วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

ศุกร์ประเสริฐ

พบบทความหนึ่งในbloggang.comครับ เอามาลงให้ดูครับ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันที่เขาตรึงพระเยซู ท่านได้อยู่ที่นั่นกับพระองค์หรือไม่?

เราจะเดินตามพระองค์ด้วยกัน จากห้องชั้นบนในอาหารมื้อสุดท้าย ตามเสด็จพระองค์ไปที่สวนเกทเสมนี แอบมองเวลาที่พระองค์ทรงถูกสอบสวน พิจารณาคดี และทรมานพระกาย เดินตามพระเยซูคริสต์ขณะที่พระองค์กำลังแบกกางเขน(ของเรา) ไปที่โกละโกธา จนถึงชั่วโมงสุดท้ายก่อนการสละพระชนม์ เพื่อเราบนไม้กางเขน

ที่ห้องชั้นบน..ในวันเริ่มต้นของเทศกาลปัสกา พระเยซูคริสต์ได้ทรงทำนายถึงการทรยศต่อพระองค์ของยูดาส ทรงสถาปนาพิธีมหาสนิท และทรงทำนายถึงการที่เปโตรจะปฏิเสธพระองค์ถึง 3 ครั้ง

จากห้องชั้นบนพระเยซูเสด็จออกไปนอกเมือง เพื่อใช้เวลาในการอธิษฐานในสวนเกทเสมนี ที่ซึ่งพระองค์ทรงอธิษฐานต่อพระบิดาว่า

"พระบิดาเจ้าข้า ถ้าพระองค์พอพระทัย ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด แต่อย่างไรก็ดีอย่าให้เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์เถิด"

สวนเกทเสมนีในปัจจุบันมีต้นมะกอกโบราณอยู่มากมาย บางต้นอาจเติบโตมาจากรากของต้นที่มีอยู่ตั้งแต่ในยุคของพระเยซู (ต้นไม้ทุกต้นรอบกรุงเยรูซาเล็มถูกตัดลงในยุคจักรวรรดิโรมันครอบครอง ประมาณ ค.ศ.70 ต้นมะกอกสามารถเติบโตขึ้นใหม่จากราก และมีชีวิตอยู่ได้นับพันปี)
ชื่อ "เกทเสมนี" (Gethsemane) มาจากภาษาฮีบรู Gat Shmanim



เหตุการณ์ที่น่าสนใจที่สุดในช่วงนี้ คือ พระเสโท(เหงื่อ)ของพระเยซูที่เป็นเหงื่อโลหิต


ลูกา สาวกของพระเยซูคริสต์ที่เป็นแพทย์ เป็นเพียงผู้เดียวที่ได้บันทึกชัดเจน ถึงเหงื่อของพระองค์ที่ได้หลั่งลงบนดิน เหมือนเลือดหยดใหญ่ ในศัพท์ทางการแพทย์ปัจจุบันเรียกอาการนี้ว่า Hemohidrosis หรือ Hematidrosis ซึ่งพบในผู้ที่เกิดอาการเครียดอย่างรุนแรง ทำให้หลอดเลือดฝอยรอบๆต่อมเหงื่อ เกิดความเปราะบาง ปริแตก จนทำให้เลือดซึมไปปนกับเหงื่อของพระองค์ อาการที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เกิความอ่อนเพลียอย่างมาก และอาจทำให้ช็อก จนเสียชีวิตได้

หลังจากที่พระองค์อธิษฐานเพียงลำพังแล้ว พระองค์ได้ทรงถูกจับกุมไปยังบ้านของคายาฟาส มหาปุโรหิตประจำการ ขณะที่เหล่าสาวกต่างหนีกระจัดกระจายไป ที่บ้านของคายาฟาส พระองค์ทรงถูกตบตี ถ่มน้ำลาย และสบประมาทอย่างรุนแรง
ศาลสูงของยิวพิจารณาโทษประหาร แต่ในทางกฎหมายสิทธิในการลงโทษจะต้องเป็นของศาลกรีกเท่านั้น
พระองค์จึงถูกนำไปให้ปีลาต ที่ศาลปรีโทเรียมตอนเช้าตรู่ ที่นั่นปีลาตจำต้องตัดสินประหารชีวิตพระองค์ โดยการตรึงที่กางเขน ในข้อหาหมิ่นประมาทพระเจ้า โดยการอ้างตนเองเป็นพระบุตรของพระเจ้า

ต่อไปเป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่ง เป็นช่วงเวลาแห่งความทนทุกข์ทรมานร่างกายอย่างแสนสาหัสของพระเยซูคริสต์ที่รักของเรา



พระองค์ทรงถูกโบยตีด้วยแส้

ไม่มีใครทราบได้ว่าทหารโรมันจะยึดถือตามกฏของยิวในการลงโทษพระเยซูหรือไม่ ยิวมีกฎหมายโบราณว่า ห้ามเฆี่ยนเกิน 40 ครั้ง พวกฟาริสีที่เคร่งครัดมักจะลงโทษเฆี่ยนเพียง 39 ครั้ง เพื่อจะได้ไม่ผิดกฏของตนหากมีการนับพลาด!

แส้ (flagrum) ที่ใช้เฆี่ยนพระองค์นั้นเป็นแส้สั้นๆที่มีด้ามจับเป็นไม้ ร้อยด้วยสายหนังจำนวนมาก ในสายหนังแต่ละเส้นผูกชิ้นกระดูกเล็กๆหนึ่งชิ้น และเม็ดโลหะขนาดเล็กไว้เส้นละ 2 เม็ด การลงแส้ครั้งแรกจะมีเพียงรอยจากสายหนังเท่านั้นที่บาดลึกเข้าไปในผิวหนัง

การลงแส้อย่างรุนแรง และต่อเนื่อง บาดแผลจะถูกเปิดออก และลึกลงทุกครั้ง ลึกลงถึงเนื้อเยื่อ เริ่มทำให้เลือดซึมออกมาจากเส้นเลือดฝอย และเส้นเลือดดำบริเวณผิวหนัง ลึกลงเรื่อยๆจนเมื่อถึงเส้นเลือดแดงในกล้ามเนื้อ เลือดของพระองค์ก็พุ่งออกมา

ชิ้นกระดูกบนแส้เป็นตัวเปิดผิวหนังของพระองค์ เม็ดโลหะที่ปลายแส้เปิดแผลให้กว้าง และทำให้แผลลึกลงไปอีก ในที่สุดแผ่นหลังของพระองค์ก็แหลกออกเป็นเส้น ไม่มีชิ้นดี
จนนายทหารที่คุมเห็นว่าพระองค์ใกล้จะสิ้นพระชนม์ จึงสั่งให้หยุด

พระเยซูในสภาพที่อ่อนกำลังลงอย่างมากได้รับการปล่อยจากพันธนาการที่ผูกพระหัตถ์ของพระองค์ไว้ และล้มลงบนพื้นที่ชุ่มไปด้วยเลือดของพระองค์เอง


ทหารโรมันกำลังขบขันต่อ ยิวบ้านนอกที่อ้างตัวเป็นกษัตริย์ เอาผ้ามาคลุมพระองค์ เอาไม้มาให้ถือแทนคทา ยังขาดแต่เพียงมงกุฏ ที่จะทำให้ครบเครื่อง พวกเขาเอาหนามสานเป็นมงกุฎสวมให้กับพระองค์ มั่นใจได้ว่าคงไม่ใช่ค่อยๆสวมให้กับพระองค์ แต่คง"ยัด"ลงบนพระเศียรของพระองค์ พอสนุกได้ที่ก็เลิก กระชากเอาผ้าคลุมออกจากพระองค์ ความรู้สึกเมื่อแผลที่เลือดเริ่มแห้งติดกับผ้าพันแล้วถูกดึงออกอย่างไม่ระมัดระวังเป็นอย่างไร เราคงเคยมีประสบการณ์มาแล้ว แน่นอน เลือดที่กำลังจะแห้งต้องไหลออกมาอีก



การตรึงที่กางเขน



กางเขนประกอบด้วยไม้ 2 ชิ้นได้แก่ เสาดิ่ง (Stipes) และเสาขวาง (Patibulum) ที่ยึดอยู่บนเสาดิ่งห่างจากยอดเสาประมาณ 2-3 ฟุต ไม้กางเขนแบบที่เราคุ้นตากันนั้นเรียกว่า Latin Cross
แต่ในสมัยพระเยซูคริสต์นั้น ไม้กางเขนที่ให้จะเป็นแบบ Tau Cross
คำว่า Tau เป็นอักขระของกรีก เหมือนตัวที "T" ซึ่งเสาขวางจะยึดอยู่ที่ยอดของเสาดิ่ง

เสาดิ่งจะถูกยึดติดถาวรอยู่ที่แดนประหาร ส่วนเสาขวางน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัมได้ถูกผูกเข้ากับไหล่ของพระเยซู และถูกบังคับให้เดินจากที่คุมขังมายังโกละโกธา

พระกายของพระองค์จะทนได้อย่างไร ในที่สุดพระองค์ก็ล้มลง นายทหารโรมันได้สั่งให้ ชายที่เชื่อกันว่ามีผิวดำชื่อซีโมน ชาวไซรีน เป็นผู้ที่แบกเสาขวางของกางเขนแทนพระเยซู ในที่สุดการเดินทางระยะประมาณ 600 เมตรก็สิ้นสุดลง

เมื่อการตรึงเริ่มต้นขึ้น ทหารได้เอาเหล้าองุ่นผสมมดยอบให้พระองค์ดื่มเพื่อเป็นลดความเจ็บปวด แต่พระองค์ทรงปฏิเสธ พระองค์ทรงถูกผลักให้นอนลงบนเสาขวางเหมือนนักโทษทั่วไป

ตะปูเหลี่ยมยาวประมาณ 5-7 นิ้วถูกตอกลงระหว่างกระดูก 2 ชิ้นบริเวณข้อมือของพระองค์ ไม่ใช่ตอกลงบนฝ่ามืออย่างที่เราเคยเข้าใจ การตอกลงบนฝ่ามือ เนื้อจะฉีกขาดออกทางนิ้วเมื่อรับน้ำหนักตัวของนักโทษ ความเข้าใจผิดนี้อาจเกิดจากตอนที่พระเยซูตรัสกับโธมัสว่า"ดูที่มือของเรา" นักกายวิภาคศาสตร์ทั้งในยุคปัจจุบัน และยุคโบราณ ต่างถือว่าข้อมือ เป็นส่วนหนึ่งของมือ
หลังจากตอกทั้งสองข้างเสาขวางและพระเยซูคริสต์ถูกยกขึ้นเพื่อตรึงบนเสาดิ่ง

ป้าย Titulus ที่ระบุข้อหาของพระองค์ว่า "พระเยซูชาวนาซาเร็ธ กษัตริย์ของชาวยิว"ถูกติดเหนือเสาดิ่งในที่ของมัน

เท้าซ้ายถูกวางซ้อนทับเท้าขวา ให้เข่าหย่อนเล็กน้อย ตะปูตัวใหญ่ตอกลงบนกลางเท้าทั้งสอง 



----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Praise the Lord. สรรเสริญพระเจ้า สรรเสริฐพระเยซูคริสต์ที่ประทานความรักมากมายให้แก่มนุษย์ทุกคนในโลกนี้ ด้วยชีวิตของพระองค์ ด้วยการยอมรับความเจ็บปวดก็เพื่อเรา



Phil 2:8 และ​เมื่อ​ทรง​ปรากฏ​พระ​องค์​ใน​สภาพ​มนุษย์​แล้ว ​พระ​องค์​ก็​ทรง​ถ่อม​พระ​องค์​ลง​ยอม​เชื่อ​ฟัง​จนถึง​ความ​มรณา กระทั่ง​ความ​มรณา​ที่​กางเขน​


1Pet 2:24 ​พระ​องค์​เอง​ได้​ทรง​รับ​แบก​บาป​ของ​เรา​ไว้​ใน​พระ​กาย​ของ​พระ​องค์ ที่​ต้นไม้​นั้น เพื่อ​ว่า​เรา​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​ตาย​จาก​บาป​ได้ และ​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​คลอง​ธรรม ด้วย​บาดแผล​ของ​พระ​องค์ ท่าน​ทั้ง​หลาย​จึง​ได้รับ​การ​รักษา​ให้​หาย


2 ความคิดเห็น:

  1. เกินคำบรรยาย ถ้ามีคำไหนที่มากกว่าคำว่า " ขอบพระคุณพระองค์ "
    อยากบอกคำๆนั้นกับพระองค์จริงๆคะ

    ตอบลบ
  2. เมื่อวันอาทิตย์เห็นภาพในHopetv เรื่องชีวิตพระเยซู เอามาจากภาพยนตร์รุ่นเก่าก่อน การทำหนังเรื่องนี้บรรยายภาพได้ถูกต้องกว่าpassion of Christ เช่นเรื่องกางเขนที่แบก เป็นเช่นบทความนี้เลย พระเยซูแบกเสาขวางไม่ใช่แบกทั้งต้น หรือการตอกตะปูเหมือนบทความนี้ ตอกที่ข้อมือไม่ใช่ที่มือ ฯลฯ (เพิ่งจะเห็น เพิ่งจะเข้าใจมากขึ้น)

    ตอบลบ