Dan 9:26 หลังจากหกสิบสองสัปดาห์แล้ว พระเมสสิยาห์ก็จะถูกตัดออก แต่มิใช่เพื่อตัวท่านเอง และประชาชนของประมุขผู้หนึ่งที่จะมานั้นจะทำลายกรุงและสถานบริสุทธิ์เสีย ที่สุดปลายของมันจะมาถึงด้วยน้ำท่วม และจนสงครามสิ้นสุดลงก็มีการรกร้างกำหนดไว้
นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราอาจชะลอสิ่งนี้ได้ โลกเรากำลังมีอุณหภูมิสูงขึ้นๆทุกวันๆ แน่นอนน้ำแข็งขั้วโลกกำลังละลายกลายเป็นน้ำมากขึ้นๆ มาติดตามบทความต่างๆซึ่งเอามาจากเว็บ http://www.greentheearth.info/ กันครับ
ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หมายถึง การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศบนโลกสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอากาศบริเวณใกล้ผิวโลกและน้ำในมหาสมุทร ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นถึง 0.74 ± 0.18 องศาเซลเซียส และจากแบบจำลองการคาดคะเนภูมิอากาศพบว่าในปี พ.ศ. 2544 – 2643 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 1.1 ถึง 6.4 องศาเซลเซียส
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนก็เพราะว่าก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นจากการทำกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการเผาผลาญถ่านหินและเชื้อเพลิง รวมไปถึงสารเคมีที่มีส่วนผสมของก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์ใช้ และอื่นๆอีกมากมาย จึงทำให้ก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ลอยขึ้นไปรวมตัวกันอยู่บนชั้นบรรยากาศของโลก ทำให้รังสีของดวงอาทิตย์ที่ควรจะสะท้อนกลับออกไปในปริมาณที่เหมาะสม กลับถูกก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้กักเก็บไว้ ทำให้อุณหภูมิของโลกค่อยๆสูงขึ้นจากเดิม
ผลกระทบของภาวะโลกร้อนนั้นก็มีให้เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ สภาพลมฟ้าอากาศที่ผิดแปลกไปจากเดิม ภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุที่รุนแรง อากาศที่ร้อนผิดปกติจนมีคนเสียชีวิต รวมไปถึงโรคระบาดชนิดใหม่ๆ หรือโรคระบาดที่เคยหายไปจากโลกนี้แล้วก็กลับมาให้เราได้เห็นใหม่ และพาหะนำโรคที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น
ในอนาคตคาดว่าผลกระทบของภาวะโลกร้อนจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เราสามารถช่วยกันลดภาวะโลกร้อนได้หลายวิธี หลักๆก็เห็นจะเป็นการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและประหยัด เพราะว่าพลังงานที่พวกเราใช้กันอยู่ทุกวันนี้กว่าจะมาถึงให้เราได้ใช้นั้น ต้องผ่านกระบวนการขั้นตอนในการผลิตมากมาย และแต่ละขั้นตอนก็จะทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกขึ้นมา เพราะฉะนั้นการลดใช้พลังงานก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ เช่น การปิดไฟเมื่อไม่ได้ใช้ การใช้น้ำอย่างประหยัด การใช้จักรยานแทนรถยนต์ในการเดินทางใกล้ๆ และอื่นๆอีกมากมาย
การปลูกต้นไม้ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ อย่างที่เรารู้กันดีว่าในเวลากลางวัน ต้นไม้นั้นจะช่วยหายใจเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป และหายใจออกมาเป็นก๊าซออกซิเจน เปรียบเสมือนเครื่องฟอกอากาศให้กับโลกของเราโดยแท้ แต่ทว่าปัจจุบันป่าไม้ถูกทำลายและมีจำนวนลดลงไปอย่างมาก ฉะนั้นถ้าเราทุกคนช่วยกันปลูกต้นไม้ ก็เหมือนกับช่วยเพิ่มเครื่องฟอกอากาศให้กับโลกของเรา
เรามาดูกันว่าทำไมก๊าซเรือนกระจกจึงทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และมันส่งผลกระทบอะไรกับโลกของเราบ้าง เมื่อหลายปีที่ผ่านมาคงมีคนเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับปรากฏการณ์เรือนกระจกมาบ้างแล้ว โจเซฟ ฟูริเออร์ เป็นผู้ค้นพบปรากฏการณ์เรือนกระจกเมื่อปี พ.ศ. 2367 ปรากฏการณ์เรือนกระจกนี้ทำให้โลกของเราเก็บความอบอุ่นไว้เพื่อให้สิ่งมีชีวิตในโลกดำรงค์ชีวิตอยู่ได้
แต่ในปัจจุบันประชากรของโลกเรานั้นเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จากเมื่อ 57 ปีที่แล้วมี 2,500 ล้านคน ปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาถึง 6,600 ล้านคน เมื่อประชากรกำลังขยายตัวมากขึ้น ทรัพยากรก็ถูกนำมาใช้มากมายเพื่อสนองความต้องการของพวกเรา ทั้งการตัดไม้เพื่อมาสร้างที่อยู่หรือเครื่องใช้ต่างๆ รวมไปถึงน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน เกิดอุตสาหกรรมผลิตอาหารและสินค้ามากมาย ผลกระทบของการเผาผลาญพลังงานเหล่านี้ก็คือก๊าซเรือนกระจกที่ค่อยๆจับตัวกันบนชั้นบรรยากาศของโลก ในขณะที่ป่าไม้ก็ลดลงไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้จับตัวหนาอยู่บนชั้นบรรยากาศ ก็ทำให้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่จะต้องระบายออกไปอย่างสมดุลเป็นไปไม่ได้ โลกเราก็เลยเปรียบเหมือนเตาอบที่อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆน้ำแข็งที่อยู่ตรงขั้วโลกและที่ธารน้ำแข็งต่างๆก็จะละลายเร็วเกินไป ปกติน้ำแข็งจะสะสมไว้ในฤดูฝน เพื่อที่จะค่อยๆละลายออกมาไหลลงเป็นแม่น้ำต่างๆ อย่างเช่นแม่น้ำคงคา 70% เป็นน้ำที่ไหลมาจากการละลายของน้ำแข็งที่เทือกเขาหิมาลัย
เมื่อน้ำแข็งละลายเร็วเกินไปก็ส่งผลกระทบมากมายให้กับสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลก อย่างเช่นหมีขั้วโลกก็จะไม่มีน้ำแข็งไว้เหยียบ ต้องว่ายๆน้ำเป็นระยะทางไกลๆเพื่อหาอาหาร และอาหารของมันก็หายากมากขึ้นทุกที ทำให้หมีขั้วโลกนั้นใกล้จะสูญพันธุ์ ส่วนผลกระทบที่มีต่อพวกเรานั้นก็ได้เห็นกันไปมากมายแล้ว พอน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วก็ทำให้อุณหภูมิของมหาสมุทรเปลี่ยนไป ส่งผลกระทบกับสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรงทำให้เกิดภัยพิบัติมากมาย พอน้ำในมหาสมุทรเปลี่ยนไปก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในทะเล พวกปะการังก็จะค่อยๆตาย แนวปะการังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ ถ้าไม่มีปะการังสัตว์น้ำมากมายก็จะสูญพันธุ์ไป ตัวที่ยังอยู่ก็ไม่สามารถฟักไข่ได้ เพราะอุณหภูมิในน้ำไม่เหมาะสม อนาคตถ้าเรายังไม่ช่วยกันลดภาวะโลกร้อน เราอาจจะไม่มีปลากินแล้วก็ได้
น้ำแข็งที่ละลายอย่างรวดเร็วยังทำให้น้ำในมหาสมุทรสูงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เฉลี่ย 3 มิลลิเมตรต่อปี แถมแผ่นดินก็เกิดเการทรุดตัวลงมาอีกด้วย แถวชานเมืองฝั่งตะวันออกของกรุงเทพทุรดตัวลงมา 5-10 เซนติเมตรต่อปี ถ้าเรายังไม่ช่วยกันลดภาวะโลกร้อน ต่อไปคงจะได้เล่นน้ำในกรุงเทพกัน เป็นทะเลกรุงเทพของแท้เลย
เราสามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดภาวะโลกร้อนได้ โดยการหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของที่ทำให้เกิดก๊าซเหล่านี้ เช่น ตู้เย็นเก่าๆที่ยังใช้สารทำความเย็น CFCs อยู่, พวกสเปรย์ และยาฆ่าแมลงที่มีสารพวกนี้ หรืออาจจะไม่บริโภคสินค้าที่ใช้ยาฆ่าแมลง นอกจากจะดีต่อโลกแล้วยังดีต่อตัวเองอีกด้วย และวิธีที่ดีมากๆนั่นก็คือการช่วยกันปลูกต้นไม้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายวิธีที่คุณก็ทำได้ มาช่วยกันเถอะครับ คนละนิดละหน่อยเพื่อลดภาวะโลกร้อน เพื่อโลกของเรานั่นเอง
100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก “100 Place to Remember before they disappear”
100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก เป็นผลงานที่จะสะท้อนให้เห็นปัญหาของภาวะโลกร้อนที่กำลังส่งผลกระทบกับธรรมชาติและมนุษย์ ถูกจัดทำขึ้นโดยกลุ่ม Co+Life ซึ่งร่วมก่อตั้งโดย Stine Norden และ Søren Rud ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนิทรรศการ “Earth from Above” and “Spirit of the Wild” ในประเทศเดนมาร์ก
100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก ถูกผลิตขึ้นมาเป็นหนังสือ โปสเตอร์ และโปสการ์ด รวมถึง 100 สารคดีสั้นๆ ของสถานที่ ที่จะหายไปจากโลกเพราะผลกระทบของภาวะโลกร้อน ที่จะได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ของหลายๆประเทศ ซึ่งรวมถึงช่อง 3 ของประเทศไทยด้วย
ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อ 100 สถานที่นั้น แบ่งออกเป็น 9 ประเภทดังนี้
1. ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น
2. การละลายของน้ำแข็งในทะเล
3. อุณหภูมิที่สูงขึ้น
4. แนวปะการังถูกทำลาย
5. ฝนตกน้อยลง
6. ธารน้ำแข็งละลาย
7. กลายเป็นทะเลทราย
8. การละลายของน้ำแข็งบนพื้นดิน
9. สภาพอากาศที่รุนแรง
ท่านสามารถเข้าไปดู 100 สถานที่ ที่ไหนจะหายไปเพราะสาเหตุข้างต้นได้ที่ www.100places.com
ส่วนกรุงเทพมหานครของเราก็เป็นสถานที่ ที่ 58 ซึ่งเราควรจะจดจำไว้ก่อนที่จะหายไปเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะหันมามองปัญหาภาวะโลกร้อน หรือต้องรอให้ถึงวันที่กรุงเทพจมอยู่ใต้ทะเลก่อน
TIME Magazine ฉบับวันที่ 9 เมษายน 2007 ได้ลงหน้าปกว่า Global Warming Survivor Guide
หรือ คู่มือเอาชีวิตรอด จาก ภาวะโลกร้อน ซึ่งมีบทความเกี่ยวกับ 51 วิธี แก้ปัญหา โลกร้อน ที่พวกเราสามารถทำได้
Read more:http://www.time.com/time/specials/packages/completelist/0,29569,1602354,00.html#ixzz1EMsDnjsz
ภาพข้างล่างนี่บ่งบอกถึงสภาวะโลกร้อนได้ชัดเจนครับ
สารคดีนี้ทำไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว นั่นแสดงว่าภาวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นนานแล้ว แต่ขึ้นกับว่าเรารู้ตัวหรือเปล่า เราป้องกัน เราช่วยลดโลกร้อนหรือเปล่า สิ่งที่ส่งผลกระทบโดยตรงคือบริเวณริมทะเล น้ำจะสูงขึ้น แล้วพื้นที่ที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน ไม่ต้องตกใจในผลกระทบนี้อย่างนั้นหรือ ไม่ใช่แน่นอน คลื่นความร้อนเกิดที่ไหนก็ได้แม้ในที่ที่ไม่มีน้ำทะเลสูงขึ้น ผลกระทบต่อป่าเกิดความแห้งแล้ว ไฟไหม้ป่าล่ะ ยังมีเรื่องสัตว์สายพันธุ์ต่างๆสูญพันธุ์ เชื้อโรคต่างๆที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเพราะอุณหภูมิโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก เป็นผลงานที่จะสะท้อนให้เห็นปัญหาของภาวะโลกร้อนที่กำลังส่งผลกระทบกับธรรมชาติและมนุษย์ ถูกจัดทำขึ้นโดยกลุ่ม Co+Life ซึ่งร่วมก่อตั้งโดย Stine Norden และ Søren Rud ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนิทรรศการ “Earth from Above” and “Spirit of the Wild” ในประเทศเดนมาร์ก
100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก ถูกผลิตขึ้นมาเป็นหนังสือ โปสเตอร์ และโปสการ์ด รวมถึง 100 สารคดีสั้นๆ ของสถานที่ ที่จะหายไปจากโลกเพราะผลกระทบของภาวะโลกร้อน ที่จะได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ของหลายๆประเทศ ซึ่งรวมถึงช่อง 3 ของประเทศไทยด้วย
ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อ 100 สถานที่นั้น แบ่งออกเป็น 9 ประเภทดังนี้
1. ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น
2. การละลายของน้ำแข็งในทะเล
3. อุณหภูมิที่สูงขึ้น
4. แนวปะการังถูกทำลาย
5. ฝนตกน้อยลง
6. ธารน้ำแข็งละลาย
7. กลายเป็นทะเลทราย
8. การละลายของน้ำแข็งบนพื้นดิน
9. สภาพอากาศที่รุนแรง
ท่านสามารถเข้าไปดู 100 สถานที่ ที่ไหนจะหายไปเพราะสาเหตุข้างต้นได้ที่ www.100places.com
ส่วนกรุงเทพมหานครของเราก็เป็นสถานที่ ที่ 58 ซึ่งเราควรจะจดจำไว้ก่อนที่จะหายไปเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะหันมามองปัญหาภาวะโลกร้อน หรือต้องรอให้ถึงวันที่กรุงเทพจมอยู่ใต้ทะเลก่อน
TIME Magazine ฉบับวันที่ 9 เมษายน 2007 ได้ลงหน้าปกว่า Global Warming Survivor Guide
หรือ คู่มือเอาชีวิตรอด จาก ภาวะโลกร้อน ซึ่งมีบทความเกี่ยวกับ 51 วิธี แก้ปัญหา โลกร้อน ที่พวกเราสามารถทำได้
Full List
WHAT YOU CAN DO
- Turn Food Into Fuel
- Get Blueprints For a Green House
- Change Your Lightbulbs
- Light Up Your City
- Pay the Carbon Tax
- Ditch the Mansion
- Hang Up a Clothes Line
- Give New Life to Your Old Fleece
- Build a Skyscraper
- Turn Up the Geothermal Heat
- Take Another Look at Vintage Clothes
- Capture the Carbon
- Let Employees Work Close to Home
- Ride the Bus
- Move to a High-Rise
- Pay Your Bills Online
- Open a Window
- Ask the Experts For An Energy Audit of Your Home
- Buy Green Power, At Home or Away
- Check the Label
- Cozy Up to Your Water Heater
- Skip the Steak
- Copy California
- Just Say No to Plastic Bags
- Support your local farmer
- Plant a bamboo fence
- Straighten up and fly right
- Have a green wedding
- Remove the tie
- Shut off your computer
- Wear green eye shadow
- Kill the Lights At Quitting Time
- Rearrange the Heavens and the Earth
- Rake in the Fall Colors
- End the Paper Chase
- Play the Market
- Think Outside the Packaging
- Trade Carbon for Capital
- Make Your Garden Grow
- Get a Carbon Budget
- Fill'er Up With Passengers
- Pay For Your Carbon Sins
- Move to London's New Green Zone
- Check Your Tires
- Make One Right Turn After Another
- Plant a Tree in the Tropics
- If You Must Burn Coal, Do it Right
- Drive Green on the Scenic Route
- Set a Higher Standard
- Be aggressive about passive
- Consume Less, Share More, Live Simply
Read more:http://www.time.com/time/specials/packages/completelist/0,29569,1602354,00.html#ixzz1EMsDnjsz
ภาพข้างล่างนี่บ่งบอกถึงสภาวะโลกร้อนได้ชัดเจนครับ
ภาพธารน้ำแข็ง (glacier) ในเปรู ปี 1980 | ภาพธารน้ำแข็ง (glacier) ในเปรู ปี 2002 |
สารคดีนี้ทำไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว นั่นแสดงว่าภาวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นนานแล้ว แต่ขึ้นกับว่าเรารู้ตัวหรือเปล่า เราป้องกัน เราช่วยลดโลกร้อนหรือเปล่า สิ่งที่ส่งผลกระทบโดยตรงคือบริเวณริมทะเล น้ำจะสูงขึ้น แล้วพื้นที่ที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน ไม่ต้องตกใจในผลกระทบนี้อย่างนั้นหรือ ไม่ใช่แน่นอน คลื่นความร้อนเกิดที่ไหนก็ได้แม้ในที่ที่ไม่มีน้ำทะเลสูงขึ้น ผลกระทบต่อป่าเกิดความแห้งแล้ว ไฟไหม้ป่าล่ะ ยังมีเรื่องสัตว์สายพันธุ์ต่างๆสูญพันธุ์ เชื้อโรคต่างๆที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปเพราะอุณหภูมิโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
สารคดีอีกชุดหนึ่ง ใหม่ขึ้นปี 08 มาพร้อมกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น