สวรรค์หรือเมืองบรมสุขเกษมคือสถานที่ที่เราจะไปอยู่เมื่อวิญญาณจิตเราแยกออกจากร่างกายยามเราล่วงหลับไปแล้ว สำหรับคริสเตียนเรามีความแน่ใจ มั่นใจได้ว่าเราล่วงหลับแล้วเราจะไปอยู่ที่ไหน อย่างที่บอกไปแล้วครั้งก่อนว่า สำหรับคนที่ไม่เชื่อ เขาเกิดหนึ่งครั้ง และตายสองครั้ง ตายครั้งแรกเมื่อจิตวิญญาณออกจากร่างกาย และตายครั้งที่สองเป็นการตายนิรันดร์ เมื่อต้องถูกพิพากษาที่หน้าบัลลังภ์พระคริสต์ วิวรณ์ 20:13-15 แต่สำหรับเราผู้เชื่อ เราเกิดสองครั้ง แต่ตาย(ล่วงหลับ)ครั้งเดียว เกิดครั้งแรกจากครรภ์มารดา และเกิดครั้งที่สองเมื่อเราบังเกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณ หลังจากนั้นเมื่อเราล่วงหลับ จิตวิญญาณของเราไปอยู่กับพระเจ้า
พระเยซูคริสต์ได้จัดเตรียมที่อยู่ให้กับเราเหล่าผู้เชื่อแล้ว
ยอห์น 14:1-3
1 "อย่าให้ใจท่านทั้งหลายวิตกเลย ท่านวางใจในพระเจ้า {หรือ จงวางใจในพระเจ้า} จงวางใจในเราด้วย
2 ในพระนิเวศของพระบิดาเรามีที่อยู่เป็นอันมาก ถ้าไม่มีเราคงได้บอกท่านแล้ว เพราะเราไปจัดเตรียมที่ไว้สำหรับท่านทั้งหลาย
3 เมื่อเราไปจัดเตรียมที่ไว้สำหรับท่านแล้ว เราจะกลับมาอีกรับท่านไปอยู่กับเรา เพื่อว่าเราอยู่ที่ไหนท่านทั้งหลายจะได้อยู่ที่นั่นด้วย
เมื่อเราล่วงหลับไปจิตวิญญาณของเราจะไปอยู่กับพระเจ้า ก็คงคล้ายการหลับไปจริงๆตื่นขึ้นมาอีกทีก็ไปอยู่ในสถานที่สภาพใหม่แล้ว แต่ตอนนี้เราคงอยู่ในสภาพจิตวิญญาณอยู่ จนกระทั่งพระเยซูเสด็จกลับมาครั้งที่สองจิตวิญญาณของเราจะมากับพระองค์ด้วยและสวมสภาพใหม่กลายเป็นกายวิญญาณแบบพระเยซูคริสต์
1 เธสะโลนิกา 4:13-18
1Thess 4:13 แต่พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่อยากให้ท่านไม่ทราบถึงเรื่องคนเหล่านั้นที่ล่วงหลับไปแล้ว เพื่อท่านจะไม่เป็นทุกข์โศกเศร้าอย่างคนอื่นๆที่ไม่มีความหวัง
1Thess 4:14 เพราะถ้าเราเชื่อว่าพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์ และทรงคืนพระชนม์แล้ว เช่นเดียวกันบรรดาคนที่ล่วงหลับไปในพระเยซูนั้น พระเจ้าจะทรงนำคนเหล่านั้นมากับพระองค์ด้วย
1Thess 4:15 ในข้อนี้เราขอบอกให้ท่านทราบตามพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า เราผู้ยังเป็นอยู่และเหลืออยู่จนถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา จะล่วงหน้าไปก่อนคนเหล่านั้นที่ล่วงหลับไปแล้วก็หามิได้
1Thess 4:16 ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าเองจะเสด็จมาจากสวรรค์ ด้วยเสียงกู่ก้อง ด้วยสำเนียงของเทพบดี และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงที่ตายแล้วในพระคริสต์จะเป็นขึ้นมาก่อน
1Thess 4:17 หลังจากนั้นเราทั้งหลายซึ่งยังเป็นอยู่และเหลืออยู่ จะถูกรับขึ้นไปในเมฆพร้อมกับคนเหล่านั้น เพื่อจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ อย่างนั้นแหละเราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์
1Thess 4:18 เหตุฉะนั้นจงปลอบใจกันและกันด้วยถ้อยคำเหล่านี้เถิด
กายวิญญาณแบบพระเยซูคริสต์เป็นเช่นไร ดูจาก 1 โครินธ์ บทที่ 15 จากกายธรรมชาติหรือร่างกายของเรา(natural body) ไปเป็นกายวิญญาณ (spiritual body) :44 เมื่อพระเยซูคริสต์สิ้นพระชมม์ ร่างกาย(natural body)ของพระองค์อยู่ในอุโมงค์ แต่วิญญาณของพระองค์ลงไปเบื้องล่างไปป่าวประกาศแก่คนที่อยู่ในอกอับราฮาม ไปกับพระองค์ด้วย เมื่อพระองค์ฟื้นขึ้นมาจากความตาย(พระเยซูตายจริงๆ พระคัมภีร์ไม่ได้ใช้คำว่าล่วงหลับเหมือนอย่างเรา บทที่ 15) ร่างกาย(natural body)ของพระองค์เปลี่ยนแปลงใหม่เป็นกายวิญญาณ(spiritual body) พระคัมภีร์ ข้อ 23 บอกเราว่าการเป็นขึ้นมาจากตายของพระเยซูคริสต์เป็นผลแรก คือพระองค์ก่อนแล้วต่อมาก็คือพวกเราด้วย เพียงแต่ว่าตอนนี้เรายังอยู่ในสภาวะจิตวิญญาณที่อยู่กับพระองค์ จนเมื่อพระองค์เสด็จกลับมาจิตวิญญาณของเราก็จะรวมกับผงธุลีร่างกายของเรากลายเป็นกายวิญญาณแบบพระเยซูคริสต์ เมื่อย้อนกลับมาดูสมัยพระองค์เข้ามาบังเกิดในโลก ข้อ 45 อาดัมผู้มาภายหลังคือพระเยซูคริสต์เป็นวิญญาณผู้ประสาทชีวิต พระองค์บังเกิดโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์ในครรภ์ของมนุษย์ วิญญาณของพระองค์จากสวรรค์มาบังเกิดในมนุษย์ดินเป็นองค์พระเยซูคริสต์ เมื่อพระองค์ออกจากโลกมนุษย์ดินนั้นเปลี่ยนกลับกลายเป็นกายวิญญาณ ข้อ 50 เนื้อและเลือดจะมีส่วนในแผ่นดินพระเจ้าไม่ได้ เมื่อเราไปสวรรค์ เราไม่มีเนื้อและเลือดแล้วเป็นกายใหม่กายวิญญาณ(เมื่อพระเยซูเสด็จกลับมารับเรา) เราสามารถดูจากกายของพระเยซูคริสต์เมื่อเป็นขึ้นมาได้ว่าเป็นอย่างไร ลูกา 24:31 พระเยซูมาปรากฏและก็หายไปได้ ไม่ถูกจำกัดด้วยมิติสถานที่เหมือนมนุษย์โลก ลูกา 24:39 คลำดูได้ จับต้องพระองค์ได้ ลูกา 24:43 กินอาหารให้พวกเขาดูได้ ข้าพเจ้าคิดว่าพระองค์ต้องการแสดงให้พวกเขาไม่กลัวพระองค์
ที่นี่เมื่อเราเห็นสภาพของเราในสภาวะใหม่แล้ว เราจะไปดูกันว่าที่ที่เราจะไปอยู่นั้นเป็นอย่างไร
เปาโลบอกว่าเขารู้จักคนที่ไปสวรรค์ชั้นสาม
2โครินธ์ 12:1-4
1 ข้าพเจ้าจำจะต้องอวด ถึงแม้จะไม่มีประโยชน์อะไร แต่ข้าพเจ้าจะเล่าต่อไป ถึงนิมิตและการสำแดงซึ่งมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
2 ข้าพเจ้าได้รู้จักชายคนหนึ่งผู้เลื่อมใสในพระคริสต์สิบสี่ปีมาแล้ว เขาถูกรับขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นที่สาม (แต่จะไปทั้งกายหรือไปโดยไม่มีกายข้าพเจ้าไม่รู้ พระเจ้าทรงทราบ)
3 ข้าพเจ้าทราบ (แต่จะไปทั้งกายหรือไม่มีกายข้าพเจ้าไม่รู้ พระเจ้าทรงทราบ) ว่าคนนั้นถูกรับขึ้นไปยังเมืองบรมสุขเกษม
4 และได้ยินวาจาซึ่งจะพูดเป็นคำไม่ได้ และมนุษย์จะออกเสียงก็ต้องห้าม
จากตอนนี้จะเห็นว่าสวรรค์หรือเมืองบรมสุขเกษมคือที่เดียวกัน หรืออาจจะเป็นอย่างนี้ก็ได้ว่าสวรรค์ชั้นที่สามนั่นคือเมืองบรมสุขเกษม เป็นที่ที่พระเจ้าและผู้ที่มาอยู่ล้อมรอบบัลลังภ์ของพระเจ้าอยู่ แต่สวรรค์ชั้นหนึ่งหรือสองนั้น ไม่ใช่เมืองบรมสุขเกษม เพราะภาษากรีกท้องฟ้าหรือสวรรค์ใช้คำคำเดียวกัน
นั่นแสดงว่าสวรรค์มีหลายชั้นหรืออย่างไร เรื่องนี้นักอธิบายพระคัมภีร์ได้อธิบายว่า สวรรค์มีสามชั้นจริง โดยแบ่งเป็น
ชั้นที่1 ได้แก่บรรยากาศที่หุ้มห่อโลกนี้ที่นกบินไปมา และ มีเมฆปกคลุมอยู่ ที่ภาษาไทยเรียกว่า "ฟ้า" ปฐก.1: 4,21
ชั้นที่2 อยู่นอกบรรยากาศออกไป เป็นที่อยู่ของหมู่ดาวแกแลคซี่ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่าง ๆ ปฐก. 1 :14- 17 ,สดด.4: 3
ชั้นที่ 3 เป็นที่ประทับของพระเจ้า เป็นสวรรค์ที่เรากำลังศึกษาอยู่ เราเรียกกันว่า " เมืองบรมสุขเกษม "
ในพระคัมภีร์ได้บรรยายถึงเรื่องของสวรรค์อย่างซับซ้อน ยากแก่การเข้าใจ ได้กล่าวถึง สวรรค์ (ท้องฟ้า)ใหม่ แผ่นดินโลกใหม่ และกรุงเยรูซาเล็มใหม่
เมื่อดูจากคำว่าสวรรค์ในพระคัมภีร์ เราเห็นว่าก็แปลได้ว่าท้องฟ้าหรือสวรรค์ก็ได้
G3772 οὐρανός ouranos (ou-ran-os') n.
1. the sky
2. (by extension) heaven (as the abode of God)
3. (by implication) happiness, power, eternity
4. (specially) the Gospel (Christianity)
[perhaps from an obsolete oro "to rise or rear up" (perhaps akin to G142) through the idea of elevation]
KJV: air, heaven(-ly), sky
See also: G3735, G142
2 เปโตร 3:7 และโดยพระวจนะเดียวกันนั้นเอง ท้องฟ้าและแผ่นดินโลกที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ ก็มีไว้สำหรับให้ไฟเผาผลาญ คือเก็บไว้จนกว่าจะถึงวันทรงพิพากษาและวันพินาศแห่งบรรดาทุรชน
ภาษาอังกฤษใช้คำว่าheaven ส่วนภาษาไทยใช้คำว่าท้องฟ้า จากข้อนี้บอกว่าในอนาคตท้องฟ้าและแผ่นดินโลกจะถูกไฟเผาพลาญ ดังที่เคยเขียนไว้แล้ว และสำหรับเมืองบรมสุขเกษมก็จะเป็นที่เดียวกันกับโลกนี้ที่จะถูกเปลี่ยนใหม่
วิวรณ์ 21:1-2
1 ข้าพเจ้าได้เห็นท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ เพราะท้องฟ้าเดิมและแผ่นดินโลกเดิมนั้นหายไปหมดสิ้นแล้ว และทะเลก็ไม่มีอีกแล้ว
2 ข้าพเจ้าได้เห็นวิสุทธนคร คือนครเยรูซาเล็มใหม่ เลื่อนลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า นครนี้ได้จัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว เหมือนอย่างเจ้าสาวแต่งตัวไว้สำหรับสามี
สรุปอีกครั้งว่า เมื่อเราล่วงหลับไป จิตวิญญาณของเราจะไปอยู่กับพระเจ้าในเมืองบรมสุขเกษม และเมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา จิตวิญญาณของผู้ที่ล่วงหลับไปแล้วจะมากับพระองค์ด้วย แล้วหลังจากนั้นพวกเขาจะเป็นขึ้นมาใหม่เป็นกายวิญญาณ เสร็จแล้วผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่จะขึ้นไปพบกับพระองค์บนท้องฟ้าและเปลี่ยนสภาพกายใหม่และไปอยู่กับพระองค์ในเมืองบรมสุขเกษม เสร็จแล้วก็จะกลับมาครอบครองโลกร่วมกับพระองค์พันปี แล้วจึงจะถึงช่วงเวลาของท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ นครเยรูซาเล็มใหม่ ซึ่งท่านอ่านได้จากวิวรณ์ บทที่ 21 และ 22
สุดท้ายมีแบบสอบถามของต่างประเทศมาให้ทำกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น