วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2554

ชีวิตพระเยซูคริสต์ : ชีวิตวัยเด็ก


     มาศึกษาชีวิตของพระเยซูคริสต์ต่อนะครับ อยากจะรู้ว่าลักษณะชีวิตของพระองค์เป็นอย่าง และอยากจะขอให้เราเป็นเช่นนั้นด้วย  ครั้งนี้ยังเป็นช่วงชีวิตในวัยเด็กของพระองค์ก่อนที่พระองค์จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่และเริ่มทำพระราชกิจของพระองค์

จากข้อ 12 ของลูกาบทที่ 2 "นี่จะเป็นหมายสำคัญแก่ท่านทั้งหลาย  คือท่านจะได้พบพระกุมารนั้นพันผ้าอ้อมนอนอยู่ในรางหญ้า"
     ความประทับใจของผมอยู่ที่ภาพในพระคัมภีร์ที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างในตอนนี้ พระกุมารมาจากสวรรค์ จากที่สูง แต่มาบังเกิดในโลกมนุษย์ ไม่เพียงเท่านั้นในรางหญ้าด้วย ในที่ต่ำ ชี้ให้เห็นถึงพระเจ้าผู้ทรงถ่อมใจลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์และยอมเป็นทุกสภาพเพื่อมนุษย์ที่พระองค์ทรงรัก  ลักษณะพระองค์ในตอนนี้เป็นแบบอย่างแห่งการสละสภาพเพื่อเราได้ แม้เราจะมีสถานะอย่างไรในสังคม แต่เพราะความรักในมนุษย์ทั้งหลายเหมือนอย่างพระองค์รัก เราจึงมีความถ่อมใจและยอมเป็นอะไรก็ได้ตามประสงค์ที่พระองค์ต้องการให้เราเป็น

ข้อ 25-27   25   นี่แน่ะ  มีชายคนหนึ่งในกรุงเยรูซาเล็มชื่อสิเมโอน  เป็นคนชอบธรรมและเกรงกลัวพระเจ้า  และคอยเวลาซึ่งพวกอิสราเอลจะได้รับความบรรเทาทุกข์  และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตกับท่าน
26   พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงสำแดงแก่ท่านว่า  ท่านจะไม่ตายจนกว่าจะได้เห็นพระคริสต์ของพระเป็นเจ้า
27   สิเมโอนเข้าไปในบริเวณพระวิหาร  โดยพระวิญญาณทรงนำ  และเมื่อบิดามารดาได้นำพระกุมารเยซูเข้าไป  เพื่อจะกระทำแก่พระกุมารตามธรรมเนียมแห่งธรรมบัญญัติ
     จะสังเกตเห็นสิเมโอนคนที่มีพระวิญญาณทรงนำ จะทราบเรื่องราวความเป็นไปต่างๆได้ พระวิญญาณเปิดเผยให้ทราบว่าพระกุุมารคือพระคริสต์ที่เขารอคอย    พี่น้องลองจินตนาการดูนะครับ มีคนมากมายหลากหลายเข้ามาในพระวิหาร แล้วเขาจะทราบได้อย่างไร ว่ากุึมารนี้คือพระคริสต์ ผมเชื่อว่าโยเซฟและมารีย์คงไม่เที่ยวไปร้องป่าวประกาศหรอกครับว่ากุมารนี้คือพระคริสต์  แต่อย่างที่พระคัมภีร์เขียนคือ พระวิญญาณสถิตย์และสำแดงแก่ท่าน

ข้อ 36-38    36   ยังมีผู้ทำนายหญิงคนหนึ่งชื่ออันนา  บุตรีฟานูเอลในเผ่าอาเชอร์  นางเป็นคนชรามากแล้ว  มีสามีตั้งแต่สาวๆและอยู่ด้วยกันเจ็ดปี
37   แล้วก็เป็นม่ายมาจนถึงแปดสิบสี่ปี  นางมิได้ไปจากบริเวณพระวิหารเลย  อยู่นมัสการถืออดอาหารและอธิษฐานทั้งกลางวันกลางคืน
38   ในขณะนั้นผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาโมทนาพระเจ้า  และกล่าวถึงพระกุมารให้คนทั้งปวงที่คอยการทรงไถ่กรุงเยรูซาเล็มฟัง
     ก็เช่นกันนางอันนาทราบ

ข้อ 42-46    42   เมื่อพระกุมารมีพระชนม์สิบสองพรรษา  เขาทั้งหลายก็ขึ้นไปตามธรรมเนียมในเทศกาลนั้น
43   เมื่อครบกำหนดวันเลี้ยงกันแล้ว  ขณะเขากำลังกลับไป  พระกุมารเยซูยังค้างอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม  ฝ่ายบิดากับมารดาก็ไม่รู้
44   แต่เพราะเขาทั้งสองคิดว่า  พระกุมารนั้นอยู่ในหมู่คนที่มาด้วยกัน  เขาจึงเดินทางไปได้วันหนึ่ง  แล้วเริ่มหาพระกุมารในหมู่ญาติพี่น้องและพวกคนที่รู้จักกัน
45   เมื่อไม่พบจึงกลับไปเที่ยวหาที่กรุงเยรูซาเล็ม
46   ครั้นหามาได้สามวันแล้ว  จึงพบพระกุมารนั่งอยู่ในพระวิหารท่ามกลางพวกอาจารย์  ฟังและไต่ถามพวกอาจารย์เหล่านั้นอยู่
     เห็นลักษณะของพระเยซูคริสต์ตั้งแต่อายุสิบสองปีว่า พระองค์สนใจพระวจนะ ฟังและไต่ถามพวกอาจา่รย์เหล่านั้นอยู่ในพระวิหาร  ชีวิตเราเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ฟังด้วยความสนใจและไต่ถามพระวจนะที่ยังไม่รู้แก่บรรดาอาจารย์ี่ที่อยู่ในโบสถ์

ข้อ 51 แล้วพระกุมารก็ลงไปกับเขา  ไปยังเมืองนาซาเร็ธ  อยู่ใต้ความปกครองของเขา  มารดาก็เก็บเรื่องราวทั้งหมดนั้นไว้ในใจ
     ในขณะที่ยังไม่ถึงเวลากระทำพระราชกิจของพระองค์ ก็อยู่ภายใต้การปกครองของพ่อแม่ อยู่ภายใต้การดูแล ส่วนมารีย์ก็เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ

ข้อ 52 พระเยซูก็ได้จำเริญขึ้นในด้านสติปัญญา  ในด้านร่างกาย  และเป็นที่ชอบจำเพาะพระเจ้า  และต่อหน้าคนทั้งปวงด้วย
     พระเยซูจำเริญขึ้น เป็นที่ชอบต่อหน้าพระเจ้า และต่อหน้าคนทั้งปวง   หวังว่าเราจะเป็นเช่นพระเยซูนะครับ ดำเนินชีวิตเป็นที่ชอบต่อหน้าพระเจ้า และดำเนินชีวิตเป็นที่ชอบต่อหน้าคนทั้งปวงด้วย

แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าครับ

1 ความคิดเห็น: