วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

A) Word of God : การงานในอดีตของมนุษย์ : การปลดปล่อยจากการแช่งสาป

พระวจนะสำหรับคริสตชน

วัตถุประสงค์ที่เขียน (ผู้เชื่อ=สมาชิกคริสตจักร ผู้เชื่อใหม่=ผู้ที่เพิ่งตัดสินใจต้อนรับพระคริสต์)


ตอนต้นของเนื้อหาเพื่อเป็นข้อมูลหลักพระวจนะแก่ผู้เชื่อ ตอนท้ายเพื่อให้ผู้เชื่อใหม่ได้ไว้อ่านพระคัมภีร์ตอนที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อและผู้เชื่อหรือพี่เลี้ยงอาจได้อธิบายเพิ่มอย่างง่ายๆและร่วมอธิษฐานกับผู้เชื่อใหม่ (ผู้เชื่อใหม่จะเรียนรู้การอธิษฐาน จากการที่ได้อธิษฐานร่วมกับผู้เชื่อ)


จากภาพวงจรชีวิตมนุษย์ครั้งที่ผ่านมา จะเริ่มอธิบายไปทีละเล็กทีละน้อยเพื่อให้เราสามารถเข้าใจได้ รวมทั้งจะเป็นพรสำหรับผู้เชื่อใหม่ด้วย จำไว้ว่า ผู้เชื่อใหม่ก็เปรียบเหมือนเด็กที่เพิ่งคลอดมาจากครรภ์มารดา เมื่อเกิดใหม่ก็ต้องรับอาหารอย่างที่อ่อนที่สุดเป็นน้ำนม

1Pet 2:2 เช่นเดียวกับทารกแรกเกิด จงปรารถนาน้ำนมอันบริสุทธิ์แห่งพระวจนะ เพื่อจะทำให้ท่านทั้งหลายเติบโตขึ้น




การงานในอดีตของมนุษย์ : การปลดปล่อยจากการแช่งสาป


จากพระธรรมปฐมกาลซึ่งเป็นพระธรรมที่อธิบายเริ่มตั้งแต่เรื่องการทรงสร้างโลก เราจะเห็นว่าพระเจ้าสร้างทุกสิ่งมาอย่างดี

ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ดี ในปฐมกาลพระเจ้าเห็นว่าดี ปฐมกาล 1:4 , 10 , 12 , 19 , 21 , 25 & 31


พระเจ้าสร้างเรามาให้มีพระพร ดูจากปฐมกาล ทุกสิ่งทุกอย่างมีอุดม มีความสุขในการดูแลสวน

ปฐมกาล 2:8-9
8 พระเจ้าทรงปลูกสวนแห่งหนึ่งไว้ที่เอเดน ทางทิศตะวันออก และให้มนุษย์ที่พระองค์ทรงปั้นมานั้นอยู่ที่นั่น
9 แล้วพระเจ้าทรงให้ต้นไม้ทุกชนิดที่งามน่าดูและที่น่ากิน เป็นอาหารงอกขึ้นจากดิน มีต้นไม้แห่งชีวิตต้นหนึ่งอยู่ท่ามกลางสวนนั้น กับต้นไม้แห่งความสำนึกในความดีและความชั่วต้นหนึ่งด้วย

(สังเกตุว่า มีต้นไม้สองต้น ต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งเราจะเห็นอีกครั้งในวิวรณ์ และต้นไม้แห่งความสำนึกในความดีและความชั่ว ซึ่งผีมารซาตานมาล่อลวงให้มนุษย์กิน)


เงื่อนไขคือการเชื่อฟัง เมื่อเชื่อฟัง เราก็จะรับพระพรนั้น
ถ้าไม่เชื่อฟัง ก็จะรับผลของการไม่เชื่อฟัง คือการแช่งสาป
เพราะพระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์มาให้เป็นหุ่นยนต์ที่ไม่มีความคิด ต้องเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายเท่านี้น แต่มนุษย์ถูกสร้างมาในพระฉายของพระเจ้า

Gen 1:27 ดังนั้นพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ตามแบบพระฉายาของพระองค์ พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามแบบพระฉายาของพระเจ้า พระองค์ได้ทรงสร้างพวกเขาให้เป็นชายและหญิง


หมายความว่าเราถูกสร้างมามีพระลักษณะของพระเจ้าอยู่ในตัวเรา

และพระเจ้าให้มนุษย์นั้นดูแลสวน
ปฐมกาล 2:15
15 พระเจ้าจึงทรงให้มนุษย์นั้นอยู่ในสวนเอเดน ให้ทำและรักษาสวน

http://nabataea.net/eden1.html (เรื่องแม่น้ำสี่สายที่ไหลมาจากสวนเอเดน)


แล้วทำไมโลกในปัจจุบันถึงเป็นอย่างนี้ละ มีการกระทำในสิ่งต่างๆที่ไม่น่าชื่นชมเลย มีความทุกข์ยากลำบากในการใช้ชีวิตอยู่บนโลก ฯลฯ

สิ่งที่พระเจ้าสร้างมาอย่างดี ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ มันมีจุดเริ่มต้นครับ ผีมารซาตานเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โลกที่พระเจ้าสร้างมาล้วนแล้วแต่ดี กลับกลายเป็นแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

มารซาตานมาล่อลวงมนุษย์ และมนุษย์ก็เชื่อการล่อลวงนั้น มันรู้จักวิธีที่จะเข้ามาล่อลวง มันเข้ามาหาทางฮาวา เพราะฮาวาไม่ได้ยินคำตรัสจากพระเจ้าโดยตรง คำตรัสนั้นพูดกับอาดัมโดยตรง (สมัยนั้นยังไม่มีฮาวา)

Gen 2:16 พระเยโฮวาห์พระเจ้าจึงทรงมีพระดำรัสสั่งมนุษย์นั้นว่า "บรรดาต้นไม้ทุกอย่างในสวนเจ้ากินได้ทั้งหมด
Gen 2:17 แต่ต้นไม้แห่งความรู้ดีและรู้ชั่วเจ้าอย่ากินผลจากต้นนั้นเป็นอันขาด เพราะว่าเจ้ากินในวันใด เจ้าจะตายแน่ในวันนั้น"


คำตรัสนั้นอาดัมได้ยินโดยตรงจากพระเจ้า แต่สำหรับฮาวาคงได้รับการถ่ายทอดต่อมาจากอาดัม และผีมารซาตานรู้จุดที่อ่อนที่สุดนี้ จึงมาล่อลวงทางฮาวา (สำหรับคริสเตียน เราต้องระมัดระวังจุดอ่อนของเรา อย่าเปิดโอกาสให้กับผีมารซาตานฉวยโอกาสมาล่อลวงเราทางจุดอ่อนนั้น ต้องขอพระเยซูกำจัดจุดอ่อนเราไปให้หมด)

Gen 3:1 งูนั้นเป็นสัตว์ที่ฉลาดกว่าบรรดาสัตว์ในท้องทุ่งซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าได้ทรงสร้างไว้ มันกล่าวแก่หญิงนั้นว่า "จริงหรือที่พระเจ้าตรัสว่า `เจ้าอย่ากินผลจากต้นไม้ทุกชนิดในสวนนี้'"
Gen 3:2 หญิงนั้นจึงกล่าวแก่งูว่า "ผลของต้นไม้ชนิดต่างๆในสวนนี้เรากินได้
Gen 3:3 แต่ผลของต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งอยู่ท่ามกลางสวน พระเจ้าตรัสว่า `เจ้าอย่ากินหรือแตะต้องมัน มิฉะนั้นเจ้าจะตาย'"
Gen 3:4 งูจึงกล่าวแก่หญิงนั้นว่า "เจ้าจะไม่ตายแน่
Gen 3:5 เพราะว่าพระเจ้าทรงทราบว่า เจ้ากินผลไม้นั้นวันใด ตาของเจ้าจะสว่างขึ้นวันนั้น และเจ้าจะเป็นเหมือนพระที่รู้ดีรู้ชั่ว"
Gen 3:6 เมื่อหญิงนั้นเห็นว่า ต้นไม้นั้นเหมาะสำหรับเป็นอาหารและมันงามน่าดู และต้นไม้ต้นนั้นเป็นที่น่าปรารถนาเพื่อให้เกิดปัญญา หญิงจึงเก็บผลไม้นั้นแล้วกินเข้าไป แล้วส่งให้สามีของนางด้วย และเขาได้กิน


บาปเริ่มมาจากตรงนั้น บาปคือการเบี่ยงเบน พลาดเป้าหมายไป แทนที่จะอยู่ในแผนการณ์และน้ำพระทัยพระเจ้าที่ให้มนุษย์ได้ดำเนินชีวิตอย่างมีสันติสุขในสวนเอเดน แต่กลับพลาดเป้าประสงค์ของพระเจ้าไป

มนุษย์ทำบาปและเสื่อมไปจากพระสิริพระเจ้า Rom 3:23 เหตุว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากสง่าราศีของพระเจ้า


ความตายเข้ามาในโลก (จากสภาพชีวิตนิรันดร์ กลายมาเป็นชีวิตที่ต้องตาย ท่านจะเห็นว่าคนในสมัยแรกจะมีชีวิตที่ยืนยาวมาก และช่วงชีวิตของอายุมนุษย์ก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ ลองอ่านดูในพระคัมภีร์ครับ สังเกตุดูว่าอายุของมนุษย์เป็นอย่างไร)

การแช่งสาปก็ตกมาถึงมนุษย์ เพราะมารล่อลวง

ปฐมกาล 3:17-19
17 พระองค์จึงตรัสแก่อาดัม {แปลว่า มนุษย์} ว่า"เพราะเหตุเจ้าเชื่อฟังคำพูดของภรรยา และกินผลไม้ที่เราห้าม แผ่นดินจึงต้องถูกสาปเพราะตัวเจ้า เจ้าจะต้องหากินบนแผ่นดินด้วยความทุกข์ลำบากจนตลอดชีวิต
18 แผ่นดินจะให้ต้นไม้และพืชที่มีหนามแก่เจ้าและเจ้าจะกินพืชต่างๆ ของทุ่งนา
19 เจ้าจะต้องหากินด้วยเหงื่ออาบหน้า จนเจ้ากลับเป็นดินไป เพราะเราสร้างเจ้ามาจากดิน เจ้าเป็นผงคลีดิน และจะต้องกลับเป็นผงคลีดินดังเดิม"


ต้องถูกขับไล่ออกไปจากสวนเอเดน
Gen 3:22 พระเยโฮวาห์พระเจ้าตรัสว่า "ดูเถิด มนุษย์กลายมาเป็นเหมือนผู้หนึ่งในพวกเราที่รู้จักความดีและความชั่ว บัดนี้เกรงว่าเขาจะยื่นมือไปหยิบผลจากต้นไม้แห่งชีวิตมากินด้วยกัน และมีชีวิตนิรันดร์ตลอดไป"
Gen 3:23 เหตุฉะนั้นพระเยโฮวาห์พระเจ้าจึงทรงให้เขาออกไปจากสวนเอเดน เพื่อทำไร่ไถนาจากที่ดินที่เขากำเนิดมานั้น
Gen 3:24 ดังนั้นพระองค์ทรงไล่มนุษย์ออกไป ทรงตั้งพวกเครูบไว้ทางทิศตะวันออกของสวนเอเดน และตั้งดาบเพลิงซึ่งหมุนได้รอบทิศทาง เพื่อป้องกันทางเข้าไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิต



ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ตกอยู่ใต้มารร้าย 1 ยอห์น 5:19

มนุษย์ทุกคนล้วนตกอยู่ใต้อานุภาพของมารร้าย
1John 5:19 เราทั้งหลายรู้ว่าเราเป็นของพระเจ้า และชาวโลกทั้งสิ้นตกอยู่ใต้อำนาจของความชั่ว


เราเกิดมาในโลกนี้ เราก็อยู่ภายใต้อิทธิพลของโลกด้วย
มีหลายสิ่งที่เราไปยึดติดอยู่ เช่น บาปของมนุษย์ ชีวิตก่อนเชื่อที่ต่อต้านพระเจ้า การถูกมอบให้กับอำนาจของผีวิญญาณชั่ว การเคยถูกบนบานศาลกล่าวเอาไว้ ฯลฯ

การงานที่มนุษย์ทำไม่ได้มีคุณค่าในตัวมันเองเลย เมื่อใดที่คนได้พบพระเจ้า ชีวิตเขาจะเปลี่ยนไป ทุกสิ่งที่ทำล้วนแล้วแต่มีคุณค่ายิ่ง

บางคนบอกว่าไม่เชื่อพระเจ้า ไม่เข้าวัด ชีวิตก็ดูมีความสุขดี ความคิดแบบนี้คิดเพียงสิ่งที่ใกล้ตัว แต่สิ่งที่ไกลตัวออกไปยังนึกไม่ถึง คิดเพียงชีวิตบนโลกนี้เท่านั้น ไม่ได้คิดถึงชีวิตหลังความตาย (กลับไปอ่านหัวข้อเรื่อง นรก แดนมรณา แดนคนตาย)

คิดอย่างถูกต้อง ต้องมีความคิดแบบนี้ เชื่อก่อนแล้วจึงเห็น ไม่ใช่เห็นก่อนแล้วจึงเชื่อ แล้วเขาจะเชื่อก่อนแล้วจึงเห็นได้อย่างไร นี่เป็นหน้าที่ของคริสเตียนครับ ที่ต้องเป็นพยาน และอธิษฐานเผื่อคนนั้นที่เราเป็นพยานด้วย เพื่อพระเจ้าจะปลดปล่อยเขาออกจากการเป็นทาสของผีมารซาตาน และเชื่อในสิ่งที่เราเป็นพยานได้ (นี่ไงครับ ที่ผมถึงบอกว่า ต้องอธิษฐานและอธิษฐาน)

2Cor 4:4 ส่วนคนที่ไม่เชื่อนั้น พระของยุคนี้ได้กระทำใจของเขาให้มืดไป เพื่อไม่ให้ความสว่างของข่าวประเสริฐอันมีสง่าราศีของพระคริสต์ ผู้เป็นพระฉายของพระเจ้า ส่องแสงถึงพวกเขา


คนไม่เชื่อ ทำอย่างไรก็มองไม่เห็น

และพระเจ้าก็เตือนใจไว้อีกอย่างด้วยว่า แม้คนตายฟื้นมาบอกเตือน ถ้าเขาไม่เชื่อ เขาก็จะยังไม่เชื่ออยู่ร่ำไป
Luke 16:31 อับราฮัมจึงตอบเขาว่า `ถ้าเขาไม่ฟังโมเสสและพวกศาสดาพยากรณ์ แม้คนหนึ่งจะเป็นขึ้นมาจากความตาย เขาก็จะยังไม่เชื่อ'"


และนี่คือหน้าที่ของคริสเตียนที่จะออกไปปลดปล่อยคนทั้งหลายในโลกให้พ้นจากอำนาจการแช่งสาปแห่งบาป โดยพระกรุณาคุณของพระเจ้า
Gen 5:29 เขาตั้งชื่อบุตรว่า โนอาห์ กล่าวว่า “ผู้นี้จะช่วยแบ่งเบาการงานเรา และช่วยแบ่งเบาความเหนื่อยยากจากมือเรา จากที่ดินซึ่งพระเจ้าทรงแช่งสาปไว้”


นี่คืออดีตของเรา ที่จำเป็นต้องการพระเจ้า พระผู้สร้าง พระผู้ทรงให้อภัย เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา เพื่อชีวิตของเราจะได้เต็มไปด้วยพระพร เหมือนกลับไปสู่สมัยแรกในสวนเอเดนนั้น พระเจ้าจะพาเรากลับไปสู่สวนเอเดนนั้น (กลับไปดูภาพอธิบายครั้งที่แล้ว) ซึ่งนั้นคือพระประสงค์เริ่มแรกของพระเจ้าในการทรงสร้างโลกนี้

ครั้งหน้า เราจะดูชีวิตของเราหนหลัง ที่พระเจ้าต้องการเยียวยารักษาบาดแผลของเรา




ข้อพระคัมภีร์สำหรับผู้เชื่อใหม่อ่านและร่วมอธิษฐานกับผู้เชื่อ (จากพระธรรมเล่มแรกคือปฐมกาลที่มนุษย์ทำบาปและคำแช่งสาปต่างๆก็ตกมาสู่เรา จนเราต้อนรับพระเยซูคริสต์ และไปถึงวิวรณ์พระธรรมเล่มสุดท้ายที่บอกถึงสวนเอเดนที่พระเจ้าจะกระทำให้กลับมีขึ้นมาใหม่)

วิวรณ์ 22

Rev 22:1 ท่านได้ชี้ให้ข้าพเจ้าดูแม่น้ำที่มีน้ำแห่งชีวิต ใสเหมือนแก้วไหลมาจากพระที่นั่งของพระเจ้า และพระที่นั่งของพระเมษโปดก

Rev 22:2 ไหลไปตามกลางถนนในนครนั้น และริมแม่น้ำทั้งสองฟากมีต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งออกผลสิบสองชนิด ออกผลทุกๆ เดือนและใบของต้นไม้นั้นสำหรับรักษาบรรดาประชาชาติให้หาย

Rev 22:3 จะไม่มีสิ่งใดถูกสาปแช่งอีกต่อไป พระที่นั่งของพระเจ้าและของพระเมษโปดกจะตั้งอยู่ที่นั่น และบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์จะนมัสการพระองค์

Rev 22:4 เขาเหล่านั้นจะเห็นพระพักตร์พระองค์ และพระนามของพระองค์จะประทับอยู่ที่หน้าผากเขา

Rev 22:5 กลางคืนจะไม่มีอีกต่อไป เขาไม่ต้องการแสงตะเกียงหรือแสงอาทิตย์ เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเป็นแสงสว่างของเขา และเขาจะครอบครองอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์

Rev 22:6 และทูตสวรรค์องค์นั้นบอกข้าพเจ้าว่า “ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำสัตย์ซื่อและสัตย์จริง และองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าแห่งจิตวิญญาณของผู้เผยพระวจนะ ได้ทรงใช้ให้ทูตสวรรค์ของพระองค์สำแดงแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อให้รู้เหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งจะอุบัติขึ้นในไม่ช้า

Rev 22:7 และดูเถิด เราจะมาในเร็วๆ นี้” ผู้ใดที่ถือรักษาคำพยากรณ์ในหนังสือนี้ก็เป็นสุข

Rev 22:8 ข้าพเจ้าคือยอห์นเป็นผู้ได้ยินและได้เห็นเหตุการณ์เหล่านี้ และครั้นข้าพเจ้าได้ยินและได้เห็นแล้ว ข้าพเจ้าก็ทรุดตัวลงจะนมัสการแทบเท้าทูตสวรรค์ ที่ได้สำแดงเหตุการณ์เหล่านี้แก่ข้าพเจ้า

Rev 22:9 แต่ท่านห้ามข้าพเจ้าว่า “อย่าเลย ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนผู้รับใช้เช่นเดียวกับท่านและพวกพี่น้องของท่าน ซึ่งเป็นพวกผู้เผยพระวจนะ และพวกที่ถือรักษาถ้อยคำในหนังสือนี้ ท่านจงนมัสการพระเจ้าเถิด”

Rev 22:10 และท่านบอกข้าพเจ้าว่า “อย่าประทับตราไว้ปิดคำพยากรณ์ในหนังสือนี้ เพราะว่าใกล้จะถึงเวลานั้นแล้ว

Rev 22:11 ผู้ที่เป็นคนอธรรมก็ให้เขาประพฤติอธรรมต่อไป ผู้ที่เป็นคนลามกก็ให้เขาลามกต่อไป ผู้ที่เป็นคนชอบธรรมก็ให้เขากระทำการชอบธรรมต่อไปและผู้ที่เป็นคนบริสุทธิ์ ก็ให้เขาเป็นคนบริสุทธิ์ต่อไป”

Rev 22:12 “ดูเถิด เราจะมาในเร็วๆ นี้ และจะนำบำเหน็จของเรามาด้วย เพื่อตอบแทนการกระทำของทุกคน

Rev 22:13 เราคืออัลฟาและโอเมกา เป็นเบื้องต้นและเป็นเบื้องปลาย เป็นปฐมและเป็นอวสาน”

Rev 22:14 คนทั้งหลายที่ชำระเสื้อผ้าของตนก็เป็นสุข เพื่อว่าเขาจะได้มีสิทธิ์ในต้นไม้แห่งชีวิต และเพื่อเขาจะได้เข้าไปในนครนั้นโดยทางประตู

Rev 22:15 ภายนอกนั้นมีสุนัข คนใช้เวทมนตร์ คนล่วงประเวณี คนฆ่ามนุษย์ คนไหว้รูปเคารพ ทุกคนที่รักการมุสาและประพฤติตาม

Rev 22:16 “เราคือเยซูผู้ใช้ให้ทูตสวรรค์ของเรา ไปเป็นพยานสำแดงเหตุการณ์เหล่านี้แก่ท่าน เพื่อคริสตจักรทั้งหลาย เราเป็นเชื้อสายของดาวิด และเป็นดาวประจำรุ่งอันสุกใส”

Rev 22:17 พระวิญญาณและเจ้าสาวตรัสว่า “เชิญมาเถิด” และให้ผู้ที่ได้ยินคำกล่าวว่า “เชิญมาเถิด” และให้ผู้ที่กระหายเข้ามา ผู้ใดมีใจปรารถนา ก็ให้ผู้นั้นมารับน้ำแห่งชีวิต โดยไม่ต้องเสียอะไรเลย

Rev 22:18 ข้าพเจ้าเตือนทุกคนที่ได้ยินคำพยากรณ์ในหนังสือนี้ว่า ถ้าผู้ใดจะเพิ่มเติมคำเข้าไปในหนังสือนี้ พระเจ้าก็จะทรงเพิ่มภัยพิบัติที่เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้แก่ผู้นั้น

Rev 22:19 และถ้าผู้ใดตัดข้อความออกจากหนังสือพยากรณ์นี้ พระเจ้าก็จะทรงเอาส่วนแบ่งของผู้นั้น ที่มีอยู่ในต้นไม้แห่งชีวิตและที่มีอยู่ในวิสุทธนครนั้น ซึ่งบรรยายไว้ในหนังสือเล่มนี้ไปเสีย

Rev 22:20 พระองค์ผู้ทรงเป็นพยาน ในเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ ตรัสว่า “เราจะมาในเร็วๆ นี้แน่นอน” อาเมน พระเยซูเจ้า เชิญเสด็จมาเถิด

Rev 22:21 ขอให้พระคุณแห่งพระเยซูเจ้า จงดำรงอยู่กับธรรมิกชนทั้งหลายเถิด อาเมน




สุดท้าย   นำเขาพาตัดสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆในอดีต การปลดปล่อยจากการแช่งสาป แบ่งปันให้มีความเชื่อว่าพระเจ้าช่วยได้ ไม่มีอะไรมาผูกมัดเราได้อีกต่อไป

ขอพระเจ้าได้รับพระเกียรติทั้งสิ้น อาเมน..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น