วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ชีวิตพระเยซูคริสต์ : ตักเตือนคนที่ขาดความเชื่อและมีทิฐิชั่ว

ต่อครับ ลูกา 9:37-45

37 ต่อมาวันรุ่งขึ้นเมื่อพระองค์กับเหล่าสาวกลงมาจากภูเขาแล้ว มีคนมากมายมาพบพระองค์ 38 ดูเถิด มีชายคนหนึ่งในหมู่ประชาชนนั้นร้องว่า "อาจารย์เจ้าข้า ขอพระองค์ทรงโปรดทอดพระเนตรบุตรชายของข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้ามีบุตรคนเดียว 39 และ ดูเถิด ผีมักจะเข้าสิงเขา เด็กก็โห่ร้องขึ้นทันที ผีทำให้เด็กนั้นชักดิ้น น้ำลายฟูมปาก ทำให้ตัวฟกช้ำ ไม่ใคร่ออกจากเขาเลย 40 ข้าพเจ้าได้ขอเหล่าสาวกของพระองค์ให้ขับมันออกเสีย แต่เขากระทำไม่ได้" 41 พระเยซูตรัสตอบว่า "โอ คนในยุคที่ขาดความเชื่อและมีทิฐิชั่ว เราจะต้องอยู่กับเจ้าทั้งหลายและอดทนเพราะพวกเจ้านานเท่าใด จงพาบุตรของท่านมาที่นี่เถิด" 42 เมื่อเด็กนั้นกำลังมา ผีก็ทำให้เขาล้มชักดิ้นใหญ่ แต่พระเยซูตรัสสำทับผีโสโครกนั้นและทรงรักษาเด็กให้หาย แล้วส่งคืนให้บิดาเขา 43 คนทั้งปวงก็ประหลาดใจนักเพราะฤทธิ์เดชอันใหญ่ยิ่งของพระเจ้า แต่เมื่อเขาทั้งหลายยังประหลาดใจอยู่เพราะเหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งพระเยซูได้ทรงกระทำนั้น พระองค์จึงตรัสแก่เหล่าสาวกของพระองค์ว่า 44 จงให้คำเหล่านี้เข้าหูของท่าน เพราะว่าบุตรมนุษย์จะต้องถูกมอบไว้ในมือมนุษย์ 45 แต่คำเหล่านั้นสาวกหาได้เข้าใจไม่ ความก็ถูกซ่อนไว้จากเขา เพื่อเขาจะไม่ได้เข้าใจ และเขาไม่กล้าถามพระองค์ถึงคำนั้น


     นี่เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งเกี่ยวกับคนถูกผีเข้าที่มาขอให้พระเยซูช่วยขับผีให้เพราะพวกสาวกขับไม่ออก สาวกนี้อาจเป็นสาวกคนอื่นๆนอกเหนือจากพวกสาวก 12 คนก็เป็นได้ พวกสาวก 12 คนนั้น พระเยซูได้ส่งไปประกาศแผ่นดินพระเจ้าและกระทำการอัศจรรย์ในพระนามพระเยซูเจ้ามาก่อนหน้านี้ แต่พวกสาวกที่กล่าวถึงตรงนี้อาจเป็นพวกสาวกอีกกลุ่มหนึ่งก็ได้ที่อยู่ใกล้ชิดพระเยซู เพราะสาวกคือผู้ที่เป็นลูกศิษย์ เป็นผู้ติดตาม ได้เรียนรู้ ได้เห็นการอัศจรรย์ต่างๆนานา ในบทที่ 8 ก็ได้เห็นการขับผี รักษาโรค และทำให้คนที่ตายแล้วเป็นขึ้นมาจากความตาย แต่กลัีบไม่สามารถอธิษฐานขับผีได้  พระเยซูจึงบอกว่า "ขาดความเชื่อและมีทิฐิชั่ว"


     "ขาดความเชื่อ" ทั้งๆที่อยู่กับพระเยซูได้เห็นสิ่งต่างๆบังเกิดขึ้นผ่านกิจการที่พระเยซูคริสต์ไ้ด้ทำ ความเชื่อเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของผู้เชื่อ พระวจนะได้บอกไว้ว่า  Rom 1:17 เพราะ​ว่า​ใน​ข่าว​ประเสริฐ​นั้น ความ​ชอบธรรม​ของ​พระ​เจ้า​ก็​ได้​สำแดง​ออก โดย​เริ่มต้น​ก็​ความ​เชื่อ สุดท้าย​ก็​ความ​เชื่อ ตาม​ที่​พระ​คัมภีร์​มี​เขียน​ไว้​ว่า คน​ชอบธรรม​จะ​มี​ชีวิต​ดำรง​อยู่​โดย​ความ​เชื่อ   ชีิวิตคริสเตียนเป็นชีวิตที่อาศัยความเชื่อ  คนทั่วไปจะบอกว่า ทำให้เห็นก่อนแล้วจะเชื่อ  แต่พระคัมภีร์ว่า  เชื่อก่อนแล้วจึงจะเห็น  เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์เราจะเห็นพระวจนะที่หนุนใจให้เรามีความเชื่อในตอนต่างๆ  ขอบคุณพระเจ้าที่ให้เรามีีความเชื่อ เชื่อในพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่ เขื่อในพระเจ้าที่ทรงดูแลเราตลอดเวลา  แม้ไม่เห็นแต่เชื่อก็เป็นสุข  ยอห์น 20:29  พระ​เยซู​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “เพราะ​ท่าน​ได้​เห็น​เรา​ท่าน​จึง​เชื่อ​หรือ ผู้​ที่​ไม่​เห็น​เรา​แต่​เชื่อ​ก็​เป็น​สุข”

     "มีทิฐิชั่ว" คือ คนที่อยู่ในยุคหรือรุ่นที่บิดเบี้ยวไป แปลความผิดๆ มีสิ่งเจือปนในชีวิต นี่คือสิ่งที่พระเยซูพูด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนในสมัยยุคพระเยซู  มาดูคำนี้ในที่อื่นๆบ้างครับ   Acts 13:8 แต่​เอ​ลี​มาส​คน​ทำ​วิทยาคม (​เพราะ​ชื่อ​ของ​เขา​หมาย​อย่าง​นั้น​) ได้​คัดค้าน​ขัดขวาง​บารนาบัส​กับ​เซาโล​ หวัง​จะ​ไม่ให้​ผู้ว่า​ราชการ​เมือง​เชื่อ​     ตรงนี้บอก คัดค้านขัดขวาง     Acts 13:10 และ​พูด​ว่า “เจ้า​เป็น​คน​เต็ม​ไป​ด้วย​อุบาย และ​ใจ​ร้าย​ทุก​อย่าง ลูก​ของ​มาร​ร้าย เป็น​ศัตรู​ต่อ​บรรดา​ความ​ชอบธรรม เจ้า​จะ​ไม่​หยุด​พยายาม​ทำ​ทางตรง​ของ​พระ​เจ้า​ให้​เขว​ไป​หรือ​   ตรงนี้ใช้คำว่า ทำให้เขว   จากตัวอย่างคำนี้ในพระคัมภีร์ตอนอื่นๆ คงพอทำให้เข้าใจสิ่งที่พระเยซูกำลังบอกเรื่องลักษณะของคนในยุคพระเยซูได้บ้าง   ถามว่าคนในยุคเรามีลักษณะเช่นนั้นบ้างหรือไม่ พยายามทำให้เรื่องแห่งความจริงไขว้เขวไป  ทำให้ความจริงเรื่องพระคริสต์บิดเบือนไป  หรืออาจจะเป็นเรื่องอื่นๆก็ตามแต่ ทำให้ความจริงบิดเบี้ยวไป  ถ้าลักษณะคนเป็นอย่างนี้ แน่นอนเขาไม่มีทางขับผีออกได้ ไม่เพียงไม่เชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า แต่ยังมีลักษณะบางอย่างในชีวิตที่คิด ทำให้เรื่องต่างๆบิดเบี้ยวไปอีกด้วย

     คนของพระเจ้าต้องเป็นคนที่สัตย์ซื่อ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอันใด ดำเนินชีวิตตรงไปตรงมา ไม่มีเล่ห์เพทุบาย ไม่เป็นคนที่ทำให้ความจริงของพระเจ้าเขวไป ขอพระเจ้าชำระล้างชีวิตของเราทั้งหลายให้สะอาดทุกคน ให้กระแสน้ำที่มาท่วมประเทศไทยเป็นเหมือนสายน้ำที่มาชำระล้างสิ่งสกปรกโสโครกออกไปจากชีวิตคนไทยทุกคนในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น