ในปัจจุบันโอกาสที่ข้าพเจ้าจะแบ่งปันพระวจนะในทุกๆสัปดาห์ดูเหมือนจะยากเต็มที ข้าพเจ้าจึงขอใช้พระวจนะที่เตรียมไว้สอนในชั้น "ชีวิตผู้เลี้ยง" มาแบ่งปันไปก่อนนะครับ
บทที่ 1 แนวคิดชีวิตผู้เลี้ยง
เดิมที่คิดเรื่องการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ๆ โดยร่างความคิดไว้ว่าจะสอนอะไรบ้าง เช่น คุณสมบัติเข้าร่วม , แนวคิดแยกคนร่วมชีวิต(แยกน้ำดี) เพื่อสร้างชีวิตบนคนร่วมชีวิต , วางแนวทางการทำงาน การรับใช้ การดำเนินชีวิต อุดมการณ์ร่วมในคจ. ของกลุ่มคนกลุ่มนี้ , การประชาสัมพันธ์ , แนวทางดำเนินการ , สิ่งที่จะสอนในชั้นและนอกชั้น และหรือช่องทางพบปะ ฯลฯ แต่แล้วก็เปลี่ยนความคิดวิธีการสร้างคนรุ่นใหม่ๆโดยบทเรียนทั้งหมดของคำสอนมาจากแนวความคิดที่เราสามารถเห็นได้ในพระคัมภีร์ และเปลี่ยนชื่อมาเป็น “ชีวิตผู้เลี้ยง” โดยดูจากชีวิตผู้เลี้ยงแบบพระเยซูคริสต์
1) จุดประสงค์การเรียนวิชานี้
1. ต้องการให้ผู้เรียนเข้าใจภาพการปกครองดูแลฝูงแกะของพระเจ้าตามหลักการพระคัมภีร์
2. ต้องการให้ผู้เรียนไม่เพียงมีความเข้าใจแต่นำไปใช้ในการปฏิบัติดูแลฝูงแกะของพระเจ้า
3. ต้องการให้ผู้เรียนซึมซับวิญญาณพระคริสต์ในฐานะพระผู้เลี้ยงที่ทรงรักฝูงแกะ
4. ต้องการให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ความห่วงใยของพระคริสต์ที่มีต่อชีวิตตนเอง และนำสิ่งนั้นไปดูแลผู้อื่นต่อไปได้
5. ต้องการให้ผู้เรียนได้เข้าใจว่า ฝูงแกะเป็นของพระคริสต์ เราเป็นเพียงผู้อารักขาดูแลฝูงแกะของพระเจ้า และเราต้องทำหน้าที่ที่พระคริสต์ฝากให้เราดูแลอย่างดีที่สุด
6. ต้องการเห็นผู้เลี้ยงเกิดขึ้นมากมายผ่านการเรียนในชั้นนี้ ฯลฯ
2) แนวคิด
ยอห์น 21:15-17 “เจ้ารักเรามากกว่าเหล่านี้หรือ จงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด”
เอามาจากภาพการปกครองดูแลฝูงแกะของพระเจ้า ไม่ใช่การสร้างผู้นำใหม่ แต่อาจเรียกได้ว่าสร้างผู้เลี้ยงใหม่
2.1 คำว่าผู้นำ ในฝ่ายโลก
ผู้นำ คือ บุคคลที่มีความ สามารถในการใช้อิทธิพลให้คนอื่นทำงานในระดับต่าง ๆ ที่ต้องการให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ (McFarland,1979:214-215)
ผู้นำ คือ ผู้ที่สามารถในการชักจูงให้คนอื่นทำงานให้สำเร็จตามต้องการ (Huse, 1978:227)
ผู้นำ คือ ผู้ที่สามารถในการชักจูงให้คนอื่นทำงานให้สำเร็จตามต้องการ (Huse, 1978:227)
ผู้นำ คือ บุคคลที่มีอิทธิพลสูงสุดในกลุ่ม และเป็นผู้ที่ต้องปฏิบัติภาระหน้าที่ของตำแหน่งผู้นำที่ได้รับมอบหมายบุคคลอื่นในกลุ่มที่เหลือก็คือผู้ตาม แม้จะเป็นหัวหน้ากลุ่มย่อย หรือผู้ช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ก็ตาม (Yukl, 1989:3-4)
ผู้นำ คือ บุคคลที่มาจากการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง หรือการยกย่องขึ้นมาของกลุ่ม เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นผู้ชี้แนะและช่วยเหลือให้กลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
กวี วงศ์พุฒ (2535: 14-15) ได้สรุปแนวคิดเกี่ยวกับผู้นำไว้ 5 ประการ คือ
(1) ผู้นำ หมายถึง ผู้ซึ่งเป็นศูนย์กลางหรือจุดรวมของกิจกรรมภายในกลุ่ม เปรียบเสมือนแกนของกลุ่ม เป็นผู้มีโอกาสติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นมากกว่าทุกคนในกลุ่ม มีอิทธิพลต่อการ ตัดสินใจของกลุ่มสูง
(2) ผู้นำ หมายถึง บุคคลซึ่งนำกลุ่มหรือพากลุ่มไปสู่วัตถุประสงค์หรือสู่จุดหมายที่วางไว้ แม้แต่เพียงชี้แนะให้กลุ่มไปสู่จุดหมายปลายทางก็ถือว่าเป็นผู้นำทั้งนี้รวมถึงผู้นำที่นำกลุ่มออกนอกลู่นอกทางด้วย
(3) ผู้นำหมายถึงบุคคลซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่คัดเลือกหรือยกให้เขาเป็นผู้นำของกลุ่มซึ่งเป็นไปโดยอาศัยลักษณะทางสังคมมิติของบุคคลเป็นฐาน และสามารถแสดงพฤติกรรมของผู้นำได้
(4) ผู้นำหมายถึงบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติเฉพาะบางอย่างคือสามารถสอดแทรกอิทธิพลบางประการอันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มได้มากที่สุด
(5) ผู้นำ หมายถึง บุคคลผู้ซึ่งสามารถนำกลุ่มไปในทางที่ต้องการ เป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมและเกี่ยวข้องโดยตรงต่อการแสดงบทบาทหรือพฤติกรรมความเป็นผู้นำ
บุญทัน ดอกไธสง (2535:266) ได้สรุปเกี่ยวกับผู้นำไว้ว่า ผู้นำ (Leader) หมายถึง
(1) ผู้มีอิทธิพล มีศิลปะ มีอิทธิพลต่อกลุ่มชน เพื่อให้พวกเขามีความตั้งใจที่จะปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายตามต้องการ
(2) เป็นผู้นำและแนะนำ เพราะผู้นำต้องคอยช่วยเหลือกลุ่มให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดตามความสามารถ
(3) ผู้นำไม่เพียงแต่ยืนอยู่เบื้องหลังกลุ่มที่คอยแต่วางแผนและผลักดัน แต่ผู้นำจะต้องยืนอยู่ข้างหน้ากลุ่ม และนำกลุ่มปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมาย
สรุปได้ว่า ผู้นำ (Leader) คือบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งหรือการเลือกตั้งหรือการยกย่องจากกลุ่มให้ทำหน้าที่ของตำแหน่งผู้นำ เช่น การชี้แนะ สั่งการ และช่วยเหลือให้กลุ่มสามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ได้มีการเขียนชื่อผู้นำแตกต่างกันออกไปตามลักษณะงานและองค์การที่อยู่ เช่น ผู้บริหาร ผู้จัดการ ประธานกรรมการ ผู้อำนวยการ อธิการบดี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้ว่าราชการ นายอำเภอ กำนัน เจ้าคณะจังหวัด เจ้าอาวาส ปลัดกระทรวง คณบดี
ผู้นำ คือ บุคคลที่มาจากการเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง หรือการยกย่องขึ้นมาของกลุ่ม เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นผู้ชี้แนะและช่วยเหลือให้กลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
กวี วงศ์พุฒ (2535: 14-15) ได้สรุปแนวคิดเกี่ยวกับผู้นำไว้ 5 ประการ คือ
(1) ผู้นำ หมายถึง ผู้ซึ่งเป็นศูนย์กลางหรือจุดรวมของกิจกรรมภายในกลุ่ม เปรียบเสมือนแกนของกลุ่ม เป็นผู้มีโอกาสติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นมากกว่าทุกคนในกลุ่ม มีอิทธิพลต่อการ ตัดสินใจของกลุ่มสูง
(2) ผู้นำ หมายถึง บุคคลซึ่งนำกลุ่มหรือพากลุ่มไปสู่วัตถุประสงค์หรือสู่จุดหมายที่วางไว้ แม้แต่เพียงชี้แนะให้กลุ่มไปสู่จุดหมายปลายทางก็ถือว่าเป็นผู้นำทั้งนี้รวมถึงผู้นำที่นำกลุ่มออกนอกลู่นอกทางด้วย
(3) ผู้นำหมายถึงบุคคลซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่คัดเลือกหรือยกให้เขาเป็นผู้นำของกลุ่มซึ่งเป็นไปโดยอาศัยลักษณะทางสังคมมิติของบุคคลเป็นฐาน และสามารถแสดงพฤติกรรมของผู้นำได้
(4) ผู้นำหมายถึงบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติเฉพาะบางอย่างคือสามารถสอดแทรกอิทธิพลบางประการอันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มได้มากที่สุด
(5) ผู้นำ หมายถึง บุคคลผู้ซึ่งสามารถนำกลุ่มไปในทางที่ต้องการ เป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมและเกี่ยวข้องโดยตรงต่อการแสดงบทบาทหรือพฤติกรรมความเป็นผู้นำ
บุญทัน ดอกไธสง (2535:266) ได้สรุปเกี่ยวกับผู้นำไว้ว่า ผู้นำ (Leader) หมายถึง
(1) ผู้มีอิทธิพล มีศิลปะ มีอิทธิพลต่อกลุ่มชน เพื่อให้พวกเขามีความตั้งใจที่จะปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายตามต้องการ
(2) เป็นผู้นำและแนะนำ เพราะผู้นำต้องคอยช่วยเหลือกลุ่มให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดตามความสามารถ
(3) ผู้นำไม่เพียงแต่ยืนอยู่เบื้องหลังกลุ่มที่คอยแต่วางแผนและผลักดัน แต่ผู้นำจะต้องยืนอยู่ข้างหน้ากลุ่ม และนำกลุ่มปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมาย
สรุปได้ว่า ผู้นำ (Leader) คือบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งหรือการเลือกตั้งหรือการยกย่องจากกลุ่มให้ทำหน้าที่ของตำแหน่งผู้นำ เช่น การชี้แนะ สั่งการ และช่วยเหลือให้กลุ่มสามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ได้มีการเขียนชื่อผู้นำแตกต่างกันออกไปตามลักษณะงานและองค์การที่อยู่ เช่น ผู้บริหาร ผู้จัดการ ประธานกรรมการ ผู้อำนวยการ อธิการบดี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้ว่าราชการ นายอำเภอ กำนัน เจ้าคณะจังหวัด เจ้าอาวาส ปลัดกระทรวง คณบดี
ถ้าเอามาใช้ในฝ่ายพระเจ้า ในที่นี้กล่าวถึงผู้นำในบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบการงานที่ต้องพาคนภายใต้ความรับผิดชอบไปสู่เป้าหมายที่ต้องการความสำเร็จเท่านั้น แต่สำหรับผู้เลี้ยงมีหน้าที่ลักษณะชีวิตมากกว่านั้น มีหน้าที่ มีความรักในการทำหน้าที่ มีความรับผิดชอบในการปกป้องดูแลฝูงแกะ ต้องนำเป็นแบบอย่าง เป็นตัวอย่างชีวิต ไม่เพียงชี้แนะ สั่งการ แต่เอาชีวิตของตนเองลงไปอยู่ร่วมด้วยในฝูงแกะนั้น ฯลฯ
ภาพในพระคัมภีร์จะมุ่งไปที่การเป็นผู้เลี้ยง มากกว่าการเป็นผู้นำ
คำว่า “ผู้นำ” “Leader”
G3595 ὁδηγός hodegos (hod-ayg-os') n.
1. a conductor
2. (figuratively) teacher
{literally or figuratively}
[from G3598 and G2233]
KJV: guide, leader
Root(s): G3598, G2233
[?]
มีพบน้อยครั้งมาก
Matt 15:14 ช่างเขาเถิด เขาเป็นคนนำทางตาบอด ถ้าคนตาบอดนำทางคนตาบอด ทั้งสองจะตกลงไปในบ่อ”
Matt 23:16 “วิบัติแก่เจ้า คนนำทางตาบอด เจ้าสอนว่า ‘ผู้ใดจะสาบานอ้างพระวิหาร คำสาบานนั้นไม่ผูกมัด แต่ผู้ใดจะสาบานอ้างทองคำของพระวิหาร ผู้นั้นจะต้องกระทำตามคำสาบาน’
Matt 23:24 โอ คนนำทางตาบอด เจ้ากรองลูกน้ำออกแต่กลืนตัวอูฐเข้าไป
Acts 1:16 “ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย จำเป็นจะต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์ ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ตรัสไว้โดยโอษฐ์ของกษัตริย์ดาวิด ด้วยเรื่องยูดาส ซึ่งเป็นผู้นำทางคนที่ไปจับพระเยซู
Rom 2:19 และถ้าท่านมั่นใจว่าท่านเป็นผู้จูงคนตาบอด เป็นความสว่างให้แก่คนทั้งหลายที่อยู่ในความมืด
เมื่อดูคำว่าleader G3595 hodegosในพระคัมภีร์ใหม่ มีน้อยมากและจะพูดไปในลักษณะว่าเป็นคนนำทาง คำนี้มาจากสองคำคือ G3598 hodos หมายถึงถนนหรือว่าทาง และ G2233 hegeomai หมายถึงการนำ
ส่วนในพระคัมภีร์เดิม H5057 נָגִידּ נָגִד nagiyd (naw-gheed') (or nagid {naw-gheed'}) n-m.
1. a commander (as occupying the front), either civil, military or religious
2. (generally, abstractly and plural), honorable themes
[from H5046]
KJV: captain, chief, excellent thing, (chief) governor, leader, noble, prince, (chief) ruler.
Root(s): H5046
[?]
1Chr 12:27 เยโฮยาดาเป็นหัวหน้าพงศ์พันธุ์ของอาโรน มีคนมากับท่านสามพันเจ็ดร้อย
1Chr 13:1 ดาวิดได้ทรงหารือกับนายพันและนายร้อย กับหัวหน้าทุกๆ คน
Isa 55:4 ดูเถิด เรากระทำให้ท่านเป็นพยานต่อชนชาติทั้งหลาย เป็นหัวหน้าและเป็นผู้บัญชาการเพื่อชนชาติทั้งปวง กล่าวถึงในลักษณะเป็นผู้นำกองทัพ ต้องพากองทัพไปสู่ความสำเร็จ
2.2 คำว่า “ผู้เลี้ยง” ในพระคัมภีร์ใหม่คำว่า shepherd G4166
G4166 ποιμήν poimen (poy-mayn') n.
1. a shepherd
{literally or figuratively}
[of uncertain affinity]
KJV: shepherd, pastor
[?]
จะพบคำนี้ในพระธรรมหลายเล่ม และมีความหมายในการดูแลฝูงแกะของพระเจ้ามากกว่า
Matt 9:36 และเมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชนก็ทรงสงสารเขา ด้วยเขาถูกรังควานและไร้ที่พึ่งดุจฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยง
· ผู้เลี้ยง G4166 shepherd ฝูงแกะ G4263 sheep
Matt 25:32 บรรดาประชาชาติต่างๆ จะประชุมพร้อมกันต่อพระพักตร์พระองค์ และพระองค์จะทรงแยกมนุษย์ทั้งหลายออกเป็นสองพวก เหมือนอย่างผู้เลี้ยงแกะจะแยกแกะออกจากแพะ
· พระเยซูคริสต์(ผู้เลี้ยง) แยกแกะออกจากแพะ G2056 goat
Matt 26:31 ครั้งนั้นพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกว่า “ในคืนวันนี้ท่านทุกคนจะทิ้งเรา ด้วยมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า เราจะประหารผู้เลี้ยงแกะ และแกะฝูงนั้น จะกระจัดกระจายไป
· ผู้เลี้ยงสำคัญ ถ้าไม่มีผู้เลี้ยง ฝูงแกะกระจัดกระจาย
พระธรรมสดุดีบทที่ 23 ในมุมมองของผู้เลี้ยงแกะ
(แปลจาก Psalm 23: A Shepherd's Perspective ใน http://www.sonic-edge.org/forum/viewtopic.php?t=72)
“ชาโลม...สันติภาพจงมีแก่เพื่อนๆ ทุกคน ผมชื่อ เยชูวา เบน โยเซฟ ผมมาจากดินแดนเก่าแก่ที่ชื่อว่าปาเลสไตน์และมีอาชีพที่ต่ำต้อย คือเป็นผู้เลี้ยงแกะ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับอนุญาตให้มาพูดกับพวกคุณในวันนี้ พวกคุณทราบดีว่า ในประเทศของผม อาชีพนี้ไม่ค่อยมีคนนิยมชมชอบนัก สำหรับเพื่อนร่วมชาติส่วนใหญ่ของผมนั้น มันเป็นงานที่ต้องหลีกหนีให้ไกลห่างเพราะมีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน งานก็สกปรกและเหน็ดเหนื่อยยิ่ง คุณน่าจะได้มาเห็นเท้าที่ด้านหนาของผม และค่าแรงก็...เอ้อ อยากจะบอกว่าคุณจะไม่มีวันร่ำรวยด้วยการเลี้ยงแกะเป็นอาชีพหรอก ผมเรียนรู้อาชีพนี้จากพ่อของผม และผมก็สานต่ออาชีพนี้อันถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัว
ศิษยาภิบาลของคุณคิดว่าการให้ผมมาพูดเกี่ยวกับอาชีพที่ต่ำต้อยของผมให้คุณฟังในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพวกคุณ จริงๆ แล้วผมไม่แน่ใจว่าผู้เล็กน้อยอย่างผมจะมาสอนคุณได้หรือเปล่า แต่ผมจะเล่าทุกสิ่งที่ผมรู้ให้คุณฟัง
คุณรู้หรือไม่ว่าในพระคัมภีร์ไบเบิลที่คุณอ่านนั้น พระเจ้าตรัสถึงประชากรของพระองค์ซึ่งก็คือคุณกับผมว่าเป็น “แกะ” ถึงเกือบสองร้อยครั้ง คุณอาจจะไม่เคยพิจารณาถึงความสำคัญของการเปรียบเทียบนั้น แต่ผมคิด เพราะว่าผมทำงานกับฝูงแกะทั้งวันทั้งคืน ให้ผมเล่าให้คุณฟังว่าการถูกเรียกว่าเป็น “แกะ” นั้นไม่ได้เป็นการยกย่องชมเชยเลย ทำไมไม่เรียกว่านกอินทรีย์ที่สง่าผ่าเผย รวดเร็วว่องไว และงดงามล่ะ เปล่า พระเจ้าทรงเรียกพวกเราว่าเป็นแกะของพระองค์ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ แต่การถูกนำไปเปรียบเทียบกับพวกมันนั้นกลับกลายเป็นการดูหมิ่น บางทีแกะอาจจะเป็นสัตว์ที่โง่เขลาที่สุดในโลก พวกคุณเคยเห็นแกะที่ถูกฝึกเพื่อแสดงละครสัตว์ไหม คุณจะเห็นพวกช้าง ม้า หมี แมวน้ำ และแม้แต่ฮิปโปในคณะละครสัตว์ แต่ไม่ใช่แกะ เพราะพวกมันโง่เกินกว่าจะถูกนำมาฝึกได้ แล้วมันยังสกปรกอีกด้วย ขนแกะที่คุณเห็นในรูปเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มนั้นได้รับการชำระล้างให้สะอาดแล้ว ขนแกะที่อ่อนนุ่มเป็นปุยไม่ได้ขาวสะอาดอย่างที่คุณเห็นในจอทีวีหรอกนะครับ เพราะแกะจะไม่มีวันและจะไม่สามารถทำความสะอาดขนของมันเองได้ พวกผู้เลี้ยงแกะหรือคนงานถูกจ้างมาให้ทำงานนี้ ไม่เพียงแต่มันจะโง่ทึ่มและสกปรกแล้ว มันยังป้องกันตัวเองไม่ได้อย่างสิ้นเชิงด้วย พวกมันไม่มีอุ้งเล็บ ไม่มีเขี้ยว และก็ไม่มีปีก พวกมันวิ่งได้ไม่เร็ว อีกทั้งก็ไม่สามารถทำให้ศัตรูกลัวและหนีไป เพราะมันไม่มีทั้งเสียงคำรามกึกก้องหรือการปล่อยกลิ่นที่เป็นพิษใส่สัตว์กินเนื้อได้ ทั้งหมดที่มันทำได้ก็คือการส่งเสียงร้องอย่างแกะ
แกะต้องพึ่งพาผู้เลี้ยงอย่างสิ้นเชิง ชีวิตและความผาสุกของมันขึ้นอยู่กับคนที่คอยดูแลพวกมันในแต่ละวัน ถ้าพระเจ้าทรงเรียกพวกเราว่าเป็นแกะของพระองค์ ผมก็อยากรู้ว่าพระองค์กำลังทรงพยายามจะตรัสอะไร
บางทีคุณอาจจะเข้าใจพระเจ้าดีขึ้นเล็กน้อยถ้าคุณไปเลี้ยงแกะกับผมสักวันหนึ่ง มาเรียนรู้การเลี้ยงแกะกับผมกันเถอะครับ
เราเริ่มงานแต่เช้าก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น งานของผมคือหาอาหารกับน้ำให้แกะของผม ซึ่งไม่ใช่งานง่ายๆ เลย คุณรู้ดีว่าในประเทศของผมนั้นผืนดินแห้งแล้ง เราไม่มีทุ่งหญ้าเขียวขจีกว้างใหญ่อย่างที่ฝูงแกะกับบรรดาปศุสัตว์ของคุณได้ใช้เป็นแหล่งอาหารหรอก พวกคุณเพียงแต่ปล่อยสัตว์เหล่านั้นให้ออกไปหาอาหารกินได้อย่างสบาย แต่ไม่ใช่ในประเทศของผม ไม่เลย เพราะหญ้าจะหาได้เฉพาะในทางแคบๆ ซึ่งคั่นด้วยแนวหินยาวๆ ที่เต็มด้วยฝุ่น เว้นแต่ในช่วงฤดูฝน น้ำที่เกิดจากน้ำพุหรือบ่อน้ำธรรมชาติจะแผ่กระจายเป็นหย่อมๆ ดังนั้นบางครั้งผมจึงต้องนำฝูงแกะของผมเดินไปเป็นระยะทางหลายไมล์เพื่อจะได้เจอหญ้าในบริเวณเพียงสองสามหลาหรือเพื่อจะดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้เองที่เราต้องตื่นแต่เช้ามืด เพราะต้องใช้เวลาทั้งวันที่จะหาแหล่งน้ำและอาหารให้ฝูงแกะ
ผมรู้จักบริเวณที่ผมเลี้ยงแกะเป็นอย่างดี ผมได้เดินสำรวจบริเวณเหล่านี้ทุกตารางฟุตมาหลายครั้งหลายหนแล้ว ดังนั้นผมจึงสามารถนำแกะของผมออกเดินหาน้ำหาอาหารกินได้ คุณอาจจะนึกภาพว่าการเลี้ยงแกะนั้นเหมือนกับคนต้อนฝูงสัตว์ในหนังคาวบอยตะวันตก พวกเขาจะขี่ม้าและต้อนฝูงสัตว์อยู่ข้างหลังเพื่อทำให้บรรดาสัตว์เหล่านั้นเดินไปข้างหน้า แต่การเลี้ยงแกะแตกต่างจากนั้น คือผมต้องเดินอยู่ข้างหน้าฝูงแกะและพวกมันก็เดินตามผม ไม่ว่าผมจะไปที่ไหน พวกมันก็จะตามผมไป และถ้าผมไม่คุ้นเคยหรือไม่รู้จักภูมิประเทศดีหรือพวกแกะถูกทิ้งไว้ตามลำพัง พวกมันก็จะอดตาย ผมจึงต้องเป็นผู้นำมัน ผมรู้ว่ามีหญ้าอยู่ที่ไหนบ้างเพราะผมไปสำรวจมาก่อนแล้ว
เราใช้เวลาตลอดช่วงเช้าในการเดินทางจากทุ่งหญ้าหนึ่งไปยังอีกทุ่งหญ้าหนึ่ง พอถึงเที่ยงวัน แกะก็จะเหนื่อยและหิวน้ำ พวกมันต้องการอาหารและน้ำไม่อย่างนั้นก็ต้องตาย ตามทางที่ผมพาแกะไปนั้น ผมรู้จักแหล่งน้ำหลายแหล่ง ตามสถานที่เหล่านี้จะมีร่มเงาและทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มสำหรับให้แกะกินและพักผ่อน ผมให้พวกมันนอนลงเพื่อดื่มน้ำ พูดถึงตอนนี้ คุณรู้ไหมว่าแกะจะดื่มน้ำจากแอ่งหรือบ่อน้ำนิ่งเท่านั้น โดยธรรมชาติแล้ว พวกมันกลัวบริเวณที่น้ำไหลอย่างรวดเร็ว และความกลัวของมันก็มีเหตุผล เพราะถ้าแกะลื่นตกลงไปในแม่น้ำหรือลำธาร ขนของมันจะอมน้ำจนเปียกโชก และแกะก็ว่ายน้ำไม่เก่งด้วย ดังนั้นน้ำหนักขนที่ชุ่มน้ำจะทำให้มันจมน้ำตาย นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมแอ่งน้ำจึงต้องสงบหรือไหลช้าๆ ถ้าผมไม่สามารถหาแหล่งน้ำเช่นนั้นได้ ผมก็ต้องสร้างบ่อน้ำขึ้นมาเองแล้วผันน้ำจากลำธารเข้ามา ตอนนี้คุณกำลังเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าการเลี้ยงแกะนั้นยากลำบากเพียงไร
แกะของผมจะมีความสุขและมีทุกสิ่งที่พวกมันต้องการตราบใดที่มันเดินตามผม ผมจะนำมันไปตามหนทางเก่าๆ ที่ผมรู้ดีว่าจะหาอาหารและน้ำให้มันกินได้ พวกมันต้องการการนำทางจากผม
แกะของผมต้องการการปกป้องคุ้มครองด้วยเช่นกัน ผืนดินที่เราออกเดินไปนั้นเต็มไปด้วยอันตราย สัตว์กินเนื้อจำพวกสิงโตและหมีมักจะไล่ตามฝูงแกะ บางครั้งก็จะมีฝูงสุนัขป่ามาก่อกวน และพืชบางชนิดที่ดูเหมือนปลอดภัยและมีรสชาติอร่อยลิ้น ก็อาจมีพิษได้ แกะอาจจะเดินสะดุดตกหน้าผาหรือตกลงไปในหุบเขาลึกและตายได้ แต่แกะของผมไม่จำเป็นต้องกลัวอันตรายใดๆ ผมจะเฝ้าระวังพวกมัน ถ้ามันเริ่มจะเตร่ออกนอกทาง ผมก็จะมีไม้เท้าของผู้เลี้ยงที่จะกระทุ้งให้มันกลับมา ถ้าพวกมันตกลงไปในหลุมหรือห้วยลึก ผมก็จะใช้อีกด้านหนึ่งของไม้เท้าหย่อนลงไปแล้วดึงมันขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ผมถือไม้สองอัน อันหนึ่งเป็นไม้เท้า แต่อีกอันหนึ่งเป็นไม้กระบอง ไม้เท้าใช้สำหรับแกะของผมแต่กระบองใช้สำหรับพวกสัตว์ล่าเหยื่อทั้งหลาย แม้ว่าแกะของผมจะโง่และทึ่ม แต่ผมก็ผูกพันกับพวกมัน ผมจะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อรักษาชีวิตของพวกมัน แต่เมื่อคนเลี้ยงแกะกับพวกคนงานที่ถูกจ้างมาเลี้ยงแกะที่ผมรู้จัก ได้เห็นผมต่อสู้กับสัตว์ล่าเนื้อตัวโตสองสามตัวนั้น พวกเขาก็หัวเราะและพูดแหย่ว่า สักวันหนึ่งไอ้พวกสิงโตและหมีตัวใดตัวหนึ่งนั้นจะต้องกินผมเป็นอาหารแน่ นั่นอาจจะจริง แต่ผมก็บอกพวกคุณได้ว่าผมจะไม่วิ่งหนีหรือเพิกเฉยเหมือนกับพวกขี้ขลาดเหล่านั้นหรอก ไม่เลย เพราะนั่นคือความแตกต่างระหว่างผู้เลี้ยงที่ดีและผู้เลี้ยงที่ไม่ดี ผู้เลี้ยงที่ดีจะสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ
ตราบใดที่พวกแกะเดินตามผม ผมก็จะนำพามันและปกป้องคุ้มครองมัน มันเป็นงานที่หนักและลำบาก แต่ผมก็มักต้องทำให้แน่ใจว่าแกะของผมมีอาหารกิน ผมมักจะตรวจสอบทุ่งหญ้าเหล่านั้นก่อนที่จะปล่อยให้มันไปกิน และถ้ามีพืชที่เป็นพิษในบริเวณนั้น ผมก็จะถอนมันออกทีละต้นจนหมด ผมจะตรวจดูพื้นดินว่ามีรูงูหรือเปล่าด้วย ผมบอกคุณได้ว่าในดินแดนของผมนั้นมีอันตรายรอบด้าน เรามีงูพิษตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ใต้ดินในทุ่งหญ้าบางแห่ง เมื่อพวกมันรู้สึกว่ามีแกะมากินหญ้า มันก็จะโผล่หัวอันน่าเกลียดออกมาจากรูและกัดจมูกแกะ การติดเชื้อหรือพิษที่เกิดจากการถูกกัดสามารถทำให้พวกแกะตายได้ แต่ผมก็มีทางแก้สำหรับเจ้างูพิษชั่วร้ายตัวเล็กๆ เหล่านั้น โดยผมจะเดินไปทั่วบริเวณเพื่อหารูงูเหล่านั้น ถ้าผมพบ ผมก็จะเทน้ำมันมะกอกเพียงเล็กน้อยลงไปตรงปากรู แล้วผมก็จะเอาน้ำมันทาตรงหัวและจมูกของแกะแต่ละตัวแล้วปล่อยให้พวกมันกินหญ้า น้ำมันมะกอกจะป้องกันลำตัวที่เนียนเป็นมันของงูไม่ให้เลื้อยขึ้นมาจากรูได้ ดังนั้น พวกมันจึงไม่สามารถทำอันตรายแกะของผมได้ ผมรู้สึกขำที่เฝ้ามองลูกแกะตัวน้อยๆ ของผมกำลังปิกนิกกันต่อหน้าต่อตาศัตรูของพวกมัน
พอตกเย็นเราก็พากันกลับคอก ผมจะสำรวจแกะแต่ละตัว ถ้าผมพบรอยข่วนหรือบาดแผลบนตัวแกะ ผมก็จะทาขี้ผึ้งให้ ผมต้องให้แน่ใจว่าพวกมันมีน้ำกิน ถ้าผมพบว่าแกะตัวใดหิวน้ำ ผมก็จะทำถังรูปถ้วยใส่น้ำให้มันดื่มเอง บางครั้งแกะเหล่านั้นจะกระหายน้ำมากจนพวกมันยื่นหัวเข้าไปในถังอย่างเร็วเกิน และยื่นหัวเข้าไปมากจนน้ำล้นออกมาจนทำให้หัวมันเปียก
ก่อนเข้านอน ผมก็มักจะนับแกะในฝูงของผม บางครั้งบางคราวจะมีลูกแกะสักตัวหลงทาง และไม่มีสิ่งใดน่ากลัวเกินกว่าการที่แกะไม่มีผู้เลี้ยง ผมก็จะออกไปตามหาทันทีและนำมันกลับเข้าคอก
นานๆ ครั้งที่ลูกแกะของผมสักตัวจะมีนิสัยชอบเตร็ดเตร่ออกนอกเส้นทาง ผมจำตัวหนึ่งได้ ผมตั้งชื่อให้มันว่าเจ๊ค บรรพบุรุษของเจ๊คเป็นแกะรุ่นแรกๆ ของผม ผมเรียกปู่ของเจ้าเจ๊คว่าเจ้าเฒ่าอาเบ ส่วนพ่อของเจ้าเจ๊คชื่อไอแซค ทั้งเฒ่าอาเบกับไอแซคนั้นเดินตามผมอย่างสัตย์ซื่อและไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลย แต่เจ้าเจ๊คน้อยจอมโกงตัวนี้ไม่ใช่ มันมักจะหายไปหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน บางครั้งมันก็ออกไปหาหญ้าที่เขียวชอุ่มกว่ากิน และในเวลาอื่นผมก็พบว่ามันกำลังไล่ตามผีเสื้อ มันไม่เคยตระหนักถึงอันตราย แต่ผมก็เข้าใจมันดี
ดังนั้นผมจึงต้องลงมือทำบางสิ่ง พวกเราผู้เลี้ยงแกะจะพัฒนาวิธีการหนึ่งซึ่งจะป้องกันการชอบเตร่ออกนอกทางของแกะ วิธีการนี้ถูกใช้เป็นวิธีสุดท้าย นั่นคือเมื่อแกะตัวใดตัวหนึ่งปฏิเสธที่จะอยู่กับฝูง ครั้งสุดท้ายที่ผมจับได้ว่าเจ้าเจ๊คเตร่ออกนอกทาง ผมจึงใช้วิธีการนี้กับมัน พวกคุณต้องคิดว่าวิธีนี้โหดร้าย แต่มันก็จะรักษาชีวิตแกะของผมได้ ตอนสิ้นสุดวันที่ผมพบว่าเจ้าเจ๊คน้อยเถลไถลเตร็ดเตร่ไปยังทางแคบที่สูงชันระหว่างเขานั้น ผมก็ไปนำมันออกมาแล้วแบกมันไว้บนไหล่พากลับคอก มันไม่ดิ้นรนขัดขืน มันเพียงแต่มองผมด้วยสายตายที่เต็มไปด้วยความเชื่อวางใจ ผมจับมันนั่งลงแล้วผมก็จับขาขวาหน้าของมันวางไว้บนไม้เท้าของผม แล้วด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว ผมก็ดึงกระดูกยาวตรงขาข้างนั้นของมันลงมาแล้วหักเสีย เจ้าเจ๊คดิ้นรนเพื่อจะหนีขณะมองผมด้วยดวงตากลมโต ทันใดนั้นมันก็ล้มลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวด มันไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่หาน้ำหาอาหารให้มันกินและคอยช่วยเหลือมันให้พ้นจากภยันตราย คนที่มันไว้วางใจคนนี้ทำให้มันเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างที่สุดที่มันเคยประสบ ผมไม่อยากทำอย่างนั้นหรอกแต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อจะรักษาชีวิตของมันไว้
สองสามวันต่อมา เจ้าเจ๊คน้อยก็ลุกขึ้นได้ ขณะที่ฝูงแกะเคลื่อนย้ายจากทุ่งหญ้าหนึ่งไปอีกทุ่งหญ้าหนึ่ง ผมก็แบกมันไปตลอดทาง ในช่วงวันเหล่านั้น ผมอยู่ใกล้ชิดมันตลอดเวลา มันเจ็บปวดทุกข์ทนเพราะขาหัก แต่ขณะเดียวกันผมก็อุ้มมันไว้ใกล้หัวใจผม ผมวางมันลงเพื่อให้มันกินหญ้ากินน้ำ มันค่อยๆ กลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่คราวนี้ หุบเขาที่เตี้ยที่สุดก็ดูเหมือนภูเขามหึมาสำหรับมัน และลำธารที่ตื้นเขินที่สุดก็เสมือนแม่น้ำอันกว้างใหญ่ เมื่อใดก็ตามที่มันเผชิญกับอุปสรรค สิ่งที่มันทำก็คือหยุดเดินและมองมาที่ผม จากนั้นผมก็จะอุ้มมันขึ้นและช่วยมันข้ามพ้นอุปสรรคปัญหาเหล่านั้น เจ๊คเรียนรู้ที่จะวางใจและเดินตาม ผมต้องหักขาของมันเพื่อช่วยชีวิตมัน วิธีนี้ใช้ได้ผล ปัจจุบันนี้เจ้าเจ๊คยังคงอยู่กับผมและก็เป็นแกะที่สัตย์ซื่อที่สุดตัวหนึ่งของผมด้วย
นี่เป็นวันหนึ่งในชีวิตของผู้เลี้ยงแกะ แม้ว่ามันจะไม่มีเสน่ห์ดึงดูดใจนัก แต่มันก็เป็นการดำเนินชีวิตแบบหนึ่ง
และแม้ว่าอาชีพของผมจะไร้เกียรติ แต่มันก็ทำให้ผมอัศจรรย์ใจที่ว่า พระเจ้าทรงเปรียบพระองค์เองเหมือนผู้เลี้ยงแกะ และทรงเปรียบประชากรของพระองค์เหมือนแกะ ผมเข้าใจความจริงข้อนี้ นั่นคือหลังจากที่พระองค์ทรงตอบสนองความต้องการของเราด้วยการจัดหาสิ่งจำเป็นในชีวิตให้เรา ด้วยการทรงนำเราในแต่ละวันและปกป้องคุ้มครองเรา ผมก็เชื่อว่าเราจะพึงพอใจและสงบสุขเหมือนบรรดาแกะของผม ถ้าเพียงแต่เราเรียนรู้ที่จะไว้วางใจและติดตามพระองค์ แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจว่าพระองค์กำลังทรงนำเราไปทางไหน หรือพระองค์กำลังทรงทำอะไรในชีวิตเรา เราก็ต้องไว้วางใจและติดตามพระองค์ไป แล้วเราก็จะได้รับความพึงพอใจ
ขอบคุณที่นั่งฟังผมเล่า ผมต้องกลับไปทำงานแล้วครับ การเลี้ยงแกะเป็นงานที่ไม่มีวันจบสิ้นหรอกถ้าคุณรู้ว่าผมหมายถึงอะไร
สดุดีบทที่ 23
พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน
พระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด
พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ ทรงฟื้นจิตวิญญาณของข้าพเจ้า
พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปในทางชอบธรรม เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์
แม้ว่าข้าพระองค์จะเดินไปตามหุบเขาเงามัจจุราช ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใด ๆ
เพราะพระองค์ทรงสถิตกับข้าพระองค์
คทาและธารพระกรของพระองค์เล้าโลมข้าพระองค์
พระองค์ทรงเตรียมสำรับให้ข้าพระองค์ต่อหน้าต่อตาศัตรูของข้าพระองค์
พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยน้ำมัน ขันน้ำของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่
แน่ทีเดียวที่ความดีและความรักมั่นคงจะติดตามข้าพเจ้าไปตลอดวันคืนชีวิตของข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าจะอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้าสืบไปเป็นนิตย์ อาเมน
(แปลจาก Psalm 23: A Shepherd's Perspective ใน http://www.sonic-edge.org/forum/viewtopic.php?t=72)
“ชาโลม...สันติภาพจงมีแก่เพื่อนๆ ทุกคน ผมชื่อ เยชูวา เบน โยเซฟ ผมมาจากดินแดนเก่าแก่ที่ชื่อว่าปาเลสไตน์และมีอาชีพที่ต่ำต้อย คือเป็นผู้เลี้ยงแกะ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับอนุญาตให้มาพูดกับพวกคุณในวันนี้ พวกคุณทราบดีว่า ในประเทศของผม อาชีพนี้ไม่ค่อยมีคนนิยมชมชอบนัก สำหรับเพื่อนร่วมชาติส่วนใหญ่ของผมนั้น มันเป็นงานที่ต้องหลีกหนีให้ไกลห่างเพราะมีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน งานก็สกปรกและเหน็ดเหนื่อยยิ่ง คุณน่าจะได้มาเห็นเท้าที่ด้านหนาของผม และค่าแรงก็...เอ้อ อยากจะบอกว่าคุณจะไม่มีวันร่ำรวยด้วยการเลี้ยงแกะเป็นอาชีพหรอก ผมเรียนรู้อาชีพนี้จากพ่อของผม และผมก็สานต่ออาชีพนี้อันถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัว
ศิษยาภิบาลของคุณคิดว่าการให้ผมมาพูดเกี่ยวกับอาชีพที่ต่ำต้อยของผมให้คุณฟังในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพวกคุณ จริงๆ แล้วผมไม่แน่ใจว่าผู้เล็กน้อยอย่างผมจะมาสอนคุณได้หรือเปล่า แต่ผมจะเล่าทุกสิ่งที่ผมรู้ให้คุณฟัง
คุณรู้หรือไม่ว่าในพระคัมภีร์ไบเบิลที่คุณอ่านนั้น พระเจ้าตรัสถึงประชากรของพระองค์ซึ่งก็คือคุณกับผมว่าเป็น “แกะ” ถึงเกือบสองร้อยครั้ง คุณอาจจะไม่เคยพิจารณาถึงความสำคัญของการเปรียบเทียบนั้น แต่ผมคิด เพราะว่าผมทำงานกับฝูงแกะทั้งวันทั้งคืน ให้ผมเล่าให้คุณฟังว่าการถูกเรียกว่าเป็น “แกะ” นั้นไม่ได้เป็นการยกย่องชมเชยเลย ทำไมไม่เรียกว่านกอินทรีย์ที่สง่าผ่าเผย รวดเร็วว่องไว และงดงามล่ะ เปล่า พระเจ้าทรงเรียกพวกเราว่าเป็นแกะของพระองค์ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ แต่การถูกนำไปเปรียบเทียบกับพวกมันนั้นกลับกลายเป็นการดูหมิ่น บางทีแกะอาจจะเป็นสัตว์ที่โง่เขลาที่สุดในโลก พวกคุณเคยเห็นแกะที่ถูกฝึกเพื่อแสดงละครสัตว์ไหม คุณจะเห็นพวกช้าง ม้า หมี แมวน้ำ และแม้แต่ฮิปโปในคณะละครสัตว์ แต่ไม่ใช่แกะ เพราะพวกมันโง่เกินกว่าจะถูกนำมาฝึกได้ แล้วมันยังสกปรกอีกด้วย ขนแกะที่คุณเห็นในรูปเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มนั้นได้รับการชำระล้างให้สะอาดแล้ว ขนแกะที่อ่อนนุ่มเป็นปุยไม่ได้ขาวสะอาดอย่างที่คุณเห็นในจอทีวีหรอกนะครับ เพราะแกะจะไม่มีวันและจะไม่สามารถทำความสะอาดขนของมันเองได้ พวกผู้เลี้ยงแกะหรือคนงานถูกจ้างมาให้ทำงานนี้ ไม่เพียงแต่มันจะโง่ทึ่มและสกปรกแล้ว มันยังป้องกันตัวเองไม่ได้อย่างสิ้นเชิงด้วย พวกมันไม่มีอุ้งเล็บ ไม่มีเขี้ยว และก็ไม่มีปีก พวกมันวิ่งได้ไม่เร็ว อีกทั้งก็ไม่สามารถทำให้ศัตรูกลัวและหนีไป เพราะมันไม่มีทั้งเสียงคำรามกึกก้องหรือการปล่อยกลิ่นที่เป็นพิษใส่สัตว์กินเนื้อได้ ทั้งหมดที่มันทำได้ก็คือการส่งเสียงร้องอย่างแกะ
แกะต้องพึ่งพาผู้เลี้ยงอย่างสิ้นเชิง ชีวิตและความผาสุกของมันขึ้นอยู่กับคนที่คอยดูแลพวกมันในแต่ละวัน ถ้าพระเจ้าทรงเรียกพวกเราว่าเป็นแกะของพระองค์ ผมก็อยากรู้ว่าพระองค์กำลังทรงพยายามจะตรัสอะไร
บางทีคุณอาจจะเข้าใจพระเจ้าดีขึ้นเล็กน้อยถ้าคุณไปเลี้ยงแกะกับผมสักวันหนึ่ง มาเรียนรู้การเลี้ยงแกะกับผมกันเถอะครับ
เราเริ่มงานแต่เช้าก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น งานของผมคือหาอาหารกับน้ำให้แกะของผม ซึ่งไม่ใช่งานง่ายๆ เลย คุณรู้ดีว่าในประเทศของผมนั้นผืนดินแห้งแล้ง เราไม่มีทุ่งหญ้าเขียวขจีกว้างใหญ่อย่างที่ฝูงแกะกับบรรดาปศุสัตว์ของคุณได้ใช้เป็นแหล่งอาหารหรอก พวกคุณเพียงแต่ปล่อยสัตว์เหล่านั้นให้ออกไปหาอาหารกินได้อย่างสบาย แต่ไม่ใช่ในประเทศของผม ไม่เลย เพราะหญ้าจะหาได้เฉพาะในทางแคบๆ ซึ่งคั่นด้วยแนวหินยาวๆ ที่เต็มด้วยฝุ่น เว้นแต่ในช่วงฤดูฝน น้ำที่เกิดจากน้ำพุหรือบ่อน้ำธรรมชาติจะแผ่กระจายเป็นหย่อมๆ ดังนั้นบางครั้งผมจึงต้องนำฝูงแกะของผมเดินไปเป็นระยะทางหลายไมล์เพื่อจะได้เจอหญ้าในบริเวณเพียงสองสามหลาหรือเพื่อจะดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้เองที่เราต้องตื่นแต่เช้ามืด เพราะต้องใช้เวลาทั้งวันที่จะหาแหล่งน้ำและอาหารให้ฝูงแกะ
ผมรู้จักบริเวณที่ผมเลี้ยงแกะเป็นอย่างดี ผมได้เดินสำรวจบริเวณเหล่านี้ทุกตารางฟุตมาหลายครั้งหลายหนแล้ว ดังนั้นผมจึงสามารถนำแกะของผมออกเดินหาน้ำหาอาหารกินได้ คุณอาจจะนึกภาพว่าการเลี้ยงแกะนั้นเหมือนกับคนต้อนฝูงสัตว์ในหนังคาวบอยตะวันตก พวกเขาจะขี่ม้าและต้อนฝูงสัตว์อยู่ข้างหลังเพื่อทำให้บรรดาสัตว์เหล่านั้นเดินไปข้างหน้า แต่การเลี้ยงแกะแตกต่างจากนั้น คือผมต้องเดินอยู่ข้างหน้าฝูงแกะและพวกมันก็เดินตามผม ไม่ว่าผมจะไปที่ไหน พวกมันก็จะตามผมไป และถ้าผมไม่คุ้นเคยหรือไม่รู้จักภูมิประเทศดีหรือพวกแกะถูกทิ้งไว้ตามลำพัง พวกมันก็จะอดตาย ผมจึงต้องเป็นผู้นำมัน ผมรู้ว่ามีหญ้าอยู่ที่ไหนบ้างเพราะผมไปสำรวจมาก่อนแล้ว
เราใช้เวลาตลอดช่วงเช้าในการเดินทางจากทุ่งหญ้าหนึ่งไปยังอีกทุ่งหญ้าหนึ่ง พอถึงเที่ยงวัน แกะก็จะเหนื่อยและหิวน้ำ พวกมันต้องการอาหารและน้ำไม่อย่างนั้นก็ต้องตาย ตามทางที่ผมพาแกะไปนั้น ผมรู้จักแหล่งน้ำหลายแหล่ง ตามสถานที่เหล่านี้จะมีร่มเงาและทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มสำหรับให้แกะกินและพักผ่อน ผมให้พวกมันนอนลงเพื่อดื่มน้ำ พูดถึงตอนนี้ คุณรู้ไหมว่าแกะจะดื่มน้ำจากแอ่งหรือบ่อน้ำนิ่งเท่านั้น โดยธรรมชาติแล้ว พวกมันกลัวบริเวณที่น้ำไหลอย่างรวดเร็ว และความกลัวของมันก็มีเหตุผล เพราะถ้าแกะลื่นตกลงไปในแม่น้ำหรือลำธาร ขนของมันจะอมน้ำจนเปียกโชก และแกะก็ว่ายน้ำไม่เก่งด้วย ดังนั้นน้ำหนักขนที่ชุ่มน้ำจะทำให้มันจมน้ำตาย นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมแอ่งน้ำจึงต้องสงบหรือไหลช้าๆ ถ้าผมไม่สามารถหาแหล่งน้ำเช่นนั้นได้ ผมก็ต้องสร้างบ่อน้ำขึ้นมาเองแล้วผันน้ำจากลำธารเข้ามา ตอนนี้คุณกำลังเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าการเลี้ยงแกะนั้นยากลำบากเพียงไร
แกะของผมจะมีความสุขและมีทุกสิ่งที่พวกมันต้องการตราบใดที่มันเดินตามผม ผมจะนำมันไปตามหนทางเก่าๆ ที่ผมรู้ดีว่าจะหาอาหารและน้ำให้มันกินได้ พวกมันต้องการการนำทางจากผม
แกะของผมต้องการการปกป้องคุ้มครองด้วยเช่นกัน ผืนดินที่เราออกเดินไปนั้นเต็มไปด้วยอันตราย สัตว์กินเนื้อจำพวกสิงโตและหมีมักจะไล่ตามฝูงแกะ บางครั้งก็จะมีฝูงสุนัขป่ามาก่อกวน และพืชบางชนิดที่ดูเหมือนปลอดภัยและมีรสชาติอร่อยลิ้น ก็อาจมีพิษได้ แกะอาจจะเดินสะดุดตกหน้าผาหรือตกลงไปในหุบเขาลึกและตายได้ แต่แกะของผมไม่จำเป็นต้องกลัวอันตรายใดๆ ผมจะเฝ้าระวังพวกมัน ถ้ามันเริ่มจะเตร่ออกนอกทาง ผมก็จะมีไม้เท้าของผู้เลี้ยงที่จะกระทุ้งให้มันกลับมา ถ้าพวกมันตกลงไปในหลุมหรือห้วยลึก ผมก็จะใช้อีกด้านหนึ่งของไม้เท้าหย่อนลงไปแล้วดึงมันขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ผมถือไม้สองอัน อันหนึ่งเป็นไม้เท้า แต่อีกอันหนึ่งเป็นไม้กระบอง ไม้เท้าใช้สำหรับแกะของผมแต่กระบองใช้สำหรับพวกสัตว์ล่าเหยื่อทั้งหลาย แม้ว่าแกะของผมจะโง่และทึ่ม แต่ผมก็ผูกพันกับพวกมัน ผมจะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อรักษาชีวิตของพวกมัน แต่เมื่อคนเลี้ยงแกะกับพวกคนงานที่ถูกจ้างมาเลี้ยงแกะที่ผมรู้จัก ได้เห็นผมต่อสู้กับสัตว์ล่าเนื้อตัวโตสองสามตัวนั้น พวกเขาก็หัวเราะและพูดแหย่ว่า สักวันหนึ่งไอ้พวกสิงโตและหมีตัวใดตัวหนึ่งนั้นจะต้องกินผมเป็นอาหารแน่ นั่นอาจจะจริง แต่ผมก็บอกพวกคุณได้ว่าผมจะไม่วิ่งหนีหรือเพิกเฉยเหมือนกับพวกขี้ขลาดเหล่านั้นหรอก ไม่เลย เพราะนั่นคือความแตกต่างระหว่างผู้เลี้ยงที่ดีและผู้เลี้ยงที่ไม่ดี ผู้เลี้ยงที่ดีจะสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ
ตราบใดที่พวกแกะเดินตามผม ผมก็จะนำพามันและปกป้องคุ้มครองมัน มันเป็นงานที่หนักและลำบาก แต่ผมก็มักต้องทำให้แน่ใจว่าแกะของผมมีอาหารกิน ผมมักจะตรวจสอบทุ่งหญ้าเหล่านั้นก่อนที่จะปล่อยให้มันไปกิน และถ้ามีพืชที่เป็นพิษในบริเวณนั้น ผมก็จะถอนมันออกทีละต้นจนหมด ผมจะตรวจดูพื้นดินว่ามีรูงูหรือเปล่าด้วย ผมบอกคุณได้ว่าในดินแดนของผมนั้นมีอันตรายรอบด้าน เรามีงูพิษตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ใต้ดินในทุ่งหญ้าบางแห่ง เมื่อพวกมันรู้สึกว่ามีแกะมากินหญ้า มันก็จะโผล่หัวอันน่าเกลียดออกมาจากรูและกัดจมูกแกะ การติดเชื้อหรือพิษที่เกิดจากการถูกกัดสามารถทำให้พวกแกะตายได้ แต่ผมก็มีทางแก้สำหรับเจ้างูพิษชั่วร้ายตัวเล็กๆ เหล่านั้น โดยผมจะเดินไปทั่วบริเวณเพื่อหารูงูเหล่านั้น ถ้าผมพบ ผมก็จะเทน้ำมันมะกอกเพียงเล็กน้อยลงไปตรงปากรู แล้วผมก็จะเอาน้ำมันทาตรงหัวและจมูกของแกะแต่ละตัวแล้วปล่อยให้พวกมันกินหญ้า น้ำมันมะกอกจะป้องกันลำตัวที่เนียนเป็นมันของงูไม่ให้เลื้อยขึ้นมาจากรูได้ ดังนั้น พวกมันจึงไม่สามารถทำอันตรายแกะของผมได้ ผมรู้สึกขำที่เฝ้ามองลูกแกะตัวน้อยๆ ของผมกำลังปิกนิกกันต่อหน้าต่อตาศัตรูของพวกมัน
พอตกเย็นเราก็พากันกลับคอก ผมจะสำรวจแกะแต่ละตัว ถ้าผมพบรอยข่วนหรือบาดแผลบนตัวแกะ ผมก็จะทาขี้ผึ้งให้ ผมต้องให้แน่ใจว่าพวกมันมีน้ำกิน ถ้าผมพบว่าแกะตัวใดหิวน้ำ ผมก็จะทำถังรูปถ้วยใส่น้ำให้มันดื่มเอง บางครั้งแกะเหล่านั้นจะกระหายน้ำมากจนพวกมันยื่นหัวเข้าไปในถังอย่างเร็วเกิน และยื่นหัวเข้าไปมากจนน้ำล้นออกมาจนทำให้หัวมันเปียก
ก่อนเข้านอน ผมก็มักจะนับแกะในฝูงของผม บางครั้งบางคราวจะมีลูกแกะสักตัวหลงทาง และไม่มีสิ่งใดน่ากลัวเกินกว่าการที่แกะไม่มีผู้เลี้ยง ผมก็จะออกไปตามหาทันทีและนำมันกลับเข้าคอก
นานๆ ครั้งที่ลูกแกะของผมสักตัวจะมีนิสัยชอบเตร็ดเตร่ออกนอกเส้นทาง ผมจำตัวหนึ่งได้ ผมตั้งชื่อให้มันว่าเจ๊ค บรรพบุรุษของเจ๊คเป็นแกะรุ่นแรกๆ ของผม ผมเรียกปู่ของเจ้าเจ๊คว่าเจ้าเฒ่าอาเบ ส่วนพ่อของเจ้าเจ๊คชื่อไอแซค ทั้งเฒ่าอาเบกับไอแซคนั้นเดินตามผมอย่างสัตย์ซื่อและไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลย แต่เจ้าเจ๊คน้อยจอมโกงตัวนี้ไม่ใช่ มันมักจะหายไปหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน บางครั้งมันก็ออกไปหาหญ้าที่เขียวชอุ่มกว่ากิน และในเวลาอื่นผมก็พบว่ามันกำลังไล่ตามผีเสื้อ มันไม่เคยตระหนักถึงอันตราย แต่ผมก็เข้าใจมันดี
ดังนั้นผมจึงต้องลงมือทำบางสิ่ง พวกเราผู้เลี้ยงแกะจะพัฒนาวิธีการหนึ่งซึ่งจะป้องกันการชอบเตร่ออกนอกทางของแกะ วิธีการนี้ถูกใช้เป็นวิธีสุดท้าย นั่นคือเมื่อแกะตัวใดตัวหนึ่งปฏิเสธที่จะอยู่กับฝูง ครั้งสุดท้ายที่ผมจับได้ว่าเจ้าเจ๊คเตร่ออกนอกทาง ผมจึงใช้วิธีการนี้กับมัน พวกคุณต้องคิดว่าวิธีนี้โหดร้าย แต่มันก็จะรักษาชีวิตแกะของผมได้ ตอนสิ้นสุดวันที่ผมพบว่าเจ้าเจ๊คน้อยเถลไถลเตร็ดเตร่ไปยังทางแคบที่สูงชันระหว่างเขานั้น ผมก็ไปนำมันออกมาแล้วแบกมันไว้บนไหล่พากลับคอก มันไม่ดิ้นรนขัดขืน มันเพียงแต่มองผมด้วยสายตายที่เต็มไปด้วยความเชื่อวางใจ ผมจับมันนั่งลงแล้วผมก็จับขาขวาหน้าของมันวางไว้บนไม้เท้าของผม แล้วด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว ผมก็ดึงกระดูกยาวตรงขาข้างนั้นของมันลงมาแล้วหักเสีย เจ้าเจ๊คดิ้นรนเพื่อจะหนีขณะมองผมด้วยดวงตากลมโต ทันใดนั้นมันก็ล้มลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวด มันไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่หาน้ำหาอาหารให้มันกินและคอยช่วยเหลือมันให้พ้นจากภยันตราย คนที่มันไว้วางใจคนนี้ทำให้มันเจ็บปวดทุกข์ทรมานอย่างที่สุดที่มันเคยประสบ ผมไม่อยากทำอย่างนั้นหรอกแต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อจะรักษาชีวิตของมันไว้
สองสามวันต่อมา เจ้าเจ๊คน้อยก็ลุกขึ้นได้ ขณะที่ฝูงแกะเคลื่อนย้ายจากทุ่งหญ้าหนึ่งไปอีกทุ่งหญ้าหนึ่ง ผมก็แบกมันไปตลอดทาง ในช่วงวันเหล่านั้น ผมอยู่ใกล้ชิดมันตลอดเวลา มันเจ็บปวดทุกข์ทนเพราะขาหัก แต่ขณะเดียวกันผมก็อุ้มมันไว้ใกล้หัวใจผม ผมวางมันลงเพื่อให้มันกินหญ้ากินน้ำ มันค่อยๆ กลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่คราวนี้ หุบเขาที่เตี้ยที่สุดก็ดูเหมือนภูเขามหึมาสำหรับมัน และลำธารที่ตื้นเขินที่สุดก็เสมือนแม่น้ำอันกว้างใหญ่ เมื่อใดก็ตามที่มันเผชิญกับอุปสรรค สิ่งที่มันทำก็คือหยุดเดินและมองมาที่ผม จากนั้นผมก็จะอุ้มมันขึ้นและช่วยมันข้ามพ้นอุปสรรคปัญหาเหล่านั้น เจ๊คเรียนรู้ที่จะวางใจและเดินตาม ผมต้องหักขาของมันเพื่อช่วยชีวิตมัน วิธีนี้ใช้ได้ผล ปัจจุบันนี้เจ้าเจ๊คยังคงอยู่กับผมและก็เป็นแกะที่สัตย์ซื่อที่สุดตัวหนึ่งของผมด้วย
นี่เป็นวันหนึ่งในชีวิตของผู้เลี้ยงแกะ แม้ว่ามันจะไม่มีเสน่ห์ดึงดูดใจนัก แต่มันก็เป็นการดำเนินชีวิตแบบหนึ่ง
และแม้ว่าอาชีพของผมจะไร้เกียรติ แต่มันก็ทำให้ผมอัศจรรย์ใจที่ว่า พระเจ้าทรงเปรียบพระองค์เองเหมือนผู้เลี้ยงแกะ และทรงเปรียบประชากรของพระองค์เหมือนแกะ ผมเข้าใจความจริงข้อนี้ นั่นคือหลังจากที่พระองค์ทรงตอบสนองความต้องการของเราด้วยการจัดหาสิ่งจำเป็นในชีวิตให้เรา ด้วยการทรงนำเราในแต่ละวันและปกป้องคุ้มครองเรา ผมก็เชื่อว่าเราจะพึงพอใจและสงบสุขเหมือนบรรดาแกะของผม ถ้าเพียงแต่เราเรียนรู้ที่จะไว้วางใจและติดตามพระองค์ แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจว่าพระองค์กำลังทรงนำเราไปทางไหน หรือพระองค์กำลังทรงทำอะไรในชีวิตเรา เราก็ต้องไว้วางใจและติดตามพระองค์ไป แล้วเราก็จะได้รับความพึงพอใจ
ขอบคุณที่นั่งฟังผมเล่า ผมต้องกลับไปทำงานแล้วครับ การเลี้ยงแกะเป็นงานที่ไม่มีวันจบสิ้นหรอกถ้าคุณรู้ว่าผมหมายถึงอะไร
สดุดีบทที่ 23
พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน
พระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด
พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ ทรงฟื้นจิตวิญญาณของข้าพเจ้า
พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปในทางชอบธรรม เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์
แม้ว่าข้าพระองค์จะเดินไปตามหุบเขาเงามัจจุราช ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใด ๆ
เพราะพระองค์ทรงสถิตกับข้าพระองค์
คทาและธารพระกรของพระองค์เล้าโลมข้าพระองค์
พระองค์ทรงเตรียมสำรับให้ข้าพระองค์ต่อหน้าต่อตาศัตรูของข้าพระองค์
พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยน้ำมัน ขันน้ำของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่
แน่ทีเดียวที่ความดีและความรักมั่นคงจะติดตามข้าพเจ้าไปตลอดวันคืนชีวิตของข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าจะอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้าสืบไปเป็นนิตย์ อาเมน
Mark 6:34 ครั้นพระเยซูเสด็จขึ้นจากเรือแล้ว ก็ทรงเห็นประชาชนหมู่ใหญ่ และพระองค์ทรงสงสารเขา เพราะว่าเขาเป็นเหมือนฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยง พระองค์จึงทรงสั่งสอนเขาเป็นหลายข้อหลายประการ
· ต้องสอน มิฉะนั้นจะเป็นเหมือนฝูงแกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง
Mark 14:27 พระเยซูจึงตรัสกับเหล่าสาวกว่า “ท่านทุกคนจะทิ้งเรา ด้วยมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘เราจะประหารผู้เลี้ยงแกะ และแกะฝูงนั้นจะกระจัดกระจายไป’
· ถ้าที่ใดใดไม่มีการนำไม่มีนิมิตไม่มีผู้เลี้ยง ฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป สภษ. 29:18 (ไทยคิงเจมส์) พระคำตอนที่กล่าวในมาระโกนี้ มาจากพระธรรม เศคาริยาห์ 13:7
Luke 2:8 ในแถบนั้นมีคนเลี้ยงแกะอยู่ในทุ่งนา เฝ้าฝูงแกะของเขาในเวลากลางคืน
· ลูกาเล่าเรื่องคนเลี้ยงแกะที่ทูตสวรรค์มาปรากฏ
Luke 2:15 เมื่อทูตสวรรค์เหล่านั้น ไปจากเขาขึ้นสู่สวรรค์แล้ว พวกเลี้ยงแกะได้พูดกันว่า “ให้เราไปยังเมืองเบธเลเฮมดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงแจ้งแก่เรา”
Luke 2:18 คนทั้งปวงที่ได้ยินก็ประหลาดใจ ด้วยเนื้อความที่คนเลี้ยงแกะได้บอกแก่เขา
Luke 2:20 คนเลี้ยงแกะจึงกลับไปยกย่องสรรเสริญพระเจ้า เพราะเหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งเขาได้ยิน และได้เห็นดังได้กล่าวไว้แก่เขาแล้ว
John 10:2 แต่ผู้ที่เข้าทางประตูก็เป็นผู้เลี้ยงแกะ
· บทที่ 10 กล่าวถึงลักษณะผู้เลี้ยงที่ดีคือพระเยซูคริสต์
John 10:11 เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี ผู้เลี้ยงที่ดีนั้นย่อมสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ
· ลักษณะผู้เลี้ยงที่ดี
John 10:12 ผู้ที่รับจ้างมิได้เป็นผู้เลี้ยงแกะ และฝูงแกะไม่เป็นของเขา เมื่อเห็นสุนัขป่ามาเขาจึงละทิ้งฝูงแกะหนีไป สุนัขป่าก็ชิงเอาแกะไปเสีย และทำให้ฝูงแกะกระจัดกระจายไป
· ไม่ใช่ผู้เลี้ยง
John 10:14 เราเป็นผู้เลี้ยงที่ดี เรารู้จักแกะของเราและแกะของเราก็รู้จักเรา
John 10:16 แกะอื่นซึ่งมิได้เป็นของคอกนี้เราก็มีอยู่ แกะเหล่านั้นเราก็ต้องพามาด้วย และแกะเหล่านั้นจะฟังเสียงของเรา แล้วจะรวมเป็นฝูงเดียว และมีผู้เลี้ยงเพียงผู้เดียว
· ฝูงเดียว ผู้เลี้ยงเดียว
Eph 4:11 ของประทานของพระองค์ ก็คือให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์
· shepherd = pastors กล่าวถึงpastor ครั้งเดียว ในภาษาอังกฤษ แต่คำในภาษากรีกคือคำเดียวกัน ποιμήν poimen ดังนั้นถ้าเราจะดูชีวิต ดูลักษณะผู้เลี้ยงในแบบพระคัมภีร์ เราสามารถดูได้จากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคำว่า poimen ทั้งหมด
Heb 13:20 ขอพระเจ้าแห่งสันติสุข ผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้าของเราเป็นขึ้นมาจากความตาย คือผู้ทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดีเลิศ
· พระเยซู ผู้เลี้ยงแกะที่ยิ่งใหญ่ (คิงเจมส์) Jesus – great shepherd
1Pet 2:25 เพราะว่าท่านทั้งหลายเป็นเหมือนแกะที่พลัดฝูงไป แต่บัดนี้ได้กลับมาหาพระผู้เลี้ยงและผู้พิทักษ์วิญญาณจิตของท่านทั้งหลายแล้ว
· shepherd and bishop of your souls พระเยซูเป็นพระผู้เลี้ยงและผู้ปกครองดูแลจิตวิญญาณของท่านทั้งหลาย
ข้อนี้มีคำว่า “bishop” ภาษาไทย แปลว่า ผู้ปกครอง คำในภาษากรีก
G1985 ἐπίσκοπος episkopos (ep-is'-kop-os) n.
1. an overseer
2. (in genitive case) one of the co-superintendents entrusted with the well-being of a local assembly or of assemblies within a city or location
{literally or figuratively}
[from G1909 and G4649 (in the sense of G1983)]
KJV: bishop, overseer
Root(s): G1909, G4649
See also: G1983
[?]
อีกตอนหนึ่งที่กล่าวถึงผู้ปกครอง
Acts 20:28 ท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้ดี และจงรักษาฝูงแกะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงตั้งท่านไว้ให้เป็นผู้ดูแล และเพื่อจะได้ปกครองคริสตจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์ทรงได้มาด้วยพระโลหิตของพระองค์เอง
คำนี้ ผู้ปกครองดูแลคริสตจักร bishop ที่ดูแล ekklesia ไม่ใช่ประเด็นที่เราจะศึกษาในครั้งนี้ สิ่งที่เราสนใจศึกษาคือชีวิตของผู้เลี้ยงที่อภิบาลดูแลฝูงแกะของพระเจ้า
Acts 20:28 Take heed G4337 therefore G3767 unto yourselves G1438, and G2532 to all G3956 the flock G4168, over G1722 the which G3739 the Holy G40 Ghost G4151 hath made G5087 you G5209 overseers G1985, to feed G4165 the church G1577 of God G2316, which G3739 he hath purchased G4046 with G1223 his own G2398 blood G129.
อีกคำหนึ่ง G4165 จากพระคัมภีร์ข้อนี้ ผู้ปกครอง bishop ก็ต้อง feed G4165 เลี้ยงเหมือนผู้เลี้ยงดูแลคริสตจักร ซึ่งคำในภาษาไทยไม่ได้แปลไว้
G4165 ποιμαίνω poimaino (poy-mai'-no) v.
1. to tend as a shepherd of
2. (figuratively) supervisor
[from G4166]
KJV: feed (cattle), rule
Root(s): G4166
[?]
G4165 เป็นกริยา มาจาก G4166 คำนามว่าผู้เลี้ยง สรุปว่าในบทเรียนนี้ เราจะดูแค่ shepherd ผู้เลี้ยง ที่ดูแลฝูงแกะของพระเจ้า เราไม่ได้ดูไปถึง bishop ที่ดูแลคริสตจักร ekklesia ของพระเจ้า
1Pet 5:4 และเมื่อพระผู้เลี้ยงผู้ยิ่งใหญ่จะเสด็จมาปรากฏ ท่านทั้งหลายจะรับศักดิ์ศรีเป็นมงกุฎที่ร่วงโรยไม่ได้เลย
· พระผู้เลี้ยงใหญ่ G750 The chief shepherd 1ปต. 5:4 (มีกล่าวถึงครั้งเดียว)
ในพระคัมภีร์เดิม
ผู้เลี้ยง H7462
H7462 רָעָה ra`ah (raw-aw') v. เลี้ยงฝูงสัตว์
1. to tend a flock i.e. pasture it
2. (intransitively, literally or figuratively) to graze
3. (generally) to rule
4. (by extension) to associate with (as a friend)
[a primitive root]
KJV: X break, companion, keep company with, devour, eat up, evil entreat, feed, use as a friend, make friendship with, herdman, keep (sheep)(-er), pastor, + shearing house, shepherd, wander, waste.
[?]
จากการใคร่ครวญ คิดว่าสร้างผู้เลี้ยงดีกว่าใช้ชื่อว่าสร้างผู้นำ แนวคิดเอามาจากคำว่า shepherd G4166 ในพระคัมภีร์ แล้วมาดูว่า ชีวิตของผู้เลี้ยงในพระคัมภีร์เป็นอย่างไรบ้าง ดังนั้นวิชานี้ จึงเป็นการแบ่งปันเรื่องชีวิตของผู้เลี้ยง ไม่ใช่วิธีการรับใช้ของผู้นำ
ครั้งหน้าเราจะดูการเป็นผู้เลี้ยงในวิถีชีวิตของคนอิสราเอล อยากให้เราลองสืบค้นข้อมูลดูเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อมาแบ่งปันกันในครั้งหน้า
ขอก๊อปลงบล็อกนะค่ะ เพื่อแบ่งปันต่อ....
ตอบลบยินดีครับ
ตอบลบ