สวัสดีครับ เรากำลังอยู่ในลูกาบทที่ 4 อยู่ครับ พระเยซูคริสต์ได้เริ่มต้นทำพระราชกิจของพระองค์ หลังจากผ่านบททดสอบโดยมารซาตานมาได้ ครั้งที่ผ่านมาเราได้เห็นพระราชกิจแห่งพระวจนะของพระองค์ สำหรับครั้งนี้เมื่ออ่านดูจากข้อที่เหลืออยู่ของบทที่ 4 เราจะเห็นสิทธิอำนาจที่มีในพระเยซูคริสต์เหนือผีมารซาตาน ในการทำพระราชกิจของพระองค์
Luke 4:31 พระองค์เสด็จลงไปถึงเมืองคาเปอรนาอุมแคว้นกาลิลี และได้ทรงสั่งสอนเขาทั้งหลายในวันสะบาโต
Luke 4:32 คนทั้งปวงก็อัศจรรย์ใจด้วยการสอนของพระองค์ เพราะคำของพระองค์ประกอบด้วยสิทธิอำนาจ
Luke 4:33 มีคนหนึ่งในธรรมศาลาที่มีผีโสโครกเข้าสิง เขาร้องเสียงดังว่า
Luke 4:34 “ไฮ้ พระเยซูชาวนาซาเร็ธ ท่านมายุ่งกับเราทำไม ท่านมาทำลายพวกเราหรือ เรารู้ว่าท่านเป็นผู้ใด ท่านคือองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า”
Luke 4:35 พระเยซูจึงตรัสห้ามมันว่า “จงนิ่งเสีย ออกมาจากเขาซี” เมื่อผีนั้นได้ทำให้เขาล้มลงท่ามกลางประชุมชน แล้วก็ออกมาจากเขาแต่มิได้ทำอันตรายเขาเลย
Luke 4:36 คนทั้งปวงก็ประหลาดใจนัก พูดกันว่า “คนนี้เป็นอย่างไรหนอ เพราะว่าท่านได้สั่งผีโสโครกด้วยสิทธิอำนาจและด้วยฤทธิ์เดช พวกมันก็ออกมา”
Luke 4:37 กิตติศัพท์ของพระองค์จึงได้เลื่องลือไปทุกตำบลที่อยู่รอบนั้น
Luke 4:38 ฝ่ายพระองค์ทรงลุกขึ้นออกจากธรรมศาลา เสด็จเข้าไปในเรือนของซีโมน แม่ยายซีโมนป่วยเป็นไข้หนัก เขาทั้งหลายจึงอ้อนวอนพระองค์ให้ช่วยหญิงนั้น
Luke 4:39 พระองค์ทรงยืนอยู่ข้างคนเจ็บ ทรงขนาบไข้ ไข้ก็หาย และในทันใดนั้นแม่ยายของซีโมนก็ลุกขึ้นปรนนิบัติพระองค์กับพวกของพระองค์
Luke 4:40 ครั้นเวลาตะวันยอแสง ใครมีคนเจ็บเป็นโรคต่างๆ ก็พามาหาพระองค์ พระองค์ก็ทรงวางพระหัตถ์ถูกต้องเขาทุกคน ให้เขาหายโรค
Luke 4:41 ผีก็ออกมาจากคนหลายคนด้วย ร้องว่า “ท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า” ฝ่ายพระองค์ก็ทรงขนาบมัน และไม่ให้มันพูด เพราะว่ามันรู้แล้วว่าพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์
Luke 4:42 ครั้นรุ่งเช้า พระองค์เสด็จออกไปยังที่เปลี่ยว ประชาชนเที่ยวเสาะหาพระองค์ ครั้นพบแล้วก็หน่วงเหนี่ยวพระองค์ไว้ ไม่ให้ไปจากเขา
Luke 4:43 แต่พระองค์ตรัสแก่เขาว่า “เราต้องไปประกาศข่าวประเสริฐแห่งแผ่นดินของพระเจ้าแก่เมืองอื่นด้วย เพราะว่าที่เราได้รับใช้มา ก็เพราะเหตุนี้เอง”
Luke 4:44 พระองค์ทรงประกาศในธรรมศาลาทั่วยูเดีย
Luke 4:31 พระองค์เสด็จลงไปถึงเมืองคาเปอรนาอุมแคว้นกาลิลี และได้ทรงสั่งสอนเขาทั้งหลายในวันสะบาโต
Luke 4:32 คนทั้งปวงก็อัศจรรย์ใจด้วยการสอนของพระองค์ เพราะคำของพระองค์ประกอบด้วยสิทธิอำนาจ
Luke 4:33 มีคนหนึ่งในธรรมศาลาที่มีผีโสโครกเข้าสิง เขาร้องเสียงดังว่า
Luke 4:34 “ไฮ้ พระเยซูชาวนาซาเร็ธ ท่านมายุ่งกับเราทำไม ท่านมาทำลายพวกเราหรือ เรารู้ว่าท่านเป็นผู้ใด ท่านคือองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า”
Luke 4:35 พระเยซูจึงตรัสห้ามมันว่า “จงนิ่งเสีย ออกมาจากเขาซี” เมื่อผีนั้นได้ทำให้เขาล้มลงท่ามกลางประชุมชน แล้วก็ออกมาจากเขาแต่มิได้ทำอันตรายเขาเลย
Luke 4:36 คนทั้งปวงก็ประหลาดใจนัก พูดกันว่า “คนนี้เป็นอย่างไรหนอ เพราะว่าท่านได้สั่งผีโสโครกด้วยสิทธิอำนาจและด้วยฤทธิ์เดช พวกมันก็ออกมา”
Luke 4:37 กิตติศัพท์ของพระองค์จึงได้เลื่องลือไปทุกตำบลที่อยู่รอบนั้น
Luke 4:38 ฝ่ายพระองค์ทรงลุกขึ้นออกจากธรรมศาลา เสด็จเข้าไปในเรือนของซีโมน แม่ยายซีโมนป่วยเป็นไข้หนัก เขาทั้งหลายจึงอ้อนวอนพระองค์ให้ช่วยหญิงนั้น
Luke 4:39 พระองค์ทรงยืนอยู่ข้างคนเจ็บ ทรงขนาบไข้ ไข้ก็หาย และในทันใดนั้นแม่ยายของซีโมนก็ลุกขึ้นปรนนิบัติพระองค์กับพวกของพระองค์
Luke 4:40 ครั้นเวลาตะวันยอแสง ใครมีคนเจ็บเป็นโรคต่างๆ ก็พามาหาพระองค์ พระองค์ก็ทรงวางพระหัตถ์ถูกต้องเขาทุกคน ให้เขาหายโรค
Luke 4:41 ผีก็ออกมาจากคนหลายคนด้วย ร้องว่า “ท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า” ฝ่ายพระองค์ก็ทรงขนาบมัน และไม่ให้มันพูด เพราะว่ามันรู้แล้วว่าพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์
Luke 4:42 ครั้นรุ่งเช้า พระองค์เสด็จออกไปยังที่เปลี่ยว ประชาชนเที่ยวเสาะหาพระองค์ ครั้นพบแล้วก็หน่วงเหนี่ยวพระองค์ไว้ ไม่ให้ไปจากเขา
Luke 4:43 แต่พระองค์ตรัสแก่เขาว่า “เราต้องไปประกาศข่าวประเสริฐแห่งแผ่นดินของพระเจ้าแก่เมืองอื่นด้วย เพราะว่าที่เราได้รับใช้มา ก็เพราะเหตุนี้เอง”
Luke 4:44 พระองค์ทรงประกาศในธรรมศาลาทั่วยูเดีย
ข้อ 31 หลังจากที่พระองค์ผ่านการถูกผลักตกหน้าผาที่เมืองนาซาเร็ธ พระองค์ได้ดำเนินไปที่เมืองคาเปอรนาอูม ไม่ห่างกันมากนัก
ท่านจะเห็นเมืองนาซาเร็ธอยู่ทางด้านบนจากแผนที่นี้ และถัดขึ้นไปอีกคือเมืองคาเปอรนาอูมซึ่งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบกาลิลี
กลับไปดูบทความที่ผมเล่าสมัยไปอิสราเอลที่เมืองนาซาเร็ธ http://ppexplore.blogspot.com/2009/09/14.html
และอีกที่ที่ไปคือคาเปอรนาอูม http://ppexplore.blogspot.com/2009/09/15.html
ลองชมกันดูนะครับว่า นาซาเร็ธและคาเปอรนาอูม สมัยศตวรรษที่ 21 เป็นอย่างไรบ้าง เมื่อเทียบกับสมัยพระเยซูอยู่จะเป็นสภาพอย่างไร แน่นอนครับ ไม่มีรถ เดินอย่างเดียว และใช้เรือมาตามทะเลสาบ สภาพดินอิสราเอลไม่เป็นเหมือนบ้านเราด้วย ส่วนมากเป็นทะเลทราย แถบด้านบนของอิสราเอลนี้ที่ท่านได้เห็นยังมีสภาพเป็นดินบ้าง แต่ทางส่วนล่างของอิสราเอลเป็นทะเลทราย
พระเยซูได้เดินทางจากนาซาเร็ธมาคาเปอรนาอูมซึ่งอยู่ริมทะเลสาบ(มธ.4:13) และเข้าไปในธรรมศาลาเช่นเคย(มก.1:21) พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่าพระองค์สั่งสอนด้วยสิทธิอำนาจ คำของพระองค์ประกอบด้วยสิทธิอำนาจ ผมเชื่อว่าถ้อยคำที่เราพูดที่เราประกาศจะประกอบด้วยสิทธิอำนาจเช่นกัน เมื่อเราดำเนินชีวิตในพระคริสต์ ชีวิตพระเยซูสะอาด บริสุทธิ์ เต็มด้วยความชอบธรรม ใจพระองค์เต็มด้วยความกรุณาและสงสารประชากรของพระองค์ สิ่งนี้ย่อมประกอบทำให้คำพูดคำสอนของพระองค์นั้นมีสิทธิอำนาจ สร้างความแปลบปลาบใจให้กับผู้ฟังเป็นแน่
คนหนึ่งในธรรมศาลามีผีโสโครกเข้าสิง มันได้ฟังพระวจนะ แล้วทนไม่ได้ร้องออกมา "พระเยซู ท่านมายุ่งกับเราทำไม" เมื่อผมประกาศ ขับผี หลายๆครั้ง ผมใช้พระวจนะครับ ผมเชื่อในฤทธิ์เดชแห่งพระวจนะ ครั้งหนึ่งขับผีไม่ยอมออก ก็ใช้วิธีอ่านพระคัมภีร์ให้คนถูกผีสิงฟัง แล้วผีก็คลายฤทธิ์ที่ควบคุมมนุษย์อยู่ อีกครั้งหนึ่งตอนที่ผมยังไม่เชื่อ ไปฟังอาจารย์เทศน์ในงานประกาศ เมื่ออาจารย์ท่านนั้นเริ่มเทศน์ ผีที่สิงอยู่ในคนก็เริ่มทุรนทุราย ผมเชื่อว่าพระวจนะของพระเจ้าเป็นฤทธิ์เดชจริงๆครับ โรม1:16 "เพราะว่าข่าวประเสริฐเป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้า"
เราจะเห็นว่าพระเยซูห้ามไม่ให้ผีพูด เพราะยังไม่ถึงเวลาของพระองค์ พระองค์มีเวลาของพระองค์ มีเวลาแห่งการเริ่มต้นรับใช้ มีเวลาที่จะเปิดเผยตนเองว่าพระองค์คือผู้ใด ข้อ 36 คนทั้งปวงก็ประหลายใจเพราะสิ่งที่พระเยซูทำ สั่งผีด้วยสิทธิอำนาจและฤทธิเดช ผมเคยแบ่งปันไปแล้วเรื่องนี้ ลองตามกลับไปดูครับ
ถัดจากนั้น พระองค์ไปที่บ้านของซีโมนเปโตร (บ้านที่สร้างโบสถ์คร่อมลงไปจากลิงค์ด้านบน) ใจเมตตาสงสารของพระองค์ พระองค์ทรงรักษาคนเจ็บคนป่วย ไม่เพียงแม่ยายของเปโตร แต่คนมากมายที่มีโรคภัยไข้เจ็บพากันมาหาพระองค์ด้วย
ถัดมาเราได้เห็นแบบอย่างแห่งการรับใช้การปรนนิบัติของพระองค์ พระองค์มีเวลาปลีกตนเองไปอธิษฐานแสวงหาพระบิดาเสมอ ดังนั้นการรับใช้ของเราเช่นกัน ไม่ว่าเราจะรับใช้มากน้อยขนาดไหน เราต้องมีเวลาสัมพันธ์สนิทกับพระเยซูคริสต์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วย
หวังว่าสิ่งที่แบ่งปันในวันนี้จะเป็นข้อคิดสำหรับท่านทั้งหลายนะครับ สิทธิอำนาจที่เราได้เห็นในวันนี้นั้น มีอยู่ในพระคริสต์ เมื่อเรารับพระคริสต์เรารับสิทธิอำนาจในพระนามพระเยซูคริสต์เข้ามาด้วย เมื่อเราห้ามผีมารซาตาน เราห้ามมันด้วยสิทธิอำนาจในพระนามพระเยซูคริสต์ เราไม่ได้มีอะไรดีในตัวเราเอง แต่ที่เรามี คือในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา อาเมน....
เอเมนคะ..
ตอบลบ