ต่อครับ
(Luke 9:46 [TBS1971])
แล้วเหล่าสาวกก็เกิดเถียงกันว่าในพวกเขาใครเป็นใหญ่
(Luke 9:47 [TBS1971])
ฝ่ายพระเยซูทรงหยั่งรู้ความคิดในใจของเขาจึงให้เด็กคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้พระองค์
(Luke 9:48 [TBS1971])
แล้วตรัสกับเขาว่า “ถ้าผู้ใดจะรับเด็กเล็กๆ คนนี้ในนามของเรา ผู้นั้นก็ได้รับเรา และผู้ใดได้รับเรา ผู้นั้นก็ได้รับพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา เพราะว่าในพวกท่านทั้งหลาย ผู้ใดเป็นผู้น้อยผู้นั้นแหละเป็นผู้ใหญ่”
(Luke 9:49 [TBS1971])
ฝ่ายยอห์นทูลพระองค์ว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า พวกข้าพระองค์เห็นผู้หนึ่งขับผีออกในพระนามของพระองค์และข้าพระองค์ห้ามเขาเสีย เพราะเขาไม่ตามพวกเรามา”
(Luke 9:50 [TBS1971])
พระเยซูตรัสแก่เขาว่า “อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าผู้ใดไม่เป็นฝ่ายต่อสู้ท่าน ก็เป็นฝ่ายท่านแล้ว”
ข้อพระคัมภีร์ตอนนี้พูดถึงเหตุการณ์สองเหตุการณ์ เหตุการณ์แรกเรื่องใครเป็นใหญ่ สิ่งที่พวกสาวกพูดเถึยงกันนั้นเป็นส่ิงที่ขัดแย้งกับชีวิตในแผ่นดินพระเจ้า ชีวิตในพระเจ้าไม่มาคอยกังวลว่าใครจะใหญ่กว่าใคร นั่นเป็นความคิดแบบมนุษย์ที่สนใจเรื่องชื่อเสียง เกียรติยศ อำนาจ ฯลฯ เหมือนตอนนี้ที่สนใจว่าในบรรดาสาวก 12 คนนั้น ใครเป็นใหญ่กว่าใคร แต่ในแผ่นดินพระเจ้าสนใจท่าทีที่ถูกต้องในใจของมนุษย์มากกว่าสนใจว่าใครจะใหญ่กว่าใคร ดังนั้นพี่น้องที่อ่านพระคัมภีร์มาถึงตอนนี้แล้ว จะได้มีความสนใจในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่าการสนใจในอำนาจ หน้าที่ ฯลฯ พระเยซูได้สอนไว้ว่าให้ดูเด็กเล็กๆ ถ้าเราอยากให้พระเจ้าใช้มากๆให้เราเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ เด็กเล็กๆใสซื่อใช่ไหมครับ เด็กเล็กๆไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนไม่เหมือนอย่างพวกผู้ใหญ่เหล่านี้ใช่ไหมครับ ที่คอยคิดถึงกันแต่เรื่องเกียรติและอำนาจ สิ่งที่ควรคิดกลับไม่คิด ทำอย่างไรจะนำคนกลับมาหาพระเจ้า อธิษฐานขอพระเจ้านำคนกลับมาหาพระองค์ อธิษฐานขอให้เราต้อนรับคนทั้งหลายได้ เหมือนเราต้อนรับเด็กเล็กๆที่ดูด้อยกว่าเราในสายตามนุษย์ พระเยซูได้บอกไว้ในตอนท้ายของข้อ 48 ว่าใครผู้ใดเป็นผู้น้อยผู้นั้นแหละเป็นผู้ใหญ่ ขอให้เราเป็นดั่งเช่นนั้นแหละ ขอให้เราสนใจผู้อื่นแทนที่จะสนใจแต่ตัวเองว่าใครจะใหญ่กว่าใคร เราจะเป็นอะไรก็ได้ในแผ่นดินพระเจ้าขอบคุณพระเจ้า เพราะพระเจ้าเป็นผู้มอบหมายบทบาทหน้าที่ที่สมกับตลันท์และของประทานที่พระเจ้าใส่ไว้ในชีวิตเรา เราจะเป็นอะไรก็ได้ ขอพระเจ้าทรงนำหน้าชีวิตของเรา อย่ามั่วมุ่งแต่สนใจตัวเราว่าใครมีอำนาจหน้าที่ใหญ่กว่าใคร แต่ให้เราสนใจว่าจะมีคนเข้าแผ่นดินพระเจ้าอย่างไร สนใจว่าคนมากมายจะมาหาพระเจ้าได้อย่างไร เราได้ทำในสิ่งที่เป็นที่ถวายพระเกียรติพระเจ้าอย่างสมควรหรือยัง เราถ่อมจิตถ่อมใจยกผู้อื่นขึ้นหรือยัง ฯลฯ
อีกเหตุการณ์หนึ่งคือคำสอนว่าด้วยเรื่องการแสดงความยินดีกับคนอื่นที่ไม่ใช่พวกเดียวกับเรา แต่เขาได้รับใช้พระเจ้าด้วยพระนามพระเยซูเช่นเดียวกับเรา พระเยซูสอนให้รู้ว่าผู้ใดไม่ต่อสู้เราก็เป็นฝ่ายเราแล้ว ดังนั้นจากเรื่องนี้เราควรมีความยินดีที่เห็นแผ่นดินพระเจ้าแพร่ขยายออกไปแม้เขาไม่ได้มาร่วมงานกับเรา แต่ถ้าเขานั้นทำสิ่งดีเช่นเดียวกับเราแล้ว ก็ให้ขอบคุณพระเจ้าเพราะเขาเป็นฝ่ายเราแล้ว มีใครกลุ่มใดพวกใดคริสตจักรใดกำลังใช้พระนามพระเยซูเพื่อประโยชน์แก่แผ่นดินพระเจ้าแล้ว แม้ไม่ตามเรามา แม้ไม่มารวมเป็นพวกเดียวกับเรา แต่เขาเหล่านั้นก็เป็นฝ่ายเดียวกับเราแล้ว ขอบคุณพระเจ้า
ทั้งสองเรื่องดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความคิดที่ถูกต้องของเรา ขอพระเยซูอวยพรเราให้มีความคิดที่เปลี่ยนไปเป็นแบบพระวจนะมากขึ้นเรื่อยๆครับ
(Luke 9:46 [TBS1971])
แล้วเหล่าสาวกก็เกิดเถียงกันว่าในพวกเขาใครเป็นใหญ่
(Luke 9:47 [TBS1971])
ฝ่ายพระเยซูทรงหยั่งรู้ความคิดในใจของเขาจึงให้เด็กคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้พระองค์
(Luke 9:48 [TBS1971])
แล้วตรัสกับเขาว่า “ถ้าผู้ใดจะรับเด็กเล็กๆ คนนี้ในนามของเรา ผู้นั้นก็ได้รับเรา และผู้ใดได้รับเรา ผู้นั้นก็ได้รับพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา เพราะว่าในพวกท่านทั้งหลาย ผู้ใดเป็นผู้น้อยผู้นั้นแหละเป็นผู้ใหญ่”
(Luke 9:49 [TBS1971])
ฝ่ายยอห์นทูลพระองค์ว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า พวกข้าพระองค์เห็นผู้หนึ่งขับผีออกในพระนามของพระองค์และข้าพระองค์ห้ามเขาเสีย เพราะเขาไม่ตามพวกเรามา”
(Luke 9:50 [TBS1971])
พระเยซูตรัสแก่เขาว่า “อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าผู้ใดไม่เป็นฝ่ายต่อสู้ท่าน ก็เป็นฝ่ายท่านแล้ว”
ข้อพระคัมภีร์ตอนนี้พูดถึงเหตุการณ์สองเหตุการณ์ เหตุการณ์แรกเรื่องใครเป็นใหญ่ สิ่งที่พวกสาวกพูดเถึยงกันนั้นเป็นส่ิงที่ขัดแย้งกับชีวิตในแผ่นดินพระเจ้า ชีวิตในพระเจ้าไม่มาคอยกังวลว่าใครจะใหญ่กว่าใคร นั่นเป็นความคิดแบบมนุษย์ที่สนใจเรื่องชื่อเสียง เกียรติยศ อำนาจ ฯลฯ เหมือนตอนนี้ที่สนใจว่าในบรรดาสาวก 12 คนนั้น ใครเป็นใหญ่กว่าใคร แต่ในแผ่นดินพระเจ้าสนใจท่าทีที่ถูกต้องในใจของมนุษย์มากกว่าสนใจว่าใครจะใหญ่กว่าใคร ดังนั้นพี่น้องที่อ่านพระคัมภีร์มาถึงตอนนี้แล้ว จะได้มีความสนใจในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่าการสนใจในอำนาจ หน้าที่ ฯลฯ พระเยซูได้สอนไว้ว่าให้ดูเด็กเล็กๆ ถ้าเราอยากให้พระเจ้าใช้มากๆให้เราเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ เด็กเล็กๆใสซื่อใช่ไหมครับ เด็กเล็กๆไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนไม่เหมือนอย่างพวกผู้ใหญ่เหล่านี้ใช่ไหมครับ ที่คอยคิดถึงกันแต่เรื่องเกียรติและอำนาจ สิ่งที่ควรคิดกลับไม่คิด ทำอย่างไรจะนำคนกลับมาหาพระเจ้า อธิษฐานขอพระเจ้านำคนกลับมาหาพระองค์ อธิษฐานขอให้เราต้อนรับคนทั้งหลายได้ เหมือนเราต้อนรับเด็กเล็กๆที่ดูด้อยกว่าเราในสายตามนุษย์ พระเยซูได้บอกไว้ในตอนท้ายของข้อ 48 ว่าใครผู้ใดเป็นผู้น้อยผู้นั้นแหละเป็นผู้ใหญ่ ขอให้เราเป็นดั่งเช่นนั้นแหละ ขอให้เราสนใจผู้อื่นแทนที่จะสนใจแต่ตัวเองว่าใครจะใหญ่กว่าใคร เราจะเป็นอะไรก็ได้ในแผ่นดินพระเจ้าขอบคุณพระเจ้า เพราะพระเจ้าเป็นผู้มอบหมายบทบาทหน้าที่ที่สมกับตลันท์และของประทานที่พระเจ้าใส่ไว้ในชีวิตเรา เราจะเป็นอะไรก็ได้ ขอพระเจ้าทรงนำหน้าชีวิตของเรา อย่ามั่วมุ่งแต่สนใจตัวเราว่าใครมีอำนาจหน้าที่ใหญ่กว่าใคร แต่ให้เราสนใจว่าจะมีคนเข้าแผ่นดินพระเจ้าอย่างไร สนใจว่าคนมากมายจะมาหาพระเจ้าได้อย่างไร เราได้ทำในสิ่งที่เป็นที่ถวายพระเกียรติพระเจ้าอย่างสมควรหรือยัง เราถ่อมจิตถ่อมใจยกผู้อื่นขึ้นหรือยัง ฯลฯ
อีกเหตุการณ์หนึ่งคือคำสอนว่าด้วยเรื่องการแสดงความยินดีกับคนอื่นที่ไม่ใช่พวกเดียวกับเรา แต่เขาได้รับใช้พระเจ้าด้วยพระนามพระเยซูเช่นเดียวกับเรา พระเยซูสอนให้รู้ว่าผู้ใดไม่ต่อสู้เราก็เป็นฝ่ายเราแล้ว ดังนั้นจากเรื่องนี้เราควรมีความยินดีที่เห็นแผ่นดินพระเจ้าแพร่ขยายออกไปแม้เขาไม่ได้มาร่วมงานกับเรา แต่ถ้าเขานั้นทำสิ่งดีเช่นเดียวกับเราแล้ว ก็ให้ขอบคุณพระเจ้าเพราะเขาเป็นฝ่ายเราแล้ว มีใครกลุ่มใดพวกใดคริสตจักรใดกำลังใช้พระนามพระเยซูเพื่อประโยชน์แก่แผ่นดินพระเจ้าแล้ว แม้ไม่ตามเรามา แม้ไม่มารวมเป็นพวกเดียวกับเรา แต่เขาเหล่านั้นก็เป็นฝ่ายเดียวกับเราแล้ว ขอบคุณพระเจ้า
ทั้งสองเรื่องดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความคิดที่ถูกต้องของเรา ขอพระเยซูอวยพรเราให้มีความคิดที่เปลี่ยนไปเป็นแบบพระวจนะมากขึ้นเรื่อยๆครับ
สิ่งใหม่ๆ มีในพระเจ้าเสมอ
ตอบลบแม้จะสูญเสียทุกสิ่งไป แต่ความหวังใจยังมีในพระเจ้า
ตอบลบความจริงก็คือ....เราต้องมีท่าทีที่ถูกต้องและเราต้องนำคนกลับมาคืนดีกับพระเจ้า .....ขอบคุณพระเจ้าค่ะ
ตอบลบผมอ่านคำสอนจากพระเยซูทีไรเหมือนกับมีกำลังใจมหาศาลเกิดขึ้นทุกครั้งหลังจากอ่านจบ
ตอบลบและอ่านทวนอีกครั้งยิ่งสบายใจ หายเครียดเลยครับ
ขอบคุณพระเจ้า