วันนี้ วันที่ 20 ฝนตกหนักเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีฝนตกในดินแดนทะเลทราย
วันนี้คิดถึงเรื่องพลับพลาของดาวิด เห็นเขาพูดถึงในการประชุมอยู่บ่อยๆ มาจาก กจ.15:15-18
15 คำของผู้เผยพระวจนะก็สอดคล้องกับเรื่องนี้ ดังที่ได้เขียนไว้แล้วว่า
16 "ภายหลังเราจะกลับมา และเราจะสร้างพลับพลาของดาวิดซึ่งพังลงแล้วขึ้นใหม่ ที่ร้างหักพังนั้นเราจะก่อขึ้นอีกและจะตั้งขึ้นใหม่
17 เพื่อคนอื่นๆ จะได้แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า คือบรรดาคนต่างชาติซึ่งเราจองไว้
18 องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงแจ้งเหตุการณ์เหล่านี้ให้ทราบแต่โบราณกาลได้ตรัสไว้แล้ว
พลับพลาของดาวิดแตกต่างจากพระนิเวศน์ในพระวิหาร พระวิหารมีกฏระเบียบ แต่พลับพลาของดาวิดไม่มีม่านขวางกั้น คนต่างชาติคือพวกเราสามารถเข้ามาหาพระเจ้าได้
มาจากพระคัมภีร์เดิม
อาโมส 9:11-12
11 "ในวันนั้น เราจะยก กระท่อมของดาวิดที่ล้มลงแล้วนั้นตั้งขึ้นใหม่ และซ่อมช่องชำรุดต่างๆ เสีย และยกที่สลักหักพังขึ้น และสร้างเสียใหม่อย่างในสมัยโบราณกาล
12 เพื่อเขาจะได้ยึดกรรมสิทธิ์คนที่เหลืออยู่ของเอโดม และประชาชาติทั้งสิ้นซึ่งเขาเรียกด้วยนามของเรา"พระเจ้าผู้ทรงกระทำเช่นนี้ตรัสดังนี้แหละ
วันนี้การประชุมภาคเช้า เป็นการแบ่งปันของประตูต่างๆและอธิษฐาน ได้แก่ กลุ่มGolden Gate South Pacific และ Solomon Islands , กลุ่ม Bethany Gate ซึ่งได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินโดนีเชีย และประเทศที่อยู่บนเกาะต่างๆ แต่ละประเทศก็มานำแบ่งปันและขอให้อธิษฐานเผื่อประเทศของเขา มีคนหนึ่งมาขอบคุณพระเจ้าทั้งน้ำตาที่ปีที่แล้วเขามาและเสนอหัวข้ออธิษฐานเผื่อประเทศเขา และพระเจ้าตอบ นอกจาก 2 กลุ่มนี้แล้ว ก็มีกลุ่มที่อยู่ในคาบสมุทรอาหรับ ประเทศตุรกี ซึ่งเป็นศบ.มาแบ่งปัน เขาแบ่งปันว่าเขามาเป็นคริสเตียนได้อย่างไร ประเทศนี้เป็นมุสลิม ที่เม็กกะ เขาเล่าว่าเขาฝัน พระเยซูมาหาเขา บอกว่าเขาเป็นของพระเยซู และเมื่อเขาตื่น มีเสียงภายในบอกเขาสิ่งต่างๆ เขาได้เจอพวกพยานพระยะโฮวาห์บอกเขาว่าพระเยซูตายแล้ว แต่เสียงภายในบอกเขา และเขาได้บอกว่าพระเยซูยังเป็นอยู่ และเป็นพยานกับพวกเขา นอกจากนี้ก็มีประเทศอิรัก อิหร่าน และประเทศอาหรับทั้งหลาย มานำอธิษฐาน มีการนำอธิษฐานในภาษาแปลกๆสัก 5 นาทีเผื่อประเทศเหล่านี้ เมื่ออธิษฐาน ก็มีการเป่าเขาสัตว์ประสานกัน นึกถึงภาพการทำศึกสงครามนำหน้าเราอธิษฐาน
โยเอล 2:1 จงเป่าเขาสัตว์ที่ในศิโยน จงเปล่งเสียงปลุกบนภูเขาบริสุทธิ์ของข้าพเจ้า ให้ชาวแผ่นดินทั้งสิ้นตัวสั่น เพราะวันแห่งพระเจ้ากำลังมาแล้ว ใกล้เข้ามาแล้ว
เนหะมีย์ 4:20 เมื่อท่านทั้งหลายได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์อยู่ตรงไหน จงวิ่งกรูกันไปที่พวกเราพระเจ้าของเราทั้งหลายจะทรงต่อสู้เพื่อพวกเรา"
กำลังสนใจการเป่าเขาสัตว์ เลยเปิดพระคัมภีร์ดู ยังไม่มีโอกาสศึกษาอย่างละเอียด แต่ที่ดูผ่านๆ เมื่อเป่า ก็เป็นการเรียกรวมตัว เป็นการทำศึกสงคราม ฯลฯ
เสร็จจากตรงนี้ คนสีไวโอลินคนเดิม ก็มานำสีไวโอลินทำนองคึกคักประจันบาญ “มันกระโดดเข้าในเมือง มันวิ่งบนกำแพง คือกองทัพเกรียงไกร ประกาศพระคำพระเจ้า” ต่อด้วยเพลงนมัสการ Amazing Grace เมื่อเขาสีไวโอลิน มันบาดเข้าไปในใจจริงๆ ดนตรีมีผลต่อจิตวิญญาณเราอย่างมาก ยกชูใจก็ได้ เล้าโลมใจก็ได้ ประจันบาญก็ได้ ขอบคุณพระเจ้า
ต่อด้วยการแบ่งปัน คนนี้นี่ไฟแรงจริงๆ ร้อนรนมาก ภาคบ่ายเราจะไปเยี่ยมชม
คืนนี้เป็นภาคคนจีนนำนมัสการและเสนอหัวข้ออธิษฐาน ก่อนหน้านี้ถามคนนำบนรถ เขาบอกว่าจีนแผ่นดินใหญ่มาถึง 200 คน ว๊าว เยอะจริงๆ แต่ละมณฑลขึ้นมาเสนอหัวข้ออธิษฐาน ตอนสุดท้ายพวกเขาคุกเข่าลงขอโทษชาวยิวอิสราเอลที่จีนทำไม่ดีต่อคนยิว สมัยที่คนยิวมาอพยพมาอยู่เมืองจีน เขาเปลี่ยนสัญชาติจากยิวเป็นจีน มีคนหนึ่งในห้องประชุมลุกขึ้นมาโวยวายใหญ่ ตะโกนลั่นห้องประชุมว่า ทำไมต้องขอโทษชาวยิว เราก็ช่วยกันไป ช่วยกันมา อ.พรเลิศบอกว่าสำหรับคนจีนแล้ว เรื่องศักดิ์ศรีเป็นเรื่องใหญ่มาก นี่ก็เป็นเหตุให้เห็นค่านิยมคนจีนบางคนได้อีกเรื่องหนึ่ง
ส่งท้ายด้วยรูปข้างบน รูปแรกนั้น ภาพฝนกำลังตกหนัก และภาพที่สอง ภาพเขาซ้อมแบนเนอร์ ขณะฝนกำลังตก
อ่านตอนท้ายของบทความนี้แล้ว คงต้องอธิษฐานตาม อฟ.2:13-19
ตอบลบ13 แต่บัดนี้ในพระเยซูคริสต์ท่านทั้งหลายซึ่งเมื่อก่อนอยู่ไกล ได้เข้ามาใกล้โดยพระโลหิตของพระคริสต์
14 เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นสันติสุขของเรา เป็นผู้ทรงกระทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และทรงรื้อกำแพงที่กั้นระหว่างสองฝ่ายลง
15 คือการเป็นปฏิปักษ์กัน โดยในเนื้อหนังของพระองค์ ได้ทรงให้ธรรมบัญญัติอันประกอบด้วยบทบัญญัติและกฎหมายต่างๆนั้นเป็นโมฆะ เพื่อจะกระทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นคนใหม่คนเดียวในพระองค์ เช่นนั้นแหละ จึงทรงกระทำให้เกิดสันติสุข
16 และเพื่อจะทรงกระทำให้ทั้งสองพวกคืนดีกับพระเจ้า เป็นกายเดียวโดยกางเขน ซึ่งเป็นการทำให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อกันหมดสิ้นไป
17 และพระองค์ได้เสด็จมาประกาศสันติสุขแก่ท่านที่อยู่ไกล และประกาศสันติสุขแก่คนที่อยู่ใกล้
18 เพราะว่าพระองค์ทรงทำให้เราทั้งสองพวกมีโอกาสเข้าเฝ้าพระบิดาโดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน
19 เหตุฉะนั้นท่านจึงไม่ใช่คนต่างด้าวต่างแดนอีกต่อไป แต่ว่าเป็นพลเมืองเดียวกันกับธรรมิกชน และเป็นครอบครัวของพระเจ้า