พบเห็นสิ่งนี้ เอามาแบ่งปันให้ดูครับ สิ่งที่เราอาจไม่เคยรู้ว่ามีแบบนี้ด้วยหรือ จาก atcloud.com /ประภพ
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดอกไม้น้ำแข็ง
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดอกไม้น้ำแข็ง
Ice Flowers เป็นอีก 1 ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่สร้างความตกตลึงให้แก่ผู้พบเห็น เนื่องจากมันจะเกิดขึ้นบนทะเลที่กลายเป็นน้ำแข็ง และเกิดมีเกร็ดน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นมาเป็น ช่อดอกไม้สีขาง กลีบบางผุดขึ้นมาเต็มพื้นน้ำแข็ง
สาเหตุ ของการเกิด ปรากฏการณ์ธรรมชาติดอกไม้น้ำแข็ง
* ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดอกไม้น้ำแข็ง เป็นหนึ่งในรูปแบบของแผ่นน้ำแข็ง ที่เพึ่งก่อตัวขึ้นใหม่
* เมื่อไอน้ำอิ่มตัว ( Saturated Water Vapors ) ที่แทรกตัวขึ้นมาตามรอยแตกของแผ่นน้ำแข็ง
* เมื่อไอน้ำอิ่มตัว สัมผัสกับอากาศเย็นจัดด้านบนก็จะเริ่มก่อตัวเป็นเกร็ดน้ำแข็ง
* ส่วนเกลือบนที่อยู่บนผิวของเกร็ดน้ำแข็งก็จะเกิดการตกผลึก เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยบนผิวของเกร็ดน้ำแข็ง
* ผลึกเกลือที่เกิดขึ้นจะเป็นเสมือนแกนให้ให้ไอน้ำอิ่มตัว ที่เหลือเกาะเป็นเกร็ดน้ำแข็งใหม่ขึ้นสลับไปมาจนซ้อนทับกันจนคล้าย กลีบดอกไม้
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ หินเดินได้
สาเหตุ ของการเกิด ปรากฏการณ์ธรรมชาติดอกไม้น้ำแข็ง
* ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ดอกไม้น้ำแข็ง เป็นหนึ่งในรูปแบบของแผ่นน้ำแข็ง ที่เพึ่งก่อตัวขึ้นใหม่
* เมื่อไอน้ำอิ่มตัว ( Saturated Water Vapors ) ที่แทรกตัวขึ้นมาตามรอยแตกของแผ่นน้ำแข็ง
* เมื่อไอน้ำอิ่มตัว สัมผัสกับอากาศเย็นจัดด้านบนก็จะเริ่มก่อตัวเป็นเกร็ดน้ำแข็ง
* ส่วนเกลือบนที่อยู่บนผิวของเกร็ดน้ำแข็งก็จะเกิดการตกผลึก เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยบนผิวของเกร็ดน้ำแข็ง
* ผลึกเกลือที่เกิดขึ้นจะเป็นเสมือนแกนให้ให้ไอน้ำอิ่มตัว ที่เหลือเกาะเป็นเกร็ดน้ำแข็งใหม่ขึ้นสลับไปมาจนซ้อนทับกันจนคล้าย กลีบดอกไม้
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ หินเดินได้
Sailing Stones เป็น 1 ใน ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่ยังคงเป็น ปริศนา ที่เกิดขึ้นที่ อุทยานแห่งชาติเดท วัลลี่ย์ (Death Valley National Park) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย (California) ประเทศสหรัฐอเมริกา
ส่งที่พบก็คือ จะพบร่องรอยการเคลื่อนที่ของก้อนหิน ที่ทิ้งไว้บนดินเหนียวที่แห้งเป็นทางยาว โดยปรากฏการณ์ธรรมชาติ นี้จะเกิดขึ้นทุก 2 - 3 ปี ครั้ง และหินบางก้อนก็ใช้เวลากว่า 3 - 4 ปีในการเคลื่อนที่
ปรากฏการณ์ ดินเดินได้ เกิดจากมนุษญ์ หรือ สัตว์ หรือไม่
จาก ลักษณะรูปร่างของร่องรอยการไถลของหินนั้นบ่งบอกได้ว่าหินก้อนนั้นต้อง เคลื่อนที่ในช่วงที่พื้นของเรซแทรค พลาย่านั้นถูกปกคลุมด้วยดินเหนียวอ่อนนุ่ม ถ้าเป็นฝีมือของคนหรือสัตว์จะต้องมีร่องรอยของการเหยียบย่ำรบกวนชั้นดิน เหนียวด้วย แต่ในบริเวณดังกล่าวไม่ปรากฏหลักฐานร่องรอยจากคนหรือสัตว์ที่จะช่วยให้หิน เคลื่อนที่เลย มีเพียงร่องรอยการไถลของหินเท่านั้น
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ไอส์เซอร์เคิ้ล ( Ice Circle )
ส่งที่พบก็คือ จะพบร่องรอยการเคลื่อนที่ของก้อนหิน ที่ทิ้งไว้บนดินเหนียวที่แห้งเป็นทางยาว โดยปรากฏการณ์ธรรมชาติ นี้จะเกิดขึ้นทุก 2 - 3 ปี ครั้ง และหินบางก้อนก็ใช้เวลากว่า 3 - 4 ปีในการเคลื่อนที่
ปรากฏการณ์ ดินเดินได้ เกิดจากมนุษญ์ หรือ สัตว์ หรือไม่
จาก ลักษณะรูปร่างของร่องรอยการไถลของหินนั้นบ่งบอกได้ว่าหินก้อนนั้นต้อง เคลื่อนที่ในช่วงที่พื้นของเรซแทรค พลาย่านั้นถูกปกคลุมด้วยดินเหนียวอ่อนนุ่ม ถ้าเป็นฝีมือของคนหรือสัตว์จะต้องมีร่องรอยของการเหยียบย่ำรบกวนชั้นดิน เหนียวด้วย แต่ในบริเวณดังกล่าวไม่ปรากฏหลักฐานร่องรอยจากคนหรือสัตว์ที่จะช่วยให้หิน เคลื่อนที่เลย มีเพียงร่องรอยการไถลของหินเท่านั้น
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ไอส์เซอร์เคิ้ล ( Ice Circle )
Ice Circle ไอส์เซอร์เคิ้ล เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่พบเห็นได้ยาก และสมมุติฐานที่เป็นที่ยอมรับกันถึงสาเหตุการเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ ไอส์เซอร์เคิ้ล นี้เกิดจากการที่ ผิวน้ำเริ่มก่อตัวเป็น น้ำแข็งจากบริเวณกึ่งกลางของผิวน้ำ แล้วค่อยๆก่อตัวตามขอบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และต้องประกอบกับแหล่งน้ำจะต้องไหลเอื่อยๆ เพื่อให้เกิด น้ำแข็ง สามารถก่อตัวบริเวณขอบ ขณะหมุนขยายตัวออกมาเรื่อยๆ จนไปชนกับขอบน้ำแข็งแผ่นอื่นๆ ไอส์เซอร์เคิ้ล บางแผ่นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 150 เมตร อาดจะพบอยู่เดี่ยวๆ หรือเป็นกลุ่มก็ได้
ไอส์เซอร์เคิ้ล วงนี้ถ่ายที่ Norwalk เมื่อ 2003
ไอส์เซอร์เคิ้ล วงนี้ถ่ายที่ Amasa, Michigan in 2006
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เมฆจานบิน
ไอส์เซอร์เคิ้ล วงนี้ถ่ายที่ Norwalk เมื่อ 2003
ไอส์เซอร์เคิ้ล วงนี้ถ่ายที่ Amasa, Michigan in 2006
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เมฆจานบิน
Lenticular เป็นภาษาลาติน มีความหมายว่า รูปทรง เลนส์ (Lens - Shaped ) เมฆรูปทรงเลนส์ ( Lenticular cloud ) เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ แสนประหลาด และสวยงาม มันช่างดูคล้าย จานบิน ไม่มีผลิต และหากปรากฏการณ์ เมฆรูปทรงเลนส์ ก็ขึ้นในสมัยก่อน รูปภาพวัตถุบินลึกลับ ต่างที่มีการจารึกไว้ก็อาดเป็น ปรากฏการณ์นี้ก็เป็นไปได้
สาเหตุของการเกิด เมฆจานบิน
เมื่ออากาศชื้นอิ่มตัวพัดผ่านยอดเขาสูง หรือบริเวณภูเขา จะทำให้เ ิดการไหลของกระแสอากาศชื้น แบบลูกคลื่นขนาดใหญ่ หลายระลอกขึ้น เมื่ออากาศชื้นถูกพัดไหลขึ้นสูงขึ้นเรื่อย ตามระลอกคลื่นอุณหภูมิจะค่อยลดลงเรื่อยจนถึงจุดที่ทำให้ อากาศชื้นเริ่มกลั่นตัว ทำให้เกิด ปรากฏการณ์ เมฆจานบิน เมื่อเมฆไหลลงมาต่ำเรื่อยๆอุณหภูมิจะสูงขึ้น เมฆจะค่อยๆระเหยกับไปอยู่ในสภาพของอากาศชื้นอีกครั้ง
รูปทฤษฎี การเกิดปรากฏการณ์ เมฆจานบิน โดยความสูงที่จะเกิดปรากฏการณ์นี้จะอยู่ที่ระหว่าง 6,000 - 12,000 เมตร
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เมฆ สวยที่สุดในโลก
สาเหตุของการเกิด เมฆจานบิน
เมื่ออากาศชื้นอิ่มตัวพัดผ่านยอดเขาสูง หรือบริเวณภูเขา จะทำให้เ ิดการไหลของกระแสอากาศชื้น แบบลูกคลื่นขนาดใหญ่ หลายระลอกขึ้น เมื่ออากาศชื้นถูกพัดไหลขึ้นสูงขึ้นเรื่อย ตามระลอกคลื่นอุณหภูมิจะค่อยลดลงเรื่อยจนถึงจุดที่ทำให้ อากาศชื้นเริ่มกลั่นตัว ทำให้เกิด ปรากฏการณ์ เมฆจานบิน เมื่อเมฆไหลลงมาต่ำเรื่อยๆอุณหภูมิจะสูงขึ้น เมฆจะค่อยๆระเหยกับไปอยู่ในสภาพของอากาศชื้นอีกครั้ง
รูปทฤษฎี การเกิดปรากฏการณ์ เมฆจานบิน โดยความสูงที่จะเกิดปรากฏการณ์นี้จะอยู่ที่ระหว่าง 6,000 - 12,000 เมตร
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เมฆ สวยที่สุดในโลก
Mammatus Clouds เมฆ แมมมะทูส หรือ เมฆตะปุ่มตะปํ่า (Bumpy clouds) เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่จะทำให้เมฆเกิด เป็นเซล เป็นปุ่มเล็กปุ่มน้อย คล้ายถุงห้อยลงมาจากท้องฟ้า โดยคำว่า "mammatus" มาจากภาษาลาติน mamma แปลว่าเต้านม ซี่งมาจากการที่ก้อนเมฆมีลักษณะคล้าย เต้านมของวัว โดยแต่ละปุ่มมีขนาดใหญ่ 1 - 3 กิโลเมตร ยืนยาวลงมาประมาณ 0.5 กิโลเมตร เรียงรายยาวหลายร้อยกิโลเมตร ปรากฏการณ์ นี้อาดเกิดขึ้น 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ปรากฏการณ์ เมฆ แมมมะทูส มีส่วนเชื่อมโยงกับ การเกิดพายุใหญ่ หรือก่อนเกิดพายุ ทอร์นาโด
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ทุ่งน้ำแข็ง นักบวชขาว ( Penitentes )
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ทุ่งน้ำแข็ง นักบวชขาว ( Penitentes )
Penitentes เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดจากรูปแบบการก่อตัวของหิมะ ที่พบได้ในบริเวณที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากๆ โดยมีรูปแบบเป็นแท่งสามเหลี่ยม เรียวยาวสูง ซึ่งสาเหตุของการเกิดปรากฏการณ์นี้ก็มีแสงอาทิตย์เป็นที่ทำให้เกิดรูปทรง ประหลาดนี้ โดย แสงอาทิตย์จะทำให้เกิด รอยบุ่มเป็นจุดๆ กระจายตัวไปทั่วทั้งพื้นหิมะ และรอยบุ่มนี้ก็จะมีแอ่งน้ำเล็กขังอยู่ และอ่างน้ำนี้เมื่อถูกแสงอาทิตย์ก็จะทำตัวคล้ายเลนส์ รวมแสงส่องลงไปลึกขึ้นๆ เรื่อยๆ จนเกิดเป็นทุ่งน้ำแข็ง นักบวชขาว อันเนื่องมาจากรูปทรงของ น้ำแข็ง นี้คล้ายกับหมวกของพวกนักบวชทรงแหลมสูง
รูปทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาว Nieves Penitentes ที่ระดับความสูง 19,000 ฟุต บน Volcan Aucanquilcha( Note ชายในรูปที่ใส่เสื้อสีเหลืองมีความสูง 1.80 เมตร )
การค้นพบ ทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาว
โดยทุ่งน้ำแข็ง นักบวชขาว นี้เป็นที่รู้จักของบุคคลภายนอกโดยจากงานเขียน ของดาวิน ในปี 1839 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 1835 โดยเขาได้เดินทางจากเมือง Santiago de Chile ไปยังเมือง Argentinian city of Mendoza และระหว่างทางเขาก็ได้พบกับทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาว เข้า และเขาได้อธิบายปรากฏการณ์นี้ ด้วยสมมุติฐานว่า เกิดจากลมจากเทือกเขาเอนดีส ( Andes ) และต่อมาในปี 1954-1965 Lliboutry ที่ได้ทำการศึกษา ปรากฏการณ์นี้มีกุญแจสำคัญคือ ความแตกต่างของการระเหยตัวของหิมะ ซึ่งเกิดจากการที่ ที่น้ำเกิดการกลั่นตัว ภายใต้จุดเยือกแข็ง จึงทำให้น้ำมีความบริสุทธิ์มาก และน้ำที่บริสุทธิ์มากก็ต้องการพลังงานที่สูงกว่าในการละลายตัว ทำให้เกิดบริเวณที่น้ำแข็งไม่บริสุทธิ์ เกิดการระเหยตัวเป็นแอ่งน้ำ เล็กๆกระจายตัวไปทั่วพื้นน้ำแข็? และละลายลึกลงเรื่อยๆ จนเกิดเป็นทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาวขึ้น
ถามว่าทำไมจึงจึงเรียกว่า ทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาว ที่มาก็คงมาจากลักษณะรูปทรงที่คล้ายหมวกที่นักบวช พวกนี้สวมใส่อยู่
การค้นพบ ทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาว
โดยทุ่งน้ำแข็ง นักบวชขาว นี้เป็นที่รู้จักของบุคคลภายนอกโดยจากงานเขียน ของดาวิน ในปี 1839 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 1835 โดยเขาได้เดินทางจากเมือง Santiago de Chile ไปยังเมือง Argentinian city of Mendoza และระหว่างทางเขาก็ได้พบกับทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาว เข้า และเขาได้อธิบายปรากฏการณ์นี้ ด้วยสมมุติฐานว่า เกิดจากลมจากเทือกเขาเอนดีส ( Andes ) และต่อมาในปี 1954-1965 Lliboutry ที่ได้ทำการศึกษา ปรากฏการณ์นี้มีกุญแจสำคัญคือ ความแตกต่างของการระเหยตัวของหิมะ ซึ่งเกิดจากการที่ ที่น้ำเกิดการกลั่นตัว ภายใต้จุดเยือกแข็ง จึงทำให้น้ำมีความบริสุทธิ์มาก และน้ำที่บริสุทธิ์มากก็ต้องการพลังงานที่สูงกว่าในการละลายตัว ทำให้เกิดบริเวณที่น้ำแข็งไม่บริสุทธิ์ เกิดการระเหยตัวเป็นแอ่งน้ำ เล็กๆกระจายตัวไปทั่วพื้นน้ำแข็? และละลายลึกลงเรื่อยๆ จนเกิดเป็นทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาวขึ้น
ถามว่าทำไมจึงจึงเรียกว่า ทุ่งน้ำแข็งนักบวชขาว ที่มาก็คงมาจากลักษณะรูปทรงที่คล้ายหมวกที่นักบวช พวกนี้สวมใส่อยู่
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ สายฟ้า แห่ง ภูเขาไฟ สวยที่สุดในโลก
Volcanic Lightning เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ อันมหัศจรรย์ ที่เกิดขึ้นระหว่างการเกิด ภูเขาไฟระเบิด จะเกิด พายุสายฟ้า ขึ้นในเถ้าภูเขาไฟที่กำลังพวยพุ่งขึ้นเหนือ ภูเขาไฟ โดยนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถค้นพบสาเหตุ ของ ปรากฏการณ์ โวลเคนิก ไลทนิ่ง (Volcanic Lightning) โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งสมมุติฐานว่า ปรากฏการณ์ โวลเคนิก ไลทนิ่ง นั้นน่าจะคล้ายการเกิด พายุสายฟ้า ( Thunderstorms ) และในการสัมนาเกี่ยวกับสภาวะอากาศ TPOD เมื่อ 17 กันยายน 2004 เหล่านักวิทยาศาสตร์ ได้สัมนากันว่าปรากฏการณ์นี้ อาดเกิดจากการที่อนุภาคของเถ้าภูเขาไฟเกิดการพุ่งชนกัน ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต ขึ้นในอนุภาคของเถ้าภูเขาไฟ และเป็นเหตุให้เกิดฟ้าผ่าขี้น ขณะเกิดภูเขาไฟระเบิด และเมื่อเร็วๆนี้ ก็มีสมมุติฐานใหม่ ว่าอาดเกิดจากที่เม็กม่า ได้ปลดปล่อยความชื้นออกมา
ทำไม การระเบิดของภูเขาบางครั้งจึงเกิด โวลเคนิก ไลทนิ่ง
ทำไม การระเบิดของภูเขาบางครั้งจึงเกิด โวลเคนิก ไลทนิ่ง
Why ทำไม จึงเกิดปรากฏหการณ์ โวลเคนิก ไลทนิ่ง แค่บางครั้ง การระเบิดบางครั้งที่ปล่อยเถ้าภูเขาไฟจำนวนมาก แต่เกิดฟ้าผ่าเพียงเล็กน้อย หรือไม่เกิดฟ้าผ่าเลย แต่การระเบิดบางครั้งที่มีเถ้าภูเขาไฟน้อย แต่เกิดฟ้าผ่าจำนวนมาก หินภูเขาไฟที่พ่นออกมาสามารถอธิบายได้ว่าถ้าหินภูเขาไฟมีความต้านทานไฟฟ้า สูง จะมีโอกาศที่จะเกิด ปรากฎการณ์ โวลเคนิก ไลทนิ่ง มากขึ้น จึงอาดจะอธิบายได้จากอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน อย่างสายไฟไส้ทองแดง (ทองแดงมีความต้านทานไฟฟ้าต่ำ) สายไฟจะไม่เกิดความร้อนและ ประกายไฟขึ้น แต่ถ้ากระแสไฟฟ้าขนาดเท่ากันไรผ่าน ทังค์สแตน (ไส้หลอดไฟ) จะเห็นว่าไส้หลอดจะเกิดแสงสว่าง และความร้อนขึ้น
เหตุการณ์ ภูเขาไฟ Sakurajima ระเบิด เมื่อ 18 พฤษภาคม 1991 พร้อมกับการเกิด ปรากฏการณ์ โวลเคนิก ไลทนิ่ง (Volcanic Lightning) เครดิตรูปภาพโดย Sakurajima Volcananological Observatory
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ รุ้ง กินน้ำ สวยที่สุดในโลก
Rainbow รุ้งกินน้ำ เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดจากการที่แสง ได้เกิดการหักเหของแสงที่เกิดขึ้นในระอองน้ำ สะท้อนออกมาทำให้เห็นสีของแสงทั้ง 7 สี คือ สี ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม แดง
รุ้งกินน้ำ สองตัว ซ้อนกัน ภ่ายที่ทุ่งใน Whitestone , Alaska
รุ้งกินน้ำ สองตัวซ้อนกัน และมีเงาสะท้อนรุ้งกินน้ำในน้ำด้วย ภาพภ่ายที่ Kansas , สหรัฐอเมริกา
ภาพ รุ้งกินน้ำ สุดสวยน้ำอาดจะดูผิดธรรมชาติ เนื่องจากการใช้เทคนิคภ่ายที่เรียกว่า " HDR Technique "
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ กองทัพ คลื่น แห่ง แม่น้ำอเมซอน ( Pororoca )
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ รุ้ง กินน้ำ สวยที่สุดในโลก
Rainbow รุ้งกินน้ำ เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดจากการที่แสง ได้เกิดการหักเหของแสงที่เกิดขึ้นในระอองน้ำ สะท้อนออกมาทำให้เห็นสีของแสงทั้ง 7 สี คือ สี ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม แดง
รุ้งกินน้ำ สองตัว ซ้อนกัน ภ่ายที่ทุ่งใน Whitestone , Alaska
รุ้งกินน้ำ สองตัวซ้อนกัน และมีเงาสะท้อนรุ้งกินน้ำในน้ำด้วย ภาพภ่ายที่ Kansas , สหรัฐอเมริกา
ภาพ รุ้งกินน้ำ สุดสวยน้ำอาดจะดูผิดธรรมชาติ เนื่องจากการใช้เทคนิคภ่ายที่เรียกว่า " HDR Technique "
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ กองทัพ คลื่น แห่ง แม่น้ำอเมซอน ( Pororoca )
Pororoca คือ ปรากฏการ์ณธรรมชาติ ที่จะเกิดประมาณ สองปีครั้ง ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม จากการที่น้ำจากมหาสมุทรแอตแลนติก ( Atlantic Ocean ) ไหลย้อนขึ้นมาใน แม่น้ำอเมซอน ประเทศบราซิล และก่อให้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ คลื่นน้ำที่วิ่งต่อๆกันมา ยาวที่สุดในโลก บริเวณปากแม่น้ำ
ลักษณะ ของ กองทัพคลื่น แห่ง แม่น้ำอเมซอน โดยปรากฏการณ์นี้ได้ชื่อว่า " Pororoca " ซึ่งมาจากภาษา?ื้นเมืองของชนเผ่า Tupi ที่แปลว่า มหาเสียงกัมปนาท "great destructive noise" เนื่องจากเสียงจากการเกิดคลื่นนี้สามารถได้ยินล่วงหน้ากว่า 30 นาที ก่อนที่คลื่นจะเคลื่อนตัวมาถึง และมันยังทรงไปด้วยอนุภาพในการทำลายล้าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้ามัน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ บ้านชาวพื้นเมือง รวมถึงสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่หาญกล้าท้าทายมัน แต่ก็ยังมีมนุษย์ที่ไม่ยำเกรงมัน กับหลงไหลในพลกำลัง รวมตัวกันโต้คลื่นโดยเริ่มตั้งแต่ปี 1999 แต่นั้นก็เต็มไปด้วยอันตราย เนื่องจากคลื่นน้ำนั้น เต็มไปด้วย เศษไม้ ซุง ซึ่งพร้อมจะเข้ามากระแทรกนักโต้คลื่นได้ทุกเวลา จากการบันทึก นักโต้คลื่นชาวบราซิลเรี่ยน ชื่อว่า Picuruta Salazar สามารถโต้คลื่นได้เป็นระยะทางกว่า 12.5 กิโลเมตร เป็นเวลากว่า 37 นาที
ลักษณะ ของ กองทัพคลื่น แห่ง แม่น้ำอเมซอน โดยปรากฏการณ์นี้ได้ชื่อว่า " Pororoca " ซึ่งมาจากภาษา?ื้นเมืองของชนเผ่า Tupi ที่แปลว่า มหาเสียงกัมปนาท "great destructive noise" เนื่องจากเสียงจากการเกิดคลื่นนี้สามารถได้ยินล่วงหน้ากว่า 30 นาที ก่อนที่คลื่นจะเคลื่อนตัวมาถึง และมันยังทรงไปด้วยอนุภาพในการทำลายล้าง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้ามัน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ บ้านชาวพื้นเมือง รวมถึงสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่หาญกล้าท้าทายมัน แต่ก็ยังมีมนุษย์ที่ไม่ยำเกรงมัน กับหลงไหลในพลกำลัง รวมตัวกันโต้คลื่นโดยเริ่มตั้งแต่ปี 1999 แต่นั้นก็เต็มไปด้วยอันตราย เนื่องจากคลื่นน้ำนั้น เต็มไปด้วย เศษไม้ ซุง ซึ่งพร้อมจะเข้ามากระแทรกนักโต้คลื่นได้ทุกเวลา จากการบันทึก นักโต้คลื่นชาวบราซิลเรี่ยน ชื่อว่า Picuruta Salazar สามารถโต้คลื่นได้เป็นระยะทางกว่า 12.5 กิโลเมตร เป็นเวลากว่า 37 นาที
ยังมีนักโต้คลื่น เป็นจำนวนมากที่หลงใหล ในคลื่น Pororoca และพร้อมจะเสี่ยงเพื่อสัมผัสมัน และทำให้มันได้รับระดับความน่ากลัว
คงไม่มีปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือสถานที่ไหนที่จะนำคุณมาพบ กองทัพ คลื่น ยาวที่สุดในโลก เช่น Pororoca
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ทะเลโฟม ( Whipping Cream Ocean )
คงไม่มีปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือสถานที่ไหนที่จะนำคุณมาพบ กองทัพ คลื่น ยาวที่สุดในโลก เช่น Pororoca
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ทะเลโฟม ( Whipping Cream Ocean )
Whipping Cream Ocean เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งทางเหนือของ เมืองซิดนี่ย์ ( Sydney ) ที่ยัมบา ( Yamba ) ของ นิวเซาธ์เวลส์ ( New South Wales ) และได้แปรเปลี่ยนชายฝั่งเป็น คาปูชิโนใน ( Cappuccino Coast ) ฟองโฟนได้ กลืนกินทั้งหาด และอาคารสิ่งก่อสร้างไปกว่าครึ่งหลังที่ก่อสร้างอยู่ริมชายหาด ไม่เว้นแม้แต่ศูนย์หน่วยกู้ภัยชายหาดท้องถิ่น ฟองโฟนนี้นกินอาณาบริเวณออกไป กว่า 30 ไมล์จากชายฝั่ง
โดยนักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายถึงสาเหตุของ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นี้ไว้ว่าเกิดจาก ความบังเอิญหลายอย่างที่ลงตัว ฟองโฟมเหล่านี้ไม่ได้เกิดสิ่ง สวยงาม แต่มันเกิดจาก สิ่งสกปรกต่างๆ ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น ทำให้ทะเลสกปรก , เกิดจากเกลือ , เกิดจากปฎิกริยาทางเคมี , การเน่าเปื่อยของซากพืช ซากสัตว์ในทะเล ปลา ที่เกิดจากน้ำเสียที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น เมื่อทุกอย่างมารวมตัวกันด้วยส่วนผสมที่ลงตัว และมีคลื่นที่เคลื่อนตัวแล้วม้วนตัวลงก็จะทำให้เกิดฟอง และเมื่อคลื่นได้เคลื่อนมากระทบฝั่งจะคลายฟอง ออกมาสะสมอยู่ที่ริมชายหาดสะสมตัวขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
เหล่าเด็กต่างสนุกสนาน ต่อปรากฏก รณ์ประหลาดนี้ และลงไปเล่นกันทั้งดำผลุดดำว่าย
โดยนักวิทยาศาสตร์ได้อธิบายถึงสาเหตุของ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ นี้ไว้ว่าเกิดจาก ความบังเอิญหลายอย่างที่ลงตัว ฟองโฟมเหล่านี้ไม่ได้เกิดสิ่ง สวยงาม แต่มันเกิดจาก สิ่งสกปรกต่างๆ ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น ทำให้ทะเลสกปรก , เกิดจากเกลือ , เกิดจากปฎิกริยาทางเคมี , การเน่าเปื่อยของซากพืช ซากสัตว์ในทะเล ปลา ที่เกิดจากน้ำเสียที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น เมื่อทุกอย่างมารวมตัวกันด้วยส่วนผสมที่ลงตัว และมีคลื่นที่เคลื่อนตัวแล้วม้วนตัวลงก็จะทำให้เกิดฟอง และเมื่อคลื่นได้เคลื่อนมากระทบฝั่งจะคลายฟอง ออกมาสะสมอยู่ที่ริมชายหาดสะสมตัวขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
เหล่าเด็กต่างสนุกสนาน ต่อปรากฏก รณ์ประหลาดนี้ และลงไปเล่นกันทั้งดำผลุดดำว่าย
ไม่เว้นแม้แต่วัยรุ่นสาวกลุ่มนี้ต่างก็แต่งชุดว่ายน้ำลงมาเล่นฟองโฟนกัน อย่างสนุกสนาน แต่ถ้ารู้ถึงสาเหตุของโฟมเหล่านี้แล้ว ก็ไม่รู้จะยังสนุกกันหรือไม่
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เสาเพลิงหมุน น่ากลัวที่สุด
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เสาเพลิงหมุน น่ากลัวที่สุด
Fire whirl เสาเพลิงหมุน หรือมีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการอื่นอีกเช่น ไฟปีศาจ ( Fire devil ) หรือ โทร์นาโดไฟ ( Fire tornado ) เป็น หนึ่งใน ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่ยากยิ่งที่จะเกิดขึ้น และพบเห็นได้ เนื่องจากจะต้องอยู่ในสภาวะเฉพาะ ( คือจะต้องมีอุณหภูมิอากาศที่เหมาะสม และกระแสลมที่เหมาะสม เท่านั้น ) และเมื่อทุกอย่างเหมาะสม จะเกิด เสาเพลิงหมุนวน ในแนวดิ่ง ขึ้น
เหตุการณ์ เสาเพลิงหมุน ในอดีต สุดสพึง
1923 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ครั้งใหญ่ในคันโต ( Great Kanto Earthquake ) ขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นเสาเพลิงหมุน ขนาดใหญ่ขึ้นโดยกินเวลา 15 นาทีและในเหตุการณ์แผ่นดินไหว และเพลิงไหม้ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 38,000 คน และทำให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ไปทั้งเมือง ทำให้เกิด
รูปภาพ เมืองที่เหลือแต่เถ้าถ่านจาก มหาเพลิงไหม้ หลังจากเหตุการณ์ Great Kanto Earthquake
เหตุการณ์ เสาเพลิงหมุน ในอดีต สุดสพึง
1923 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ครั้งใหญ่ในคันโต ( Great Kanto Earthquake ) ขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นเสาเพลิงหมุน ขนาดใหญ่ขึ้นโดยกินเวลา 15 นาทีและในเหตุการณ์แผ่นดินไหว และเพลิงไหม้ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 38,000 คน และทำให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ไปทั้งเมือง ทำให้เกิด
รูปภาพ เมืองที่เหลือแต่เถ้าถ่านจาก มหาเพลิงไหม้ หลังจากเหตุการณ์ Great Kanto Earthquake
ภาพตอนท้ายเหมือนเสาเพลิงที่อยู่ในอพยพบทที่ 13 เลย เข้าใจเลยว่าสิ่งที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์นั้นมีเกิดขึ้นจริง
ตอบลบเห็นด้วยค่ะ มหัศจรรย์จริงๆ เสาเพลิงในพระคัมภีร์คงจะคล้ายอย่างนี้
ตอบลบ