ดูต่อครับ
ฉบับ1971
Luke 9:51 ครั้นจวนเวลาที่พระองค์จะทรงถูกรับขึ้นไป พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
Luke 9:52 และพระองค์ทรงใช้ทูตล่วงหน้าไปก่อน เขาก็เข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของชาวสะมาเรีย เพื่อจะเตรียมไว้ให้พระองค์
Luke 9:53 ชาวบ้านนั้นไม่รับรองพระองค์เพราะพระองค์กำลังเสด็จไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
Luke 9:54 เมื่อสาวกของพระองค์ คือยากอบและยอห์นได้เห็นดังนั้น เขาทูลพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์พอพระทัยจะให้ข้าพระองค์ขอไฟลงมาจากสวรรค์เผาผลาญเขาเสียอย่างเอลียาห์ได้กระทำนั้นหรือ”
Luke 9:55 แต่พระองค์ทรงเหลียวมาห้ามปรามเขาพระองค์ตรัสว่า “ท่านไม่รู้ว่า ท่านมีจิตใจทำนองใด
Luke 9:56 เพราะว่าบุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อทำลายชีวิตมนุษย์ แต่มาเพื่อช่วยเขาทั้งหลายให้รอด” แล้วพระองค์กับเหล่าสาวกก็เลยไปที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง
ฉบับไทยคิงเจมส์
Luke 9:51 ต่อมาครั้นจวนเวลาที่พระองค์จะทรงถูกรับขึ้นไป พระองค์ทรงมุ่งพระพักตร์แน่วไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
Luke 9:52 และพระองค์ทรงใช้ผู้ส่งข่าวล่วงหน้าไปก่อน เขาก็เข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของชาวสะมาเรียเพื่อจะเตรียมไว้ให้พระองค์
Luke 9:53 ชาวบ้านนั้นไม่รับรองพระองค์ เพราะดูเหมือนว่าพระองค์กำลังทรงมุ่งพระพักตร์ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
Luke 9:54 และเมื่อสาวกของพระองค์ คือยากอบและยอห์นได้เห็นดังนั้น เขาทูลว่า "พระองค์เจ้าข้า พระองค์พอพระทัยจะให้ข้าพระองค์ขอไฟลงมาจากสวรรค์ เผาผลาญเขาเสียอย่างเอลียาห์ได้กระทำนั้นหรือ"
Luke 9:55 แต่พระองค์ทรงเหลียวมาห้ามปรามเขา และตรัสว่า "ท่านไม่รู้ว่าท่านมีจิตใจทำนองใด
Luke 9:56 เพราะว่าบุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อทำลายชีวิตมนุษย์ แต่มาเพื่อช่วยเขาทั้งหลายให้รอด" แล้วพระองค์กับเหล่าสาวกก็เลยไปที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง
วันนี้นำทั้งสองเล่มนี้มาดูด้วยกันเพื่อเราจะได้เห็นสิ่งที่พระคัมภีร์เขียนไว้ได้ชัดเจนขึ้นจากการเปรียบดูในแต่ละฉบับ ในข้อ 51 มุ่งพระพักตร์แน่วไปยังกรุงเยรูซาเล็ม คือ มีความตั้งใจแน่วแน่ตรงไปที่กรุงนั้น ความตั้งใจของพระองค์ตรงไปยังกรุงเยรูซาเล็ม สถานที่ที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์เพื่อเป็นค่าไถ่แก่มนุษย์เป็นอันมาก สถานที่ที่พระองค์จะถูกรับขึ้นไป
ใจของพระองค์แน่วแน่ไปที่นั่น ในอีกข้อหนึ่งได้บอกไว้ Luke 18:31 พระองค์จึงทรงพาสาวกสิบสองคนไปแล้วตรัสกับเขาว่า “ดูเถิด เราทั้งหลายจะขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มและจะสำเร็จตามสิ่งสารพัด ซึ่งเหล่าผู้เผยพระวจนะได้เขียนไว้ว่าด้วยบุตรมนุษย์
ในข้อ 52, 53 เราจะเห็นว่าพระองค์ส่งคนเข้าไปในหมู่บ้านชาวสะมาเรีย ซึ่งไม่ถูกกับชาวกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อจะเตรียมไว้ให้พระองค์ เตรียมสิ่งใดพระคัมภีร์ไม่ได้บอกไว้ ข้าพเจ้าเชื่อว่าคือเตรียมปัสกาไว้สำหรับพระองค์เพื่อจะกินร่วมกับพวกสาวก ดังได้ปรากฏในพระธรรม Luke 22:8 พระองค์จึงทรงใช้เปโตรและยอห์นไป สั่งเขาว่า “จงไปจัดเตรียมปัสกาให้เราทั้งหลายกิน” กินเพื่อระลึกถึงพระองค์ที่จะมอบร่างกายและเลือดเพื่อคนทั้งปวง พระองค์บอกว่าจะไม่กินปัสกาอีกจนกว่าจะสำเร็จความหมายของปัสกา Luke 22:16 ด้วยเราบอกท่านทั้งหลายว่าเราจะไม่กินปัสกานี้อีก จนกว่าจะสำเร็จความหมายของปัสกานั้นในแผ่นดินของพระเจ้า” ทุกสิ่งในความตั้งใจของพระองค์ล้วนทำเพื่อจะให้สิ่งที่พระบิดาใช้พระองค์เข้ามาในโลกได้สำเร็จ ในฉบับ 1971 บอกว่า "ตั้งพระทัยแน่ว" ในฉบับไทยคิงเจมส์ บอกว่า "มุ่งพระพักตร์แน่ว" อ่านแล้วได้ใจความ ได้ความรู้สึก ได้สัมผัสถึงความแน่วแน่ในจุดประสงค์ที่พระองค์เข้ามาในโลกนี้เพื่อจะทำให้สิ่งนั้นที่เป็นจุดประสงค์การเข้ามาในโลกสำเร็จ ขอพระเจ้าได้ทรงประทานความตั้งใจแบบนี้ให้สำเร็จในตัวข้าพเจ้าและคนทั้งหลายเช่นกัน พระองค์ใช้ข้าพเจ้าและคนทั้งหลายในชีวิตนี้อย่างไร ขอพระองค์ทรงกระทำให้สำเร็จ สำหรับข้าพระองค์สิ่งที่พระองค์บอกข้าพระองค์ไว้ว่า เตรียมข้าพระองค์ไว้สำหรับการฟื้นฟูประเทศไทย ข้าพระองค์ขอมอบชีวิตนี้ให้อยู่ในน้ำพระทัยและเวลาของพระองค์ ขอถวายพระเกียรติแด่พระองค์ด้วยชีวิตนี้ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน..
ที่นี้พอชาวสะมาเรียรู้ว่าใจพระองค์แน่วแน่ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม พวกเขาเลยไม่ต้อนรับพระองค์ ยากอบและยอห์นก็ช่างใจร้อนดีแท้ เห็นว่าพวกเขาไม่ต้อนรับพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ก็จะขอไฟจากสวรรค์ลงมาทำลายพวกเขาเหมือนกับที่เอลียาห์ได้ทำ ใน 2พงศ์กษัตริย์ 1:10, 12 ที่กษัตริย์ได้ใช้ทหารไปตามเอลียาห์มีนายห้าสิบและทหารอีกห้าสิบคน บอก "ลงมา" แต่เอลียาห์บอกว่าถ้าท่านเป็นคนของพระเจ้าให้ไฟลงมาจากสวรรค์เผาผลาญพวกเขา และก็เป็นเช่นนี้ถึงสองครั้ง ที่นี่พวกสาวกจะเอาแบบนี้บ้าง ทูลถามพระเยซูจะให้เรียกไฟลงมาจากสวรรค์ไหม
คำตอบสุดท้ายของพระเยซูในข้อ 55, 56 ได้บอกให้เราเห็นถึงพระทัยเมตตากรุณาของพระองค์ พระองค์ห้ามปรามเขา และได้บอกให้รู้จิตใจของพวกเขาว่าเป็นเช่นไร แต่สำหรับพระเยซูคริสต์แล้วพระองค์ไม่ได้มาทำลายมนุษย์ แต่พระองค์มาเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดได้ นี่คือจุดประสงค์ของพระองค์ที่พระบิดาใช้พระองค์เข้ามาในโลก
ขอพระเยซูคริสต์ได้ประทานให้ใจข้าพเจ้าและใจพวกท่านทั้งหลายเป็นดั่งเช่นใจของพระเยซูคริสต์ครับ ขอพระเจ้าเสริมกำลังท่านทั้งหลายทุกคน แล้วพบกันใหม่ครับ
ฉบับ1971
Luke 9:51 ครั้นจวนเวลาที่พระองค์จะทรงถูกรับขึ้นไป พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
Luke 9:52 และพระองค์ทรงใช้ทูตล่วงหน้าไปก่อน เขาก็เข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของชาวสะมาเรีย เพื่อจะเตรียมไว้ให้พระองค์
Luke 9:53 ชาวบ้านนั้นไม่รับรองพระองค์เพราะพระองค์กำลังเสด็จไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
Luke 9:54 เมื่อสาวกของพระองค์ คือยากอบและยอห์นได้เห็นดังนั้น เขาทูลพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า พระองค์พอพระทัยจะให้ข้าพระองค์ขอไฟลงมาจากสวรรค์เผาผลาญเขาเสียอย่างเอลียาห์ได้กระทำนั้นหรือ”
Luke 9:55 แต่พระองค์ทรงเหลียวมาห้ามปรามเขาพระองค์ตรัสว่า “ท่านไม่รู้ว่า ท่านมีจิตใจทำนองใด
Luke 9:56 เพราะว่าบุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อทำลายชีวิตมนุษย์ แต่มาเพื่อช่วยเขาทั้งหลายให้รอด” แล้วพระองค์กับเหล่าสาวกก็เลยไปที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง
ฉบับไทยคิงเจมส์
Luke 9:51 ต่อมาครั้นจวนเวลาที่พระองค์จะทรงถูกรับขึ้นไป พระองค์ทรงมุ่งพระพักตร์แน่วไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
Luke 9:52 และพระองค์ทรงใช้ผู้ส่งข่าวล่วงหน้าไปก่อน เขาก็เข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของชาวสะมาเรียเพื่อจะเตรียมไว้ให้พระองค์
Luke 9:53 ชาวบ้านนั้นไม่รับรองพระองค์ เพราะดูเหมือนว่าพระองค์กำลังทรงมุ่งพระพักตร์ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
Luke 9:54 และเมื่อสาวกของพระองค์ คือยากอบและยอห์นได้เห็นดังนั้น เขาทูลว่า "พระองค์เจ้าข้า พระองค์พอพระทัยจะให้ข้าพระองค์ขอไฟลงมาจากสวรรค์ เผาผลาญเขาเสียอย่างเอลียาห์ได้กระทำนั้นหรือ"
Luke 9:55 แต่พระองค์ทรงเหลียวมาห้ามปรามเขา และตรัสว่า "ท่านไม่รู้ว่าท่านมีจิตใจทำนองใด
Luke 9:56 เพราะว่าบุตรมนุษย์มิได้มาเพื่อทำลายชีวิตมนุษย์ แต่มาเพื่อช่วยเขาทั้งหลายให้รอด" แล้วพระองค์กับเหล่าสาวกก็เลยไปที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง
วันนี้นำทั้งสองเล่มนี้มาดูด้วยกันเพื่อเราจะได้เห็นสิ่งที่พระคัมภีร์เขียนไว้ได้ชัดเจนขึ้นจากการเปรียบดูในแต่ละฉบับ ในข้อ 51 มุ่งพระพักตร์แน่วไปยังกรุงเยรูซาเล็ม คือ มีความตั้งใจแน่วแน่ตรงไปที่กรุงนั้น ความตั้งใจของพระองค์ตรงไปยังกรุงเยรูซาเล็ม สถานที่ที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์เพื่อเป็นค่าไถ่แก่มนุษย์เป็นอันมาก สถานที่ที่พระองค์จะถูกรับขึ้นไป
ใจของพระองค์แน่วแน่ไปที่นั่น ในอีกข้อหนึ่งได้บอกไว้ Luke 18:31 พระองค์จึงทรงพาสาวกสิบสองคนไปแล้วตรัสกับเขาว่า “ดูเถิด เราทั้งหลายจะขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มและจะสำเร็จตามสิ่งสารพัด ซึ่งเหล่าผู้เผยพระวจนะได้เขียนไว้ว่าด้วยบุตรมนุษย์
ในข้อ 52, 53 เราจะเห็นว่าพระองค์ส่งคนเข้าไปในหมู่บ้านชาวสะมาเรีย ซึ่งไม่ถูกกับชาวกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อจะเตรียมไว้ให้พระองค์ เตรียมสิ่งใดพระคัมภีร์ไม่ได้บอกไว้ ข้าพเจ้าเชื่อว่าคือเตรียมปัสกาไว้สำหรับพระองค์เพื่อจะกินร่วมกับพวกสาวก ดังได้ปรากฏในพระธรรม Luke 22:8 พระองค์จึงทรงใช้เปโตรและยอห์นไป สั่งเขาว่า “จงไปจัดเตรียมปัสกาให้เราทั้งหลายกิน” กินเพื่อระลึกถึงพระองค์ที่จะมอบร่างกายและเลือดเพื่อคนทั้งปวง พระองค์บอกว่าจะไม่กินปัสกาอีกจนกว่าจะสำเร็จความหมายของปัสกา Luke 22:16 ด้วยเราบอกท่านทั้งหลายว่าเราจะไม่กินปัสกานี้อีก จนกว่าจะสำเร็จความหมายของปัสกานั้นในแผ่นดินของพระเจ้า” ทุกสิ่งในความตั้งใจของพระองค์ล้วนทำเพื่อจะให้สิ่งที่พระบิดาใช้พระองค์เข้ามาในโลกได้สำเร็จ ในฉบับ 1971 บอกว่า "ตั้งพระทัยแน่ว" ในฉบับไทยคิงเจมส์ บอกว่า "มุ่งพระพักตร์แน่ว" อ่านแล้วได้ใจความ ได้ความรู้สึก ได้สัมผัสถึงความแน่วแน่ในจุดประสงค์ที่พระองค์เข้ามาในโลกนี้เพื่อจะทำให้สิ่งนั้นที่เป็นจุดประสงค์การเข้ามาในโลกสำเร็จ ขอพระเจ้าได้ทรงประทานความตั้งใจแบบนี้ให้สำเร็จในตัวข้าพเจ้าและคนทั้งหลายเช่นกัน พระองค์ใช้ข้าพเจ้าและคนทั้งหลายในชีวิตนี้อย่างไร ขอพระองค์ทรงกระทำให้สำเร็จ สำหรับข้าพระองค์สิ่งที่พระองค์บอกข้าพระองค์ไว้ว่า เตรียมข้าพระองค์ไว้สำหรับการฟื้นฟูประเทศไทย ข้าพระองค์ขอมอบชีวิตนี้ให้อยู่ในน้ำพระทัยและเวลาของพระองค์ ขอถวายพระเกียรติแด่พระองค์ด้วยชีวิตนี้ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน..
ที่นี้พอชาวสะมาเรียรู้ว่าใจพระองค์แน่วแน่ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม พวกเขาเลยไม่ต้อนรับพระองค์ ยากอบและยอห์นก็ช่างใจร้อนดีแท้ เห็นว่าพวกเขาไม่ต้อนรับพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ก็จะขอไฟจากสวรรค์ลงมาทำลายพวกเขาเหมือนกับที่เอลียาห์ได้ทำ ใน 2พงศ์กษัตริย์ 1:10, 12 ที่กษัตริย์ได้ใช้ทหารไปตามเอลียาห์มีนายห้าสิบและทหารอีกห้าสิบคน บอก "ลงมา" แต่เอลียาห์บอกว่าถ้าท่านเป็นคนของพระเจ้าให้ไฟลงมาจากสวรรค์เผาผลาญพวกเขา และก็เป็นเช่นนี้ถึงสองครั้ง ที่นี่พวกสาวกจะเอาแบบนี้บ้าง ทูลถามพระเยซูจะให้เรียกไฟลงมาจากสวรรค์ไหม
คำตอบสุดท้ายของพระเยซูในข้อ 55, 56 ได้บอกให้เราเห็นถึงพระทัยเมตตากรุณาของพระองค์ พระองค์ห้ามปรามเขา และได้บอกให้รู้จิตใจของพวกเขาว่าเป็นเช่นไร แต่สำหรับพระเยซูคริสต์แล้วพระองค์ไม่ได้มาทำลายมนุษย์ แต่พระองค์มาเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดได้ นี่คือจุดประสงค์ของพระองค์ที่พระบิดาใช้พระองค์เข้ามาในโลก
ขอพระเยซูคริสต์ได้ประทานให้ใจข้าพเจ้าและใจพวกท่านทั้งหลายเป็นดั่งเช่นใจของพระเยซูคริสต์ครับ ขอพระเจ้าเสริมกำลังท่านทั้งหลายทุกคน แล้วพบกันใหม่ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น