วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อิสราเอล15

วันนี้วันพุธที่ 30 แล้ว ได้พักที่โรงแรมเดิมอีกวัน ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่ต้องแบกกระเป๋าเปลี่ยนโรงแรมอีกวัน วันนี้ขอเล่าจากภาพครับ เป้าหมายของเราในวันนี้ได้แก่ทะเลสาบกาลิลี คาเปอนาอูม ฯลฯ


ออกมาจากโรงแรม ก็มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปทางทะเลสาบกาลิลี ในป้ายจะเห็นว่าทิเบเรียส นั่นก็คือไปกาลิลี นอกจากนั้นเมื่อวันก่อนที่ผมถามGuest Houseที่เดิมที่เคยพัก ถามว่าเอาน้ำมาจากที่ไหน เขาตอบว่า คินเนเรธ ความจริงคือ กาลิลี ทิเบเรียส คินเนเรธ ก็คือที่เดียวกันนั่นเอง เพิ่งรู้

จากรูปจะเห็นทะเลสาบอยู่แต่ไกล แถวนี้อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลอีกแล้ว เราได้ผ่านหมู่กานา ที่พระเยซูเปลี่ยนน้ำให้เป็นน้ำองุ่นมาแล้ว ก็อยู่ในเส้นทางนี้ ระยะทาง 1 วันเดิน ห่างจากคาเปอร์นาอูม

ภูเขาแถบนี้สักลูกหนึ่ง เป็นสถานที่ที่พระเยซูเทศนาบนภูเขา ไม่มีใครรู้ว่าคือลูกใด รู้แต่ว่าอยู่แถบนี้ อยู่ใกล้ทะเลสาบกาลิลี

จะสังเกตุเห็นก้อนหินแถวนี้สีดำๆนะครับ เนื่องจากลาวาครับ การเกษตรแถวนี้ดีมากด้วย เพราะมีแหล่งน้ำตามธรรมชาติ

แล้วเราก็มาถึงจุดชมวิวทะเลสาบกาลิลีหรือทิเบเรียส


ลูกอินทผลัมห้อยกันเต็มไปหมด

เขาทำไว้เป็นสวนอยู่บนเนินริมทะเลสาบ (เดี๋ยวเราจะไปชมข้างล่างริมทะเลสาบบ้าง)

โปรแกรมเขาจะจัดไว้เป็นแบบนี้ พอถึงสถานที่สำคัญๆ ก็จะจอดลงมาจับกลุ่มกันแบ่งปันและอธิษฐาน รูปนี้คือตอนที่อ.สิทธิชัยแบ่งปันข้างทะเลสาบกาลิลี คนที่ยืนอยู่ทางซ้ายอ.สิทธิชัยนั่นคือ ผู้ประสานงานรถทัวร์และคอยแนะนำ ให้ความรู้กับเราตลอดทาง เขาเป็นชาวอิสราเอล เขารู้จักภูมิประเทศบ้านเขาดี ประกอบกับเขารู้พระคัมภีร์ด้วย จึงให้ความกระจ่างชัดกับเราได้มาก เช่น ตอนเดินทางผมสงสัยว่าน้ำค้างบนภูเขาเฮอร์โมนตกลงบนเทือกเขาซีโยน เป็นไปได้ไง ซีโยนอยู่ตอนใต้ในเยรูซาเล็ม เฮอร์โมนอยู่ตอนเหนือห่างไกลไปเป็นร้อยๆกิโลเมตร เขาตอบว่า เขาไม่รู้ แต่พระเจ้าทำได้ (เอากับเขาสิ ผมว่าจะลองไปค้นดูภาษาฮีบรูจากพระธรรมสดด.133 เรื่องนี้หน่อย)



ถัดมาเราได้ไปที่คาเปอร์นาอูม หมู่บ้านริมทะเลสาบกาลิลี

เราได้ดูซากโบราณของหมู่บ้านที่เขาได้อนุรักษ์เก็บไว้ให้เราดู

ภาพนี้ที่คาเปอร์นาอูม อ.โปรเป็นคนแบ่งปัน ก่อนหน้านี้Nader ได้อธิบายให้เราฟังว่า คาเปอร์นาอูมเป็นหมู่บ้านหนึ่งในกาลิลี งานรับใช้ของพระเยซูคริสต์ 75% อยู่ที่คาเปอร์นาอูม ในกาลิลี 15% อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม

Synagogue หรือว่าธรรมศาลาในคาเปอร์นาอูม

ซากหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านที่พระเยซูมาเรียกคนที่นี่ส่วนหนึ่งให้มาเป็นสาวกของพระองค์ พระเยซูจะใช้ให้ไปจับคนดั่งจับปลา

โบสถ์เขาสร้างคล่อมบ้านของเปโตรชาวประมง สังเกตุเห็นห้องที่เขาใช้ประชุมกันในบ้านเปโตรไม่ใหญ่ เป็นHouse Church ได้เท่านั้น

ถัดมาเราไปแวะทานอาหารที่คิบบุซของคนยิว อยู่ริมทะเลสาบ ผมได้ถ่ายรูปเรือประมงสมัยก่อนเอาไว้

ริมทะเลสาบที่เรามาทานอาหาร

เป็นเรือหาปลาในทะเลสาบหรือเปล่า?

ผมเริ่มเดินออกไปในทะเลสาบ (เดินไปบนสะพาน ไม่ได้เดินบนน้ำแบบพระเยซู)

สถานที่นี้เสียงก้องดีมาก เข้าใจเลยว่า พระเยซูสอนคนเป็นพันๆคนได้ไง แล้วคนได้ยิน Nader เขาบอกว่าเคยมีนักธรนีวิทยา(ใช่หรือเปล่าจำไม่ได้) มาทำการทดสอบแถบนี้ เขาบอกว่าคนเป็นแสนคนก็ยังได้ยินสิ่งที่พระเยซูพูดเลย มันเป็นเรื่องจริงครับ คนสองสามคนเขายืนคุยกันไกล ผมยังได้ยินชัดเจนเลย (ตรงโขดหินดำๆโน้น) สภาพทางภูมิศาสตร์คงเอื้อต่อการรับฟัง ผมได้ยินเสียงคนร้องเพลงด้วย แต่ไม่รู้มาจากไหน ไม่เห็นคน เสียงลอยมาได้ไกล

เราไปต่อที่ Hanita เป็นที่พักผ่อนใกล้ชายแดนเลบานอน เพื่อจะอธิษฐานให้มีความสงบสุขระหว่างเลบานอนและอิสราเอล

ผมถ่ายรูปแผนที่บนรถมาด้วย จะเห็นว่าเราวิ่งในเส้นสีน้ำเงินออกมาจากนาซาเร็ธขึ้นเหนือไปทะเลสาบกาลิลี วิ่งไปด้านซ้าย วิ่งไปด้านบนของอิสราเอล เหนือสุดจะเป็นภูเขาเฮอร์โมน เสร็จแล้ววิ่งกลับมาทางขวา ลงมาผ่านเมืองHaifa ซึ่งมีมหาวิทยาลัยใหญ่เป็นอันดับสามของอิสราเอล สินค้าอันดับหนึ่งของอิสราเอล ได้แก่สินค้าเทคโนโลยี อันดับสอง ได้แก่ เพชรพลอย แต่ว่าเขาไม่ได้มีแหล่งแร่ธาตุพวกนี้เอง เขาซื้อเข้ามาจากอัฟริกา แล้วเจียรนัย แล้วส่งออกไปขาย อันดับสามได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากเดดซี อันดับสี่ได้แก่ การท่องเที่ยว และอันดับห้าได้แก่ เกษตรกรรม อิสราเอลเป็นผู้นำทางด้านเทคนิคการเกษตร (เช่นวันแรกที่มาถึง เราได้ไปดูมาแล้ว)


เป็นอันว่าจบรายการสำหรับวันนี้แล้ว ได้ยินว่าพรุ่งนี้จะไปภูเขาคารเมล ที่เอลียาทำการอัศจรรย์ และเราจะออกแต่เช้า ไปพักอีกโรงแรมหนึ่งในตอนเย็นและร่วมรายการปิดงาน Convocation นี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น