วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ชีวิตพระเยซูคริสต์ : ความเชื่อที่มีมาก

     หลังจากพระเยซูได้สั่งสอนคนทั้งหลายที่เราดูมาแล้วในบทที่ 6 พระองค์เสด็จเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม เมืองริมทะเลสาบกาลิลี ลองดูภาพสมัยที่ผมไปมาดูครับ




     ซากหมู่บ้านริมทะเลสาบกาลิลี


Luke 7:1 เมื่อ​พระ​องค์​ตรัส​คำ​เหล่า​นั้น​ให้​คน​ทั้ง​หลาย​ฟัง​เสร็จ​แล้ว ​พระ​องค์​จึง​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​เมือง​คาเปอร​นาอุม​

Luke 7:2 มี​ทาส​ของ​นาย​ร้อย​คน​หนึ่ง​ที่​นาย​รัก​มาก​ป่วย​เกือบจะ​ตาย​แล้ว​

Luke 7:3 เมื่อ​นาย​ร้อย​ได้​ยิน​ถึง​พระ​เยซู จึง​ใช้​ผู้ใหญ่​บาง​คน​ของ​พวก​ยิว​ให้​ไป​อ้อน​วอน เชิญ​พระ​องค์​เสด็จ​มา​รักษา​ทาส​ของ​ตน​

Luke 7:4 เมื่อ​เขา​เหล่า​นั้น​มาถึง​พระ​เยซู​แล้ว เขา​ก็​อ้อน​วอน​พระ​องค์​ด้วย​ใจ​ร้อน​รน​ว่า “นาย​ร้อย​นั้น​เป็น​คน​สมควร​ที่​พระ​องค์​จะ​กระทำ​การ​นั้น​ให้​ท่าน​

Luke 7:5 เพราะ​ว่า​ท่าน​รัก​ชน​ชาติ​ของ​เรา และ​ท่าน​เอง​ได้​สร้าง​ธรรม​ศาลา​ให้​เรา”

Luke 7:6 และ​พระ​เยซู​จึง​เสด็จ​ไป​กับ​เขา เมื่อ​ไป​เกือบจะ​ถึง​ตึก​แล้ว นาย​ร้อย​จึง​ใช้​เพื่อน​ฝูง​ไป​หา​พระ​องค์​ทูล​ว่า “​พระ​องค์​เจ้า​ข้า อย่า​ลำบาก​เลย เพราะ​ว่า​ข้า​พระ​องค์​เป็น​คน​ไม่​สมควร​ที่​จะ​รับ​เสด็จ​พระ​องค์​เข้า​ใต้​ชายคา​ของ​ข้า​พระ​องค์​

Luke 7:7 เพราะ​เหตุ​นั้น​ข้า​พระ​องค์​จึง​คิดเห็น​ว่า ไม่​สมควร​ที่​ข้า​พระ​องค์​จะ​ไป​หา​พระ​องค์​ด้วย แต่​ขอ​พระ​องค์​ตรัส​สั่ง และ​บ่าว​ของ​ข้า​พระ​องค์​จะ​หาย​โรค​

Luke 7:8 ข้า​พระ​องค์​ทราบ​ดี เพราะ​เหตุ​ว่า​ข้า​พระ​องค์​อยู่​ใต้​วินัย​ทหาร แต่​ก็​ยัง​มี​ทหาร​อยู่​ใต้​บังคับ​บัญชา​ของ​ข้า​พระ​องค์ ข้า​พระ​องค์​จะ​บอก​แก่​คน​นี้​ว่า ‘ไป’ เขา​ก็​ไป บอก​แก่​คน​นั้น​ว่า ‘มา’ เขา​ก็​มา บอก​บ่าว​ของ​ข้า​พระ​องค์​ว่า ‘จง​ทำ​สิ่ง​นี้’ เขา​ก็​ทำ”

Luke 7:9 เมื่อ​พระ​เยซู​ทรง​ได้​ยิน​คำ​เหล่า​นั้น​แล้ว​ก็​ประหลาด​พระ​ทัย​ด้วย​คน​นั้น จึง​ทรง​เหลียว​หลัง​ตรัส​กับ​ประชาชน​ที่​ตาม​พระ​องค์​มา​ว่า “เรา​บอก​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า แม้​ใน​พวก​อิสราเอล เรา​ไม่​เคย​พบ​ศรัทธา​มาก​เท่านี้”

Luke 7:10 ฝ่าย​คน​ที่​รับ​ใช้​มา​นั้น เมื่อ​กลับไป​ถึง​ตึก​ก็​ได้​เห็น​ทาส​นั้น​หาย​เป็น​ปกติ​แล้ว​

     ก่อนหน้านี้ในบทที่ 6 พระเยซูได้สอนในเรื่องต่างๆที่เราได้ดูกันไปแล้ว :1 คำที่พระองค์ตรัสในบทที่ 6 นั้นน่าสนใจทีเดียวครับ เพราะภาษากรีกใช้คำว่า rhema  มีสองคำครับในภาษากรีก คำแรก Logos หมายถึงพระวจนะแห่งความจริงที่บันทึกไว้แล้วในพระคัมภีร์ ส่วนอีกคำในตอนนี้คือคำว่า Rhema หมายถึงถ้อยคำในLogos ที่พระวิญญาณบริสุทธิ์เจิมเร้าใจพระวจนะคำนั้นตอนนั้นเข้ามาในใจเรา เหมือนที่โรม 10:17 ได้บอกไว้  Rom 10:17 ฉะนั้นความเชื่อเกิดขึ้นได้ก็เพราะการได้ยิน และการได้ยินเกิดขึ้นได้ก็เพราะการประกาศพระวจนะของพระเจ้า     พระวจนะในตอนนี้คือRhema  ไม่ใช่Logos  จากข้อนี้บอกว่าความเชื่อเกิดได้จากการได้ยิน  และการได้ยินนั้นได้ยินอะไร ได้ยิน Rhema พระวจนะที่มีการดลใจ ไม่ใช่พระวจนะที่มีการบันทึกไว้แล้ว ความเชื่อจึงจะเกิด

     ดังนั้นเมื่อเราฟังคำเทศนา คำเทศน์นั้นจะเข้าไปถึงใจของเรา แตะต้องใจเรา เมื่อใจเราเปิด ใจเราพร้อมรับ เราหิวกระหายพระวจนะ และพระวจนะนั้นพระเจ้าดลใจเข้ามาเป็นRhemaในชีวิตเรา พระเจ้าเร้าใจดลใจให้พระวจนะนั้นเข้ามาพูดกับเรา   ดังนั้นการฟังคำเทศนาจึงจำเป็นที่ผู้้รับสารจะต้องพร้อมรับข่าวสารจากพระเจ้า การพร้อมรับข่าวสารนั้นก็มาจากใจเราพร้อม มาจากการแสวงหาพระเจ้า อธิษฐาน นมัสการพบพระเจ้าให้สุดจิตสุดใจสุดความคิดสุดการกระทำ  และผู้เทศน์ก็จะต้องพร้อมให้พระเจ้าใช้เพื่อปลดปล่อยทั้งLogosและRhemaของพระเจ้าไปสู่ผู้ฟัง

     จากข้อที่ 1 จึงได้อธิบายให้เราได้เข้าใจว่าคำสอนของพระเยซูในบทที่ 6 พระเยซูได้ปลดปล่อยพระวจนะที่เป็นRhemaของพระเจ้าให้กับผู้ฟังทั้งหลาย  ส่วนในข้อที่ 2 เป็นต้นไป เป็นเรื่องที่พระเยซูได้พบกับผู้ใหญ่(elders)บางคนของชาวยิว ซึ่งได้เล่าเรื่องของนายร้อยซึ่งเป็นคนต่างชาติแต่ได้ให้ความช่วยเหลือและมีใจเมตตาแก่ทาส(doulos)ของเขา นอกจากนั้นยังมีใจรักและช่วยสร้างธรรมศาลาให้ชาวยิว
พวกผู้ใหญ่พวกนี้ได้อ้อนวอนให้พระเยซูช่วยนายร้อย ขณะที่พระเยซูกำลังเดินทางจะไปหา ก็ได้พบเพื่อน(pistos)ของนายร้อยกลางทางเกือบจะถึงแล้ว มาเล่าข่าวสารจากนายร้อยให้พระเยซูฟังว่า นายร้อยรู้สึกว่าไม่สมควรรับเสด็จของพระเยซูมาที่บ้าน ไม่สมควรที่นายร้อยจะไปพบพระเยซูด้วย แต่ขอเพียงพระเยซูตรัสสั่ง ทาสของนายร้อยก็จะหายโรคได้ เพราะนายร้อยเข้าใจสิทธิอำนาจที่มีในพระเยซู เหมือนที่เขาเองก็อยู่ใต้คำสั่งของผู้ที่อยู่เหนือกว่า และมีผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา จะสั่งให้ทำอะไร เขาต้องเชื่อฟังและทำตาม

     นี่เป็นเหตุที่ทำให้พระเยซูพูดว่า ไม่เคยพบคนที่มีความเชื่อมากเท่านี้แม้ในหมู่คนอิสราเอล  ขอพระเจ้าอวยพรท่านทั้งหลายให้เป็นคนที่มีความเชื่อมาก ดำเนินชีวิตด้วยความเข้าใจในความจริงและพระคำของพระเจ้า จะไม่มีเรื่องหนึ่งเรื่องใดเลยที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเรารู้น้ำพระทัยและทำตามพระทัยพระคริสต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น