วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552

อิสราเอล2

วันนี้วันที่ 17 วันนี้เมื่อยมาก เดินตลอดทั้งวัน ( The Western Wall , The Western Wall Tunnels , The Third Temple Institute , บ้านกายาฟาส , คุกที่ขังพระเยซู , ห้องชั้นบน ที่ฝังศพดาวิด , ทางเดินที่พระเยซูแบกกางเขนไปตรึง , สวนเกทเสมาเน )

เดินแต่เช้า ไปทานอาหาร 6.00 น. เพื่อไปขึ้นรถ 6.40 น. เห็นประตูGolden อยู่ฝั่งตรงข้ามชัดเจน แต่อ.ได้ปิดประตูนี้เอาไว้ ประตูพระวิหารเวลาออกมา ก็จะพบกับประตูGoldenนี้ ทราบว่าสมัยพระเยซู ใช้ประตูนี้ประจำเข้าออก เพื่อไปยังสวนเกธเสมาเน ฯลฯ

เมื่อเราไปถึง The Western Wall ก็เห็นชาวยิวมาอธิษฐานที่กำแพงนี้เต็มไปหมด ซีกซ้ายผู้ชาย ซีกขวาผู้หญิง เสร็จจากตรงนี้ก็ไปที่ The Western Wall Tunnels เป็นกำแพงตะวันตกซึ่งต้องลงไปในอุโมงค์เพื่อไปชม นึกไว้อย่างหนึ่งว่าสถานที่ปัจจุบันนี้เป็น Dome of The Rock ซึ่งสร้างทับลงมาบนพระวิหารหลังที่สองของเฮโรดอีกทีหนึ่ง และพระวิหารหลังที่สองก็สร้างทับพระวิหารหลังที่หนึ่งของกษัตริย์โซโลมอนอีกทีหนึ่ง ประตูกำแพงก็เช่นกันเรามุดอุโมงเพื่อจะชมสิ่งต่างๆในอุโมงค์นั้น ซึ่งอุโมงค์ยาวมาก ตอนเข้าไปเห็นชาวยิวใครเดินผ่านก็ต้องจุบหลอดแก้ว ก็ถามว่าคืออะไร ไ้ด้ทราบว่าคือส่วนหนึ่งของคัมภีร์โทราห์ ชาวยิวให้ความเคารพต่อพระคัมภีร์มาก ทั้งในอุโมงค์และนอกอุโมงค์ที่กำแพงก็มีชาวยิวมาอ่านพระคัมภีร์และอธิษฐานกันเต็มไปหมด ได้เห็นการเอาหินก้อนขนาดมหึมามาก่อเป็นกำแพง ชาวยิวเขาสร้างได้อย่างไร?? อัศจรรย์มาก ได้เห็นประตูกำแพงซึ่งอยู่ใต้ดิน และใต้ของใต้ดินทีเราเดิน เขาก็เจาะเป็นกระจกให้เราเห็นว่าเราเดินอยู่ข้างบน ส่วนข้างล่างนั้นเป็นกำแพงซึ่งโซโลมอนสร้าง

ถัดมาก็ออกมาข้างนอกและไปที่สถาบันพระวิหารหลังที่สามที่อยู่แถวนั้น ฟัีงเขาบรรยาย และดูวัสดุต่างๆที่เขาสร้างเตรียมไว้สำหรับพระวิหาร ผู้บรรยายเป็นวัยรุ่นแต่บรรยายได้กระจ่าง ประทับใจมาก เขาบรรยายโดยเปรียบเทียบวิหารหลังแรกกับหลังที่สอง และให้ดูว่าทำไมวิหารหลังที่สองจึงมีคันประทีปทองคำเพียงคันเดียวในขณะที่หลังแรกมีสิบคัน เขาบอกว่าเพราะอิสราเอลจน จึงสร้างได้แค่นี้่ นอกจากนั้นก็อธิบายพระคัมภีร์ ฯลฯ ว๊าว.. เด็กอายุดูด้วยสายตา ไม่น่าเกิน 17 ปี อธิบายได้กระจ่างชัดมาก

เสร็จจากนี้ก็ไปแวะบ้านกายาฟาสมหาปุโรหิต และไปต่อที่ที่พระเยซูถูกคุมขังในคุก ได้เห็นคุกจริงๆ ถึงรู้ว่าคุกในสมัยนั้นทำมาจากหิน พระเยซูถูกหย่อนลงมาจากด้านบนและถูกขังไว้ เราร่วมใจกันอธิษฐานในนี้ อ.นิมิตรนำอ่านพระคัมภีร์ พี่น้องนำอธิษฐาน มีพลังมาก

เสร็จจากนี้เราก็ไปเติมพลังอาหารเที่ยงกันก่อน แล้วไปต่อที่ห้องชั้นบนและที่ฝังศพกษัตริย์ดาวิด เพราะอยู่บริเวณเดียวกัน ห้องชั้นบนที่พระวิญญาณบริสุทธิ์เทลงมา ที่นี่มีการทรงสถิตย์แรงมาก อ.นิมิตรบอกให้ทุกคนคุกเข่าและเอามือสัมผัสผืนห้อง แล้วจะมีฤทธิ์ซ่านมาที่ืมือ ก็เป็นไปตามนั้น หลังจากห้องชั้นบนเดินไปที่ใดฤทธิ์ซ่านนั้นยังคงสัมผัสตัวเองไปตลอด ขอบคุณพระเจ้าที่ได้มายืนอยู่ในที่แห่งประวัติศาสตร์ และได้สัมผัสการทรงสถิตย์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เสร็จจากตรงนี้ ก็อยู่ในพระวิญญาณตลอดเวลาเลย

ถัดจากนั้นก็ไปที่ทางเดินที่พระเยซูถูกจับไปตรึง ไปด้วยกันหลายจุดที่พระเยซูล้ม ที่ซีโมนมาช่วยแบกกางเขน ฯลฯ สุดท้ายก็ไปที่สวนเกทเซมาเน ต้นมะกอกที่นี่อายุก็กว่าสองพันปีแล้่ว

พรุ่งนี้จะไปร่วมประชุมอธิษฐานแล้ว

2 ความคิดเห็น:

  1. รู้สึกขอบคุณพระเจ้าอย่างบอกไม่ถูก ที่พระเจ้าให้คจ.ของเราได้เปิดออก เชื่อมโยงกับคจ.อื่นๆ และได้รับสิ่งใหม่ที่ดีๆ ขนาดแค่เพียงได้อ่านบันทึกเท่านั้น ก็เกิดความผูกพันกับอิสราเอล ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้นว่าพระเจ้ากำลังจะทำกิจอันยิ่งใหญ่เพียงใดน๊า... ผ่านชีวิตคนไทยผู้เล็กน้อยอย่างพวกเรา

    ตอบลบ
  2. สรรเสริญพระเจ้า... นี่เพียงวันสองวันแรก องค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าได้สำแดงพระสิริลงมาท่ามกลางผู้รับใช้ อีกสองสัปดาห์ที่ทั้งแปดท่านจะได้อยู่ร่วมในการอธิษฐานกับผู้รับใช้ที่เดินทางจากทุกเส้นทางรอบๆ สิบสองประตูทั่วโลก พระสิริของพระเจ้าจะเทลงมามากยิ่งเพียงไร โดยการเชื่อมต่อที่พวกเราคนไทยติดต่อกับชนชาติของพระเจ้า มั่นใจว่าที่เมืองไทยในช่วงจากนี้ไปเราจะได้เห็น ได้สัมผัส สิ่งใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม ชาโลม...

    ตอบลบ