มาศึกษาชีวิตของพระเยซูคริสต์ต่อนะครับ อยากจะรู้ว่าลักษณะชีวิตของพระองค์เป็นอย่าง และอยากจะขอให้เราเป็นเช่นนั้นด้วย ครั้งนี้ยังเป็นช่วงชีวิตในวัยเด็กของพระองค์ก่อนที่พระองค์จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่และเริ่มทำพระราชกิจของพระองค์
จากข้อ 12 ของลูกาบทที่ 2 "นี่จะเป็นหมายสำคัญแก่ท่านทั้งหลาย คือท่านจะได้พบพระกุมารนั้นพันผ้าอ้อมนอนอยู่ในรางหญ้า"
ความประทับใจของผมอยู่ที่ภาพในพระคัมภีร์ที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างในตอนนี้ พระกุมารมาจากสวรรค์ จากที่สูง แต่มาบังเกิดในโลกมนุษย์ ไม่เพียงเท่านั้นในรางหญ้าด้วย ในที่ต่ำ ชี้ให้เห็นถึงพระเจ้าผู้ทรงถ่อมใจลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์และยอมเป็นทุกสภาพเพื่อมนุษย์ที่พระองค์ทรงรัก ลักษณะพระองค์ในตอนนี้เป็นแบบอย่างแห่งการสละสภาพเพื่อเราได้ แม้เราจะมีสถานะอย่างไรในสังคม แต่เพราะความรักในมนุษย์ทั้งหลายเหมือนอย่างพระองค์รัก เราจึงมีความถ่อมใจและยอมเป็นอะไรก็ได้ตามประสงค์ที่พระองค์ต้องการให้เราเป็น
ข้อ 25-27 25 นี่แน่ะ มีชายคนหนึ่งในกรุงเยรูซาเล็มชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและเกรงกลัวพระเจ้า และคอยเวลาซึ่งพวกอิสราเอลจะได้รับความบรรเทาทุกข์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตกับท่าน
26 พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงสำแดงแก่ท่านว่า ท่านจะไม่ตายจนกว่าจะได้เห็นพระคริสต์ของพระเป็นเจ้า
27 สิเมโอนเข้าไปในบริเวณพระวิหาร โดยพระวิญญาณทรงนำ และเมื่อบิดามารดาได้นำพระกุมารเยซูเข้าไป เพื่อจะกระทำแก่พระกุมารตามธรรมเนียมแห่งธรรมบัญญัติ
จะสังเกตเห็นสิเมโอนคนที่มีพระวิญญาณทรงนำ จะทราบเรื่องราวความเป็นไปต่างๆได้ พระวิญญาณเปิดเผยให้ทราบว่าพระกุุมารคือพระคริสต์ที่เขารอคอย พี่น้องลองจินตนาการดูนะครับ มีคนมากมายหลากหลายเข้ามาในพระวิหาร แล้วเขาจะทราบได้อย่างไร ว่ากุึมารนี้คือพระคริสต์ ผมเชื่อว่าโยเซฟและมารีย์คงไม่เที่ยวไปร้องป่าวประกาศหรอกครับว่ากุมารนี้คือพระคริสต์ แต่อย่างที่พระคัมภีร์เขียนคือ พระวิญญาณสถิตย์และสำแดงแก่ท่าน
ข้อ 36-38 36 ยังมีผู้ทำนายหญิงคนหนึ่งชื่ออันนา บุตรีฟานูเอลในเผ่าอาเชอร์ นางเป็นคนชรามากแล้ว มีสามีตั้งแต่สาวๆและอยู่ด้วยกันเจ็ดปี
37 แล้วก็เป็นม่ายมาจนถึงแปดสิบสี่ปี นางมิได้ไปจากบริเวณพระวิหารเลย อยู่นมัสการถืออดอาหารและอธิษฐานทั้งกลางวันกลางคืน
38 ในขณะนั้นผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามาโมทนาพระเจ้า และกล่าวถึงพระกุมารให้คนทั้งปวงที่คอยการทรงไถ่กรุงเยรูซาเล็มฟัง
ก็เช่นกันนางอันนาทราบ
ข้อ 42-46 42 เมื่อพระกุมารมีพระชนม์สิบสองพรรษา เขาทั้งหลายก็ขึ้นไปตามธรรมเนียมในเทศกาลนั้น
43 เมื่อครบกำหนดวันเลี้ยงกันแล้ว ขณะเขากำลังกลับไป พระกุมารเยซูยังค้างอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม ฝ่ายบิดากับมารดาก็ไม่รู้
44 แต่เพราะเขาทั้งสองคิดว่า พระกุมารนั้นอยู่ในหมู่คนที่มาด้วยกัน เขาจึงเดินทางไปได้วันหนึ่ง แล้วเริ่มหาพระกุมารในหมู่ญาติพี่น้องและพวกคนที่รู้จักกัน
45 เมื่อไม่พบจึงกลับไปเที่ยวหาที่กรุงเยรูซาเล็ม
46 ครั้นหามาได้สามวันแล้ว จึงพบพระกุมารนั่งอยู่ในพระวิหารท่ามกลางพวกอาจารย์ ฟังและไต่ถามพวกอาจารย์เหล่านั้นอยู่
เห็นลักษณะของพระเยซูคริสต์ตั้งแต่อายุสิบสองปีว่า พระองค์สนใจพระวจนะ ฟังและไต่ถามพวกอาจา่รย์เหล่านั้นอยู่ในพระวิหาร ชีวิตเราเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ฟังด้วยความสนใจและไต่ถามพระวจนะที่ยังไม่รู้แก่บรรดาอาจารย์ี่ที่อยู่ในโบสถ์
ข้อ 51 แล้วพระกุมารก็ลงไปกับเขา ไปยังเมืองนาซาเร็ธ อยู่ใต้ความปกครองของเขา มารดาก็เก็บเรื่องราวทั้งหมดนั้นไว้ในใจ
ในขณะที่ยังไม่ถึงเวลากระทำพระราชกิจของพระองค์ ก็อยู่ภายใต้การปกครองของพ่อแม่ อยู่ภายใต้การดูแล ส่วนมารีย์ก็เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ
ข้อ 52 พระเยซูก็ได้จำเริญขึ้นในด้านสติปัญญา ในด้านร่างกาย และเป็นที่ชอบจำเพาะพระเจ้า และต่อหน้าคนทั้งปวงด้วย
พระเยซูจำเริญขึ้น เป็นที่ชอบต่อหน้าพระเจ้า และต่อหน้าคนทั้งปวง หวังว่าเราจะเป็นเช่นพระเยซูนะครับ ดำเนินชีวิตเป็นที่ชอบต่อหน้าพระเจ้า และดำเนินชีวิตเป็นที่ชอบต่อหน้าคนทั้งปวงด้วย
แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าครับ
เอเมน..และ ขอบคุณ คะ
ตอบลบ