวเกลียดคริสเตียนเพราะมาร์ตินลูเธอร์บอกว่าคนยิวจับพระเยซูไปตรึง (ฮิตเลอร์อ้างคำพูดของมาร์ตินอย่างนี้ด้วย)คนยิวฆ่าพระเยซู คนยิวก็เลยตกเป็นเชลยสังคม ทุกคนก็มองว่าคนยิวเป็นคนผิด คนยิวก็เลยไม่ชอบคริสเตียน สมัยเมื่อ 20 ปีก่อน ชาวต่างประเทศเขาเล่าให้ผมฟังว่า เขาใส่เสื้อที่มีรูปไม้กางเขนในประเทศอิสราเอล มีคนถ่มน้ำลายรดเขาตลอดทางเลย แต่วันนี้ผมจะได้เห็นว่ายังเป็นอย่างนั้นอยู่หรือเปล่า เพราะวันที่ 6 นี้ คริสเตียนจะจัดMarching Jerusalem จะดูว่าจะเป็นอย่างไร

เสร็จจากYad Vashem เราก็ไปต่อที่งานฉลองครบ 150 ปี มิชชั่นฟินแลนด์ในอิสราเอล บริเวณที่ทำงานอาจารย์แม่ มีท่านทูตฟินแลนด์มาร่วมงาน และแขกผู้มีเกียรติจากประเทศต่างๆ ของคนไทยเราก็จัดขบวนกลองยาว นำขบวนปิดท้ายงานนี้

เป็นอันว่าเสร็จวันนี้ พรุ่งนี้เราจะไปชมเทคโนโลยีทางการเกษตรกัน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น