รวมเรื่องทริปอินเดีย
วันนี้เป็นวันที่อ.มัทธิวกับทีมงานได้อธิษฐานกัน ส่วนพวกเราเขาพาไปsight-seeing อยู่ห่างจากErnakulamไปสักสิบกิโล ไปเยี่ยมชมโบสถ์เก่าแก่เซนท์ฟรานซิส ไปทะเล ไปชมหาด Fort Kochin ดูของขายริมทะเล เห็นความเป็นอยู่ของคนที่นี่แล้วก็น่าสงสารจริงๆ คงจะมีความยากลำบากในความเป็นอยู่กัน เวลาเราเดินไปทางไหน คนก็จะมารุมล้อมคอยเสนอขายของให้กับเรา มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พวกเราเลยซื้อของจากผู้ใหญ่คนหนึ่งไปด้วยความสงสาร จากที่นี่เขาพาเดินไปดูชายหาดด้านที่โดนสึนามิเข้าไปด้วยเมื่อหลายปีก่อน ตายไปห้าสิบคน เสร็จแล้วก็พาไปชมโรงแรมเก่าแก่สร้างมาเมื่อ 450 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นก็ไปเดินชมสินค้าต่างๆซึ่งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวริมทะเลนี้ ระหว่างรอเวลาเข้าไปชมธรรมศาลาของชาวยิวที่นี่ซึ่งเปิดบ่ายสาม นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเต็มไปหมด เพิ่งเห็นคนผิวขาวเยอะๆก็วันนี้ สำหรับชาวยิวที่เหลืออยู่ในอินเดีย เท่าที่ทราบก็มีเพียงสองสามครอบครัวเท่านั้น นอกนั้นกลับไปอิสราเอลหมดแล้ว ธรรมศาลานี้ก็ถูกสร้างขึ้นหลังจากโบสถ์ที่ไปดูเมื่อเช้าเสียอีก
สุดท้ายก็ได้ไปแวะเยี่ยมคจ.Cochin ซึ่งได้ซื้อที่นี่มาแล้ว แวบแรกที่ผ่านเข้าคจ.ไป ในใจก็บอกว่าว๊าว ที่นี่ทันสมัยแฮะ ไม่เหมือนที่Kottayamเลย สถานที่นี่มีเหมือนโกดังอยู่ 3 แห่ง ซึ่งใช้เป็นที่นอนรองรับงานนี้ เห็นพวกเขากำลังซ้อมร้องเพลงในงานอยู่ในอาคารอีกแห่งหนึ่ง ใช้เว็บเปิดเนื้อเพลงและyoutubeเพลงที่จะร้องซะด้วย Hitechไม่เบาเลย ซึ่งดูต่างจากที่Kottayamมาก อย่างที่บอกไปแล้วครับว่าที่อำเภอนี้เจริญครับ และคนก็เยอะด้วย สามล้านกว่าคน พรุ่งจะได้เห็นงานประกาศของที่นี่กันละครับ
วันนี้คือวันพุธที่ 3 สิงหาคม ครึ่งทางแล้วที่เรามาอยู่ที่นี่ พรุ่งนี้ก็จะถึงวันประกาศแล้ว วันนี้ได้รู้ความจริงในหลายๆอย่างจากชาจีและอีกคนที่มาดูแลเรา เช่นที่เคยสงสัยว่าทำไมมีรอบเช้าและกลางคืน สรุปก็คือตอนเช้าเป็นเวลาสอนผู้เชื่อใหม่ส่วนตอนกลางคืนก็เป็นการประกาศ ซึ่งเขาบอกว่าคนมาจากทั่วโลก จากCochinเอง มีสักสี่ห้าพันคนได้ สนามกีฬาจุได้ห้าหมื่นคน จะไปดูว่าจะมากันอย่างไร ส่วนตอนสิ้นปีจะมาสักล้านคนทั่วโลก ว๊าว.. นิมิตใหญ่ยิ่งจริงๆ พูดด้วยความเชื่อก่อนที่จะเห็นจริงๆ อย่างที่เล่าให้ฟังเมื่อวานละครับว่าความเป็นเอกภาพและการร่วมแรงร่วมใจของคริสตจักรมีสูงมาก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากนโยบายที่ไม่ต้องการให้มีสิ่งแปลกปลอมเจือปนอยู่ในคจ.ด้วย ใครไม่เห็นด้วยกันไม่ชอบใจอะไรเชิญไปอยู่ที่โบสถ์อื่น ในโบสถ์นี้มุ่งไปที่การนำคนเข้าแผ่นดินสวรรค์ ไม่ได้ต้องการคริสเตียนย้ายคจ.มาอยู่ด้วย วันนี้ได้ไปเห็นคริสตจักรที่Cochinมา เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนท้ายครับ
บ้านเมืองที่Ernakulamเต็มไปด้วยคน ยวดยาน เสียงบีบแตรลั่นสนั่นตลอดเวลา
โบสถ์เซนต์ฟรานซิสกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุง สร้างเมื่อศต.ที่ 16
การประมงริมทะเล
ยอที่เขาใช้ยกจับปลา
บรรดาผู้เลี้ยงactionยกยอจับปลากันใหญ่ เขามีถ่วงน้ำหนักช่วยครับเป็นก้อนหินใหญ่ผูกกันหลายก้อนครับ ผลจับไม่ได้สักตัว
ที่อินเดียนี้ อีกาเยอะมากจริงๆ
แพะตัวนี้อยู่ริมทะเล เช่นเคยครับ อ.อารมณ์เข้าไปคุยกับแพะ เหมือนคุยกับวัว ควาย สุนัข ฯลฯที่ผ่านๆมา และดูเหมือนอ.อารมณ์จะมีความรู้ดีมากในการใช้ชีวิตในป่า เป็นประโยชน์กับเรามากช่วงที่ผ่านมา
ของขายริมทะเล มุงดูกันใหญ่ สินค้าที่ประกอบด้วยไอเดียในการปอกหรือควั่นผลไม้ผักต่างๆ
คนนี้ลงไปเหยี่ยงแหจับปลาในทะเล
ชายหาดตรงนี้คือช่วงที่สึนามิเข้า กวาดเอาคนตายไป 50 คน
ถัดมาพาไปดูโรงแรมเก่าแก่อายุ 450 ปี และแวะรับประทานอาหารที่นี่ด้วย
ทางเข้าไปชมsynagogueหรือว่าธรรมศาลาของชาวยิวในอินเดีย ซึ่งเดี๋ยวนี้เหลือยิวเพียง2-3ครอบครัว
เอากล้องเข้าไปถ่ายรูปไม่ได้ครับ ธรรมศาลาก็เป็นที่พบปะอ่านพระคัมภีร์ อธิษฐานของชาวยิว
จากตรงนี้จะได้เห็นระยะทางที่เราไปมาFort Kochiริมทะเลที่ไปมาเมื่อเช้า 3 กม. Ernakulamที่เราพัก 10 กม. และธรรมศาลาที่เพิ่งเข้าไปมา
สุดท้ายก็ไปที่ช๊อปปิงมอลล์ ส่วนผมและอีกบางท่านก็เข้าไปสั่งในร้านแบบkFC แล้วก็ได้กลมๆนี่มานั่งรอในร้าน มารู้เอาภายหลังว่ากลมๆนี้จะมีไฟกระพริบขึ้นเมื่อเขาเสร็จพร้อมให้เราไปรับ เป็นสัญญาณว่าเราไปรับอาหารได้ อือม.. ทันสมัยดีน่ะ
อดีตน่าจะเป็นโกดัง มีอย่างนี้สามหลัีง สำหรับหลังนี้ใช้เป็นที่นอนสำหรับงานประกาศนี้ด้วย
ฝนกำลังตกครับช่วงที่ไป โกดังอีกหลังด้านโน้นพวกเขากำลังฝึกร้องเพลงสำหรับงานประกาศอยู่
ตรงนี้เขียนว่า Heavenly Feast Global Worship Centre ป้ายด้านหน้าก็เป็นเช่นนี้ ที่อำเภอนี้มีโบสถ์อยู่ 7 แห่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น