เกิดความคิดที่จะเขียนบทความตอนนี้จาก เอเสเคียล บทที่ 47 เมื่อนมัสการพระเจ้าในรอบนมัสการวันอาทิตย์ พระเจ้าได้ให้การดลใจจากพระธรรมตอนนี้เรื่องสายน้ำจากพระวิหารว่าเมื่อเดินไปในระยะแรกนั้น น้ำสูงระดับข้อเท้า เข่า และเอว เรายังสามารถเดินไปได้ด้วยกำลังของเราเอง แต่เมื่อถึงระดับสุดท้ายที่เราลอยตัว ต้องว่ายไปนั้น เป็นภาพที่พระเจ้าให้เหมือนกับว่า เราลอยอยู่ในกระแสธารของแม่น้ำนั้น เราลอยอยู่ในกระแสของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราไม่ได้ทำอะไรสิ่งใดด้วยกำลังตนเองอีกต่อไป แต่เราทำทุกสิ่งด้วยกำลังที่มาจากพระเจ้า
การดำเนินชีวิตไปกับพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าเราเข้าใจ เราหิวกระหาย เราขอพระเจ้ามานำหน้าเรา ผมเชื่อว่าพระเจ้าจะพาเราไปตามการทรงนำของพระองค์
เราจะไม่เพียงใช้กำลัง ปัญญา ความสามารถ ฯลฯ ของตนเองอีกต่อไป แต่เราจะอยู่ในการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ แน่นอนพระเจ้าสร้างเรามาให้มีสติปัญญา ให้มีกำลัง ให้มีความสามารถในสิ่งต่างๆ ผมไม่ได้บอกว่าให้เราทิ้งสิ่งนั้น แล้วรอคอยพระเจ้าอย่างเดียว ผมกำลังสื่อสารว่าทุกสิ่งที่เรามีอยู่ เราต้องให้พระเจ้ามีส่วนร่วม มอบถวายความสามารถนั้น กำลัง สติปัญญานั้นให้พระเจ้ามีส่วนร่วม ไม่เพียงใช้ความสามารถของตนเองอีกต่อไป ต่อไปนี้เวลาเราจะไปทำแคร์ เราจะไปทำโดยขอพระเจ้ามีส่วนร่วม อธิษฐานถามพระเจ้าก่อนว่าวันนี้ที่เราจะไปแคร์ พระเจ้าประสงค์จะทำสิ่งใดเพื่อคนในแคร์เราจะรับพระพรพระเจ้า , เวลาเราทำธุรกิจหรือทำการงานสิ่งใด เราจะให้พระวิญญาณบริสุทธิ์มีส่วนร่วมเสมอ , เวลาเราไปเรียนหนังสือ เราขอพึ่งพระสติปัญญาของพระเจ้าในการเรียนด้วย ฯลฯ อย่างนี้ เราจะมีความดื่มด่ำในกระแสธารของพระวิญญาณบริสุทธิ์ดังที่ผมได้เขียนหัวเรื่องเอาไว้
จากเอเสเคียลนี้ ผมอาจเปรียบเทียบจากพระธรรมยอห์นได้ จากยอห์น บทที่ 4 เรื่องน้ำพุแห่งชีวิต ซึ่งเมื่อเราต้อนรับพระเยซูคริสต์ พระวิญญาณมาอยู่กับเราบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุพลุ่งขึ้นถึงชีวิต แต่เมื่อเรารับฤทธิ์เดชพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราเป็นเหมือน ยอห์นบทที่ 7 มีกระแสลำธารน้ำหลายสายไหลออกไปจากภายในผู้นั้น น้ำทำให้มีชีวิตใช่หรือไม่ จากบ่อน้ำพุกลายมาเป็นลำธารน้ำไหลออกไป เมื่อเรารับฤทธิ์เดชเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์นั่นเอง เปรียบเหมือนลำธารน้ำนั้นไหลออกมาจากพระวิหาร ที่ทรงสถิตของพระเจ้า ไหลออกไป ไหลออกไป จนกลายเป็นลำธารน้ำใหญ่มากมาย พาเราลอยไปชมพระพรพระเจ้าในที่ต่างๆดั่งปรากฎในพระคัมภีร์ที่เราได้ฟังคำเทศน์มาแล้ว
เปรียบเทียบ
ยอห์น 4:14 น้ำ water ----------> ยอห์น 7:38 แม่น้ำ rivers
เอเสเคียล 47:3-4 น้ำ waters --------> เอเสเคียล 47:5 แม่น้ำ river
ยอห์นกับเอเสเคียลต่างกันตรงที่ พระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในเราตามที่ยอห์นเขียน ขณะที่ในเอเสเคียลสายธารนั้นไหลออกมาจากพระวิหาร มาจากพระเจ้า
น้ำในเอเสเคียลนั้น เมื่อดูจากภาษาอังกฤษ Water เติม s หมายถึงแหล่งน้ำ น้ำนั้นไหลออกมาจากพระวิหาร แหล่งน้ำธำรงชีวิตของเราทั้งหลาย ต้นตอของน้ำนั้นไหลมาจากพระวิหาร จากพระเจ้า ในเอเสเคียล 47 จากพระเจ้าไหลออกไป เมื่อผู้ใดรับน้ำนั้น ก็จะบังเกิดเป็นบ่อน้ำพุพลุ่งขึ้นถึงชีวิตในตัวเราตามที่กล่าวถึงใน ยอห์น 4 และเมื่อผู้นั้นรับฤทธิ์เดชพระวิญญาณบริสุทธิ์ บ่อน้ำพุนั้นกลายเป็นแม่น้ำหลายสาย ยอห์น 7 ไหลออกจากภายในเรา ให้ฤทธิ์เดชกับเราประกอบมหกิจของพระเจ้า ให้ชีวิตแก่ผู้คนที่พบเห็น กระหาย และต้อนรับพระคริสต์
พระเยซูเวลาเดินไปภูเขามะกอกเทศเพื่อจะอธิษฐาน เวลาออกมาจากพระวิหารก็ออกมาทางด้านตะวันออก ออกไปทางประตูตะวันออก (East Gate หรือ Benjamin Gate หรือ Golden Gate ในสมัยปัจจุบัน) ไปภูเขามะกอกเทศ(Mt. Of Olives)ซึ่งอยู่ด้านตะวันออก
น้ำจากพระวิหารนั้นไหลออกมาทางด้านตะวันออก อสค.47:1 ประตูพระวิหารนั้นหันหน้าไปทางด้านตะวันออก ประเทศไทยนั้นอยู่ทางด้านตะวันออก นี่จะเป็นหมายสำคัญบอกเหตุเราได้ไหมว่า พระเจ้าจะอวยพรประเทศไทย จงรับเอาไว้ด้วยความเชื่อ จงรับพระพรจากพระเจ้าด้วยความเชื่อ จงดื่มด่ำไปกับสายธารแห่งพระพรของพระเจ้า ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์เคลื่อนไหวบนท่าน ขอพระเจ้าประทานใจที่ไวต่อการเคลื่อนไหวของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในพระนามพระเยซูเจ้า อาเมน!
พระวิหารอยู่ติดกับOld City ทางด้านขวา ซึ่งถัดพระวิหารไปคือ Mt. Of Olives
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น