วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

A) Word of God : ปฐมโอวาท : การพิพากษาลงโทษเป็นนิตย์

ครั้งที่แล้วเราได้ดูเรื่องการเป็นขึ้นมาจากความตาย และครั้งนี้เรื่องการพิพากษาลงโทษเป็นนิตย์  ความจริงทั้งสองเรื่องก็มีความต่อเนื่องกัน  คือทุกทุกคนจะต้องเป็นขึ้นมาจากความตาย  ผู้ไม่เชื่อเป็นขึ้นมาจากตายครั้งแรกเพื่อการพิพากษาลงโทษเป็นนิตย์เข้าสู่ความตายครั้งที่สอง  ผู้เชื่อเป็นขึ้นมาจากตายเพื่อตอบแทนตามการกระทำในโลก
พระคัมภีร์ที่บอกว่าทุกคนจะเป็นขึ้นมาจากความตาย
Acts 24:15 ข้าพเจ้ามีความหวังใจในพระเจ้า ตามซึ่งเขาเองก็มีความหวังใจด้วย คือหวังใจว่าคนทั้งปวงทั้งคนที่ชอบธรรม และคนที่ไม่ชอบธรรมจะเป็นขึ้นมาจากความตาย

ครั้งก่อนข้าพเจ้าให้ท่านท้งหลายได้ดูเกี่ยวกับเรื่องการเป็นขึ้นมาจากความตายของผู้เชื่อว่า ทุกคนที่เชื่อ(แท้จริง เป็นคริสเตียนแท้) ทุกคนจะเป็นขึ้นมาจากความตายหมดเมื่อพระเยซูมาในโลกนี้เพื่อมารับเรา คนที่ล่วงหลับไปแล้วจะเป็นขึ้นมาก่อนและถูกเปลี่ยนแปลงสภาพใหม่เป็นกายวิญญาณ  หลังจากนั้นคริสเตียนแท้บนโลกจะถูกเปลี่ยนแปลงกายใหม่เป็นกายวิญญาณเช่นเดียวกัน  นั่นคือการฟื้นจากความตาย  หลังจากนั้นผู้เชื่อ ธรรมิกชน  The saints จะปกครองโลกร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลาพันปี  และจะเผชิญการทดสอบเป็นครั้งสุดท้าย ว่าจะถูกพญามารที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อครบพันปีล่อลวงไปหรือไม่  หลังจากนั้นจะได้อยู่กับพระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์

คนที่เชื่อฟื้นมาจากความตายครั้งแรกก็เป็นสุข  และเขาจะถูกพิจารณาประทานรางวัลตามการกระทำของเขาที่อยู่ในโลก
Jer 32:19 พระองค์ทรงเป็นใหญ่ในการให้คำปรึกษา ทรงฤทธานุภาพในพระราชกิจ พระเนตรของพระองค์เห็นทุกวิถีทางของมนุษย์ ประทานรางวัลแก่ทุกคนตามพฤติการณ์ของเขาและตามผลแห่งการกระทำของเขา
Matt 16:27 เหตุว่าเมื่อบุตรมนุษย์จะเสด็จมาด้วยพระสิริแห่งพระบิดา และพร้อมด้วยทูตสวรรค์ของพระองค์ เมื่อนั้นจะประทานบำเหน็จให้ทุกคนตามการกระทำของตน

วันนั้นวันแห่งการพิจารณาพิพากษา จะมีการแยกแพะแกะออกจากกัน
Matt 25:31 เมื่อบุตรมนุษย์ทรงพระสิริเสด็จมากับทั้งหมู่ทูตสวรรค์ เมื่อนั้นพระองค์จะประทับบนพระที่นั่งอันรุ่งเรืองของพระองค์
Matt 25:32 บรรดาประชาชาติต่างๆ จะประชุมพร้อมกันต่อพระพักตร์พระองค์ และพระองค์จะทรงแยกมนุษย์ทั้งหลายออกเป็นสองพวก เหมือนอย่างผู้เลี้ยงแกะจะแยกแกะออกจากแพะ
Matt 25:33 ส่วนฝูงแกะนั้นจะทรงจัดให้อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ แต่ฝูงแพะนั้นจะทรงจัดให้อยู่เบื้องซ้าย
Matt 25:34 ขณะนั้น พระมหากษัตริย์จะตรัสแก่บรรดาผู้ที่อยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์ว่าท่านทั้งหลายที่ได้รับพระพรจากพระบิดาของเรา จงมารับเอาราชอาณาจักร ซึ่งได้ตระเตรียมไว้สำหรับท่านทั้งหลายตั้งแต่แรกสร้างโลก
Matt 25:35 เพราะว่าเมื่อเราหิว ท่านทั้งหลายก็ได้จัดหาให้เรากิน เรากระหายน้ำ ท่านก็ให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ได้ต้อนรับเราไว้
Matt 25:36 เราเปลือยกายท่านก็ได้ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เมื่อเราเจ็บป่วยท่านก็ได้มาเยี่ยมเอาใจใส่เรา เมื่อเราต้องจำอยู่ในพันธนาคาร ท่านก็ได้มาเยี่ยมเรา
Matt 25:37 เวลานั้นบรรดาผู้ชอบธรรมจะกราบทูลว่าพระองค์เจ้าข้า ที่ข้าพระองค์เห็นพระองค์ทรงหิวหรือทรงกระหายน้ำ และได้จัดมาถวายแด่พระองค์แต่เมื่อไร
Matt 25:38 ที่ข้าพระองค์ได้เห็นพระองค์ทรงเป็นแขกแปลกหน้า และได้ต้อนรับไว้ หรือเปลือยพระกาย และได้สวมฉลองพระองค์ให้แต่เมื่อไร
Matt 25:39 ที่ข้าพระองค์เห็นพระองค์ประชวรหรือต้องจำอยู่ในพันธนาคาร และได้มาเฝ้าพระองค์นั้นแต่เมื่อไร
Matt 25:40 แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสกับเขาว่าเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ซึ่งท่านได้กระทำแก่คนใดคนหนึ่งในพวกพี่น้องของเรานี้ ถึงแม้จะต่ำต้อยเพียงไร ก็เหมือนได้กระทำแก่เราด้วย
Matt 25:41 พระองค์จะตรัสกับบรรดาผู้ที่อยู่เบื้องซ้ายพระหัตถ์ของพระองค์ว่า ท่านทั้งหลายผู้ต้องแช่งสาปจงถอยไปจากเรา เข้าไปอยู่ในไฟซึ่งไหม้อยู่เป็นนิตย์ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับมารร้ายและสมุนของมันนั้น
Matt 25:42 เพราะว่าเมื่อเราหิวท่านก็มิได้ให้เรากิน เรากระหายน้ำท่านก็มิได้ให้เราดื่ม
Matt 25:43 เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ไม่ได้ต้อนรับเราไว้ เราเปลือยกาย ท่านก็ไม่ได้ให้เสื้อผ้าเรานุ่งห่ม เราเจ็บป่วยและต้องจำอยู่ในพันธนาคาร ท่านไม่ได้เยี่ยมเรา
Matt 25:44 เขาทั้งหลายจะทูลว่าพระองค์เจ้าข้า ที่ข้าพระองค์ได้เห็นพระองค์ทรงหิวหรือทรงกระหายน้ำ หรือทรงเป็นแขกแปลกหน้าหรือเปลือยพระกาย หรือประชวร หรือต้องจำอยู่ในพันธนาคาร และข้าพระองค์มิได้ปรนนิบัติพระองค์นั้นแต่เมื่อไร
Matt 25:45 เมื่อนั้นพระองค์จะตรัสกับเขาว่าเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ซึ่งท่านมิได้กระทำแก่ผู้ต่ำต้อยที่สุดสักคนหนึ่งในพวกนี้ ก็เหมือนท่านมิได้กระทำแก่เราด้วย
Matt 25:46 และพวกเหล่านี้จะต้องออกไปรับโทษอยู่เป็นนิตย์ แต่ผู้ชอบธรรมจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์

คนที่ไม่เชื่อฟื้นขึ้นมาจากความตายเพื่อถูกพิพากษาลงโทษเป็นนิตย์นั่นคือความตายครั้งที่สอง                                   Rev 20:11 ข้าพเจ้าได้เห็นพระที่นั่งใหญ่สีขาวและเห็นท่านผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น เมื่อพระองค์ทรงปรากฏแผ่นดินโลกและท้องฟ้าก็หายไป และไม่มีที่อยู่สำหรับแผ่นดินโลกและท้องฟ้าเลย
Rev 20:12 ข้าพเจ้าได้เห็นบรรดาผู้ที่ตายแล้ว ทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อยยืนอยู่หน้าพระที่นั่งนั้น และหนังสือต่างๆ ก็เปิดออก หนังสืออีกเล่มหนึ่งก็เปิดออกด้วย คือหนังสือชีวิต และผู้ที่ตายไปแล้วทั้งหมด ก็ถูกพิพากษาตามข้อความที่จารึกไว้ในหนังสือเหล่านั้น และตามที่เขาได้กระทำ
Rev 20:13 ทะเลก็ส่งคืนคนทั้งหลายที่ตายในทะเล ความตายและแดนมรณาก็ส่งคืนคนทั้งหลายที่อยู่ในแดนนั้น และคนทั้งหลายก็ถูกพิพากษาตามการกระทำของตนหมดทุกคน
Rev 20:14 แล้วความตาย และแดนมรณาก็ถูกผลักทิ้งลงไปในบึงไฟ บึงไฟนี่แหละเป็นความตายครั้งที่สอง
Rev 20:15 และถ้าผู้ใดที่ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือชีวิต ผู้นั้นก็ถูกทิ้งลงไปในบึงไฟ

การพิจารณาพิพากษาลงโทษของพระเจ้านั้น เกิดขึ้นกับทุกคน ทั้งผู้เชื่อ ผู้ไม่เชื่อ ตามควรแก่การกระทำของเขาทุกคน  สำหรับผู้เชื่อ เรามีพระคริสต์รับโทษทัณฑ์การไถ่ไปหมดสิ้นแล้ว และเราก็ไม่ควรถือดี หรือหยิ่งผยองจองหองในพระคุณที่พระเจ้าประทานแก่เรา  เรายังต้องดำเนินชีวิตด้วยความระวังระไว ดำเนินชีวิตในพระคุณของพระเจ้า เมื่อครั้งใดเราทำผิด เราเข้าไปหาพระเจ้า สารภาพบาป กลับใจใหม่ และตั้งใจว่าจะไม่ทำผิดอีก
การพิพากษานั้นเกิดกับพวกยิวด้วย และต่อมากับคนต่างชาติ  ใช่ว่าได้ชื่อว่าเป็นยิวแล้ว จะพ้นจากการพิพากษาโดยอัตโนมัติ  ไม่ใช่ แต่เขาก็ต้องพึ่งพาพระคุณของพระเจ้าเช่นเดียวกันเหมือนกับคนต่างชาติเหมือนกัน 
Rom 2:3 มนุษย์เอ๋ย ท่านที่กล่าวโทษคนที่ประพฤติเช่นนั้น แต่ท่านเองยังประพฤติเช่นเดียวกับเขา ท่านคิดหรือว่าท่านจะพ้นจากการพิพากษาลงโทษของพระเจ้าได้
Rom 2:4 หรือว่าท่านประมาทพระกรุณาคุณอันอุดม และความอดกลั้นพระทัย และความอดทนของพระองค์ ท่านไม่รู้หรือว่าพระกรุณาคุณของพระเจ้านั้น มุ่งที่จะชักนำท่านให้กลับใจใหม่
Rom 2:5 แต่เพราะท่านใจแข็งกระด้างไม่ยอมกลับใจ ท่านจึงส่ำสมโทษให้แก่ตัวเอง ในวันที่พระเจ้าทรงลงพระอาชญา ซึ่งพระองค์จะทรงสำแดงการพิพากษาลงโทษที่เที่ยงธรรมให้ประจักษ์
Rom 2:6 เพราะพระองค์จะประทานแก่ทุกคนตามควรแก่การกระทำของเขา
Rom 2:7 สำหรับคนที่พากเพียรทำความดี แสวงหาศักดิ์ศรี เกียรติ และความเป็นอมตะนั้น พระองค์จะประทานชีวิตนิรันดร์ให้
Rom 2:8 แต่พระองค์จะทรงพระพิโรธ และลงพระอาชญาแก่คนที่มักยกตนข่มท่าน และไม่ประพฤติตามสัจจะ แต่ประพฤติชั่ว
Rom 2:9 ความทุกข์เวทนาจะเกิดแก่ทุกคนที่ประพฤติชั่ว แก่พวกยิวก่อนและแก่พวกต่างชาติด้วย
Rom 2:10 แต่ศักดิ์ศรี เกียรติ และสันติสุข จะเกิดมีแก่ทุกคนที่ประพฤติดี แก่พวกยิวก่อนและแก่พวกต่างชาติด้วย
Rom 2:11 เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ทรงเห็นแก่หน้าผู้ใดเลย

พระเจ้าไม่ได้เห็นแก่หน้าผู้ใด  ดังนั้นชีวิตที่เรามีอยู่ เราต้องรักษาความรอดของเราไว้ให้มั่น  โดยพระคุณพระเจ้าที่มีต่อเรา โดยความรักของเราที่มีต่อพระเจ้า เราจะไม่ทอดทิ้งพระองค์  เราจะติดตามพระองค์ตลอดไป  เราจะรอคอยวันนั้น วันที่พระองค์จะเสด็จกลับมารับพวกเราไปอยู่กับพระองค์  ขอพระคุณของพระเจ้าช่วยพวกเราทั้งหลายรักษาชีวิตไว้ให้มั่นคงในทางของพระเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น