มาลงต่อครับ
บทที่ 2 ตัวอย่างผู้เลี้ยงแห่งอิสราเอล
บทนี้จะเป็นตัวอย่างจริงจากการเป็นผู้เลี้ยงในอิสราเอลซึ่งเราได้เห็นบางด้านของชีวิตผู้เลี้ยงแกะในปาเลสไตน์จากตัวอย่างเมื่อครั้งที่แล้ว ครั้งนี้จะมาดูต่ออีกบางด้านและตัวอย่างจากชีวิตดาวิดผู้เลี้ยงแกะ
ผู้เลี้ยง : ตัวอย่างผู้เลี้ยงแกะแห่งอิสราเอล (ชีวิตคนอิสราเอลเกี่ยวพันกันกับฝูงสัตว์ ดูจากคำนี้ในที่ต่างๆ) พระเจ้าได้ใช้ตัวอย่างจากฝูงสัตว์เหล่านี้ไว้ใช้สอนชาวอิสราเอล ยกตัวอย่างดาวิดผู้ปกป้องอิสราเอลจากยักษ์จากตัวอย่างการเลี้ยงแกะของดาวิด ปฐก.46:34 1ซมอ. 17:34 หนังสือ1ซามูเอลจะมีเรื่องดาวิดเลี้ยงแกะอยู่มาก)
1) การเลี้ยงดูฝูงแกะในอิสราเอล
คำนี้มาจากคำในภาษาฮีบรู คือ โอเรช และถ้าอยู่ในรูปคำกริยา คือ ราอาช ภาษากรีก คือ คำว่า พอยเมน ซึ่งเมื่อเป็นคำกริยา คือพอยมาโน คำนี้ในภาษาอังกฤษ แปลว่า Shepherd หรือ pastor
คำศัพท์คำนี้ ในภาษาฮีบรูมีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกับภาษาอื่นๆ เช่น อาเคเดียน (Akkadian) ยูการิติค (Ugaritic) อาราเมค(Aramaic) โฟนิเชียน (Phoenician) และภาษาอื่น ในตระกูลเซมิติค (Semetic)
คำกริยาในภาษาฮีบรูปรากฏทั้งหมด 160 ครั้งในพระคัมภีร์เดิม และคำนามนั้นปรากฎอยู่ 60 ครั้ง
คำนี้เป็นคำที่ใช้ในความหมายอย่างกว้างๆคือ การเลี้ยงดูฝูงสัตว์ ซึ่งเป็นอาชีพเก่าแก่ของคนที่อยู่ในดินแดนปาเลสไตน์ อัครปิตุลาของชาวอิสราเอลก็เป็นพวกที่ร่อนเร่ ต้อนฝูงสัตว์ไปตามที่ต่างๆ หน้าที่ของการเลี้ยงสัตว์นั้นเป็นหน้าที่ของคนในครอบครัว ผู้เลี้ยงแกะจะต้องเลี้ยงแกะด้วยความระมัดระวัง และจะต้องด้วยความซื่อสัตย์ ในฤดูแล้งไม่เป็นการง่ายเลยที่จะหาทุ่งหญ้าใหม่ให้แก่แกะ แต่ผู้เลี้ยงแกะก็จะต้องเอาอกเอาใจใส่อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยต่อแกะ ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถช่วยตัวเอง ข้อพิสูจน์ว่าผู้เลี้ยงแกะได้ทำหน้าที่ของตนอย่างทุ่มเทหรือไม่ก็คือ การป้องกันฝูงแกะของตนให้พ้นจากสัตว์ร้ายหรือขโมยในเวลากลางคืน
แกะเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่เป็นที่รู้จักดีในดินแดนปาเลสไตน์ แกะเป็นสัตว์ที่ถูกนำมาใช้เป็นประโยชน์อย่างมาก เช่น นับตั้งแต่นำมาเป็นอาหาร (1 ซามูเอล 14:32) เอานมมาดื่ม (อิสยาห์ 7:21-22) เอาขนมาทำเสื้อผ้า (เลวีนิติ 13:47-48) และเอาหนังมาทำเต้นท์ (อพยพ26:14) แกะถูกนำมาเป็นปัจจัยในการแลกเปลี่ยน (2 พงศ์กษัตริย์ 3:4) และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องสัตว์บูชาในพิธีถวายบูชาต่างๆ (เลวีนิติ 1:10, 4:32, 5:15, 22:21)
โดยธรรมชาติแล้ว แกะเป็นสัตว์ที่น่ารักใคร่ (2 ซามูเอล 12:3) ไม่ก้าวร้าว (อิสยาห์53:7, เยเรมีย์11:19, ยอห์น10:3-4) ไม่สามารถปกป้องตัวเอง (มีคาห์5:8, มัทธิว10:16) และต้องการการเอาใจใส่เลี้ยงดูอยู่เสมอ (กันดารวิถี27:17, เอเสเคียล34:5) จากผู้เลี้ยงแกะ เราจะเห็นว่าแกะและผู้เลี้ยงแกะจะต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ดังนั้น จึงไม่เป็นการแปลกเลยที่คำว่าผู้เลี้ยงแกะจะถูกนำมาใช้ให้มีความหมายพิเศษในทางศาสนศาสตร์อยู่เสมอ
สำหรับชาวตะวันออกโบราณ ได้ใช้คำว่า เมษบาล หรือ ผู้เลี้ยงแกะ เป็นตำแหน่งของเทพเจ้า หรือ ผู้นำในการปกครองบ้านเมือง เราจะพบตำแหน่งในรายชื่อกษัตริย์ของพวกซุมาเรียน (Sumerian) ในเรื่องในวังของบาบิโลนและในปิรามิด ดังนั้น กษัตริย์ในสมัยก่อนจะถูกเรียกว่า เป็นเมษบาลของประชาชน
แต่สำหรับอิสราเอลแล้ว พระเจ้ายาเวห์ (Yaweh) คือเมษบาลที่เที่ยงแท้แต่พระองค์เดียว ตำแหน่งนี้ได้เล็งถึงพระเจ้าในพระธรรมปฐมกาลอยู่ 2 ตอนด้วยกันคือ ปฐมกาล 48:15 และ 49:24 โดยได้แสดงให้เห็นอย่างชัดว่า พระเจ้าคือ เมษบาลของอิสราเอล แต่ต่อมาในพระคัมภีร์หมวดประวัติศาสตร์ของพระคัมภีร์ไม่ได้ใช้คำนี้มาเล็งถึงพระเจ้าอีกเลย ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะไม่ต้องการให้คนอิสราเอลสับสนระหว่างพระเจ้าของอิสราเอลกับเทพเจ้าต่างชาติ เพราะเทพเจ้าในสมัยนั้นมักจะถูกเรียกว่าเป็นเมษบาลด้วย และมาถึงสมัยที่อิสราเอลกำลังจะตกเป็นเชลย ผู้พยากรณ์ในสมัยนั้นก็ได้นำตำแหน่งนี้มาใช้กับพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อช่วยหนุนใจคนอิสราเอล และนอกจากนี้เราจะพบคำนี้มากในพระธรรมสดุดีด้วย (สดุดี 23, 28:9, 74:1, 77:20, เยเรมีย์ 23:2, 31:10, 50:19, เอเสเคียล 34:11, อิสยาห์ 40:11)
การที่คนอิสราเอลยอมรับว่าพระเจ้าเป็นเมษบาลนั้น เกิดมาจากประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตทางศาสนาของพวกเขาเอง คนอิสราเอลได้มีประสบการณ์ในการช่วยกู้ของพระเจ้าในยามที่พวกเขาประสบกับความทุกข์ยาก (สดุดี 73) ผู้ที่นมัสการพระเจ้านั้นมั่นใจว่าตนเองจะปลอดภัยภายใต้อารักขาของพระเจ้า เพราะพระองค์เป็นเมษบาลที่สัตย์ซื่อ (สดุดี 23) และจากพระธรรมสดุดีบทที่ 23 เราจะเห็นว่าผู้เลี้ยงแกะนอกจากคุ้มครองแกะของตนให้ปลอดภัยแล้ว ยิ่งได้ให้การต้อนรับและคุ้มครองแขกที่เดินทางผ่านมาอีกด้วย ซึ่งขนบธรรมเนียมเช่นนี้ยังถือปฏิบัติกันอยู่ในตะวันออกกลาง
2) การดูแลฝูงแกะในพระคัมภีร์เดิม
การเปรียบกษัตริย์กับผู้เลี้ยงแกะเป็นอุปมาทั่วไปในตะวันออกโบราณซึ่งรวมถึงอิสราเอล (สดด.78:70-72,2ซมอ.5:2,อสย.44:28,ยรม.3:15,23:1-4,มคา.5:4) สำหรับการเปรียบพระเจ้าเป็นผู้เลี้ยงอิสราเอลเหมือนเลี้ยงแกะ (สดด.28:9,79:13,80:1,95:7,100:3,ปฐก.48:15,อสย.40:11,ยรม.31:10,50:19,อสค.34:11-16)
ในพระคัมภีร์เดิม
ผู้เลี้ยง H7462
H7462 רָעָה ra`ah (raw-aw') v. เลี้ยงฝูงสัตว์
1. to tend a flock i.e. pasture it
2. (intransitively, literally or figuratively) to graze
3. (generally) to rule
4. (by extension) to associate with (as a friend)
[a primitive root]
KJV: X break, companion, keep company with, devour, eat up, evil entreat, feed, use as a friend, make friendship with, herdman, keep (sheep)(-er), pastor, + shearing house, shepherd, wander, waste.
[?]
H7473 רוֹעִי ro`iy (ro-ee') v.
1. pastoral
2. as noun, a shepherd
[from active participle of H7462]
KJV: shipherd.
Root(s): H7462
[?]
• ดูจากในพระคัมภีร์เดิมจะเห็นอาชีพของคนอิสราเอลเกี่ยวพันกับการเลี้ยงสัตว์
Gen 30:31 ลาบันจึงถามว่า “ลุงควรจะให้อะไรเจ้า” ยาโคบตอบว่า “ลุงไม่ต้องให้อะไรฉันดอก แต่หากว่าลุงตกลง ฉันจะเลี้ยงระวังสัตว์ของลุงต่อไป
Gen 37:2 ต่อไปนี้เป็นประวัติครอบครัวของยาโคบ เมื่อโยเซฟอายุได้สิบเจ็ดปีไปเลี้ยงสัตว์อยู่กับพวกพี่ชาย เขาเป็นเด็กหนุ่มอยู่กับบุตรของนางบิลฮาห์ และศิลปาห์ภรรยาบิดาของตน โยเซฟเอาความผิดของพี่ชายมาเล่าให้บิดาฟัง
Gen 46:34 ท่านทั้งหลาย จงทูลว่า ‘ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่เป็นเด็กมาจนทุกวันนี้ ทั้งข้าพระบาทและบรรพบุรุษของข้าพระบาท’ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้อาศัยอยู่ในเมืองโกเชน เหตุว่าชาวอียิปต์เกลียดชังคนที่เลี้ยงแพะแกะยิ่งนัก”
• ครอบครัวของอิสราเอลเลี้ยงสัตว์ ขณะที่ชาวอียิปต์เกลียดชังคนเลี้ยงแพะแกะ
Exod 3:1 ฝ่ายโมเสสเมื่อเลี้ยงฝูงแพะแกะของเยโธรพ่อตาผู้เป็นปุโรหิตของคนมีเดียน ได้พาฝูงแพะแกะไปทางตะวันตกของถิ่นทุรกันดาร จนมาถึงภูเขาของพระเจ้าคือ โฮเรบ
• โมเสสถูกเรียกขณะเฝ้าฝูงแกะเช่นเดียวกับดาวิด เพื่อไปเป็นผู้เลี้ยงประชากรของพระเจ้า
• 1 ซามูเอล บทที่ 16-17 ประสบการณ์คนเลี้ยงแกะที่ไว้วางใจพระเจ้า นำประสบการณ์นั้นมาต่อสู้กับโกลิอัท
1Sam 16:11 แล้วซามูเอลกล่าวแก่เจสซีว่า “บุตรชายของท่านอยู่ที่นี่หมดแล้วหรือ” เจสซีตอบว่า “ยังมีคนสุดท้องอีกคนหนึ่ง ดูเถิด เขากำลังเลี้ยงแกะอยู่” และซามูเอลกล่าวแก่เจสซีว่า “จงใช้คนไปตามเขามา เพราะเราจะไม่ยอมนั่งจนกว่าเขาจะมาที่นี่”
• ดาวิดเป็นคนเลี้ยงแกะ เราจะดูจากตัวอย่างดาวิด คนเลี้ยงแกะ
1Sam 17:15 แต่ดาวิดไปๆ มาๆ อยู่ระหว่างซาอูลกับการที่เลี้ยงแกะของบิดาที่เบธเลเฮม
1Sam 17:34 แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยดูแลแพะแกะของบิดา และเมื่อมีสิงห์หรือหมีมาเอาลูกแกะตัวหนึ่งไปจากฝูง
1Sam 17:40 แล้วจึงถือไม้เท้าไว้ และเลือกก้อนหินเกลี้ยงจากลำธารได้ห้าก้อน จึงใส่ในย่ามผู้เลี้ยงแกะของเขาในถุงของเขาและมือถือสลิงอยู่ ท่านก็เข้าไปใกล้คนฟีลิสเตียคนนั้น
• ลักษณะผู้เลี้ยงแบบดาวิด พระเจ้าทอดพระเนตรที่จิตใจ มิใช่ด้วยรูปกายภายนอก
1Sam 16:7 แต่พระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า “อย่ามองดูที่รูปร่างภายนอกหรือที่ความสูงแห่งร่างกายของเขา ด้วยเราไม่ยอมรับเขา เพราะพระเจ้าทอดพระเนตรไม่เหมือนกับที่มนุษย์ดู มนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอกแต่พระเจ้าทอดพระเนตรจิตใจ”
• จากคนเลี้ยงแกะ ทำไมกลายมาเป็นนักรบได้ เนื่องด้วยเพราะมีความต้องการตัว อะไรๆก็เป็นได้หมด
1Sam 16:18 คนหนึ่งในพวกชายหนุ่มทูลว่า “ดูเถิด ข้าพระบาทเห็นบุตรคนหนึ่งของเจสซีชาวเบธเลเฮม เป็นผู้มีฝีมือในการดีดพิณ เป็นคนกล้าหาญ เป็นนักรบ พูดเก่ง และเป็นคนมีหน้าตาดี และพระเจ้าทรงสถิตกับเขา”
• หน้าที่ดาวิดที่มีต่อซาอูล
1Sam 16:23 อยู่มาเมื่อวิญญาณชั่วจากพระเจ้ามาสิงซาอูลเมื่อไร ดาวิดก็หยิบพิณใช้มือดีดถวายซาอูลก็ทรงชุ่มชื่นขึ้นและหายดี และวิญญาณชั่วก็พรากจากพระองค์ไป
• เล่าประสบการณ์การดูแลฝูงแกะ เทียบกับการต่อสู้กับโกลิอัทที่มาท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
1Sam 17:33 และซาอูลกล่าวแก่ดาวิดว่า “เจ้าไม่สามารถที่จะไปสู้รบกับชายฟีลิสเตียคนนั้นดอก เพราะเจ้าเป็นแต่เด็กหนุ่ม และเขาเป็นทหารชำนาญศึกมาตั้งแต่หนุ่มๆ แล้ว”
1Sam 17:34 แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยดูแลแพะแกะของบิดา และเมื่อมีสิงห์หรือหมีมาเอาลูกแกะตัวหนึ่งไปจากฝูง
1Sam 17:35 ข้าพระบาทก็ไล่ตามฆ่ามัน และช่วยกู้ลูกแกะนั้นมาจากปากของมัน ถ้ามันลุกขึ้นต่อสู้ข้าพระบาท ข้าพระบาทก็จับหนวดเคราของมัน และทุบตีมันจนตาย
1Sam 17:36 ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าสิงห์และหมีนั้นมาแล้ว คนฟีลิสเตียผู้มิได้เข้าสุหนัตคนนี้ก็เป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้นตัวหนึ่ง ด้วยเขาได้ท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่”
1Sam 17:37 และดาวิดทูลต่อไปว่า “พระเจ้าผู้ทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากขยุ้มเท้าของสิงห์ และจากขยุ้มเท้าของหมี จะทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากมือของคนฟีลิสเตียคนนี้” และซาอูลจึงตรัสแก่ดาวิดว่า “จงไปเถอะ และพระเจ้าจะทรงสถิตอยู่กับเจ้า”
• ใช้อาวุธที่ถนัดมือและเหมาะสมกับเขา
1Sam 17:39 และดาวิดก็คาดดาบทับเครื่องอาวุธ เขาลองเดินดูก็เห็นว่าใช้ไม่ได้ เพราะเขาไม่ชิน แล้วดาวิดจึงทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทจะสวมเครื่องเหล่านี้ไปไม่ได้ เพราะว่าข้าพระบาทไม่ชิน” ดาวิดจึงปลดออกเสีย
1Sam 17:40 แล้วจึงถือไม้เท้าไว้ และเลือกก้อนหินเกลี้ยงจากลำธารได้ห้าก้อน จึงใส่ในย่ามผู้เลี้ยงแกะของเขาในถุงของเขาและมือถือสลิงอยู่ ท่านก็เข้าไปใกล้คนฟีลิสเตียคนนั้น
• การรบนี้เป็นของพระเจ้า
1Sam 17:45 แล้วดาวิดก็พูดกับคนฟีลิสเตียคนนั้นว่า “ท่านมาหาข้าพเจ้าด้วยดาบ ด้วยหอกและด้วยหอกซัด แต่ข้าพเจ้ามาหาท่านในพระนามแห่งพระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ผู้ซึ่งท่านได้ท้าทายนั้น
1Sam 17:46 ในวันนี้พระเจ้าจะทรงมอบท่านไว้ในมือข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะประหารท่านและตัดศีรษะของท่านเสีย และในวันนี้ข้าพเจ้าจะให้ศพของกองทัพฟีลิสเตียแก่นกในอากาศและแก่สัตว์ป่า เพื่อทั้งพิภพนี้จะทราบว่ามีพระเจ้าพระองค์หนึ่งในอิสราเอล
1Sam 17:47 และชุมนุมชนนี้ทั้งสิ้นจะทราบว่า พระเจ้ามิได้ทรงช่วยด้วยดาบหรือด้วยหอก เพราะว่าการรบครั้งนี้เป็นของพระเจ้า พระองค์จะทรงมอบท่านไว้ในมือของเราทั้งหลาย”
1Sam 17:49 และดาวิดเอามือล้วงเข้าไปในย่ามหยิบหินก้อนหนึ่งออกมา แล้วเหวี่ยงหินก้อนนั้นด้วยสายสลิงถูกคนฟีลิสเตียคนนั้นที่หน้าผาก ก้อนหินจมเข้าไปในหน้าผากเขาก็ล้มหน้าคว่ำลงที่ดิน
1Sam 17:50 ดังนั้นดาวิดก็ชนะคนฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงและก้อนหินก้อนหนึ่ง และคว่ำคนฟีลิสเตียคนนั้นลง และฆ่าเขาเสีย ดาวิดไม่มีดาบอยู่ในมือ
1Sam 17:51 แล้วดาวิดวิ่งไปยืนอยู่เหนือคนฟีลิสเตียคนนั้น หยิบดาบของเขาชักออกจากฝักฆ่าเขาเสีย และตัดศีรษะของเขาออกเสียด้วยดาบ เมื่อคนฟีลิสเตียเห็นว่ายอดทหารของเขาตายเสียแล้วก็พากันหนีไป
ใน 1 ซามูเอล บทที่ 17 เป็นเรื่องของดาวิดและโกลิอัท คำว่า ยอดนักรบ เป็นคำที่ชาวกรีกโบราณซึ่งเกี่ยวดองกับชาวฟิลิสเตียจะตัดสินการแพ้ชนะในสงครามโดยคัดเลือกยอดนักรบแต่ละฝ่ายออกมาต่อสู้กัน วิธีที่ประหยัดคนเช่นนี้เป็นการให้เทพเจ้าต่างๆตัดสินเรื่องที่เดิมพันกัน อิสราเอลก็อาจจะใช้การปฏิบัติเช่นนี้เหมือนกัน
Isa 40:11 พระองค์จะทรงเลี้ยงฝูงแพะแกะของพระองค์อย่างผู้เลี้ยงแกะ พระองค์จะทรงรวบรวมลูกแกะไว้ในพระกรของพระองค์ พระองค์จะทรงอุ้มไว้ที่พระทรวง และทรงค่อยๆ นำบรรดาที่มีลูกอ่อนไป
Jer 10:21 เพราะว่าผู้เลี้ยงแกะก็บัดซบและไม่ได้ทูลถามพระเจ้า เพราะฉะนั้นเขาจึงมิได้จำเริญขึ้น และฝูงแกะของเขาก็กระจัดกระจายไป
“คนเลี้ยงแกะ....ฝูงแกะ” ผู้ปกครองกับประชาชน (2:8 ไม่มีใครปรึกษาพระเจ้า ปุโรหิตทั้งหลาย บรรดาผู้ปกครองแปลตรงตัวว่าคนเลี้ยงแกะ เหล่าผู้เผยพระวจนะ) สิ้นคิด ไม่ได้ทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่กลับไปขอคำปรึกษาจากดวงดาวในฟากฟ้าแทน (8:2)
Jer 23:1 พระเจ้าตรัสว่า “วิบัติจงมีแก่ผู้เลี้ยงแกะ ผู้ทำลายและกระจายแกะของลานหญ้าของเรา”
Jer 23:2 เพราะฉะนั้น พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ตรัสกับผู้เลี้ยงแกะผู้ดูแลประชากรของเราดังนี้ว่า “เจ้าทั้งหลายได้กระจายฝูงแกะของเราและได้ขับไล่มันไปเสีย และเจ้ามิได้เอาใจใส่มัน พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด เราจะเอาใจใส่เจ้า เพราะการกระทำที่ชั่วของเจ้า
Jer 23:3 แล้วเราจะรวบรวมฝูงแกะของเราที่เหลืออยู่ออกจากประเทศทั้งปวง ซึ่งเราได้ขับไล่ให้เขาไปอยู่นั้น และจะนำเขากลับมายังคอกของเขา เขาจะมีลูกดกและทวีมากขึ้น
Jer 23:4 พระเจ้าตรัสว่า เราจะตั้งผู้เลี้ยงแกะไว้เหนือเขา ผู้จะเลี้ยงดูเขาและเขาทั้งหลายจะไม่กลัวอีกเลย หรือครั่นคร้าม จะไม่ขาดไปเลย
Jer 23:5 “พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด วันเวลาจะมาถึง เมื่อเราจะเพาะอังกูรชอบธรรมให้ดาวิด และท่านจะทรงครอบครองเป็นกษัตริย์และกระทำกิจอย่างเฉลียวฉลาด และจะทรงประทานความยุติธรรมและความชอบธรรมในแผ่นดินนั้น
ข้อความสรุป – พระเจ้าตั้งพระทัยจะพิพากษาผู้ปกครองและผู้นำที่ชั่วร้ายของยูดาห์(1-2)จะนำประชากรของพระองค์กลับจากการเป็นเชลยในภายหน้า(3-4,7-8)และจะแต่งตั้งกษัตริย์ในอุดมคติจากราชวงศ์ดาวิด(5-6)
Ezek 34:1 พระวจนะของพระเจ้ามายังข้าพเจ้าว่า
Ezek 34:2 “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงพยากรณ์กล่าวโทษบรรดาผู้เลี้ยงแกะแห่งอิสราเอล จงพยากรณ์กล่าวโทษว่าแก่เขา คือผู้เลี้ยงแกะว่า พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า วิบัติแก่ผู้เลี้ยงแกะแห่งอิสราเอลผู้เลี้ยงตัวเอง ผู้เลี้ยงแกะย่อมเลี้ยงแกะมิใช่หรือ
Ezek 34:3 เจ้ารับประทานไขมัน เจ้าคลุมกายของเจ้าด้วยขนแกะ เจ้าฆ่าแกะตัวอ้วนๆ เจ้าหาได้เลี้ยงแกะไม่
Ezek 34:4 ตัวที่อ่อนเพลียเจ้าก็ไม่เสริมกำลัง ตัวที่เจ็บเจ้าก็ไม่รักษา ตัวที่กระดูกหักเจ้าก็มิได้พันผ้า ตัวที่หลงไปเจ้าก็มิได้ไปตามกลับมา ตัวที่หายไปเจ้าก็มิได้เสาะหา และเจ้าได้ปกครองเขาด้วยการบังคับ และด้วยการข่มขี่เบียดเบียน
Ezek 34:5 ดังนั้นมันจึงกระจัดกระจายไปหมด เพราะว่าไม่มีผู้เลี้ยงแกะและมันก็ไปเป็นอาหารของสัตว์ป่าทุ่งทั้งหลายหมด และกระจัดกระจายไป
Ezek 34:6 แกะของเราก็เที่ยวไปตามภูเขาทั้งหมดและตามเนินเขาสูง เออ แกะของเราก็กระจายไปทั่วพิภพ ไม่มีใครเที่ยวค้นไม่มีใครเสาะหามัน
Ezek 34:7 “เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายผู้เป็นผู้เลี้ยงแกะ จงฟังพระวจนะของพระเจ้า
Ezek 34:8 พระเจ้าตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เพราะแกะของเรากลายเป็นเหยื่อ และแกะของเรากลายเป็นอาหารของสัตว์ป่าทุ่งทั้งสิ้น เพราะไม่มีผู้เลี้ยงแกะ และเพราะผู้เลี้ยงแกะของเราไม่เที่ยวค้นหาแกะของเรา แต่ผู้เลี้ยงแกะนั้นเลี้ยงตัวเอง และไม่ได้เลี้ยงแกะของเรา
Ezek 34:9 เพราะฉะนั้น เจ้าทั้งหลายเป็นผู้เลี้ยงแกะ จงฟังพระวจนะของพระเจ้า
Ezek 34:10 พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราเป็นปฏิปักษ์กับผู้เลี้ยงแกะ และเราจะเรียกร้องเอาแกะของเราจากมือของเขา และให้เขายับยั้งการเลี้ยงแกะของเขา ผู้เลี้ยงแกะจะไม่ได้เลี้ยงตัวเองอีกต่อไป เราจะช่วยแกะของเราให้พ้นจากปากของเขา เพื่อมิให้แกะเป็นอาหารของเขา
Ezek 34:11 “เพราะพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เรา คือเราเองจะค้นหาแกะของเรา และจะเที่ยวหามัน
Ezek 34:12 ดังผู้เลี้ยงแกะเที่ยวหาฝูงแกะ เมื่อเขาอยู่ท่ามกลางแกะของเขาที่กระจัดกระจายไป เราจะเที่ยวหาแกะของเราดังนั้น และเราจะช่วยเขาให้พ้นจากสถานที่ทั้งหลายซึ่งเขาได้กระจัดกระจายไปอยู่เมื่อวันมีเมฆและมีความมืดทึบ
Ezek 34:13 เราจะนำเขาออกมาจากชนชาติทั้งหลาย และรวบรวมเขามาจากประเทศต่างๆ และจะนำเขามาไว้ในแผ่นดินของเขาเอง และเราจะเลี้ยงเขาบนภูเขาแห่งอิสราเอล ใกล้ห้วยทั้งหลายและในท้องถิ่นทุกแห่งที่มีคนอาศัยในประเทศนั้น
Ezek 34:14 เราจะเลี้ยงเขาในลานหญ้าอย่างดีและลานหญ้าของเขาจะอยู่บนบรรดาภูเขาสูงแห่งอิสราเอล ณ ที่นั่น เขาจะนอนลงในลานหญ้าที่ดี และเขาจะหากินอยู่บนลานหญ้าอุดมบนภูเขาแห่งอิสราเอล
Ezek 34:15 ตัวเราเองจะเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา เราจะกระทำให้เขานอนลง พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
Ezek 34:16 เราจะเที่ยวหาแกะที่หาย และเราจะนำแกะที่หลงกลับมา และเราจะพันผ้าให้แกะที่กระดูกหัก และเราจะเสริมกำลังแกะที่อ่อนเพลีย แต่ตัวที่อ้วนและเข้มแข็งเราจะทำลาย เราจะเลี้ยงเขาด้วยความยุติธรรม
Ezek 34:17 “พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าทั้งหลายผู้เป็นฝูงแพะแกะของเราเอ๋ย ดูเถิด เราจะพิพากษาระหว่างแกะกับแกะ ระหว่างแกะผู้กับแพะผู้
Ezek 34:18 ที่จะหากินในลานหญ้าอย่างดีนั้นยังไม่พออีกหรือ เจ้าจึงต้องเอาเท้าเหยียบลานหญ้าที่เหลืออยู่ของเจ้า และดื่มน้ำใสยังไม่พอหรือ จึงเอาเท้าของเจ้ากวนน้ำที่เหลืออยู่ให้ขุ่น
Ezek 34:19 แกะของเราจะต้องกินสิ่งที่เท้าของเจ้าย่ำ และดื่มสิ่งที่เท้าของเจ้าทำให้ขุ่นหรือ
Ezek 34:20 “เพราะฉะนั้น พระเจ้าตรัสแก่เขาดังนี้ว่า ดูเถิด เรา คือเราเอง จะพิพากษาระหว่างแกะอ้วนกับแกะผอม
Ezek 34:21 เพราะเจ้าเอาสีข้างและบ่าดันและผลักแกะตัวอ่อนเพลียด้วยเขาของเจ้า เจ้าทำให้เขากระจายไปต่างถิ่น
Ezek 34:22 เราจะช่วยฝูงแพะแกะของเราให้รอด เขาจะไม่เป็นเหยื่ออีกต่อไป และเราจะพิพากษาระหว่างแกะกับแกะ
Ezek 34:23 และเราจะตั้งผู้เลี้ยงแกะผู้หนึ่งไว้เหนือเขา คือดาวิดผู้รับใช้ของเราและท่านจะเลี้ยงเขาทั้งหลาย ท่านจะเลี้ยงเขาและเป็นผู้เลี้ยงของเขา
Ezek 34:24 และเราคือพระเจ้า จะเป็นพระเจ้าของเขา และดาวิดผู้รับใช้ของเรา จะเป็นเจ้านายท่ามกลางเขา เราคือพระเจ้า ได้ลั่นวาจาแล้ว
Ezek 34:25 “เราจะกระทำพันธสัญญาสันติสุขกับเขาและกำจัดสัตว์ร้ายเสียจากแผ่นดิน เพื่อว่าเขาจะอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารอย่างปลอดภัย และนอนอยู่ในป่าไม้
Ezek 34:26 และเราจะกระทำให้เขากับสถานที่รอบๆ เนินเขาของเราเป็นแหล่งพระพร เราจะส่งฝนลงมาให้ตามฤดูกาล เป็นห่าฝนแห่งพระพร
Ezek 34:27 ต้นไม้ที่ในทุ่งจะบังเกิดผล และพิภพจะบังเกิดผลประโยชน์ และเขาจะอยู่อย่างปลอดภัยในแผ่นดินของเขาและเขาจะทราบว่าเราคือพระเจ้าในเมื่อเราหักคานแอกของเขาเสีย และช่วยกู้เขาจากมือของผู้ที่กักเขาให้เป็นทาส
Ezek 34:28 เขาจะไม่เป็นเหยื่อของประชาชาติอีกต่อไป หรือสัตว์ป่าดินก็จะไม่กินเขา และเขาจะอยู่อย่างปลอดภัย ไม่มีผู้ใดกระทำให้เขากลัว
Ezek 34:29 และเราจะจัดหาไร่นาอันมีชื่อให้แก่เขา เพื่อเขาจะไม่ถูกผลาญด้วยความอดอยากในแผ่นดินนั้นต่อไปอีก ไม่ต้องทนรับความอับอายขายหน้าจากประชาชาติ
Ezek 34:30 และเขาจะทราบว่าเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาสถิตกับเขา และเขาคือพงศ์พันธุ์อิสราเอลเป็นประชากรของเรา พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
Ezek 34:31 เจ้าทั้งหลายเป็นแกะของเรา เป็นแกะในลานหญ้าของเรา เจ้าทั้งหลายเป็นมนุษย์ และเราเป็นพระเจ้าของเจ้า พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ”
พระเจ้าประทานพระราชดำรัสยืนยันแก่ชาวอิสราเอลที่เป็นเชลยให้มั่นใจว่าในอนาคตพระองค์เองจะเป็นผู้เลี้ยงของพวกเขา ในข้อ 1-10 พระองค์ประนาม “คนเลี้ยงแกะ” ไร้ค่าของอิสราเอล ในข้อ 11-16 พระองค์สัญญาจะตามหาแกะที่กระจัดกระจายพลัดพรากไป ในข้อ 17-22 พระองค์ประกาศว่าจะพิพากษาแกะแข็งแรงที่กดขี่แกะอ่อนแอ ในข้อ 23-24 พระองค์สัญญาจะตั้ง “ดาวิด” ผู้รับใช้ของพระองค์ให้ดูแลฝูงแกะ และในข้อ 25-31 พระองค์ตรัสถึง “พันธสัญญาแห่งสันติภาพ” ซึ่งจะทำให้แผ่นดินอิสราเอลที่ได้รับพรนั้นมั่นคงปลอดภัย
ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าประสบการณ์การเลี้ยงดูแกะของคนอิสราเอล เป่รียบได้กับการดูแลประชากรของพระเจ้า นอกจากนั้นเรายังเห็นดาวิดใช้ประสบการณ์ในการดูแลฝูงแกะของเขา มาใช้ในการเอาชัยชนะต่อโกลิอัทด้วย
สำหรับเราแล้ว เราจะเห็นได้ว่าเราเป็นประชากรของพระองค์ที่ทรงเลี้ยงดูแลรักษาเรา เราเปรียบเป็นฝูงแกะของพระองค์ที่เฝ้าดูแลรักษา เพราะพระองค์ทรงรักเราอย่างมาก และในฐานะที่จะมีแกะเกิดใหม่มากมาย แกะเหล่านั้นต้องการผู้เลี้ยงที่คอยเฝ้าดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เหมือนชีวิตของคนเลี้ยงแกะแห่งอิสราเอลที่เฝ้าดูแลรักษาฝูงแกะอยู่เสมอด้วยความรักห่วงใยตลอดเวลา
บทที่ 2 ตัวอย่างผู้เลี้ยงแห่งอิสราเอล
บทนี้จะเป็นตัวอย่างจริงจากการเป็นผู้เลี้ยงในอิสราเอลซึ่งเราได้เห็นบางด้านของชีวิตผู้เลี้ยงแกะในปาเลสไตน์จากตัวอย่างเมื่อครั้งที่แล้ว ครั้งนี้จะมาดูต่ออีกบางด้านและตัวอย่างจากชีวิตดาวิดผู้เลี้ยงแกะ
ผู้เลี้ยง : ตัวอย่างผู้เลี้ยงแกะแห่งอิสราเอล (ชีวิตคนอิสราเอลเกี่ยวพันกันกับฝูงสัตว์ ดูจากคำนี้ในที่ต่างๆ) พระเจ้าได้ใช้ตัวอย่างจากฝูงสัตว์เหล่านี้ไว้ใช้สอนชาวอิสราเอล ยกตัวอย่างดาวิดผู้ปกป้องอิสราเอลจากยักษ์จากตัวอย่างการเลี้ยงแกะของดาวิด ปฐก.46:34 1ซมอ. 17:34 หนังสือ1ซามูเอลจะมีเรื่องดาวิดเลี้ยงแกะอยู่มาก)
1) การเลี้ยงดูฝูงแกะในอิสราเอล
คำนี้มาจากคำในภาษาฮีบรู คือ โอเรช และถ้าอยู่ในรูปคำกริยา คือ ราอาช ภาษากรีก คือ คำว่า พอยเมน ซึ่งเมื่อเป็นคำกริยา คือพอยมาโน คำนี้ในภาษาอังกฤษ แปลว่า Shepherd หรือ pastor
คำศัพท์คำนี้ ในภาษาฮีบรูมีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกับภาษาอื่นๆ เช่น อาเคเดียน (Akkadian) ยูการิติค (Ugaritic) อาราเมค(Aramaic) โฟนิเชียน (Phoenician) และภาษาอื่น ในตระกูลเซมิติค (Semetic)
คำกริยาในภาษาฮีบรูปรากฏทั้งหมด 160 ครั้งในพระคัมภีร์เดิม และคำนามนั้นปรากฎอยู่ 60 ครั้ง
คำนี้เป็นคำที่ใช้ในความหมายอย่างกว้างๆคือ การเลี้ยงดูฝูงสัตว์ ซึ่งเป็นอาชีพเก่าแก่ของคนที่อยู่ในดินแดนปาเลสไตน์ อัครปิตุลาของชาวอิสราเอลก็เป็นพวกที่ร่อนเร่ ต้อนฝูงสัตว์ไปตามที่ต่างๆ หน้าที่ของการเลี้ยงสัตว์นั้นเป็นหน้าที่ของคนในครอบครัว ผู้เลี้ยงแกะจะต้องเลี้ยงแกะด้วยความระมัดระวัง และจะต้องด้วยความซื่อสัตย์ ในฤดูแล้งไม่เป็นการง่ายเลยที่จะหาทุ่งหญ้าใหม่ให้แก่แกะ แต่ผู้เลี้ยงแกะก็จะต้องเอาอกเอาใจใส่อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยต่อแกะ ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่สามารถช่วยตัวเอง ข้อพิสูจน์ว่าผู้เลี้ยงแกะได้ทำหน้าที่ของตนอย่างทุ่มเทหรือไม่ก็คือ การป้องกันฝูงแกะของตนให้พ้นจากสัตว์ร้ายหรือขโมยในเวลากลางคืน
แกะเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่เป็นที่รู้จักดีในดินแดนปาเลสไตน์ แกะเป็นสัตว์ที่ถูกนำมาใช้เป็นประโยชน์อย่างมาก เช่น นับตั้งแต่นำมาเป็นอาหาร (1 ซามูเอล 14:32) เอานมมาดื่ม (อิสยาห์ 7:21-22) เอาขนมาทำเสื้อผ้า (เลวีนิติ 13:47-48) และเอาหนังมาทำเต้นท์ (อพยพ26:14) แกะถูกนำมาเป็นปัจจัยในการแลกเปลี่ยน (2 พงศ์กษัตริย์ 3:4) และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องสัตว์บูชาในพิธีถวายบูชาต่างๆ (เลวีนิติ 1:10, 4:32, 5:15, 22:21)
โดยธรรมชาติแล้ว แกะเป็นสัตว์ที่น่ารักใคร่ (2 ซามูเอล 12:3) ไม่ก้าวร้าว (อิสยาห์53:7, เยเรมีย์11:19, ยอห์น10:3-4) ไม่สามารถปกป้องตัวเอง (มีคาห์5:8, มัทธิว10:16) และต้องการการเอาใจใส่เลี้ยงดูอยู่เสมอ (กันดารวิถี27:17, เอเสเคียล34:5) จากผู้เลี้ยงแกะ เราจะเห็นว่าแกะและผู้เลี้ยงแกะจะต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ดังนั้น จึงไม่เป็นการแปลกเลยที่คำว่าผู้เลี้ยงแกะจะถูกนำมาใช้ให้มีความหมายพิเศษในทางศาสนศาสตร์อยู่เสมอ
สำหรับชาวตะวันออกโบราณ ได้ใช้คำว่า เมษบาล หรือ ผู้เลี้ยงแกะ เป็นตำแหน่งของเทพเจ้า หรือ ผู้นำในการปกครองบ้านเมือง เราจะพบตำแหน่งในรายชื่อกษัตริย์ของพวกซุมาเรียน (Sumerian) ในเรื่องในวังของบาบิโลนและในปิรามิด ดังนั้น กษัตริย์ในสมัยก่อนจะถูกเรียกว่า เป็นเมษบาลของประชาชน
แต่สำหรับอิสราเอลแล้ว พระเจ้ายาเวห์ (Yaweh) คือเมษบาลที่เที่ยงแท้แต่พระองค์เดียว ตำแหน่งนี้ได้เล็งถึงพระเจ้าในพระธรรมปฐมกาลอยู่ 2 ตอนด้วยกันคือ ปฐมกาล 48:15 และ 49:24 โดยได้แสดงให้เห็นอย่างชัดว่า พระเจ้าคือ เมษบาลของอิสราเอล แต่ต่อมาในพระคัมภีร์หมวดประวัติศาสตร์ของพระคัมภีร์ไม่ได้ใช้คำนี้มาเล็งถึงพระเจ้าอีกเลย ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะไม่ต้องการให้คนอิสราเอลสับสนระหว่างพระเจ้าของอิสราเอลกับเทพเจ้าต่างชาติ เพราะเทพเจ้าในสมัยนั้นมักจะถูกเรียกว่าเป็นเมษบาลด้วย และมาถึงสมัยที่อิสราเอลกำลังจะตกเป็นเชลย ผู้พยากรณ์ในสมัยนั้นก็ได้นำตำแหน่งนี้มาใช้กับพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง เพื่อช่วยหนุนใจคนอิสราเอล และนอกจากนี้เราจะพบคำนี้มากในพระธรรมสดุดีด้วย (สดุดี 23, 28:9, 74:1, 77:20, เยเรมีย์ 23:2, 31:10, 50:19, เอเสเคียล 34:11, อิสยาห์ 40:11)
การที่คนอิสราเอลยอมรับว่าพระเจ้าเป็นเมษบาลนั้น เกิดมาจากประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตทางศาสนาของพวกเขาเอง คนอิสราเอลได้มีประสบการณ์ในการช่วยกู้ของพระเจ้าในยามที่พวกเขาประสบกับความทุกข์ยาก (สดุดี 73) ผู้ที่นมัสการพระเจ้านั้นมั่นใจว่าตนเองจะปลอดภัยภายใต้อารักขาของพระเจ้า เพราะพระองค์เป็นเมษบาลที่สัตย์ซื่อ (สดุดี 23) และจากพระธรรมสดุดีบทที่ 23 เราจะเห็นว่าผู้เลี้ยงแกะนอกจากคุ้มครองแกะของตนให้ปลอดภัยแล้ว ยิ่งได้ให้การต้อนรับและคุ้มครองแขกที่เดินทางผ่านมาอีกด้วย ซึ่งขนบธรรมเนียมเช่นนี้ยังถือปฏิบัติกันอยู่ในตะวันออกกลาง
2) การดูแลฝูงแกะในพระคัมภีร์เดิม
การเปรียบกษัตริย์กับผู้เลี้ยงแกะเป็นอุปมาทั่วไปในตะวันออกโบราณซึ่งรวมถึงอิสราเอล (สดด.78:70-72,2ซมอ.5:2,อสย.44:28,ยรม.3:15,23:1-4,มคา.5:4) สำหรับการเปรียบพระเจ้าเป็นผู้เลี้ยงอิสราเอลเหมือนเลี้ยงแกะ (สดด.28:9,79:13,80:1,95:7,100:3,ปฐก.48:15,อสย.40:11,ยรม.31:10,50:19,อสค.34:11-16)
ในพระคัมภีร์เดิม
ผู้เลี้ยง H7462
H7462 רָעָה ra`ah (raw-aw') v. เลี้ยงฝูงสัตว์
1. to tend a flock i.e. pasture it
2. (intransitively, literally or figuratively) to graze
3. (generally) to rule
4. (by extension) to associate with (as a friend)
[a primitive root]
KJV: X break, companion, keep company with, devour, eat up, evil entreat, feed, use as a friend, make friendship with, herdman, keep (sheep)(-er), pastor, + shearing house, shepherd, wander, waste.
[?]
H7473 רוֹעִי ro`iy (ro-ee') v.
1. pastoral
2. as noun, a shepherd
[from active participle of H7462]
KJV: shipherd.
Root(s): H7462
[?]
• ดูจากในพระคัมภีร์เดิมจะเห็นอาชีพของคนอิสราเอลเกี่ยวพันกับการเลี้ยงสัตว์
Gen 30:31 ลาบันจึงถามว่า “ลุงควรจะให้อะไรเจ้า” ยาโคบตอบว่า “ลุงไม่ต้องให้อะไรฉันดอก แต่หากว่าลุงตกลง ฉันจะเลี้ยงระวังสัตว์ของลุงต่อไป
Gen 37:2 ต่อไปนี้เป็นประวัติครอบครัวของยาโคบ เมื่อโยเซฟอายุได้สิบเจ็ดปีไปเลี้ยงสัตว์อยู่กับพวกพี่ชาย เขาเป็นเด็กหนุ่มอยู่กับบุตรของนางบิลฮาห์ และศิลปาห์ภรรยาบิดาของตน โยเซฟเอาความผิดของพี่ชายมาเล่าให้บิดาฟัง
Gen 46:34 ท่านทั้งหลาย จงทูลว่า ‘ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่เป็นเด็กมาจนทุกวันนี้ ทั้งข้าพระบาทและบรรพบุรุษของข้าพระบาท’ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้อาศัยอยู่ในเมืองโกเชน เหตุว่าชาวอียิปต์เกลียดชังคนที่เลี้ยงแพะแกะยิ่งนัก”
• ครอบครัวของอิสราเอลเลี้ยงสัตว์ ขณะที่ชาวอียิปต์เกลียดชังคนเลี้ยงแพะแกะ
Exod 3:1 ฝ่ายโมเสสเมื่อเลี้ยงฝูงแพะแกะของเยโธรพ่อตาผู้เป็นปุโรหิตของคนมีเดียน ได้พาฝูงแพะแกะไปทางตะวันตกของถิ่นทุรกันดาร จนมาถึงภูเขาของพระเจ้าคือ โฮเรบ
• โมเสสถูกเรียกขณะเฝ้าฝูงแกะเช่นเดียวกับดาวิด เพื่อไปเป็นผู้เลี้ยงประชากรของพระเจ้า
• 1 ซามูเอล บทที่ 16-17 ประสบการณ์คนเลี้ยงแกะที่ไว้วางใจพระเจ้า นำประสบการณ์นั้นมาต่อสู้กับโกลิอัท
1Sam 16:11 แล้วซามูเอลกล่าวแก่เจสซีว่า “บุตรชายของท่านอยู่ที่นี่หมดแล้วหรือ” เจสซีตอบว่า “ยังมีคนสุดท้องอีกคนหนึ่ง ดูเถิด เขากำลังเลี้ยงแกะอยู่” และซามูเอลกล่าวแก่เจสซีว่า “จงใช้คนไปตามเขามา เพราะเราจะไม่ยอมนั่งจนกว่าเขาจะมาที่นี่”
• ดาวิดเป็นคนเลี้ยงแกะ เราจะดูจากตัวอย่างดาวิด คนเลี้ยงแกะ
1Sam 17:15 แต่ดาวิดไปๆ มาๆ อยู่ระหว่างซาอูลกับการที่เลี้ยงแกะของบิดาที่เบธเลเฮม
1Sam 17:34 แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยดูแลแพะแกะของบิดา และเมื่อมีสิงห์หรือหมีมาเอาลูกแกะตัวหนึ่งไปจากฝูง
1Sam 17:40 แล้วจึงถือไม้เท้าไว้ และเลือกก้อนหินเกลี้ยงจากลำธารได้ห้าก้อน จึงใส่ในย่ามผู้เลี้ยงแกะของเขาในถุงของเขาและมือถือสลิงอยู่ ท่านก็เข้าไปใกล้คนฟีลิสเตียคนนั้น
• ลักษณะผู้เลี้ยงแบบดาวิด พระเจ้าทอดพระเนตรที่จิตใจ มิใช่ด้วยรูปกายภายนอก
1Sam 16:7 แต่พระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า “อย่ามองดูที่รูปร่างภายนอกหรือที่ความสูงแห่งร่างกายของเขา ด้วยเราไม่ยอมรับเขา เพราะพระเจ้าทอดพระเนตรไม่เหมือนกับที่มนุษย์ดู มนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอกแต่พระเจ้าทอดพระเนตรจิตใจ”
• จากคนเลี้ยงแกะ ทำไมกลายมาเป็นนักรบได้ เนื่องด้วยเพราะมีความต้องการตัว อะไรๆก็เป็นได้หมด
1Sam 16:18 คนหนึ่งในพวกชายหนุ่มทูลว่า “ดูเถิด ข้าพระบาทเห็นบุตรคนหนึ่งของเจสซีชาวเบธเลเฮม เป็นผู้มีฝีมือในการดีดพิณ เป็นคนกล้าหาญ เป็นนักรบ พูดเก่ง และเป็นคนมีหน้าตาดี และพระเจ้าทรงสถิตกับเขา”
• หน้าที่ดาวิดที่มีต่อซาอูล
1Sam 16:23 อยู่มาเมื่อวิญญาณชั่วจากพระเจ้ามาสิงซาอูลเมื่อไร ดาวิดก็หยิบพิณใช้มือดีดถวายซาอูลก็ทรงชุ่มชื่นขึ้นและหายดี และวิญญาณชั่วก็พรากจากพระองค์ไป
• เล่าประสบการณ์การดูแลฝูงแกะ เทียบกับการต่อสู้กับโกลิอัทที่มาท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
1Sam 17:33 และซาอูลกล่าวแก่ดาวิดว่า “เจ้าไม่สามารถที่จะไปสู้รบกับชายฟีลิสเตียคนนั้นดอก เพราะเจ้าเป็นแต่เด็กหนุ่ม และเขาเป็นทหารชำนาญศึกมาตั้งแต่หนุ่มๆ แล้ว”
1Sam 17:34 แต่ดาวิดทูลซาอูลว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทเคยดูแลแพะแกะของบิดา และเมื่อมีสิงห์หรือหมีมาเอาลูกแกะตัวหนึ่งไปจากฝูง
1Sam 17:35 ข้าพระบาทก็ไล่ตามฆ่ามัน และช่วยกู้ลูกแกะนั้นมาจากปากของมัน ถ้ามันลุกขึ้นต่อสู้ข้าพระบาท ข้าพระบาทก็จับหนวดเคราของมัน และทุบตีมันจนตาย
1Sam 17:36 ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าสิงห์และหมีนั้นมาแล้ว คนฟีลิสเตียผู้มิได้เข้าสุหนัตคนนี้ก็เป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้นตัวหนึ่ง ด้วยเขาได้ท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่”
1Sam 17:37 และดาวิดทูลต่อไปว่า “พระเจ้าผู้ทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากขยุ้มเท้าของสิงห์ และจากขยุ้มเท้าของหมี จะทรงช่วยกู้ข้าพระบาทจากมือของคนฟีลิสเตียคนนี้” และซาอูลจึงตรัสแก่ดาวิดว่า “จงไปเถอะ และพระเจ้าจะทรงสถิตอยู่กับเจ้า”
• ใช้อาวุธที่ถนัดมือและเหมาะสมกับเขา
1Sam 17:39 และดาวิดก็คาดดาบทับเครื่องอาวุธ เขาลองเดินดูก็เห็นว่าใช้ไม่ได้ เพราะเขาไม่ชิน แล้วดาวิดจึงทูลซาอูลว่า “ข้าพระบาทจะสวมเครื่องเหล่านี้ไปไม่ได้ เพราะว่าข้าพระบาทไม่ชิน” ดาวิดจึงปลดออกเสีย
1Sam 17:40 แล้วจึงถือไม้เท้าไว้ และเลือกก้อนหินเกลี้ยงจากลำธารได้ห้าก้อน จึงใส่ในย่ามผู้เลี้ยงแกะของเขาในถุงของเขาและมือถือสลิงอยู่ ท่านก็เข้าไปใกล้คนฟีลิสเตียคนนั้น
• การรบนี้เป็นของพระเจ้า
1Sam 17:45 แล้วดาวิดก็พูดกับคนฟีลิสเตียคนนั้นว่า “ท่านมาหาข้าพเจ้าด้วยดาบ ด้วยหอกและด้วยหอกซัด แต่ข้าพเจ้ามาหาท่านในพระนามแห่งพระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ผู้ซึ่งท่านได้ท้าทายนั้น
1Sam 17:46 ในวันนี้พระเจ้าจะทรงมอบท่านไว้ในมือข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะประหารท่านและตัดศีรษะของท่านเสีย และในวันนี้ข้าพเจ้าจะให้ศพของกองทัพฟีลิสเตียแก่นกในอากาศและแก่สัตว์ป่า เพื่อทั้งพิภพนี้จะทราบว่ามีพระเจ้าพระองค์หนึ่งในอิสราเอล
1Sam 17:47 และชุมนุมชนนี้ทั้งสิ้นจะทราบว่า พระเจ้ามิได้ทรงช่วยด้วยดาบหรือด้วยหอก เพราะว่าการรบครั้งนี้เป็นของพระเจ้า พระองค์จะทรงมอบท่านไว้ในมือของเราทั้งหลาย”
1Sam 17:49 และดาวิดเอามือล้วงเข้าไปในย่ามหยิบหินก้อนหนึ่งออกมา แล้วเหวี่ยงหินก้อนนั้นด้วยสายสลิงถูกคนฟีลิสเตียคนนั้นที่หน้าผาก ก้อนหินจมเข้าไปในหน้าผากเขาก็ล้มหน้าคว่ำลงที่ดิน
1Sam 17:50 ดังนั้นดาวิดก็ชนะคนฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงและก้อนหินก้อนหนึ่ง และคว่ำคนฟีลิสเตียคนนั้นลง และฆ่าเขาเสีย ดาวิดไม่มีดาบอยู่ในมือ
1Sam 17:51 แล้วดาวิดวิ่งไปยืนอยู่เหนือคนฟีลิสเตียคนนั้น หยิบดาบของเขาชักออกจากฝักฆ่าเขาเสีย และตัดศีรษะของเขาออกเสียด้วยดาบ เมื่อคนฟีลิสเตียเห็นว่ายอดทหารของเขาตายเสียแล้วก็พากันหนีไป
ใน 1 ซามูเอล บทที่ 17 เป็นเรื่องของดาวิดและโกลิอัท คำว่า ยอดนักรบ เป็นคำที่ชาวกรีกโบราณซึ่งเกี่ยวดองกับชาวฟิลิสเตียจะตัดสินการแพ้ชนะในสงครามโดยคัดเลือกยอดนักรบแต่ละฝ่ายออกมาต่อสู้กัน วิธีที่ประหยัดคนเช่นนี้เป็นการให้เทพเจ้าต่างๆตัดสินเรื่องที่เดิมพันกัน อิสราเอลก็อาจจะใช้การปฏิบัติเช่นนี้เหมือนกัน
Isa 40:11 พระองค์จะทรงเลี้ยงฝูงแพะแกะของพระองค์อย่างผู้เลี้ยงแกะ พระองค์จะทรงรวบรวมลูกแกะไว้ในพระกรของพระองค์ พระองค์จะทรงอุ้มไว้ที่พระทรวง และทรงค่อยๆ นำบรรดาที่มีลูกอ่อนไป
Jer 10:21 เพราะว่าผู้เลี้ยงแกะก็บัดซบและไม่ได้ทูลถามพระเจ้า เพราะฉะนั้นเขาจึงมิได้จำเริญขึ้น และฝูงแกะของเขาก็กระจัดกระจายไป
“คนเลี้ยงแกะ....ฝูงแกะ” ผู้ปกครองกับประชาชน (2:8 ไม่มีใครปรึกษาพระเจ้า ปุโรหิตทั้งหลาย บรรดาผู้ปกครองแปลตรงตัวว่าคนเลี้ยงแกะ เหล่าผู้เผยพระวจนะ) สิ้นคิด ไม่ได้ทูลถามองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่กลับไปขอคำปรึกษาจากดวงดาวในฟากฟ้าแทน (8:2)
Jer 23:1 พระเจ้าตรัสว่า “วิบัติจงมีแก่ผู้เลี้ยงแกะ ผู้ทำลายและกระจายแกะของลานหญ้าของเรา”
Jer 23:2 เพราะฉะนั้น พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ตรัสกับผู้เลี้ยงแกะผู้ดูแลประชากรของเราดังนี้ว่า “เจ้าทั้งหลายได้กระจายฝูงแกะของเราและได้ขับไล่มันไปเสีย และเจ้ามิได้เอาใจใส่มัน พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด เราจะเอาใจใส่เจ้า เพราะการกระทำที่ชั่วของเจ้า
Jer 23:3 แล้วเราจะรวบรวมฝูงแกะของเราที่เหลืออยู่ออกจากประเทศทั้งปวง ซึ่งเราได้ขับไล่ให้เขาไปอยู่นั้น และจะนำเขากลับมายังคอกของเขา เขาจะมีลูกดกและทวีมากขึ้น
Jer 23:4 พระเจ้าตรัสว่า เราจะตั้งผู้เลี้ยงแกะไว้เหนือเขา ผู้จะเลี้ยงดูเขาและเขาทั้งหลายจะไม่กลัวอีกเลย หรือครั่นคร้าม จะไม่ขาดไปเลย
Jer 23:5 “พระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด วันเวลาจะมาถึง เมื่อเราจะเพาะอังกูรชอบธรรมให้ดาวิด และท่านจะทรงครอบครองเป็นกษัตริย์และกระทำกิจอย่างเฉลียวฉลาด และจะทรงประทานความยุติธรรมและความชอบธรรมในแผ่นดินนั้น
ข้อความสรุป – พระเจ้าตั้งพระทัยจะพิพากษาผู้ปกครองและผู้นำที่ชั่วร้ายของยูดาห์(1-2)จะนำประชากรของพระองค์กลับจากการเป็นเชลยในภายหน้า(3-4,7-8)และจะแต่งตั้งกษัตริย์ในอุดมคติจากราชวงศ์ดาวิด(5-6)
Ezek 34:1 พระวจนะของพระเจ้ามายังข้าพเจ้าว่า
Ezek 34:2 “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงพยากรณ์กล่าวโทษบรรดาผู้เลี้ยงแกะแห่งอิสราเอล จงพยากรณ์กล่าวโทษว่าแก่เขา คือผู้เลี้ยงแกะว่า พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า วิบัติแก่ผู้เลี้ยงแกะแห่งอิสราเอลผู้เลี้ยงตัวเอง ผู้เลี้ยงแกะย่อมเลี้ยงแกะมิใช่หรือ
Ezek 34:3 เจ้ารับประทานไขมัน เจ้าคลุมกายของเจ้าด้วยขนแกะ เจ้าฆ่าแกะตัวอ้วนๆ เจ้าหาได้เลี้ยงแกะไม่
Ezek 34:4 ตัวที่อ่อนเพลียเจ้าก็ไม่เสริมกำลัง ตัวที่เจ็บเจ้าก็ไม่รักษา ตัวที่กระดูกหักเจ้าก็มิได้พันผ้า ตัวที่หลงไปเจ้าก็มิได้ไปตามกลับมา ตัวที่หายไปเจ้าก็มิได้เสาะหา และเจ้าได้ปกครองเขาด้วยการบังคับ และด้วยการข่มขี่เบียดเบียน
Ezek 34:5 ดังนั้นมันจึงกระจัดกระจายไปหมด เพราะว่าไม่มีผู้เลี้ยงแกะและมันก็ไปเป็นอาหารของสัตว์ป่าทุ่งทั้งหลายหมด และกระจัดกระจายไป
Ezek 34:6 แกะของเราก็เที่ยวไปตามภูเขาทั้งหมดและตามเนินเขาสูง เออ แกะของเราก็กระจายไปทั่วพิภพ ไม่มีใครเที่ยวค้นไม่มีใครเสาะหามัน
Ezek 34:7 “เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายผู้เป็นผู้เลี้ยงแกะ จงฟังพระวจนะของพระเจ้า
Ezek 34:8 พระเจ้าตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เพราะแกะของเรากลายเป็นเหยื่อ และแกะของเรากลายเป็นอาหารของสัตว์ป่าทุ่งทั้งสิ้น เพราะไม่มีผู้เลี้ยงแกะ และเพราะผู้เลี้ยงแกะของเราไม่เที่ยวค้นหาแกะของเรา แต่ผู้เลี้ยงแกะนั้นเลี้ยงตัวเอง และไม่ได้เลี้ยงแกะของเรา
Ezek 34:9 เพราะฉะนั้น เจ้าทั้งหลายเป็นผู้เลี้ยงแกะ จงฟังพระวจนะของพระเจ้า
Ezek 34:10 พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เราเป็นปฏิปักษ์กับผู้เลี้ยงแกะ และเราจะเรียกร้องเอาแกะของเราจากมือของเขา และให้เขายับยั้งการเลี้ยงแกะของเขา ผู้เลี้ยงแกะจะไม่ได้เลี้ยงตัวเองอีกต่อไป เราจะช่วยแกะของเราให้พ้นจากปากของเขา เพื่อมิให้แกะเป็นอาหารของเขา
Ezek 34:11 “เพราะพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด เรา คือเราเองจะค้นหาแกะของเรา และจะเที่ยวหามัน
Ezek 34:12 ดังผู้เลี้ยงแกะเที่ยวหาฝูงแกะ เมื่อเขาอยู่ท่ามกลางแกะของเขาที่กระจัดกระจายไป เราจะเที่ยวหาแกะของเราดังนั้น และเราจะช่วยเขาให้พ้นจากสถานที่ทั้งหลายซึ่งเขาได้กระจัดกระจายไปอยู่เมื่อวันมีเมฆและมีความมืดทึบ
Ezek 34:13 เราจะนำเขาออกมาจากชนชาติทั้งหลาย และรวบรวมเขามาจากประเทศต่างๆ และจะนำเขามาไว้ในแผ่นดินของเขาเอง และเราจะเลี้ยงเขาบนภูเขาแห่งอิสราเอล ใกล้ห้วยทั้งหลายและในท้องถิ่นทุกแห่งที่มีคนอาศัยในประเทศนั้น
Ezek 34:14 เราจะเลี้ยงเขาในลานหญ้าอย่างดีและลานหญ้าของเขาจะอยู่บนบรรดาภูเขาสูงแห่งอิสราเอล ณ ที่นั่น เขาจะนอนลงในลานหญ้าที่ดี และเขาจะหากินอยู่บนลานหญ้าอุดมบนภูเขาแห่งอิสราเอล
Ezek 34:15 ตัวเราเองจะเป็นผู้เลี้ยงแกะของเรา เราจะกระทำให้เขานอนลง พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
Ezek 34:16 เราจะเที่ยวหาแกะที่หาย และเราจะนำแกะที่หลงกลับมา และเราจะพันผ้าให้แกะที่กระดูกหัก และเราจะเสริมกำลังแกะที่อ่อนเพลีย แต่ตัวที่อ้วนและเข้มแข็งเราจะทำลาย เราจะเลี้ยงเขาด้วยความยุติธรรม
Ezek 34:17 “พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าทั้งหลายผู้เป็นฝูงแพะแกะของเราเอ๋ย ดูเถิด เราจะพิพากษาระหว่างแกะกับแกะ ระหว่างแกะผู้กับแพะผู้
Ezek 34:18 ที่จะหากินในลานหญ้าอย่างดีนั้นยังไม่พออีกหรือ เจ้าจึงต้องเอาเท้าเหยียบลานหญ้าที่เหลืออยู่ของเจ้า และดื่มน้ำใสยังไม่พอหรือ จึงเอาเท้าของเจ้ากวนน้ำที่เหลืออยู่ให้ขุ่น
Ezek 34:19 แกะของเราจะต้องกินสิ่งที่เท้าของเจ้าย่ำ และดื่มสิ่งที่เท้าของเจ้าทำให้ขุ่นหรือ
Ezek 34:20 “เพราะฉะนั้น พระเจ้าตรัสแก่เขาดังนี้ว่า ดูเถิด เรา คือเราเอง จะพิพากษาระหว่างแกะอ้วนกับแกะผอม
Ezek 34:21 เพราะเจ้าเอาสีข้างและบ่าดันและผลักแกะตัวอ่อนเพลียด้วยเขาของเจ้า เจ้าทำให้เขากระจายไปต่างถิ่น
Ezek 34:22 เราจะช่วยฝูงแพะแกะของเราให้รอด เขาจะไม่เป็นเหยื่ออีกต่อไป และเราจะพิพากษาระหว่างแกะกับแกะ
Ezek 34:23 และเราจะตั้งผู้เลี้ยงแกะผู้หนึ่งไว้เหนือเขา คือดาวิดผู้รับใช้ของเราและท่านจะเลี้ยงเขาทั้งหลาย ท่านจะเลี้ยงเขาและเป็นผู้เลี้ยงของเขา
Ezek 34:24 และเราคือพระเจ้า จะเป็นพระเจ้าของเขา และดาวิดผู้รับใช้ของเรา จะเป็นเจ้านายท่ามกลางเขา เราคือพระเจ้า ได้ลั่นวาจาแล้ว
Ezek 34:25 “เราจะกระทำพันธสัญญาสันติสุขกับเขาและกำจัดสัตว์ร้ายเสียจากแผ่นดิน เพื่อว่าเขาจะอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารอย่างปลอดภัย และนอนอยู่ในป่าไม้
Ezek 34:26 และเราจะกระทำให้เขากับสถานที่รอบๆ เนินเขาของเราเป็นแหล่งพระพร เราจะส่งฝนลงมาให้ตามฤดูกาล เป็นห่าฝนแห่งพระพร
Ezek 34:27 ต้นไม้ที่ในทุ่งจะบังเกิดผล และพิภพจะบังเกิดผลประโยชน์ และเขาจะอยู่อย่างปลอดภัยในแผ่นดินของเขาและเขาจะทราบว่าเราคือพระเจ้าในเมื่อเราหักคานแอกของเขาเสีย และช่วยกู้เขาจากมือของผู้ที่กักเขาให้เป็นทาส
Ezek 34:28 เขาจะไม่เป็นเหยื่อของประชาชาติอีกต่อไป หรือสัตว์ป่าดินก็จะไม่กินเขา และเขาจะอยู่อย่างปลอดภัย ไม่มีผู้ใดกระทำให้เขากลัว
Ezek 34:29 และเราจะจัดหาไร่นาอันมีชื่อให้แก่เขา เพื่อเขาจะไม่ถูกผลาญด้วยความอดอยากในแผ่นดินนั้นต่อไปอีก ไม่ต้องทนรับความอับอายขายหน้าจากประชาชาติ
Ezek 34:30 และเขาจะทราบว่าเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขาสถิตกับเขา และเขาคือพงศ์พันธุ์อิสราเอลเป็นประชากรของเรา พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
Ezek 34:31 เจ้าทั้งหลายเป็นแกะของเรา เป็นแกะในลานหญ้าของเรา เจ้าทั้งหลายเป็นมนุษย์ และเราเป็นพระเจ้าของเจ้า พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ”
พระเจ้าประทานพระราชดำรัสยืนยันแก่ชาวอิสราเอลที่เป็นเชลยให้มั่นใจว่าในอนาคตพระองค์เองจะเป็นผู้เลี้ยงของพวกเขา ในข้อ 1-10 พระองค์ประนาม “คนเลี้ยงแกะ” ไร้ค่าของอิสราเอล ในข้อ 11-16 พระองค์สัญญาจะตามหาแกะที่กระจัดกระจายพลัดพรากไป ในข้อ 17-22 พระองค์ประกาศว่าจะพิพากษาแกะแข็งแรงที่กดขี่แกะอ่อนแอ ในข้อ 23-24 พระองค์สัญญาจะตั้ง “ดาวิด” ผู้รับใช้ของพระองค์ให้ดูแลฝูงแกะ และในข้อ 25-31 พระองค์ตรัสถึง “พันธสัญญาแห่งสันติภาพ” ซึ่งจะทำให้แผ่นดินอิสราเอลที่ได้รับพรนั้นมั่นคงปลอดภัย
ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าประสบการณ์การเลี้ยงดูแกะของคนอิสราเอล เป่รียบได้กับการดูแลประชากรของพระเจ้า นอกจากนั้นเรายังเห็นดาวิดใช้ประสบการณ์ในการดูแลฝูงแกะของเขา มาใช้ในการเอาชัยชนะต่อโกลิอัทด้วย
สำหรับเราแล้ว เราจะเห็นได้ว่าเราเป็นประชากรของพระองค์ที่ทรงเลี้ยงดูแลรักษาเรา เราเปรียบเป็นฝูงแกะของพระองค์ที่เฝ้าดูแลรักษา เพราะพระองค์ทรงรักเราอย่างมาก และในฐานะที่จะมีแกะเกิดใหม่มากมาย แกะเหล่านั้นต้องการผู้เลี้ยงที่คอยเฝ้าดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เหมือนชีวิตของคนเลี้ยงแกะแห่งอิสราเอลที่เฝ้าดูแลรักษาฝูงแกะอยู่เสมอด้วยความรักห่วงใยตลอดเวลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น