นี่คือสิ่งที่ตั้งใจจะเขียนไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบวงจรนี้ครับ ขอเอาเนื้อหาที่เขียนไว้ในสูจิบัตรคจ.มารวบรวมลงไว้ที่นี่ครับ
2 ก.พ. 20 สวัสดีครับ ผมมีวงจรชีวิตคริสเตียนอยู่รูปหนึ่ง คิดว่าจะค่อยๆกล่าวถึงไปตามวงจรนี้แหละครับ และเพื่อให้ท่านได้ดูว่าท่านมาอยู่ตรงจุดไหนแล้ว และหรือท่านเข้าใจปลายทางชีวิตของท่านหรือไม่
9 ก.พ. 20 สวัสดีครับ จากภาพแผนภูมิ พระธรรมปฐมกาลเป็นพระธรรมที่อธิบายตั้งแต่เรื่องการทรงสร้างโลก เราจะเห็นว่าพระเจ้าสร้างทุกสิ่งมาอย่างดี ปฐก. 1:4 , 10 , 12 , 19 , 21 , 25 , 31 พระเจ้าสร้างเรามาให้มีพระพร เงื่อนไขคือการเชื่อฟัง เมื่อเชื่อฟัง เราก็จะรับพระพรนั้น เราถูกสร้างมามีพระลักษณะของพระเจ้าอยู่ในตัวเรา ปฐก. 1:27 สิ่งที่พระเจ้าสร้างมาอย่างดีแต่ทำไมสิ่งต่างๆไม่น่าชื่นชมเลย มีจุดเริ่มต้นครับ ผีมารซาตานเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โลกกลับกลายเป็นแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ล่อลวงมนุษย์ และมนุษย์ก็เชื่อการล่อลวงนั้น ปฐก. 3:1-6 บาปเริ่มมาจากตรงนั้น บาปคือการเบี่ยงเบน พลาดเป้าหมายไป แทนที่จะอยู่ในแผนการและน้ำพระทัยพระเจ้าที่ให้มนุษย์ได้ดำเนินชีวิตอย่างมีสันติสุขในสวนเอเดน รม. 3:23 ปฐก. 3:17-19, 22-24 1ยน. 5:19 เราเกิดมาในโลกนี้ เราก็อยู่ภายใต้อิทธิพลของโลก บาปของมนุษย์ ชีวิตก่อนเชื่อที่ต่อต้านพระเจ้า ฯลฯ นี่คืออดีตของเราที่ต้องการพระเจ้าพระผู้สร้างพระผู้ทรงให้อภัยเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา
16 ก.พ. 20
สวัสดีครับ จากครั้งที่แล้ว เราได้ดูภาพของชีวิตเราจากการตกอยู่ภายใต้การแช่งสาปจากชีวิตเดิมที่ไม่รู้จักกับพระเจ้า
ไม่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า จนมารู้จักกับพระเจ้า
พระเจ้าได้ปลดปล่อยเราให้พ้นจากการแช่งสาป และจะนำเราจนได้เข้าสู่สวนเอเดนใหม่ที่พระเจ้าได้เตรียมไว้ให้กับเรานั่นก็คือ
เมืองบริสุทธิ์ นครเยรูซาเล็มใหม่ (อ่านได้จากวิวรณ์ บทที่ 21-22) มีอะไรบ้างในเมืองนั้น
ท่านทั้งหลายลองอ่านดูนะครับ นั่นคือที่สุดท้ายสำหรับผู้เชื่อที่เราจะไป สรุปอีกครั้ง ผู้เชื่อในสมัยปัจจุบันเมื่อล่วงหลับวิญญาณจิตจะไปอยู่กับพระเจ้าบนเมืองบรมสุขเกษม
และเมื่อพระเยซูคริสต์กลับมา จะพาวิญญาณจิตของผู้เชื่อทั้งหลายนั้นกลับมาด้วย
แล้ววิญญาณจิตนั้นจะรวมกับธุลีผงคลีเถ้าถ่านร่างกายของเราบนแผ่นดินโลก และเปลี่ยนแปลงกายใหม่เป็นกายวิญญาณ
(1คร. 15:44) หลังจากนั้นจะครอบครองโลกเป็นระยะเวลาพันปี
และมาจบลงที่นครเยรูซาเล็มใหม่ (วว. 21:2)
23 ก.พ. 20
สวัสดีครับ จากบทความครั้งที่ผ่านมาเมื่อเรากลับใจ
พระวิญญาณบริสุทธิ์จะประทับอยู่ภายในผู้เชื่อ ยน.
14:17 คือพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่าน และจะประทับอยู่ในท่าน รม. 8:9 ถ้าพระวิญญาณของพระเจ้าทรงสถิตอยู่ในท่านทั้งหลายจริงๆ แล้ว ท่านก็มิได้อยู่ใต้เนื้อหนัง แต่อยู่ใต้พระวิญญาณ ผู้ใดไม่มีพระวิญญาณของพระคริสต์ ผู้นั้นก็ไม่เป็นของพระองค์ เมื่อพระวิญญาณประทับอยู่ภายในชีวิตของท่านก็จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงชีวิต
และเราควรดำเนินชีวิตก้าวหน้าต่อไป ฮบ. 6:1-2 อาเมน
1 มี.ค. 20
สวัสดีครับ จากบทความครั้งที่ผ่านมา
เราได้เห็นพระวิญญาณประทับอยู่ในชีวิตของเรา และพระองค์จะคอยช่วยเหลือเราด้วย รม.
8:26 ในทำนองเดียวกัน พระวิญญาณก็ทรงช่วยเราเมื่อเราอ่อนกำลังด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าเราควรจะอธิษฐานขอสิ่งใดอย่างไร แต่พระวิญญาณทรงช่วยขอแทนเรา ในเมื่อเราคร่ำครวญอธิษฐานไม่เป็นคำ ในส่วนของเราเองพระวจนะได้เตือนใจเราด้วยว่า
ฮบ. 5:12-14 ถึงแม้ว่าขณะนี้ท่านทั้งหลายควรจะเป็นครูได้แล้ว แต่ท่านก็ต้องให้คนอื่นสอนท่านอีก ในเรื่องหลักธรรมเบื้องต้นแห่งพระวจนะของพระเจ้า ท่านทั้งหลายต้องกินน้ำนมไม่ใช่อาหารแข็ง เพราะว่าทุกคนที่ยังกินน้ำนมนั้น ยังไม่เข้าใจในเรื่องความชอบธรรม เพราะเขายังเป็นผู้เยาว์ อาหารแข็งเป็นอาหารสำหรับผู้ใหญ่ สำหรับผู้ที่ได้รับการฝึกหัดอบรมให้สามารถรู้จักผิดชอบชั่วดีแล้ว
เราควรกินอาหารแข็งได้แล้วโดยเฉพาะผู้ที่เชื่อมานานแล้ว
ไม่ใช่กินแต่น้ำนมเท่านั้น ติดตามกันต่อครั้งหน้านะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น