รวมเรื่องทริปอินเดีย
วันนี้วันจันทร์ที่ 8 แล้ว เกือบจะได้กลับไทยแล้ว วันนี้เขาพาไปชมน้ำตกอินเดีย แต่เนื่องจากไม่ได้บอกเวลาไปเอาไว้ ผมตื่นสายและกำลังจะไปกันแล้ว จึงคิดว่าอยู่ที่พักแสวงหาพระเจ้า คิดทบทวนเรื่องที่มาอยู่อินเดียรวมทั้งจัดของลงกระเป๋าดีกว่า
เอารูปหรือวีดีโอที่ถ่ายไว้แต่ไม่ได้เอาลงบล็อกมาให้ดูครับ
รถที่ใช้ในงานของKottayam
โบสถ์แม่ที่Kottayam คนล้นไปยืนที่ด้านหลัง รถที่ขับมาก็มีไม่มาก คนที่นี่ส่วนใหญ่จะยากจน ดูผิดตากับที่Cochinเลย ด้วยเหตุนี้ละมั๊งที่อ.มัทธิวเผยพระวจนะว่าCochinจะเติบโตเป็นโบสถ์ใหญ่
ที่นี่มีแต่ผู้ใหญ่เพราะแยกคนหนุ่มสาวออกไปแล้ว และหนุ่มสาวกลุ่มนี้เป็นกำลังสำคัญสำหรับการจัดงานประกาศที่Cochin
เห็นห้องประชุมโล่งๆอย่างนี้ Hitechนะครับ เมื่อวานส่งสัญญาณอ.มัทธิวหนุนใจคนที่นี่จากCochinมาถึง
นี่
Keralaอุดมสมบูรณ์จริงๆ สายน้ำตกที่เห็นนี้เป็นส่วนหนึ่ง บางช่วงเห็นสามสี่สายไหลลงมา อย่างที่ได้เล่าให้ฟังละครับ พระเจ้าอวยพระพรรัฐที่ตอบสนองกับรัฐที่ทำร้ายผู้รับใช้พระเจ้า เห็นได้ชัดเจนจริงๆ
คนที่กำลังยืนพูด(เสื้อขาว)กับคนงานคนนี้แหละครับที่เมื่อวานเช้า อ.มัทธิวบอกจะส่งไปทำพันธกิจทั่วโลก
กล้วยชุบแป้งทอดที่บ้านดร.อับราฮามที่เราไปพักบนเขาอันนี้แหละครับ อร่อยมาก
แป้งอันนี้ก็อร่อยมากครับ กรอบอร่อย ผิดกับที่โรงแรมที่มาพักเลย ไม่กรอบ ไม่อร่อย
สระน้ำบนยอดภูเขาหน้าบ้านดร.อับราฮาม อ.เกียงกับอ.อารมณ์ ตกปลาได้สองตัว และปูอีกหนึ่งตัว เป็นอาหารสำหรับพวกเรา
ยอดภูเขาที่แสนร่มรื่นและเย็นสบาย
วิโนจน์คนที่พาเราชมทัศนียภาพ และคนนี้ที่อ.มัทธิวบอกจะส่งไปพันธกิจต่างแดน
ฟรุตสลัดของเขา
ทากตัวดูดเลือดที่หลายคนกลัวกัน โดยเฉพาะอ.สิทธิชัยที่วันนี้จะไม่ไปน้ำตกก็เพราะเจ้าตัวนี้ละครับ แต่สุดท้ายก็ไป สรุปแล้วคนที่โดนดูดเลือดมีสามคน คือ อ.พรทิพย์ อ.สิทธิชัย อ.อารมณ์
ระหว่างทางแวะทานอาหารที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง นี่เขาต้อนรับมั๊งครับ มีแป้งทาหน้าผาก
รถที่พวกเราเห็นแล้วบอกว่าน่าเอาไปทำรถพันธกิจ
ที่อินเดียมีล๊อตเตอรี่ขายด้วย
คนยากจนในอินเดีย ชายแดนต่อกับรัฐTamil Nadu
เพิ่งเห็นแม่ชีแต่งตัวสีแบบนี้
พอข้ามรัฐTamil Naduมา ก็เห็นบ้านเรือนแบบนี้ละครับ ฝาบ้านทำด้วยใบไม้ใบหญ้า
ที่นี่วัวเป็นเจ้าถนน ตอนกลับผมเห็นกวางวิ่งข้ามถนนไปด้วย กวางมาวิ่งในเมือง แสดงว่าป่ายังอุดมสมบูรณ์อยู่ หรือว่าเขาไม่ทำร้ายสัตว์ เพราะคนอยู่ทุกที่ ผ่านไปทางไหนเห็นแต่คน
ตอนกลับจากKumali ผ่านไปทางไหนก็มีแต่ต้นชา(Tea)
เขากั้นเอาไว้ให้คนจอดรถชมเขาชมหมอก(ซึ่งผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเมฆมากกว่าเพราะตรงนี้สูงมาก)
วันนี้วันจันทร์ที่ 8 แล้ว เกือบจะได้กลับไทยแล้ว วันนี้เขาพาไปชมน้ำตกอินเดีย แต่เนื่องจากไม่ได้บอกเวลาไปเอาไว้ ผมตื่นสายและกำลังจะไปกันแล้ว จึงคิดว่าอยู่ที่พักแสวงหาพระเจ้า คิดทบทวนเรื่องที่มาอยู่อินเดียรวมทั้งจัดของลงกระเป๋าดีกว่า
เอารูปหรือวีดีโอที่ถ่ายไว้แต่ไม่ได้เอาลงบล็อกมาให้ดูครับ
รถที่ใช้ในงานของKottayam
โบสถ์แม่ที่Kottayam คนล้นไปยืนที่ด้านหลัง รถที่ขับมาก็มีไม่มาก คนที่นี่ส่วนใหญ่จะยากจน ดูผิดตากับที่Cochinเลย ด้วยเหตุนี้ละมั๊งที่อ.มัทธิวเผยพระวจนะว่าCochinจะเติบโตเป็นโบสถ์ใหญ่
ที่นี่มีแต่ผู้ใหญ่เพราะแยกคนหนุ่มสาวออกไปแล้ว และหนุ่มสาวกลุ่มนี้เป็นกำลังสำคัญสำหรับการจัดงานประกาศที่Cochin
เห็นห้องประชุมโล่งๆอย่างนี้ Hitechนะครับ เมื่อวานส่งสัญญาณอ.มัทธิวหนุนใจคนที่นี่จากCochinมาถึง
นี่
Keralaอุดมสมบูรณ์จริงๆ สายน้ำตกที่เห็นนี้เป็นส่วนหนึ่ง บางช่วงเห็นสามสี่สายไหลลงมา อย่างที่ได้เล่าให้ฟังละครับ พระเจ้าอวยพระพรรัฐที่ตอบสนองกับรัฐที่ทำร้ายผู้รับใช้พระเจ้า เห็นได้ชัดเจนจริงๆ
คนที่กำลังยืนพูด(เสื้อขาว)กับคนงานคนนี้แหละครับที่เมื่อวานเช้า อ.มัทธิวบอกจะส่งไปทำพันธกิจทั่วโลก
กล้วยชุบแป้งทอดที่บ้านดร.อับราฮามที่เราไปพักบนเขาอันนี้แหละครับ อร่อยมาก
แป้งอันนี้ก็อร่อยมากครับ กรอบอร่อย ผิดกับที่โรงแรมที่มาพักเลย ไม่กรอบ ไม่อร่อย
สระน้ำบนยอดภูเขาหน้าบ้านดร.อับราฮาม อ.เกียงกับอ.อารมณ์ ตกปลาได้สองตัว และปูอีกหนึ่งตัว เป็นอาหารสำหรับพวกเรา
ยอดภูเขาที่แสนร่มรื่นและเย็นสบาย
วิโนจน์คนที่พาเราชมทัศนียภาพ และคนนี้ที่อ.มัทธิวบอกจะส่งไปพันธกิจต่างแดน
ฟรุตสลัดของเขา
ทากตัวดูดเลือดที่หลายคนกลัวกัน โดยเฉพาะอ.สิทธิชัยที่วันนี้จะไม่ไปน้ำตกก็เพราะเจ้าตัวนี้ละครับ แต่สุดท้ายก็ไป สรุปแล้วคนที่โดนดูดเลือดมีสามคน คือ อ.พรทิพย์ อ.สิทธิชัย อ.อารมณ์
ระหว่างทางแวะทานอาหารที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง นี่เขาต้อนรับมั๊งครับ มีแป้งทาหน้าผาก
รถที่พวกเราเห็นแล้วบอกว่าน่าเอาไปทำรถพันธกิจ
ที่อินเดียมีล๊อตเตอรี่ขายด้วย
คนยากจนในอินเดีย ชายแดนต่อกับรัฐTamil Nadu
เพิ่งเห็นแม่ชีแต่งตัวสีแบบนี้
พอข้ามรัฐTamil Naduมา ก็เห็นบ้านเรือนแบบนี้ละครับ ฝาบ้านทำด้วยใบไม้ใบหญ้า
ที่นี่วัวเป็นเจ้าถนน ตอนกลับผมเห็นกวางวิ่งข้ามถนนไปด้วย กวางมาวิ่งในเมือง แสดงว่าป่ายังอุดมสมบูรณ์อยู่ หรือว่าเขาไม่ทำร้ายสัตว์ เพราะคนอยู่ทุกที่ ผ่านไปทางไหนเห็นแต่คน
ตอนกลับจากKumali ผ่านไปทางไหนก็มีแต่ต้นชา(Tea)
เขากั้นเอาไว้ให้คนจอดรถชมเขาชมหมอก(ซึ่งผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเมฆมากกว่าเพราะตรงนี้สูงมาก)
สายน้ำในทางที่เราผ่าน
เนินนี้เข้ามาชมเสียเงินนะครับ ผู้นำครน.ก็พูดกันใหญ่ว่านี่เป็นฉากที่เราเห็นในหนังอินเดีย ผู้ชายผู้หญิ่งวิ่งข้ามเนินกันไปมา
นี่อ.สิทธิชัยบอกให้ถ่ายภาพสุภาพสตรีอินเดียเก็บไว้หน่อย
หน้าอูฐหล่อๆริมชายหาด
ที่ชั่งปลาขายริมทะเล
รถไฟที่ผ่านไป ขบวนยาวมากน่าจะยาวครึ่งกิโลได้เลย และรถที่รอก็ต้องดับเครื่องยนต์
นี่โบสถ์ที่อยู่ริมแม่น้ำที่เรามาล่องเรือ เข้าใจว่าเป็นโบสถ์ที่โธมัสมาตั้ง
เรือเหล่านี้ก็บ้านดีดีนี่เองครับ มีทุกอย่างบนเรือ ห้องนอน ห้องน้ำ ทีวี ครัว ตู้เย็น ฯลฯ
การซักผ้าในแม่น้ำแบบนี้มีให้เห็นตลอดทางครับ เขาเอาผ้าฟาดหิน แล้วก็ขยำๆ
มีฝรั่งมาพายเรือเที่ยวด้วย เรือใหญ่บางลำแบบที่เรามามีผู้หญิงอยู่คนเดียวเป็นผู้โดยสาร ช่างกล้าหาญเสียจริงๆท่องเที่ยวคนเดีย
แหมเป็ดพวกนี้ ช่างมีความสุขกันจังเลยน่ะ
ที่ประเทศอินเดียมีพรรคคอมมิวนิสท์ด้วย
กุ้งแม่น้ำนี้กิโลละพันเชียว เลยไม่เอา
แม่น้ำนี้กว้างใหญ่มากครับ
อีกวันหนึ่งที่ไปเยี่ยมชมโบสถ์ที่โธมัสมาก่อตั้ง เสานี้อะไรก็ไม่รู้ อยู่หน้าห้องที่เห็นคนเข้าไปสงบจิตใจกัน
นี่ที่การประชุมเช้าวันอาทิตย์ นักร้องBack upด้านหลังบนเวที
กำลังถ่ายทอดสดอยู่
คนปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาจะใส่หมวกขาวกันแบบนี้
จบแล้วครับ แล้วพบกันใหม่ที่กรุงเทพฯครับ พรุ่งนี้ผมจะบินกลับ ต้องไปผจญภัยผ่านด่านอีกแล้วเหมือนขามา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น