รวมบทความชีวิตพระเยซูคริสต์
จาำกแผนที่จะเห็นเมืองโคราซิน เบธไซดา และคาเปอรนาอูม อยู่รอบๆไม่ไกลจากทะเลสาบกาลิลี ขณะที่ ไทระอยู่ไกลออกไป
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปต่างจังหวัดเลยลืมเขียนไปสัปดาห์หนึ่ง ขอแบ่งปันต่อนะครับ ครั้งนี้เป็นตอนที่ต่อมาจากครั้งที่แล้ว หลังจากพระเยซูส่งสาวกออกไปเจ็ดสิบคนแล้ว ตอนท้ายได้กล่าวถึงเมืองที่ไม่รับรองหรือไม่ต้อนรับพวกสาวกที่มาประกาศแผ่นดินของพระเจ้าว่าโทษของเมืองโสโดมจะเบากว่าโทษของเมืองนั้น เมืองโสโดมคือเมืองที่พระเจ้าทำลายเพราะชาวเมืองโสโดมเป็นคนชั่วช้าทำบาปผิดต่อพระเจ้าเป็นอันมาก ปฐมกาล 13:13 ตอนทูตสวรรค์ของพระเจ้าสององค์ไปที่เมืองนั้น ชาวเมืองก็พากันมารุมล้อมบ้านให้ส่งตัวสองคนนั้นออกมาเพื่อจะได้สมสู่กับพวกเขา ปฐมกาล บทที่ 19 ความบาปผิดช่างชั่วร้ายยิ่ง พระเจ้าได้ให้ไฟและกำมะถันตกมาจากฟ้าทำลายเมืองโสโดมและโกโมราห์เสีย ปฐมกาล 19:24
นี่คือเมืองที่พระเจ้าบอกว่าโทษจะเบากว่าเมืองที่ไม่ต้อนรับคนที่มาประกาศข่าวประเสริฐ ผมว่าก็จริงนะครับ เพราะคนที่ไม่ได้ต้อนรับพระเจ้ามรดกของเขาคือที่บึงไฟตลอดไปเป็นนิตย์ วิวรณ์ 21:8 โสโดมนั้นไฟลงมาครั้งเดียว แต่นี่ไฟไหม้ตลอดไปเป็นนิตย์ ต่อมาพระคัมภีร์ได้พูดถึงชื่อเมืองต่างๆในข้อต่อๆมาอีก
Luke 10:13 “วิบัติแก่เจ้า เมืองโคราซิน วิบัติแก่เจ้า เมืองเบธไซดา ถ้าการมหัศจรรย์ซึ่งได้กระทำท่ามกลางเจ้าได้กระทำในเมืองไทระและเมืองไซดอน คนในเมืองทั้งสองคงได้นุ่งห่มผ้ากระสอบ นั่งบนขี้เถ้า กลับใจเสียใหม่นานมาแล้ว
Luke 10:14 แต่ในวันพิพากษานั้น โทษเมืองไทระและเมืองไซดอนจะเบากว่าโทษของเจ้า
Luke 10:15 ฝ่ายเจ้าเมืองคาเปอรนาอุม เจ้าจะถูกยกขึ้นเทียมฟ้าหรือ มิได้ เจ้าจะต้องลงไปถึงแดนคนตายต่างหาก
ในตอนนี้ได้พูดถึงโทษของเมืองไทระและเมืองไซดอนว่าจะเบากว่าโทษของเมืองโคราซินและเมืองเบธไซดา เมืองไทระอาจจะมีโทษเพราะชาวเมืองนั้นได้นำสินค้ามาขายในวันสะบาโตที่เยรูซาเล็ม ซึ่งวันสะบาโตเป็นข้อห้ามของชาวยิวในการทำงานในวันนั้น เนหะมีย์ 13:15-17 และพระเจ้าได้กล่าวโทษเมืองไทระไว้ใน เอเสเคียล 26:2-6 เอเสเคียล บทที่ 26-28 เมืองไซดอน คนอิสราเอลก็กระทำชั่วอีก ไปปรนนิบัติพระของเมืองไซดอน ผู้วินิจฉัย 10:6 คำพยากรณ์กล่าวโทษเมืองไซดอน เอเสเคียล 28:21-23 และพระคัมภีร์ยังได้บอกว่าถ้าการอัศจรรย์ที่ได้ทำเช่นเดียวกันในเมืองโคราซินและเมืองเบธไซดาได้ทำในเมืองนี้ คนในเมืองนี้คงกลับใจใหม่นานแล้ว เมืองไทระและเมืองไซดอนเป็นเมืองของคนต่างชาติ อยู่ในฟินีเซีย ทางเหนือของกาลิลี ซึ่งไม่มีโอกาสได้เห็นการอัศจรรย์ของพระเยซูและไม่ได้ยินคำเทศนาของพระองค์อย่างคนที่อยู่ในกาลิลี
เราจะเห็นว่าหลังจากที่พระเยซูกล่าวในพระคัมภีร์ตอนนี้แล้ว พระองค์ก็เข้าไปที่เมืองไทระและไซดอน มัทธิว 15:21 และเราได้เห็นคนตอบสนองพระกิตติคุณออกมาหาพระเยซูกันมากมายใน มาระโก 3:7-8
เมืองโคราซินถูกอ้างถึงในพระคัมภีร์เพียงสองครั้ง อยู่ใกล้ทะเลกาลิลี ห่างจากคาเปอรนาอูมไปทางเหนือ 3.2 กม. เมืองเบธไซดา ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลกาลิลี แถบดินแดนที่พระเยซูใช้ชีวิตอยู่ พวกเขาย่อมต้องเห็นหมายสำคัญการอัศจรรย์และคำสั่งสอนของพระเยซูมากกว่าเมืองไทระและไซดอนที่ยังไม่เคยได้ยินพระกิตติคุณ พระเยซูถึงบอกว่าถ้าสองเมืองนี้ได้ิยินแล้วไม่กลับใจใหม่ โทษจะหนักกว่าผู้ที่ยังไม่เคยได้ิยินแน่
ส่วนเมืองคาเปอรนาอูมหมู่บ้านริมทะเลสาบกาลิลียิ่งใกล้พระเยซูเข้าไปใหญ่ เมืองนี้คือเมืองที่พระเยซูใช้บ้านของเปโตร เป็นศูนย์กลางขณะพระองค์ขยายพันธกิจของพระองค์ในกาลิลี
โดยสรุึปของคำเตือนจากพระเยซูก็คือว่าถ้าผู้ใดได้ใกล้ชิดพระวจนะ ได้ใกล้ชิดพระเยซู ได้เห็นการอัศจรรย์ต่างๆแล้วไม่กลับใจใหม่ โทษจะหนักกว่าผู้ที่ยังไม่เคยได้ยินข่าวประเสริฐ
จาำกแผนที่จะเห็นเมืองโคราซิน เบธไซดา และคาเปอรนาอูม อยู่รอบๆไม่ไกลจากทะเลสาบกาลิลี ขณะที่ ไทระอยู่ไกลออกไป
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปต่างจังหวัดเลยลืมเขียนไปสัปดาห์หนึ่ง ขอแบ่งปันต่อนะครับ ครั้งนี้เป็นตอนที่ต่อมาจากครั้งที่แล้ว หลังจากพระเยซูส่งสาวกออกไปเจ็ดสิบคนแล้ว ตอนท้ายได้กล่าวถึงเมืองที่ไม่รับรองหรือไม่ต้อนรับพวกสาวกที่มาประกาศแผ่นดินของพระเจ้าว่าโทษของเมืองโสโดมจะเบากว่าโทษของเมืองนั้น เมืองโสโดมคือเมืองที่พระเจ้าทำลายเพราะชาวเมืองโสโดมเป็นคนชั่วช้าทำบาปผิดต่อพระเจ้าเป็นอันมาก ปฐมกาล 13:13 ตอนทูตสวรรค์ของพระเจ้าสององค์ไปที่เมืองนั้น ชาวเมืองก็พากันมารุมล้อมบ้านให้ส่งตัวสองคนนั้นออกมาเพื่อจะได้สมสู่กับพวกเขา ปฐมกาล บทที่ 19 ความบาปผิดช่างชั่วร้ายยิ่ง พระเจ้าได้ให้ไฟและกำมะถันตกมาจากฟ้าทำลายเมืองโสโดมและโกโมราห์เสีย ปฐมกาล 19:24
นี่คือเมืองที่พระเจ้าบอกว่าโทษจะเบากว่าเมืองที่ไม่ต้อนรับคนที่มาประกาศข่าวประเสริฐ ผมว่าก็จริงนะครับ เพราะคนที่ไม่ได้ต้อนรับพระเจ้ามรดกของเขาคือที่บึงไฟตลอดไปเป็นนิตย์ วิวรณ์ 21:8 โสโดมนั้นไฟลงมาครั้งเดียว แต่นี่ไฟไหม้ตลอดไปเป็นนิตย์ ต่อมาพระคัมภีร์ได้พูดถึงชื่อเมืองต่างๆในข้อต่อๆมาอีก
Luke 10:13 “วิบัติแก่เจ้า เมืองโคราซิน วิบัติแก่เจ้า เมืองเบธไซดา ถ้าการมหัศจรรย์ซึ่งได้กระทำท่ามกลางเจ้าได้กระทำในเมืองไทระและเมืองไซดอน คนในเมืองทั้งสองคงได้นุ่งห่มผ้ากระสอบ นั่งบนขี้เถ้า กลับใจเสียใหม่นานมาแล้ว
Luke 10:14 แต่ในวันพิพากษานั้น โทษเมืองไทระและเมืองไซดอนจะเบากว่าโทษของเจ้า
Luke 10:15 ฝ่ายเจ้าเมืองคาเปอรนาอุม เจ้าจะถูกยกขึ้นเทียมฟ้าหรือ มิได้ เจ้าจะต้องลงไปถึงแดนคนตายต่างหาก
ในตอนนี้ได้พูดถึงโทษของเมืองไทระและเมืองไซดอนว่าจะเบากว่าโทษของเมืองโคราซินและเมืองเบธไซดา เมืองไทระอาจจะมีโทษเพราะชาวเมืองนั้นได้นำสินค้ามาขายในวันสะบาโตที่เยรูซาเล็ม ซึ่งวันสะบาโตเป็นข้อห้ามของชาวยิวในการทำงานในวันนั้น เนหะมีย์ 13:15-17 และพระเจ้าได้กล่าวโทษเมืองไทระไว้ใน เอเสเคียล 26:2-6 เอเสเคียล บทที่ 26-28 เมืองไซดอน คนอิสราเอลก็กระทำชั่วอีก ไปปรนนิบัติพระของเมืองไซดอน ผู้วินิจฉัย 10:6 คำพยากรณ์กล่าวโทษเมืองไซดอน เอเสเคียล 28:21-23 และพระคัมภีร์ยังได้บอกว่าถ้าการอัศจรรย์ที่ได้ทำเช่นเดียวกันในเมืองโคราซินและเมืองเบธไซดาได้ทำในเมืองนี้ คนในเมืองนี้คงกลับใจใหม่นานแล้ว เมืองไทระและเมืองไซดอนเป็นเมืองของคนต่างชาติ อยู่ในฟินีเซีย ทางเหนือของกาลิลี ซึ่งไม่มีโอกาสได้เห็นการอัศจรรย์ของพระเยซูและไม่ได้ยินคำเทศนาของพระองค์อย่างคนที่อยู่ในกาลิลี
เราจะเห็นว่าหลังจากที่พระเยซูกล่าวในพระคัมภีร์ตอนนี้แล้ว พระองค์ก็เข้าไปที่เมืองไทระและไซดอน มัทธิว 15:21 และเราได้เห็นคนตอบสนองพระกิตติคุณออกมาหาพระเยซูกันมากมายใน มาระโก 3:7-8
เมืองโคราซินถูกอ้างถึงในพระคัมภีร์เพียงสองครั้ง อยู่ใกล้ทะเลกาลิลี ห่างจากคาเปอรนาอูมไปทางเหนือ 3.2 กม. เมืองเบธไซดา ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลกาลิลี แถบดินแดนที่พระเยซูใช้ชีวิตอยู่ พวกเขาย่อมต้องเห็นหมายสำคัญการอัศจรรย์และคำสั่งสอนของพระเยซูมากกว่าเมืองไทระและไซดอนที่ยังไม่เคยได้ยินพระกิตติคุณ พระเยซูถึงบอกว่าถ้าสองเมืองนี้ได้ิยินแล้วไม่กลับใจใหม่ โทษจะหนักกว่าผู้ที่ยังไม่เคยได้ิยินแน่
ส่วนเมืองคาเปอรนาอูมหมู่บ้านริมทะเลสาบกาลิลียิ่งใกล้พระเยซูเข้าไปใหญ่ เมืองนี้คือเมืองที่พระเยซูใช้บ้านของเปโตร เป็นศูนย์กลางขณะพระองค์ขยายพันธกิจของพระองค์ในกาลิลี
บ้านเปโตรที่คาเปอร์นาอูม ปัจจุบันถูกสร้างโบสถ์คล่อมลงไป
ซากหมู่บ้านคาเปอรนาอูมริมทะเลสาบกาลิลี
โดยสรุึปของคำเตือนจากพระเยซูก็คือว่าถ้าผู้ใดได้ใกล้ชิดพระวจนะ ได้ใกล้ชิดพระเยซู ได้เห็นการอัศจรรย์ต่างๆแล้วไม่กลับใจใหม่ โทษจะหนักกว่าผู้ที่ยังไม่เคยได้ยินข่าวประเสริฐ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น