วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552

Israel Trip1

วันที่ 16 กันยา เมื่อวานตอนค่ำ ได้ออกเดินทางไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต้องยอมรับมาตรการรักษาความปลอดภัยของอิสราเอล มีเจ้าหน้าที่มาสอบถามคำถามนับสิบคำถามก่อนเข้าไปเช็คอิน ถ้ามีพิรุธก็คงโดนกักตัวไว้ พอผ่านก็เช็คอินด้วยน้ำหนักไม่ให้เกินยี่สิบกิโลแบบเข้มงวดจริงๆ เลยจำเป็นต้องทิ้งข้าวของหลายอย่างไว้ที่บ้าน เมื่อเข้าไปข้างในนอกจากตรวจปกติแล้ว ก่อนเข้าห้องยังมีเจ้าหน้าที่อิสราเอลมาตรวจสุดท้ายอีก

ได้คุยกับผป.วีระศักดิ์ สอบถามว่าอะไรเป็นเหตุให้ลุกขึ้นมาทำเรื่องอิสราเอล ฯลฯ โดยสรุปความว่า พระเยซูมาบอกสิ่งต่างๆให้ทำ ผ่านการสวมทับผู้ชายคนหนึ่ง และเสียงที่เขาพูดออกมาไม่ใช่เสียงเขา แต่เป็นเสียงพระเยซู และตัวเขาเองได้ขึ้นไปบนสวรรค์และพบกับพระเยซูด้วย เมื่อได้ฟังแล้วก็รู้สึกว่า โบสถ์ต่างๆเขาไปไกลแล้ว ขอบคุึณพระเจ้าที่ความหวังที่นี่ได้เปิดตัวออกมาปฏิสัมพันธ์กับพี่น้องในพระกาย ทำให้ได้รับรู้ว่า พระเจ้ากำลังทำอะไรบ้างในประเทศไทย ผมไม่สามารถบอกได้หมดครับ เขียนมาเล่าสั้นๆเท่าที่โอกาสอำนวย

เสร็จแล้้วก็บินไปอิสราเอล ใช้เวลา 11 ชั่วโมง แทนที่จะเป็น 6-7 ชม. เพราะต้องบินอ้อมประเทศที่เขาไม่เป็นมิตรด้วย

เช้า 7 นาฬิกาอิสราเอลกว่าๆก็มาถึง วูบแรกอากาศร้อนแฮะ ที่่สนามบินผมแลกเงินเชเคลราคา 3.71 เชเคลต่อดอลล่าร์ ส่วนคนอื่นๆเขายังไม่แลกกัน รู้สึกว่าจะมีคนร่วมเดินทางมา 40 กว่าคน ปีที่แล้ว 30 กว่า แยกออกเป็นหลายกรุ๊ป กรุ๊ปผมนี้เรียกว่ากรุ๊ปJhop (Jerusalem House of Pray) มีกัน 10 กว่าคน ถ้าเป็นคจ.ความหวังก็แบ่งเป็นกทม. 4 ครน. 4 เดี๋ยวก็จะรู้แล้วครับว่าอธิษฐานกันยังไงตั้ง 2 อาทิตย์ ตัวผมนั้นระลึกถึงเทศกาลอยู่เพิงจากการที่ภิรมณ์และพวกมาอธิษฐานเผื่อการเดินทาง จึงได้เขียนความตั้งใจไว้เมื่อวานว่าจะศึกษาเรื่องนี้ด้วย

ออกจากสนามบินมาก็ขึ้นรถบัสพร้อมกันทุกคณะโดยไปด้วยกันทั้งหมดก่อน แล้วถึงไปแยกกันภายหลัง ได้ไปที่คิบบุทซ์ Yad Hamona คิบบุทซ์คือระบบนิคมสร้างตนเอง ของคริสเตียนก็มาสร้างซึ่งเขาบอกว่ามีที่นี่ที่เดียว ฟังเขาแบ่งปันพระคัมภีร์ได้รับรู้อะไรหลายเรื่องของยุคสุดท้ายในความหมายตามภาษาฮีบรูแบบที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เมื่อเดินไปตามนิคมนี้ ก็เห็นโรงเลี้ยงเด็ก เห็นบ้านพัก เห็นภัตตาคาร ฯลฯ ซึ่งผู้สร้างก็ตั้งใจให้ที่นี่สามารถเป็นนิคมที่เลี้ยงตนเองได้ เพราะคริสเตียนที่อิสราเอลนี้อยู่ด้วยความยากลำบาก มีการข่มเหง ถ้าเขารู้ว่าเป็นคริสเตียน ความจริงคจ.เราก็มีแนวคิดนี้มาจากผู้เริ่มก่อตั้ง (แต่เสียดาย...) ได้ทานอาหารที่นี่ด้วย แปลกๆไม่เคยทานอาหารชาวอิสราเอลมาก่อน แต่ก็อดขอบคุณพระเจ้าไม่ได้ นี่เรามายืนอยู่ในดินแดนพระเยซูแล้ว!!! วันนี้ตอนที่เขาอธิษฐานกัน เขาเอาน้ำมันมาชโลมหน้าผากแล้วก็อธิษฐานประมาณว่าให้นำการชโลม การเจิมนี้กลับมาที่ประเทศไทย มาเจิมคนที่ไทยต่อ

จากคิบบุทซ์นี้ ก็ไปอีกคิบบุทซ์หนึ่ง ไม่ใช่ของคริสเตียน เป็นเรื่องเทคโนโลยี่ที่อิสราเอลใช้ในการเกษตรบ้านเขา คิบบุทซ์นี้ชื่อว่า Naan ก็ฟังเขาบรรยาย และไปดูสปริงเกิลที่เขาผลิตออกมาหลายแบบ คุยกันถึงเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยี่ให้ไทย แต่ทำไม่ได้เพราะระบบการเมืองในไทย คนหาผลประโยชน์ ทั้งๆที่ประเทศเพื่อนบ้านรอบไทย อิสราเอลเขามาช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยี่นี้ไปแล้ว ไม่ว่ากัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม มาเลเซีย ฯลฯ เฮ่อ... เมื่อไหร่หนอ.. ประเทศไทยจะเจริญรุ่งเรืองเสียที ถ้้ามีแต่คนหาผลประโยชน์ปกครองบ้านเมือง เฮ่อ...

วันนี้พอแค่นี้ก่อน ได้เข้ามาที่พักแล้ว เขากำลังเดินขบวนเนื่องในวันรอมาดอนอยู่ ไม่ได้ไปไหน ได้แต่อยู่ในโรงแรม พรุ่งนี้จะไปเดินชมสถานที่ในพระคัมภีร์กัน 18.04 น. ณ Jerusalem Panorama Hotel

1 ความคิดเห็น:

  1. ทันทีอาจารย์และทีมผู้นำก้าวลงแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ทางเราคงเป็นช่วงเที่ยงๆ ถึงบ่าย เป็นช่วงที่เราอธิษฐานแสวงหาพระเจ้ากัน และได้ระลึกถึงทีมผู้นำในคำอธิษฐานวิงวอน สัมผัสถึงการทรงสถิตของพระเจ้า ได้อ่านสิ่งที่อาจารย์เขียนมาแล้ว จินตนาการตามราวกับได้ไปเดินอยู่ในดินแดนนั้นด้วยตัวเอง ตื่นแต้นและมีความสุขใจมาก ถ้าได้ไปด้วยจะขนาดไหนนะเนี่ย
    พวกเราทางนี้จะยังคงระลึกและวิงวอนต่อพระเจ้าเพื่ออาจารย์และทีมผู้นำต่อไป ชาโลม...

    ตอบลบ