วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

A) Word of God : The tabernacle of David

พลับพลาดาวิด  

มาจากคำนี้ในภาษาฮีบรู Tabernacle ที่พำนัก , สถานที่พำนัก  H4908 מִשׁכָּן mishkan (mish-kawn')
ช่วงที่อยู่ที่อิสราเอล ได้คิดถึงเรื่องพลับพลาของดาวิด เพราะเห็นเขาพูดถึงในการประชุมอธิษฐานที่อิสราเอลอยู่บ่อยๆ มาจาก กจ.15:15-18
15 คำของผู้เผยพระวจนะก็สอดคล้องกับเรื่องนี้ ดังที่ได้เขียนไว้แล้วว่า
16 "ภายหลังเราจะกลับมา และเราจะสร้างพลับพลาของดาวิดซึ่งพังลงแล้วขึ้นใหม่ ที่ร้างหักพังนั้นเราจะก่อขึ้นอีกและจะตั้งขึ้นใหม่
17 เพื่อคนอื่นๆ จะได้แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า คือบรรดาคนต่างชาติซึ่งเราจองไว้
18 องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงแจ้งเหตุการณ์เหล่านี้ให้ทราบแต่โบราณกาลได้ตรัสไว้แล้ว

·        จุดประสงค์ในการสร้างพลับพลา
อพยพ 25:8  8   แล้วให้เขาสร้างสถานนมัสการถวายแก่เรา  เพื่อเราจะได้อยู่ท่ามกลางพวกเขา
·        พระเจ้าได้วางแบบอย่างการสร้างพลับพลา และบอกโมเสสให้สร้าง
อพยพ 25:9 แบบอย่างพลับพลาและเครื่องทั้งปวงของพลับพลานั้น เจ้าจงทำตามที่เราแจ้งไว้แก่เจ้านี้ทุกประการ

·        แบบแปลนการสร้างพลับพลา พระเจ้าได้อธิบายไว้ใน อพยพ บทที่ 25-27
·        แบบแปลนลานพลับพลา อพยพ บทที่ 27
·        การตั้งระบบปุโรหิต อพยพ บทที่ 28  วิธีการถวายสัตวบูชา อพยพ บทที่ 29

หีบพันธสัญญาของพระเจ้าในสมัยโมเสสได้ตกไปอยู่ในมือของฟิลิสเตีย และดาวิดได้ไปเชิญกลับมาที่เยรูซาเล็มใน 2 ซามูเอล บทที่ 6 ดาวิดเต้นโลดสรรเสริญพระเจ้าต่อหน้าพระพักตร์ มีความชื่นชมยินดีที่หีบพันธสัญญาได้กลับมาอยู่กับอิสราเอลอีกครั้ง ดาวิดได้สร้างพลับพลาเพื่อไว้หีบพันธสัญญา  ข้อ 17 เขาจึงเรียกกันว่า พลับพลาของดาวิด  ต่อมาในบทที่ 7 ดาวิดคิดว่าจะสร้างวิหารให้พระเจ้า  แต่พระเจ้าไม่อนุญาตและจะให้ผู้ที่เกิดมาจากดาวิดคือโซโลมอนเป็นผู้สร้างแทน 

                สำหรับพลับพลาที่ดาวิดได้จัดไว้ให้หีบพันธสัญญาของพระเจ้าอยู่นั้น ดาวิดได้แต่งตั้งให้ มีนักร้องเพลงเผยพระวจนะจำนวน 288 คน (1พงศาวดาร 25:7) และ นักดนตรี 4,000 คน ( 1พงศาวดาร 23:5   สี่พันคนเป็นนายประตู  และอีกสี่พันคนจะถวายสรรเสริญแก่พระเจ้าด้วยเครื่องดนตรี  ซึ่งเราได้สร้างไว้ให้ใช้สรรเสริญ" ) ที่ทำการปรนนิบัติหน้าพระพักตร์  อธิษฐานวิงวอน ขอบพระคุณ สรรเสริญพระเจ้า  ทั้งกลางวันกลางคืน
พลับพลาของดาวิด เต็นท์ หรือ พลับพลา ได้จัดตั้งขึ้น โดยกษัตริย์ดาวิด เป็นที่ตั้งของหีบพระสัญญาของพระเจ้า ในกรุงเยรูซาเล็ม
1 พงศาวดาร 13, 15, 16:1  ให้คนเลวีปรนนิบัติทั้งกลางวันกลางคืน ต่อหน้าหีบพระโอวาดนั้น  
1 พงศาวดาร 15:2  คนเลวีปรนนิบัติด้วยดนตรีต่อหน้าหีบนั้น ภายใต้การนำของดาวิด   กาด และ นาธาน
1 พงศาวดาร 6:31-32, 2 พงศาวดาร 29:25   คนเลวีหัวหน้านักดนตรี ได้รับการแต่งตั้งให้ปรนนิบัติหน้าหีบพระสัญญา    
1 พงศาวดาร15:28 เครื่องดนตรี ในพลับพลาของดาวิด เช่น พิณใหญ่และพิณเขาคู่   ฉาบ แตร  
1 พงศาวดาร 16:4  คนเลวีได้รับการแต่งตั้ง ที่จะ อธิษฐานวิงวอน  ขอบพระคุณ  
1 พงศาวดาร 17 เมื่อนมัสการสรรเสริญ ชัยชนะของกองทัพก็เป็นผลมาจาก พลับพลาของดาวิด 
 2 พงศาวดาร 5: 12-14 , 2 พงศาวดาร 5:13, 7:3  การร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าในพระวิหารสมัยซาโลมอน เมื่อวิหารสร้างเสร็จแล้ว 

                ถึงแม้ว่าพลับพลาจะถูกแทนที่ด้วยพระวิหาร แต่การจัดการนมัสการแบบดาวิดก็ยังคงมีเรื่อยมา  กษัตริย์โซโลมอนได้นำการนมัสการเข้ามาในพระวิหารให้เหมือนกับพลับพลาของดาวิด  ในพระคัมภีร์ 2 พงศาวดาร จะเห็นชัยชนะเสมอๆ เมื่อมีการจัดตั้งกองทัพนมัสการแบบดาวิด
                ปัจจุบันก็เช่นกัน  การนมัสการตามแบบอย่างพลับพลาของดาวิด นำมาซึ่งชัยชนะ  ในชีวิตเรา ในครอบครัวเรา ในบ้านเรา ในคริสตจักรของเรา

                แต่สำหรับพระวิหารที่เต็มไปด้วยธรรมเนียม กฎระเบียบต่างๆ แตกต่างจากสมัยกษัตริย์โซโลมอนที่ตามแบบอย่างพระบิดาของพระองค์คือกษัตริย์ดาวิด   พลับพลาของดาวิดแตกต่างจากพระนิเวศน์ในพระวิหาร พระวิหารมีกฏระเบียบ แต่พลับพลาของดาวิดไม่มีม่านขวางกั้น คนต่างชาติคือพวกเราสามารถเข้ามาหาพระเจ้าได้
มาจากพระคัมภีร์เดิม
อาโมส 9:11-12
11 "ในวันนั้น เราจะยก กระท่อมของดาวิดที่ล้มลงแล้วนั้นตั้งขึ้นใหม่ และซ่อมช่องชำรุดต่างๆ เสีย และยกที่สลักหักพังขึ้น และสร้างเสียใหม่อย่างในสมัยโบราณกาล
12 เพื่อเขาจะได้ยึดกรรมสิทธิ์คนที่เหลืออยู่ของเอโดม และประชาชาติทั้งสิ้นซึ่งเขาเรียกด้วยนามของเรา"พระเจ้าผู้ทรงกระทำเช่นนี้ตรัสดังนี้แหละ
นี่เป็นเรื่องคนต่างชาติที่มาเชื่อพระเจ้า  จากกิจการ 15 เปโตรได้อธิบายว่าไม่ควรวางแอกหรือภาระไว้กันคนต่างชาติไม่ให้เข้ามาหาพระเจ้า เช่น วางแอกเรื่องพิธีเข้าสุหนัต เป็นต้น  ในเมื่อพระเจ้าก็ได้ให้บังเกิดการอัศจรรย์แก่คนต่างชาติ เช่นเดียวกับคนอิสราเอล  ความรอดก็รอดเหมือนกัน   อัครทูตได้อ้างจากพระธรรมอาโมส ในกิจการ15:16   เรื่องการตั้งพลับพลาของดาวิดนั้น       อัครทูตได้อธิบายต่อในข้อที่ 17 ว่า เพื่อเขาทั้งหลายจะได้แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า   และอย่าให้มีสิ่งใดกีดขวางคนต่างชาติไม่ให้เข้ามาหาพระเจ้า  ยกเว้น 4 เรื่องนี้  ให้งดเว้นเสียจากสิ่งที่มลทินเนื่องด้วยรูปเคารพ จากการล่วงประเวณี จากการรับประทานเนื้อสัตว์ที่รัดคอตาย และจากการรับประทานเลือด   ซึ่ง 4 เรื่องนี้ มาจาก อพย.20:3   ปฐก.9:4  ลวน.17:14  เป็นต้น
เมื่อทุกเมืองมีคนประกาศเรื่องโมเสสและอ่านธรรมบัญญัติในธรรมศาลาทุกวัน ว่าต้องเข้าสุหนัต และรักษาธรรมบัญญัติ นี่เป็นสิ่งที่คนยิวสร้างให้เกิดภาระแก่คนต่างชาติ  พวกอัครทูตจึงจำต้องแก้ไขสิ่งที่สิ่งกีดขวางไม่ให้คนต่างชาติมาหาพระเจ้า   นี่เป็นที่มาที่กิจการได้พูดถึงพลับพลาดาวิด

คิดว่าสิ่งที่ได้พูดกันในสมัยปัจจุบัน ก็คงเพื่อชี้ให้เห็นจากพระคัมภีร์ว่า  การนมัสการที่มีเสรีภาพ ไม่มีรูปแบบ ประเพณี หรือสิ่งต่างๆที่คริสตจักรได้สร้างขึ้นมาเอง เป็นสิ่งขวางกั้นการที่เราจะเข้ามาแสวงหาพระเจ้า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราได้เห็นมาตั้งแต่สมัยพระคัมภีร์เดิมแล้ว ในสมัยของกษัตริย์ดาวิด   และพระเจ้าได้วางรูปแบบการนมัสการแบบนี้ไว้แล้ว แม้แต่กับคนต่างชาติ  และคำพยากรณ์นี้ยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่การนมัสการแบบนี้ที่ได้พังทลายลงเสีย ในเวลาต่อมาจะได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น