วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

A) Word of God : นรก ที่ขุมขัง แดนมรณา แดนคนตาย


จากเรื่องยุคเก่าที่ได้เขียนไปแล้วนั้นจะขอต่อด้วยเรื่องนรกกับสวรรค์ที่มนุษย์ทุกคนต้องไป  ทุกคนจะมีผลปลายทางหลังจากจบชีวิตของตนเองไปแล้ว สำหรับคนที่ไม่เชื่อ ปลายทางของเขาคือแดนมรณา ที่คุมขัง แดนคนตาย หรือนรก  สำหรับคนที่เชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ปลายทางของพวกเขาคือเมืองบรมสุขเกษม หรือแผ่นดินสวรรค์นั่นเอง

แล้วสำหรับคนก่อนสมัยยุคที่พระเยซูคริสต์จะมาบังเกิดและสิ้นพระขนม์เขาต้องเผชิญกับอะไร  มาดูจากพระธรรมลูกา บทที่ 16 กัน เรื่องของเศรษฐีกับลาซารัส ข้อ 19-31

19   "ยังมีเศรษฐีคนหนึ่งนุ่งห่มผ้าสีม่วงและผ้าป่านเนื้อดี  รับประทานอาหารอย่างประณีตทุกวันๆ
20   และมีคนขอทานคนหนึ่งชื่อลาซารัส  เป็นแผลทั้งตัว  นอนอยู่ที่ประตูรั้วบ้านของเศรษฐี
21   และเขาใคร่จะกินเศษอาหารที่ตกจากโต๊ะของเศรษฐีนั้น  แม้สุนัขก็มาเลียแผลของเขา
22   อยู่มาคนขอทานนั้นตาย  และเหล่าทูตสวรรค์ได้นำเขาไปไว้ที่อกของอับราฮัม  ฝ่ายเศรษฐีนั้นก็ตายด้วย  และเขาก็ฝังไว้
23   แล้วเมื่ออยู่ในแดนมรณาเป็นทุกข์ทรมานยิ่งนัก  เศรษฐีนั้นจึงแหงนดูเห็นอับราฮัมอยู่แต่ไกล  และลาซารัสอยู่ที่อกของท่าน
24   เศรษฐีจึงร้องว่า  "อับราฮัมบิดาเจ้าข้า  ขอเอ็นดูข้าพเจ้าเถิด  ขอใช้ลาซารัสมา  เพื่อจะเอาปลายนิ้วจุ่มน้ำมาแตะลิ้นของข้าพเจ้าให้เย็น  ด้วยว่าข้าพเจ้าตรำทุกข์ทรมานอยู่ในเปลวไฟนี้"
25   แต่อับราฮัมตอบว่า  "ลูกเอ๋ย  เจ้าจงระลึกว่าเมื่อเจ้ายังมีชีวิตอยู่  เจ้าได้ของดีสำหรับตัว  และลาซารัสได้ของเลว  แต่เดี๋ยวนี้เขาได้รับความเล้าโลม  แต่เจ้าได้รับความแสนระทม
26   นอกจากนั้น  ระหว่างพวกเรากับพวกเจ้ามีเหวใหญ่ตั้งขวางอยู่  เพื่อว่าถ้าผู้ใดปรารถนาจะข้ามไปจากที่นี่ถึงเจ้าก็ไม่ได้  หรือถ้าจะข้ามจากที่นั่นมาถึงเราก็ไม่ได้"
27   เศรษฐีนั้นจึงว่า  "บิดาเจ้าข้าถ้าอย่างนั้นขอท่านใช้ลาซารัสไปยังบ้านบิดาของข้าพเจ้า
28   เพราะว่าข้าพเจ้ามีพี่น้องห้าคน  ให้ลาซารัสเป็นพยานแก่เขา  เพื่อมิให้เขามาถึงที่ทรมานนี้"
29   แต่อับราฮัมตอบเขาว่า  "เขามีโมเสสและพวกผู้เผยพระวจนะนั้นแล้ว  ให้เขาฟังคนเหล่านั้นเถิด"
30   เศรษฐีนั้นจึงว่า  "มิได้  อับราฮัมบิดาเจ้าข้า  แต่ถ้าคนหนึ่งจากหมู่คนตายไปหาเขา  เขาคงจะกลับใจเสียใหม่"
31   อับราฮัมจึงตอบเขาว่า  "ถ้าเขาไม่ฟังโมเสสและพวกผู้เผยพระวจนะ  แม้คนหนึ่งจะเป็นขึ้นมาจากความตาย  เขาก็จะยังไม่เชื่อ""

จะเห็นว่าสองคนนี้เมื่อเสียขีวิตพวกเขาไปอยู่ในที่แตกต่างกัน ลาซารัสอยู่ที่อกอับราฮัม เศรษฐีอยู่ที่แดนมรณา  ลาซารัสคงเป็นคนที่ดำเนินชีวิตตามธรรมบัญญัติจึงไปอยู่กับอับราฮัมผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งความเชื่อ ส่วนเศรษฐีแม้มีชีวิตดีบนโลก มีความสมบูรณ์ แต่ในชีวิตหลังความตายเขาต้องทนทุกข์อยู่ที่แดนมรณา  จะเห็นได้ว่าสถานที่สองแห่งนี้คงอยู่ใกล้เคียงกัน มีเพียงหุบเหวขวางกั้นไว้เท่านั้น เพราะเศรษฐีเห็นอับราฮัม และร้องขอให้ช่วย  จะเห็นจากอับราฮัมพูดว่าที่อกอับราฮัมนั้นเป็นที่ที่ได้รับความเล้าโลม  ส่วนแดนมรณาคนที่อยู่ในนั้นทนทุกข์จากเปลวไฟแผดเผาและหิวกระหายน้ำ  จากเรื่องนี้ ข้อคิดสำหรับเราคือสำหรับคนที่ไม่คิดจะเชื่อ ต่อให้คนตายเป็นขึ้นจากตายไปบอกเขา เขาก็ยังไม่เชื่อ

พระคัมภีร์อีกตอนหนึ่งในเอเฟซัส บทที่ 4:8-10  ซึ่งผมได้เทศน์ไปแล้วบอกว่า เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์พระองค์ได้มาป่าวประกาศข่าวแห่งการปลดปล่อยให้กับเชลยที่ติดอยู่ในแดนคนตายนั้น และนำเชลยที่อยู่ที่อกอับราฮัมไปกับพระองค์ด้วย  อีกข้อหนึ่งคือ  1 เปโตร 3:14-19

ดังนั้นในสมัยนี้ อกอับราฮัมไม่มีแล้ว คงมีเพียงแดนมรณาที่สำหรับคนที่ไม่เชื่อ หรือคนที่ทำผิดบาป และเมืองบรมสุขเกษมสำหรับคนที่เชื่อเท่านั้น

 สำหรับคนที่ไม่เชื่อหรือคนที่เชื่อแต่หลงไปทำผิดบาป พระคัมภีร์ได้บอกเราว่าทุกคนจะได้ผลแห่งการกระทำที่อยู่ในโลกแล้วแต่จะดีหรือชั่วทุกคน 2 โครินธ์ 5:10
10   เพราะว่าจำเป็นที่เราทุกคนจะต้องปรากฏตัวที่หน้าบัลลังก์ของพระคริสต์  เพื่อทุกคนจะได้รับสมกับการที่ได้ประพฤติในร่างกายนี้  แล้วแต่จะดีหรือชั่ว

เดี๋ยวตอนท้ายผมจะให้ท่านได้รับข่าวสารเรื่องราวของศบ.ดาเนียล ที่ฟื้นขึ้นมาจากความตายหลังจากตายไปแล้ว 2 วัน ว่าเขาได้ไปเห็นอะไรมาบ้างทั้งบนสวรรค์และในแดนมรณานั้น

จะเห็นว่าคนที่อยู่ในแดนมรณานั้น เขาได้รับผลแห่งการกระทำของเขาจริงๆ ทั้งคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคริสเตียนแต่ไม่รักษาชีวิตและคนที่ไม่ใช่คริสเตียน

ใครบ้างที่ต้องรับผลไม่เพียงแต่ในแดนมรณาเท่านั้น แต่ในบึงไฟนรกด้วย วิวรณ์ 21:8
8   แต่คนขลาด  คนไม่เชื่อคนที่น่าเกลียดน่าชัง  คนที่ฆ่ามนุษย์  คนล่วงประเวณี  คนใช้เวทมนตร์  คนไหว้รูปเคารพ  และคนทั้งปวงที่พูดมุสานั้น  มรดกของเขาอยู่ที่ในบึงไฟและกำมะถันที่กำลังไหม้อยู่นั้น  นั่นคือความตายครั้งที่สอง"

กาลาเทีย 5:19-21
19   การงานของเนื้อหนังนั้นเห็นได้ชัด  คือการล่วงประเวณี  การโสโครก  การลามก
20   การนับถือรูปเคารพ  การถือวิทยาคม  การเป็นศัตรูกัน  การวิวาทกัน  การริษยากัน  การโกรธกัน  การใฝ่สูง  การทุ่มเถียงกัน  การแตกก๊กกัน
21   การอิจฉากัน  การเมาเหล้า  การเล่นเป็นพาลเกเร  และการอื่นๆในทำนองนี้อีกเหมือนที่ข้าพเจ้าได้เตือนท่านมาก่อน  บัดนี้ข้าพเจ้าขอเตือนท่านเหมือนกับที่เคยเตือนมาแล้วว่า  คนที่ประพฤติเช่นนั้นจะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า

1 โครินธ์ 6:9-10
9   ท่านไม่รู้หรือว่า  คนอธรรมจะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า  อย่าหลงเลย  คนล่วงประเวณี  คนถือรูปเคารพ  คนผิดผัวเมียเขา  ลูกสวาท  ชายเล่นลูกสวาท
10   คนขโมย  คนโลภ  คนขี้เมา  คนปากร้าย  คนฉ้อโกง  จะไม่ได้รับส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า

เมื่ออ่านดูอย่างนี้แล้วก็ทำให้ต้องตระหนักและให้ความเอาจริงเอาจังในการดำเนินชีวิตมากขึ้น ไม่ปล่อยให้สิ่งต่างๆเหล่านี้เกาะกุมอยู่ในชีวิตเราโดยเราไม่สำนึกในความผิดบาปและเข้าไปหาพระเจ้า ขอพระคุณของพระองค์ทรงโปรดอภัยความผิดบาปเหล่านี้ให้

มนุษย์เราที่ไม่เชื่อเกิดหนึ่งครั้ง แต่ตายสองครั้ง ครั้งแรกวิญญาณจิตแยกออกจากร่าง ถูกนำไปคุมขังไว้ที่แดนมรณานั้น และเมื่อถึงวันพิพากษาหน้าบัลลังภ์พระคริสต์ ทะเลก็ส่งคืนคนตายที่ทะเล ความตายและแดนมรณาก็ส่งคืนคนที่ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตไปที่บึงไฟ   วิวรณ์ 20:13-15
13   ทะเลก็ส่งคืนคนทั้งหลายที่ตายในทะเล  ความตายและแดนมรณาก็ส่งคืนคนทั้งหลายที่อยู่ในแดนนั้น  และคนทั้งหลายก็ถูกพิพากษาตามการกระทำของตนหมดทุกคน
14   แล้วความตาย  และแดนมรณาก็ถูกผลักทิ้งลงไปในบึงไฟ  บึงไฟนี่แหละเป็นความตายครั้งที่สอง
15   และถ้าผู้ใดที่ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือชีวิต  ผู้นั้นก็ถูกทิ้งลงไปในบึงไฟ

นี่คือความตายครั้งที่สองซึ่งเป็นความตายนิรันดร์ ซึ่งในตอนนั้นพญามารและสมุนของมันก็ต้องไปที่บึงไฟมรณาด้วยกันทั้งหมด  วิวรณ์ 20:10
10   ส่วนพญามารที่ล่อลวงเขาเหล่านั้นก็ถูกโยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน  ที่สัตว์ร้ายและคนที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะตกอยู่ในนั้น  และมันต้องทนทุกข์ทรมานทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดไปเป็นนิตย์

ความตายนิรันดร์นี่แหละเป็นความทรมาณตลอดนิรันดร์  มัทธิว 25:40-46
40   แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสกับเขาว่า  "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า  ซึ่งท่านได้กระทำแก่คนใดคนหนึ่งในพวกพี่น้องของเรานี้  ถึงแม้จะต่ำต้อยเพียงไร  ก็เหมือนได้กระทำแก่เราด้วย"
41   พระองค์จะตรัสกับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายพระหัตถ์ของพระองค์ว่า  "ท่านทั้งหลายผู้ต้องแช่งสาปจงถอยไปจากเรา  เข้าไปอยู่ในไฟซึ่งไหม้อยู่เป็นนิตย์  ซึ่งเตรียมไว้สำหรับมารร้ายและสมุนของมันนั้น
42   เพราะว่าเมื่อเราหิวท่านก็มิได้ให้เรากิน  เรากระหายน้ำท่านก็มิได้ให้เราดื่ม
43   เราเป็นแขกแปลกหน้า  ท่านก็ไม่ได้ต้อนรับเราไว้  เราเปลือยกาย  ท่านก็ไม่ได้ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม  เราเจ็บป่วยและต้องจำอยู่ในพันธนาคาร  ท่านไม่ได้เยี่ยมเรา"
44   เขาทั้งหลายจะทูลว่า  "พระองค์เจ้าข้า  ที่ข้าพระองค์ได้เห็นพระองค์ทรงหิวหรือทรงกระหายน้ำ  หรือทรงเป็นแขกแปลกหน้าหรือเปลือยพระกาย  หรือประชวร  หรือต้องจำอยู่ในพันธนาคาร  และข้าพระองค์มิได้ปรนนิบัติพระองค์นั้นแต่เมื่อไร"
45   เมื่อนั้นพระองค์จะตรัสกับเขาว่า  "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า  ซึ่งท่านมิได้กระทำแก่ผู้ต่ำต้อยที่สุดสักคนหนึ่งในพวกนี้  ก็เหมือนท่านมิได้กระทำแก่เราด้วย"
46   และพวกเหล่านี้จะต้องออกไปรับโทษอยู่เป็นนิตย์  แต่ผู้ชอบธรรมจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์"
 
ชีวิตคริสเตียนจึงเป็นชีวิตที่ดำเนินตามพระวิญญาณจริงๆ มีพระวิญญาณคอยเตือนใจเรา มีความสนิทสนมกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ก็จะสอนเรา ชี้แนะให้กับเรา ปกป้องเราไว้จากสิ่งทั้งหลายที่คอยมาล่อลวงเรา
ชีวิตคริสเตียนที่ดำเนินชีวิตเป็นเหมือนศาสนาๆหนึ่ง จึงเป็นชีวิตที่อันตรายมาก เพราะเราไม่ได้พึงพาพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่คอยสอนเรา เปลี่ยนแปลงเรา แต่เราพึงพาแต่กำลังของเราเอง  เห็นเรื่องพระเยซูคริสต์เป็นเหมือนกับศาสนาๆหนึ่งเท่านั้น

ขอพระเจ้าปกป้องเราทั้งหลายไว้ให้พ้นจากมารร้ายทีคอยมาล่อลวงเรา  ขอพระเจ้าช่วยเราไม่ทำตามเนื้อหนังหรือความปรารถนาของเนื้อหนัง  แต่ขอพระเจ้าช่วยเราให้มีชีวิตที่ดำเนินตามพระวิญญาณบริสุทธิ์

โรม 8:6   ด้วยว่าซึ่งปักใจอยู่กับเนื้อหนัง  ก็คือความตาย  และซึ่งปักใจอยู่กับพระวิญญาณก็คือชีวิตและสันติสุข



 http://www.jaisamarn.org/webboard/question.asp?QID=3893 คำพยานดาเนียลภาษาไทยฟื้นจากความตาย




เรื่องราวตอนหนึ่ง




เรื่องราวตอนสอง



เรื่องราวตอนสาม



เรื่องราวตอนสี่



เรื่องราวตอนห้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น